วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

::: ทริปเชียงใหม่ 6 วัน 5 คืน แว๊น 2 ล้อสุดทรหด ดอยอินทนนท์ ผาช่อ บ้านม้งดอยปุย ห้วยตึงเฒ่า ::: [ภาค 1]

     ทริปนี้เป็นทริปแรก ที่จัดยาวถึง 6 วัน แถมแว๊นด้วยมอเตอร์ไซค์ (เกือบ) ตลอดทริป      การวางแผนท่องเที่ยวของเรา เราวางแผนและจองล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน ก่อนไปเที่ยวค่ะ เนื่องจากการเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว (ติดวันปิยะ 23 ตุลาคม)      เราต้องเตรียมตัวกันก่อน ไม่งั้นไม่มีที่พัก หรือไปไม่ถูก เซ็งตายเลย      ทริปนี้ออกเดินทางโดยรถไฟ ตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 และกลับโดยเครื่องบินสายการบิน Lion air เรียกได้ว่า ไป กลับต่างกันมากค่ะ ไป 14 ชม. กลับ 55 นาที (อาร์ตตัวแม่จริง ๆ)      วันที่ออกเดินทางคือ 22 ตุลาคม 2557      วันที่เดินทางกลับคือ 27 ตุลาคม 2557      พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยค่ะ ยิ้ม ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่ ดอยอินทนนท์ ดอยปุย ห้วยตึงเฒ่า ผาช่อ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ

Hotelbeds เดินหน้าขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก


          - การเติบโตของ Hotelbeds ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของภูมิภาค MEAPAC อันเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก          - นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นลูกค้ารายหลักที่เดินทางมายังภูมิภาค MEAPAC อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ของ Hotelbeds

          Hotelbeds แหล่งรวบรวมห้องพักสำหรับ B2B อันดับหนึ่งของโลก รายงานผลการดำเนินงานซึ่งขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก (MEAPAC) ระหว่างงาน ITB Asia ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเอเชีย ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม ที่สิงคโปร์

          ข้อมูลสถิติของ Hotelbeds ระบุว่า ด้วยขนาด ปริมาณ และโอกาสทางธุรกิจมากมาย ทำให้ภูมิภาค MEAPAC ก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน และอินโดนีเซีย ในขณะเดียวกัน ตลาดนักท่องเที่ยวที่มีการเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคได้แก่จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

          การพัฒนาโซลูชั่นไอทีที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และจำนวนผู้ประกอบธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Hotelbeds มีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2557 นอกจากนี้ การลงนามในข้อตกลงใหม่ๆ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของ Hotelbeds ในภูมิภาค โดยในปี 2557 Hotelbeds ได้ลงนามข้อตกลง Key Partnerships Agreement และ Preferential Partnership Agreement ใหม่ทั้งสิ้น 225 ฉบับ ร่วมกับโรงแรมและเครือโรงแรมมากมาย เช่น Archipelago International เครือโรงแรมที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของอินโดนีเซีย และ Far East Hospitality โรงแรมชั้นนำในสิงคโปร์ รวมถึง Jumeirah, Rotana และ Kerzner เครือโรงแรมยักษ์ใหญ่ในตะวันออกกลาง ตลอดจน Regal และ Dorsett เครือโรงแรมในฮ่องกง

          จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวตามเมืองใหญ่ๆในภูมิภาคดังกล่าว มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี รายงานของ Hotelbeds ได้ระบุถึงเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภูมิภาค ซึ่งกำลังกลายเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจระดับโลก โดย ดูไบ สิงคโปร์ กรุงเทพฯ ฮ่องกง และกัวลาลัมเปอร์ เป็นจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดใน MEAPAC ส่วนจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เติบโตมากที่สุดก็เป็นเมืองใหญ่เช่นกัน นำโดย ไทเป โซล และโตเกียว

          คุณคาร์ลอส มุนญอส (Carlos Muñoz) กรรมการผู้จัดการของ Hotelbeds กล่าวว่า "MEAPAC เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของเรา และเป็นตลาดที่เติบโตเร็วเป็นอันดับต้นๆของเรา ทั้งในแง่ของประเทศต้นทางและปลายทาง การที่เราลงทุนส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีได้ทำให้เรามีชื่อเสียงในภูมิภาคนี้ ในฐานะผู้ที่มีหัวก้าวหน้ามากที่สุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ผมมั่นใจว่าความมุ่งมั่นของเราในการต่อยอดนวัตกรรมและการปรับตัวให้เข้ากับท้องถิ่น รวมถึงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตต่อไปในอนาคต"

          เกี่ยวกับ Hotelbeds

          Hotelbeds (www.hotelbeds.com) เป็นแหล่งรวบรวมห้องพักสำหรับ B2B อันดับหนึ่งของโลก ด้วยจำนวนโรงแรมในฐานข้อมูลออนไลน์กว่า 60,000 แห่งใน 180 ประเทศ โดยในปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ทาง Hotelbeds ได้จำหน่ายบริการห้องพักไปถึง 18 ล้านห้อง และมีมูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 20% แตะ 1.8 พันล้านยูโร

          Hotelbeds ก่อตั้งขึ้นในสเปนเมื่อปี 2544 จากนั้นในปี 2550 บริษัทได้ก้าวเข้ามาอยู่ภายใต้ธุรกิจ Accommodation & Destinations Sector ของบริษัท TUI Travel PLC ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวระดับโลก

          ติดตามเราได้ทาง LinkedIn: http://www.linkedin.com/company/hotelbeds

          สื่อมวลชนติดต่อ:                                                           

          Andrew Ang          Ruder Finn Asia          โทร. +65-6336-4035          anga@ruderfinnasia.com 

          ฝ่ายสื่อสารของ Hotelbeds           Marta Lopez de Cervantes          โทร. +34-68-200-35-85          mlopez@tuitravel-ad.com             

          รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20141029/8521406326

 

Khiri Travel Makes Appointments for Sri Lanka and Indochina


          Khiri Travel has announced the appointment of Jack Bartholomew as Regional Director for Indochina. Ruben Derksen has also been appointed as General Manager of Khiri Travel Sri Lanka. Both appointments are with immediate effect.          Prior to being promoted to look after Indochina (Cambodia, Laos and Vietnam), Bartholomew was General Manager of Khiri Travel Cambodia. He now operates out of Hanoi.          Before taking up the Sri Lanka post, Derksen was General Manager of Khiri Laos. Ahead of his official appointment in Colombo, Derksen has been working closely with joint venture partner Luxe Asia under Managing Director Chaminda Dias for the last two months to create new signature travel experiences for Khiri guests.          From the Sri Lankan capital, Colombo, Khiri will take guests to lesser known destinations such as to meet the original Vedda people of the forests. There will also be marital arts classes and leopard spotting in Wilpatu (instead of the usual Gal Oya).          Khiri has also introduced its own fleet of hybrid cars in Sri Lanka. A travel agent fam trip will take place in April 2015. More innovative itineraries will be announced soon.          Bartholomew said the company's multi-country Khmer Temple Trail and Ho Chi Minh Trail tours were good examples of innovative Khiri products for Indochina, which today is defined by easy overland border crossings between the three countries.          "While there are many cultural and historical factors linking Cambodia, Laos and Vietnam, there is also great diversity and a fantastic amount of local charm off the beaten track," he said.          At WTM London, 3-6 November, Bartholomew will outline further new products at the Khiri stand at the Global Discovery booth (GV720).          Also at WTM, updates on Khiri's Sri Lanka initiatives will be available at the Sri Lanka stand (AS130) where Mr Chaminda Dias, Managing Director of Khiri Travel Sri Lanka and Willem Niemeijer CEO of Khiri Travel, will also meet with travel professionals.  

โรงละครคาลิปโซกรุงเทพ มอบบัตรชมการแสดง และบัตรรับประทานอาหารราคาพิเศษ


          โรงละครคาลิปโซ กรุงเทพ มอบบัตรชมการแสดง และบัตรรับประทานอาหารไทยราคาพิเศษเฉพาะในงาน ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 33บัตรชมการแสดงคาลิปโซ ปกติ 1,200 บาท เหลือเพียง 300 บาท          บัตรรับประทานอาหารไทยมื้อค่ำ พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย ปกติ 800 บาท เหลือเพียง 300 บาท          บัตรรับประทานอาหารไทยมื้อค่ำ พร้อมชมการแสดงคาลิปโซ ปกติ 2,000 บาท เหลือเพียง 550 บาท          และยังพิเศษสุดๆ เมื่อซื้อครบ 5 ใบ ฟรี 1 ใบ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 33 วันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2557 บูธ J40 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมื่องทองธานี

OXLEY AND SHANGRI-LA SIGN MOU, SHANGRI-LA TO MANAGE NEW HOTEL IN PHNOM PENH


          Shangri-La International Hotel Management Ltd. and Oxley Gem (Cambodia) Co. Ltd. have signed a Memorandum of Understanding in relation to the management and operation of the first Shangri-La hotel in Phnom Penh, Cambodia. Oxley Gem is a strategic partnership between by Singapore-based Oxley Holdings Limited and the Cambodian firm WorldBridge Land. Under the terms of the agreement, Oxley Gem will grant Shangri-La a 60-day exclusivity period to negotiate the management of the hotel.          Construction of the Shangri-La hotel is slated next year with the hotel expected to open in 2019. The luxury hotel, with a proposed design of 300 rooms, will be part of a new mixed-use development located along the Mekong River facing Diamond Island – just a few minutes by taxi from the Diamond Island Convention and Exhibition Centre. In addition to the hotel, the development will house serviced offices, residences and a shopping centre.          Ching Chiat Kwong, Executive Chairman and CEO of Oxley Holdings, said “We are excited about the prospect of developing the first Shangri-La branded hotel in Cambodia. We look forward to working closely with the Shangri-La team to inject more life and vitality into the heart of Phnom Penh.”The hotel will have panoramic views of the city and an array of facilities, including a number of food and beverage outlets as well as event and meeting spaces. It will be conveniently located near the capital city’s main sightseeing attractions as well as Preah Sisowath Quay, a popular restaurant and nightlife district.          “Given Shangri-La’s well-established presence in Southeast Asia, we are excited to add a property in Phnom Penh to our portfolio and further expand our offerings in the region,” said          Shangri-La President and CEO Greg Dogan.          Worldbridge Land Chairman, Oknha Rithy Sear, said, "Developing a hotel in Phnom Penh has always been on our blueprint. The signing of Memorandum of Understanding with Shangri-La is an attestation of our commitment to introduce luxury hospitality experience in Phnom Penh."PRESS CONTACT: Lori LincolnDirector of Corporate CommunicationsShangri-La Hotels and ResortsTel: (852) 2599 3323E-mail: lori.lincoln@shangri-la.comWebsite: www.shangri-la.comFor digitised pictures of the group’s hotels, please go to http://www.shangri la.com/imagelibrary.

ระหว่าง Horidome Villa Hotel & Nishi Shinjuku Hotel My Stays เลือกอะไรดีคะ???

พอดีแพลนไปเที่ยวหลังปีใหม่ ไปกัน 3 คน ลูก 5 ขวบ นอนที่ไหนดีคะ เพราะไม่ค่อยเห็นรีวิว Nishi Shinjuku Hotel My Stays เลยค่ะ

บันทึกการเดินทาง แบบตัวคนเดียว เที่ยวไปทั่ว : ผู้หญิงคนเดียว ก็เที่ยวญี่ปุ่นได้

INTRO การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นด้วย "ความอยาก" ล้วนๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะ ความอยากคือ อยากไปญี่ปุ่น อยากเที่ยว อยากเห็นฟูจิ อยากไปดูบ้านเมืองเค้า อยากลองเดินทางคนเดียว พออยากแล้ว ก็เริ่มวางแผนการเดินทาง เลือกเมืองที่อยากไป และเส้นทางที่พอเป็นไปได้ โดยไม่ใช้เวลาเดินทางมากนัก ใจจริงอยากไป Hokkaido มากๆ แต่เวลาที่มีคงไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ คงต้องตัดใจไปก่อนรอบนี้ ได้มาเป็น Tokyo - Osaka เป็นการตั้งหลักปักฐานเมืองใหญ่ๆ ไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดย่อยๆ ในทริปนั้น ค่อยมาว่ากันอีกที เลือกช่วงเวลาที่อยากไปเที่ยว เอาแบบที่ ไม่หนาวเกิน ไม่ฝนเกิน ไม่พีคเกิน = "ตุลาคม" แต่เนื่องจากทำงานประจำสายบริการ เลยคิดว่าน่าจะลาได้ไม่ยาวนัก เลยวางแผนไปเสาร์-อาทิตย์ ชน เสาร์-อาทิตย์ คือเต็มที่ 9 วัน โดยจะเดินทางวันที่ 18-26 ตุลาคม ต้องหาตั๋วให้อยู่ในช่วงเวลานี้ ช่วงที่เริ่มหาตั๋วเครื่องบินจองคือช่วงเดือนกรกฎาคม พอดีช่วงนั้น แอร์สีแดงจัดโปรโมชั่น เลยได้ตั๋วแบบบินตรงมาในราคาที่น่าพอใจมากๆ คือดอนเมือง - นาริตะ 6,580 บาท (ถ้าโหลดกระเป๋าบวกอีก 200 บาท) คันไซ - ดอนเมือง 24,300 yen (ถ้าโหลดกระเป๋าบวกอีก 3,000 yen) ประหยัดค่าเครื่องบินไปได้ระดับนึง (แต่อันที่จริง นี่ก็ยังไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุดสำหรับสองขา สามารถหาไป-กลับที่ถูกมากๆ กว่านี้ได้ แต่อาจจะไป-กลับจากสนามบินเดิม ซึ่งก็ต้องไปคำนวณกับค่าเดินทางกลับมาที่สนามบินเดิมตอนอยู่ที่โน่นอีกทีนะ แต่เราไม่อยากนั่งรถย้อนไปมา เลยเลือกแบบนี้แทน) ทีนี้ ก็ไปหาที่พักกัน เราก็ใช้วิธีธรรมดาทั่วไป "Google" ก่อนเลย บ้านๆ โดยความตั้งใจคือ ต้องการประหยัดค่าที่พักให้ได้มากที่สุด เพื่อเซฟเงินไปเที่ยวไปทำอย่างอื่น เลยเลือกที่พักแบบ Hostel Dorm ซึ่งเป็นแบบ หอพัก นอนรวมๆ กันกับคนอื่น ห้องหนึ่ง จะจัดให้นอน 5 คน 10 คน จะจัดเป็นชายล้วนบ้าง หญิงล้วนบ้าง หรือแบบปนกัน ก็แล้วแต่ที่กันไป หลายๆ คนก็ทัก ไปคนเดียว นอนห้องปนกับใครก็ไม่รู้ ไม่กลัวหรอ ? อืมมมม . . ก็ไม่รู้จะกลัวอะไรดี เค้าก็ไปเที่ยวเหมือนเรา จริงๆ เค้าก็ต้องระวังตัวจากเราเหมือนกัน และก็คงได้ใช้เวลาในที่พักไม่มากนัก เช้ามาก็ออกไปเที่ยว ดึกมาอาบน้ำนอน แค่นั้นเอง คิดแบบนั้นเลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แต่การจองที่พัก กว่าเราจะได้จองแบบแน่นอนตายตัว ก็ใกล้เดินทางมากๆ เพราะเนื่องจากเรามีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเดินทางไปที่นั่น ก็จะต้องมีการนัดพบปะกันบ้าง เป็นมารยาทซักเล็กน้อย ซึ่งทำให้จากตอนแรกเราวางแผนว่า จะอยู่โตเกียว 3-4 วัน แล้วย้ายไปนอนพักที่เมืองแถบๆ ภูเขาไฟฟูจิซักคืน แล้วค่อยไปโอซาก้า แผนก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ เนื่องจากเพื่อนบอกว่า พ่อเขาจะอาสาขับรถพาเที่ยวแถวๆ ฟูจิ ซึ่งจะสะดวกเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ทำให้สุดท้ายต้องนอนที่โตเกียวยาว 5 คืน ซึ่งที่พักที่ได้มาทั้งหมด ก็คือ 1. K's House Oasis : เลือกแบบ 5 People Mixed Dorm ราคาอยู่ที่ 2,950 yen ต่อคืน ต่อคน คือ ในหนึ่งห้องนอน นอนรวมกัน 5 คน มีห้องน้ำและอ่างล้างมือในห้อง แต่ห้องอาบน้ำ จะต้องออกมาใช้รวมข้างนอก มีห้องนั่งเล่น ทีวี คอมพิวเตอร์ ห้องครัว ที่นั่งกินข้าว รวมถึงที่ซักผ้า เป็นของส่วนกลาง สามารถใช้ร่วมกันได้หมด แต่ที่นี่จองได้แค่คืนเดียว เพราะว่ามาจองเอาใกล้ๆ แล้ว เนื่องจากตอนแรก คุยกันว่าอาจจะต้องไปนอนบ้านเพื่อนในคืนแรกที่มาถึง แต่คุยไปคุยมา ไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะไกลเกินไป ซึ่งที่พักวันถัดไปที่จองไว้ก่อนหน้านี้ก็ดันเต็มไปแล้ว เลยมาได้ที่นี่แทน 2. Khaosan World Asakusa Hostel & Ryokan : เลือกแบบ 10 Mixed Dorm คือในห้องนอนได้ 10 คน ราคาอยู่ที่ 7,034 Yen สำหรับ 3 คืน รายละเอียดก็คล้ายๆ ที่พักข้อข้างบน คือมีพื้นที่ส่วนกลางใช้รวมกัน 3. Khaosan Tokyo Ninja : เป็นแบบ Cabin Bed คือเหมือนพวกแคปซูล แต่เป็นกล่องๆ เปิดเข้าด้านข้าง ไม่ใช่ด้านหัวท้าย ราคาอยู่ที่ 2,800 yen ต่อคืน ซึ่ง ก็มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ ไม่ต่างจากที่พัก Hostel อื่นๆ เช่นกัน ที่พักที่นี่เป็นติ่งมา 1 คืน เนื่องจากตอนแรก แพลนว่าจะไปนอนแถวฟูจิ แล้วโดนเปลี่ยนแพลน เลยต้องมาหาที่พักเพิ่มอีกหนึ่งคืน ซึ่งที่พักที่จองไว้แรกสุด ก็เต็มไปแล้วอีกเหมือนกัน เลยมาได้ที่นี่ บวกกับอยากลองแนวแคปซูลดูซักคืน เตียงแบบ Cabin เมื่อเทียบกับเตียงสองชั้นในห้องนอนรวมแบบ Hostel ทั่วไป ข้อดี คือ เป็นส่วนตัวกว่านิดหน่อย มองไม่เห็นกัน เพราะสามารถปิดกล่องทึบ อยู่ในโลกของตัวเองได้ ข้อเสีย คือ ถ้าวันรุ่งขึ้นต้องรีบตื่นมาขึ้นเครื่อง หรือ รถไฟ หรืออะไรก็ตาม อาจสายได้ เพราะมันจะมองไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลย ถ้าหลับลึกไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกคือจบ! 4. ที่พักที่โอซาก้า สำหรับ 2 คืนสุดท้าย เลือกแบบห้องนอนเดี่ยว ห้องน้ำในตัว แต่เลือกโรงแรมแบบราคาถูก ให้โอกาสตัวเองได้นอนสบายพักผ่อนดูบ้าง เผื่อที่พักแบบ Dorm ที่เลือกไป มันวุ่นวายมากเกิน หรือไม่ถูกใจ อย่างน้อย สองคืนนี้ก็ได้พักผ่อนเต็มที่ (ซึ่งพอไปมาจริงๆ แล้ว ก็ไม่วุ่นวายเลย สบายมากๆ แถมประหยัดดีด้วย) ได้มาเป็นโรงแรม For Leaves Inn Uehonmachi ซึ่งอยู่ห่างจาก Namba สองสถานี ถือว่าเดินทางสะดวก ราคาอยู่ที่ 3,600 yen ต่อห้อง ต่อคืน (สำหรับ 1 คน) *** ที่พักทั้ง 4 ที่ ไม่มีผ้าเช็ดตัวบริการเลย ! อาจจะไม่เหมือนที่ไทย ไม่ว่าจะถูกจะแพง มาตรฐานคือมีผ้าให้เป็นอย่างน้อย แต่ต้องพกสบู่แชมพูไปเอง แต่ที่นั่นคือ อย่างน้อยถ้าพักแบบโฮสเทล สบู่แชมพูมีครบ แถมเป็นแบบใช้ดี ไม่ไก่กา แต่ผ้าเช็ดตัวไม่มีให้ คงต้องพกไปเอง ซึ่งคิดว่า คนที่ไปโรงแรมแบบห้องพักเดี่ยว จ่ายสูงกว่านี้หน่อย ก็อาจจะมีบริการให้ก็ได้ แต่ถ้าจ่ายแบบถูก เค้าจะมี"ขาย" แต่ไม่มีบริการฟรี ซึ่งเราไม่ได้พกอะไรไปเลย นึกว่าจะมีให้ เลยต้องพึ่งผ้าเช็ดตัวเค้าไปตามระเบียบ ถ้าเป็นโฮสเทล มีแบบให้เช่า ถ้าเป็นโรงแรม มีขาย (พูดถึงที่เราไปมาน่ะนะ) เอาล่ะ ! ได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว ไปเที่ยวกันดีกว่า !!~ <TO BE CONTINUED . . . แก้ไขข้อความเมื่อ

โปรแกรมเที่ยวเหนือ ไม่ทราบว่าทันหรือป่าวไม่เคยไปเลยครับ ชี้แจงให้หน่อยนะครับ

โปรแกรม 7 วัน 6 คืน  ครับ วันอังคาร ที่ 25 พฤศจิกายน 2557 20.00 น. ลงเครื่องถึงเขียงใหม่  2 ทุ่ม (พร้อมเช่ารถเรียบร้อย) นอนพักเชียงใหม่ 21.00 น. กินอาหารร้าน รักษ์ท่าน้ำ (หาที่พัก24 ชม. ) วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน 2557 5.00 น. -10.00 น. วัดร่องขุ่น เปิด 8.00 โมง 10.00-12.00 น. พระตำหนักดอยตุง (หากินอาหารเที่ยงด้วย) 12.00-15.00 น. แม่สาย (ช็อปปิ้งหาเสื้อหนาว) 15.00-18.30 น. ที่พักภูชี้ฟ้า วันพฤหัสบี ที่ 27 พฤศจิกายน 2557 8.00-15.00 The Giant (ต้องไปให้ได้ครับ) 15.00-17.30 น. พักตัวเมืองเชียงใหม่ 17.30-19.00 กินอาหารThe Windmill Chiang Mai 19.00-21.30 เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีบริการนั่งรถลาก รอบภาษาไทยออกทุก 15 - 30 นาทีในช่วง 19.00 น. ถึง  22.00 น. ซื้อบัตรน่างานได้เลย วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 6.00-8.00 วัดพระธาตุดอยสุเทพ 8.00-12.00 คอฟฟี่อินเลิฟ อ.ปาย 12.00 – 17.00 เข้าที่พักในปาย มอนทิส รีสอร์ท 17.00-20.00 ถนนคนเดินปาย + อาหารเย็น วันเสาร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 4.30-8.00 ห้วยน้ำดัง 8.00 -15.00 อ่างขาง 15.00-18.30 นอนอ่างขาง วันอาทิตย์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2557 10.00-13.30 กลับเชียงใหม่ กินเที่ยงร้านกาแล 13.30-16.30 นอนพักเก็บแรง 16.30-19.00 ถนนคนเดินท่าแพ 19.00 นอนเชียงใหม่ วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม 2557 5.00-12.00 ดอยอินทนนท์ 12.00-18.00 พืชสวนโลก 18.00 คืนรถ วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม 2557 พักผ่อน 12.00 เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ++++++ เหนื่อยน่าดู +++++++อยากทราบครับหากเวลาตามนี้ทันรึป่าว หรือมีโปรมแกรมไหนต้องตัดออกบ้าง ปล.ขับรถได้ครับ แต่ไม่ค่อยรู้พื้นที่ภาคเหนือครับ ไปกับแฟน 2 คนครับ มีอะไรเพิ่มเติมได้นะครับ จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งเลย

จากสายใต้-สะพานมอญ-ป้อมปี่ นั่งรถไป-กลับยังไงคะ

ทริป3วัน2คืน อา.-จ.-อ. ชาย1 ญ2 ไปรถโดยสาร คืนแรกว่าจะไปนอนที่สะพานมอญ คืนสองมานอนป้อมปี่ ห่วงเรื่องการขึ้นรถลงรถ จากป้อมปี่ขากลับออกมา กทม. ต้องย้อนไปท่ารถที่สังขละอีกรึป่าวคะ กลัวจะไม่รับโบกกลางทาง อยากให้ช่วยแนะนำที่ท่องเที่ยวหลักๆ ด้วยคะ ขอบคุณนะค้าาา

ขอคำแนะนำจากพวกพี่ๆ รีสอร์ทเปิดใหม่ครับ

ขอแนะนำตัวนิดนะครับ ผมอยู่ฝางมา 15ปี ไม่ค่อยออกไปเที่ยวที่ไหน (โลกแคบ)เลยอยากขอคำแนะนำเรื่องราคาห้องพัก สิ่งที่ควรเพิ่มเติม รีสอร์ทผมใช้ชื่อบ้านพักสามหัวใจ อยู่ในสวนผลไม้ มีส้ม ลิ้นจี่ ลำไย กาแฟ เงาะ อยู่ใกล้ดอยอ่างขางห่างกัน 25 กิโล ตอนนี้มีด้วยกัน 6 หลัง 6 สี มีร้านอาหาร ( ทำกันเองเมนูง่ายๆ ) มีห้องสัมมนารองรับได้ 20-25 คน  รับฟังทุกความคิดเห็น ติ ชม ว่าได้ครับ (อย่าว่าแรงนะครับ 55 ) ขอบคุณทุกคนที่เข้าชม และ ขอบคุณ pantip มากๆครับwww.บ้านพักสามหัวใจ.com

พาขับรถ เที่ยวเชียงใหม่ งานยี่เป็ง ขึ้นดอยไปดูทะเลหมอกที่ดอยผาตั้ง แวะไหว้พระที่น่าน นอนชมดาว ดอยเสมอดาว ครับ

สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกท่าน กระทู้นี้เป็น กระทู้ที่3 แล้วครับ ทริปนี้ตั้งใจอยากจะไปเที่ยวงานยี่เป็งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่เชียงใหม่เป็นหลัก โดยกะว่าไปแค่3วันละก็จะกลับ แต่ไปๆมาอยู่ยาวเป็น 6 วันเลยครับ  อมยิ้ม07อมยิ้ม07 โดยขับรถทั้งสิ้น 2,414 KM จากรังสิต - เชียงใหม่ - ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย - น่าน - ดอยเสมอดาว - รังสิต ครับ ติดตามรับชมได้เลยครับ อมยิ้ม17 ชื่อสินค้า:   ขับรถเที่ยวภาคเหนือ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

สอบการการฉีดวัคซีนค่ะ

พอดีจะไป เมดาน เดือนธันวานี้ค่ะ ไป 6 วัน แล้วเราจะต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดอะไรไว้หรือป่าวค่ะ แล้วถ้าฉีดต้องไปฉีดที่ไหนค่ะ ขอบคุณค่ะ

จากเกียวโตไปคาวากูชิโกะ ถ้าไม่มี JR pass เดินทางด้วย night bus สะดวกกว่านั่งรถไฟมั้ย ซื้อตั๋วไได้ที่ไหนบ้าง

พอดีมีแพลนจะไปเที่ยวคันไซ แล้วอยากจะเลยไปชมวิวฟูจิซัง ที่คาวากูชิโกะ ด้วย รบกวนช่วยแนะนำการเดินทางจากเกียวโต ไปคาวากูชิโกะ ที่สะดวกและไม่แพงมากให้ด้วยค่ะ จขกท. กะว่าจะไม่ซื้อ JR Pass  Nation Wide ค่ะ (ทริปนี้แบ็คแพ็คไปคนเดียวค่ะ)

ฝ้ายฝ้ายพาทัวร์ มิลาน

สวัสดีค่ะชาว Pantip วันนี้จะมาลองแชร์ประสบการณ์ค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะ ชื่อฝ้ายค่ะ เป็นผู้หญิงนะไม่ได้เป็นทอมอะ เราเรียนนอกมานานเลยพิมช้ามากกกกแต่ก็อยากแชร์อะ เราเป็นคนงกมากถึงมากที่สุด 55 เราเลยรู้วิธีประหยัดมากมายอะ ตอนเราเรียนมัธยมที่Singaporeเรียนไปเรียนมาถูกกว่าเรียนอินเตอร์ในไทยอีก ตอนอยู่Englandก็ไม่ได้ใช้เงินมากนักถ้าไม่นับค่าเทอม...แพง กับค่าบ้าน...แพง ต่อมงกทำงาน  ถ้าใครอยากรู้อะไรก็ถามได้นะ เราจะมาเขียนบ่อยๆ คนไทยต้องแบ่งปัน! ภาค1 Milan ด้วยความงกเราเลยเที่ยวเยอะตอนเรียนที่England เพราะตั๋วถูก  (ใช้เป็นข้ออ้างตอนขอตังค่ะ) Easy Jet and Ryan air คือสายการบินโปรด! (Budget) เราไปMilan 2ที่ สวยมากค่ะ แต่โดนขโมยกล้องอะเลยมีแต่รูปบนIPhoneนะ เสพแค่นี้กันไปก่อนนะคะ เราไปคนเดียวครั้งแรก (ผมทองแบบเกาหลี ตอนนั้นบ้ามาก) ไป3เมือง Milan Rome and Florence ใช้ไป500+++Pound  (25,000บาท) รวมทุกอย่าง เก่งป่ะ เราsaveทุกกย่างที่saveได้ เช่น Duomo เดินเอา ปีนบันได ไม่ขึ้นLift แล้วพักกับเพื่อนคน Italian! ไปPartyแบบคนItalianด้วย วันแรก เราถึงดึกเลยไปParty ก่อน ปกติไม่เที่ยวนะเราเป็นเด็กดี ก่อนไปก็ไปBarก่อนดื่นBeerเล็กน้อยแบบหอมปากหอมคอ AlcoholในClubแพง55 ตอนดื่มอยู่ข้างถนนเพราะนั่งได้ฟรี  มีคนมาขายบุหรี่แบบต้องRollเองถูกกว่าแต่เราไม่สูบเลยไม่รู้ว่ามันเหมือนกันกับแบบธรรมดามั้ย แอบน่ากลัวแต่เพื่อนเราซื้อบุหรี่บ่อยจนเค้าจำได้เลยค่ะ สุดยอด! เค้าขายกุหลาบแดงไม่รู้ทำไม...ใครจะซื้อ...(ความจริงเราก็อยากได้ลึกๆนะ แต่ไม่มีใครไห้เลยพาลนิดนึง) คือเราขี้กลัวค่ะโดยเฉพาะคนดำที่ขายของอะ ไม่รู้ทำไม่คนแปลกน่าชอบคุยกับเราแล้วมองแปลกๆ คงจะเป็นเพราะหน้าหมวยสุดๆแต่ผมทอง ต่อๆ Clubที่เพื่อนชาวMilaneseพาไปคือ Tunnel ซึ่งเคยเป็น warehouse แอบน่ากลัวค่ะ มันเล็กมาก แคบสุดๆแบบแทบไม่มีอากาศหายใจเลยเพราะคนที่นั้นสูงมาก แบบเราว่าเราสูงนะ173cm แต่ตอนนันรู้สึกเตี้ยมาก เพลงก็ฟังไม่ออกอะ แต่พอเริ่มดื่มเริ่มเต้น เราก็จำได้แค่ว่าตอนตื่นมามันเป็นคืนที่สนุกมากกก เหมือนได้เป็นคนMilaneseเลยอะ แนะนำเลย    Day2 ตื่นแต่เช้าไม่มีเมาค้างเลย เรารีบเดินไป Duomo จูงหมาของเพื่อน แบบอยากแอ๊บเป็นคนMilaneseอะ ใช่เดินประมาณ20นาที เราชอบเดินมันคือการออกกำลังกายอะ   อ๋ออยากรู้ป่ะว่าไปคนเดียวถ่ายรูปได้ไง เราให้คนแปลกหน้าถ่ายให้ โดยเลือกคนที่เหมือนนักท่องเที่ยว คนที่เราชอบขอให้ช่วยคือคนญี่ปุ่นที่มา2-3คน เป็นผู้หญิงยิ่งดี โดยเฉพาะพวกที่มีของเยอะ เพราะวิ่งช้าเราตามทันท้าเค้าคิดจะขโมยโทรศัพท์ เราเดินตามTourนี้ค่ะไม่ยาก Download Trip Adviser app แล้วโหลดMilan Offline เวลาเจอwifiก็เปิดGoogle Mapแล้วZoom in and out Google Map ใช้Internet แค่ตอนโหลด GPRSไม่ใช้Internet เราจะเห็นตัวเองเป็นจุดสีฟ้าที่ขยับเวลาเราเดิน พอหิวก็ได้เวลาแห่งความสุข เราเลือก เราพูดไม่รู้เรื่องเลยสั่ง the bestselling  ฟินมาก อ้วนด้วยเพราะร้านตรงกันข้ามขายGelato อดใจไม่ได้เลยกินอีก แล้วก็เดินเดินเดิน Guiltyมาก เราเดินจนถึงปราสาทเลย    ระหว่างกลับเราเจอคนต่อแถวเลยเข้าไปมุงมั่ง  ที่Teatro alla Scala (โรงโอเปอร่า) ปรากฎว่าเค้าขายตั๋วยืนของOperaคืนนั้น! 6 Euros (250บาท) ว้ายๆต้องซื้อ ตอนนั้นดีใจมากเพราะต่อให้ดูไม่รู้เรื่องก็ได้เห็นด้านในโรงละคร เราเวะกินPizzaหน้าปลาเค็มแต่ไม่ได้ถ่ายรูป ตอนนั้นหิวโซเคยเป็นปะ แบบกินหมดแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ พออิ่มก็รีบไปโรงโอเปอร่า สวยสุดสุดแบบเราอยากร้องเพลงได้บ้างจะได้ขึ้นเวทีอะ เค้าไม่ให้ถ่ายรูปเราเลยGoogleมาให้ชมกัน ตอนดูเราออกก่อนค่ะ ไม่ดีนะไม่มีมารยาทเลย แต่เค้าร้องเป็นภาษาRussian แล้วมีItalian subtitle สรุปคือดูไม่รู้เรื่องเลย เราพยายามแล้ว แต่พอผ่านไป30นาที เราก็แบบง่วงนิดนึงเลยกลับก่อน เราย่องเลยนะ ตอนกลับ มีคนเดินตามด้วยแบบเราด้วย สงสัยเพราะเด่นเกิน เราหยุดเดินเค้าก็หยุดตาม เป็นคนดำ เราไม่discriminateนะ เพื่อนสนิทที่เป็นคนดำเราก็มีแต่คนนี้เค้าน่ากลัว พอเราเดินช้ามากๆเค้าก็แซงแล้วไปแอบอยู่ตรงมุมถนน เราตกใจมาก เราเลยเดินเข้าร้านอาหารเลยเกือบร้องไห้ โทรให้เพื่อนเดินมารับกลับนอนค่ะ จะได้ลืมๆ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆคนไหนโดยเฉพาะผู้หญิงต้องระวังค่ะ Europeเศษฐกิจไม่ดี ขโมยเยอะต้องAlertไว้ และอย่าประมาท สำหรับการเดินทางระหว่างเมืองใน Italy เราใช้รถไฟค่ะ ความจริงถ้าเพื่อนๆขับรถเก่ง แล้วมากัน3-4คน จะเช่ารถก็ได้ อาจจะถูกกว่า และ Flexible แต่ Italyเค้าขับฝั่งขวานะ เราว่ารถไฟสะอาดสะดวกสบายที่สุดเลย ราคารถไฟก็พอรับได้ งกค่ะ เราเลยรีบจองก่อนนานๆ Online ถูกกว่าไม่ต้อลต่อแถวที่สถานนีด้วย จองตั๋วOnlineที่ http://www.trenitalia.com และรับตั๋วทางอีเมลแล้วPrintไป ภาคหน้าเป็นFlorenceค่ะ ปูเสื่อรออ่านนะ ข้อมูลเราอาจไม่แน่นเท่าคนที่Reviewบ่อยๆนะ ติชมได้เราจะได้เก่งขึ้น!อัศวินขี่ม้าขาว แก้ไขข้อความเมื่อ