วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง สวนสนบ่อแก้ว และกล้องฟิล์มคู่ใจ

กระทู้แรกในพันทิป เคยคิดหลายทีแล้ว (แต่ไม่ทำซักที) ว่าอยากจะเรียบเรียงเรื่องราว แบ่งปันประสบการณ์ (ที่อาจจะเป็นประโยชน์) ต่อคนอื่นบ้าง

เราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบถ่ายรูป หลังๆมานี้ถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มมาโดยตลอด จนลืมไปแล้วว่าใช้เจ้ากล้องดิจิตอลครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และจะชอบ “อิน” กับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆระหว่างการเดินทาง มีความรู้สึกว่าอยาก “ซึมซับ” ทุกโมเม้นของการท่องเที่ยว ละการถ่ายรูปฟิล์มมันเป็น อารมณ์, เสน่ห์ของความไม่สมบูรณ์แบบ มันเป็นฟิลลิ่ง,,,,และมัน,,, abstract,,,

เข้าเรื่องละนะ! (บอกตัวเอง)
ทริปนี้เกิดจากความคิดที่ว่า เห้ย ฤดูฝน จะเที่ยวไหนได้ฟะ เอาล่ะสิ ก็ list มา ป่าเขา น้ำตก ทุ่งนา....ทุ่งนา! เออ เคยคิดว่าจะไปนาขั้นบันได (คิดอีกละ) ประกอบกับมีเพื่อนอารมณ์อินดี้จองตั๋วโปรของนกแอร์ (direct flight อุดร เชียงใหม่) ได้ถูกมากๆ ไป-กลับไม่ถึง 2,00บาท เอาแล้วไง เข้าทาง ชวนกันไปเที่ยวทุ่งนาขั้นบันได บ้านแม่กลางหลวงและบ้านป่าบงเปียงที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาหน้าตาคล้ายบ้านเทเลทับบี้ พ่วงด้วยออบหลวงและสวนสนบ่อแก้ว สถานที่อันแสนโรแมนติก (ถ้า มี แฟน มันจะดีมาก ตอนนั้นคิดแบบนี้ T.T)

ออกเดินทางถึงเชียงใหม่ตอนค่ำของวันที่ 3 ตค.57 เราพักที่ ฮาโหล ดอร์มเทล กลางซอยนิมมาน 13 เราเลือกห้อง Four Room เป็นเตียงสองชั้นสี่เตียง ราคาคืนละ 1,400 บาท มีจักรยานให้ยืม แต่! กรุณาดูสภาพล้อและลมล้อรถด้วย ตรงข้ามที่พักเป็นร้านต๋อง เราฝากปากท้องตอนที่พักที่เชียงใหม่ 2 คืน

เช้าวันที่ 4 ตค.57
รถเช่าพร้อมคนขับที่เราติดต่อไว้มารับที่โรงแรมแต่เช้า คุณลุงนพเป็นขับรถมาพร้อมรถโฟวีลคู่ใจ รถลุงสภาพดี ทนทาน สวยถูกใจเด็กแนวมากอ่ะ ค่ารถพร้อมคนขับวันละ 1,800 ไม่รวมน้ำมัน





หลังจากที่รับเพื่อนๆในเมืองและแวะตลาดหาซื้อของกินระหว่างทางแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่บ้านแม่กลางหลวง เราพักที่บ้านของโครงการ ราคาคืนละ 1,500 บาท เราทั้ง 7 คนนอนได้เต็มพื้นที่พอดี เก็บของเสร็จก็ติดต่อไกด์ท้องถิ่นพาเดินเที่ยวน้ำตก (รักจัง) และทุ่งนาโดยรอบ ใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง  ตไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะ เนื่องจากแสงแดดรุนแรงมาก ตอนที่เดินนั้นก็บ่ายโมงเข้าไปแล้ว ในหมู่บ้านมีร้านกาแฟของชาวบ้านอยู่บ้านนึง แต่ตอนนั้นอากาศร้อนเกินกว่าจะกินกาแฟร้อนสักคำ





เดินน้ำตกและบ้านแม่กลางหลวงเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าไปบ้านป่าบงเปียงโดยเร็วไว อยากจะไปเก็บแสงตอนเย็นให้ได้ และพวกเราโชคดีมากที่วันนั้นฝนไม่ตกเลย ทางเข้าบ้านป่าบงเบียง (เราใช้ถนนเส้นที่ไปดอยอินทนนท์ตัดขวาไปทางป่าไม้) แอบทรมานสังขารเล็กน้อย มันจะทุลักทุเลมากถ้าวันนั้นฝนตก รถที่เหมาะที่สุดที่ปีนป่ายขึ้นไปได้ต้องเป็นโฟวีลเท่านั้นนะเจ้าคะ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงบ้านป่าบงเปียง

และแล้วววว......
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าในตอนนั้น ถ้าใครไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปเที่ยวทุ่งนา ถ้าใครไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดั้นด้นมาถึงที่นี่...
ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองนะ แค่ยืนนิ่งๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยสีเขียวกับแสงอ่อนๆจากดวงอาทิตย์ เท่านี้ก็ฟินแล้ว...พริ้มมาก ปล.ช่วงที่แสงมาเป็นลำ ฟิล์มดันหมด แอบเปลี่ยนฟิล์มไม่ทัน –“-

















สุขสงบจนแสงสุดท้ายหมด มองหน้ากับเพื่อนที่มาด้วยกัน (ไม่พูดอะไรก็เข้าใจกันทุกคำ) เห้ย พรุ่งนี้ต้องกลับมาเก็บหมอกตอนเช้าให้ได้เล้ยยยย  Yahoooo!!!

กลับเข้าที่พักที่บ้านแม่กลางหลวงในเย็นวันนั้น ที่นั่นมีข้าวให้กิน ไม่ต้องห่วง แต่หากใครจะไปพักที่บ้านป่าบงเปียง ต้องเตรียมทุกอย่างเอง ที่นั่นไม่มีไฟฟ้า ไม่มีร้านอาหาร คงจะได้อรรถรสไปอีกแบบ คืนนี้กะหลับสบายแต่ต้องผ่านด่านความเยือกเย็นของการอาบน้ำของเครื่องทำน้ำอุ่นที่ไม่มีแม้แต่ความร้อนสักองศาเดียว จะแอบเนียนไม่อาบน้ำก็คงจะไม่ไหว ก็เดินลุยทุ่งนาซะขนาดนั้น

อาบน้ำเสร็จ พรุ่งนี้ตื่นตีห้าแจร้ๆๆๆๆ แต่เดี๋ยว!!! อะไรเป็นจุดจ้ำๆแดงๆตรงขา กรีสสสส มันเป็นจุดแดงช้ำๆอ่ะ งูกัดเหรอ ก็ไม่นะ ไม่เจ็บไม่ตาย แล้วมันอัลไล งงไปพักนึง ทั้งกลุ่มมีจุดแบบนี้อยู่สองคน คือเป็นบุคคลประเภทใส่ขาสั้น เพื่อนอีกคนบอกว่าน่าจะโคนตัวคุ่นกัด พระเจ้าอะไรคือตัวคุ่น เกิดมาไม่เคยได้ยิน ที่กังวลคือ ละทำไมไม่เจ็บ ละจะเป็นอะไรมั๊ย บราๆๆ %$#*)+@%#%$
แต่ช่างมันละ ไม่เจ็บก็ไม่เจ็บ จะนอน!

วันที่ 5 ตค 57
คุณลุงนพพาเรากลับไปที่เดิม ที่บ้านป่าบงเปียง สายหมอกกับอากาศเย็นๆสมดังใจปรารถนา ตอนนั้นบอกกับทุ่งข้าว ขุนเขาก้อนเมฆและตัวเองว่า ดีใจที่ได้มา ^^













ดื่มด่ำกับบ้านป่าบงเบียงจนหยดสุดท้ายของสายหมอก เราก็กลับไปที่บ้านแม่กลางหลวงเพื่อเดินทางต่อไปยังออบหลวง
เราพักที่บ้านพักของอุทยาน คืนละ 2100 บาท สภาพห้องพักค่อนข้างดี มีห้องนอนตั้งสามห้องแหนะ

เก็บของเสร็จก็วิ่งข้ามถนนไปออบหลวง (มันอยู่ฝั่งตรงข้ามที่พักเลย) แอบแปลกใจที่ไม่ถูกเรียบเก็บค่าธรรมเนียมก่อนขึ้น อ๋ออ พี่เค้าคงจะกลับบ้านแล้วมั้งเลยขี้เกียจเก็บ ล่ะมั้ง เดินไปถ่ายรูปไปตามลายแทงลูกศรที่บอกเป็นระยะๆ ระหว่างทางก็แอบแปลกใจ (เป็นครั้งที่สอง) ที่ทำไมฝรั่งเหล่านั้นเดินสวนทางเราลงมาทั้งๆที่เส้นทางเดินมันเป็นวงกลม แต่เราก็เดินต่อไป ฮ่าๆๆๆๆ

เดินไปเรื่อยๆ เค้าบอกให้ไปจุดชมวิว คือต้องปีนและคลานขึ้นไปตรงจุดชมวิว เราส่งหน่วยกล้าตายขึ้นไปก่อน 1 คน สักพักเพื่อนคนนั้นก็หายไป เราเลยตะโกนหา ... ไม่มีเสียงตอบกลับมา.... ซวยแล้ว เกิดไรขึ้นป่าววะ กำลังจะ (ปีน) ขึ้นไปตาม นางก็ลงมาพอดีพร้อมกับอวดรูปที่ถ่ายมาได้ พวกเราสามสี่คนเดินขึ้นไปบ้าง อีกสองคนนั่งดมยาดมรออยู่ข้างล่าง





บรรยากาศชิวดีไม่เลว ชั่วพริบตาเดียวตรงนั้น พวกเราเห็นรุ้งน้อยๆพาดผ่านภูเขา ก่อนที่ท้องฟ้าจะส่งก้อนเมฆสีดำ เสียงคำราม และสายฝนลงมาอย่างไม่ปราณี จากที่ “ปีน” ขึ้นมา ก็ถึงคราว “ปีน” ลง และวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด เปียกปอนกันถ้วนหน้า ยังไม่พอ วิ่งมาถึงที่ร้านอาหารตรงข้ามที่พักแล้วพบว่า “ไฟดับ” กรรมล่ะสิ หนาวก็หนาว หิวก็หิว มืดก็มืด  โชคดีที่ร้านเค้ายังขายข้าวอยู่ กินข้าวกันเลยละกัน ใต้แสงเทียนนี่แหละ สักพักใหญ่ๆ ไฟก็มา รอดตาย

วันที่ 6 ตค.57
จุดหมายของเราเช้านี้คือ สวนสนบ่อแก้ว ห่างจากออบหลวงประมาณ 30 นาที ระหว่างทางที่ไปถนนถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอก มันช่างวิเศษ สถานที่แห่งนี้มันช่างโรแมนติกเสียนี่กระไร ชอบอ่ะ



















อำลาดินแดนสวนสน มุ่งหน้าตัวเมืองเชียงใหม่ เรากลับไปพักที่โรงแรมเดิม กินข้าวที่ร้านเดิม (ก็ยังไม่เบื่อนะ)

วันที่ 7 ตค 57
ทัวร์เล็กน้อยในเมืองเชียงใหม่ ก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน











เชียงใหม่ ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อเลย มีที่สวยงามมากมายให้เราไปเยือน ทริปนี้สนุกมาก ได้รู้จักและพบเพื่อนใหม่  มิตรภาพ  ความสนุกมันเกิดขึ้นระหว่างทาง  

ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคน
ขอบคุณลุงนพที่เป็นมากกว่าคนขับรถ ลุงเข้าใจหัวอกนักเดินทางอย่างแท้จริง (โทร 0869167552) แอบโฆษณาให้ด้วย
ขอบคุณท้องทุ่งนา ขุนเขา  เมฆหมอก ต้นไม้ และสายฝน



จบบริบูรณ์ แก้ไขข้อความเมื่อ

ขอคำแนะนำการขับรถจาก บริสเบนไปซิดนี่ย์ และที่พัก,ที่เที่ยวในซิดนี่ย์ค่ะ

จะไปเที่ยวซิดนีย์ช่วงคริสมาสต์ค่ะ มีเวลา 4 วัน 3 คืน เราจะเช่ารถกับเพื่อน ๆ
ไปกันหลายชีวิตค่ะ วางแผนจะออกเดินทางกลางดึกวันที่ 24 ธ.ค. ช่วงตี 2-3
แต่ระหว่างทางอยากจะแวะเที่ยวแบบเบี้ยไบ้รายทางเพื่อถ่ายรูปค่ะ ไม่กะแวะนอนที่ไหนเลย
เพื่อจะให้ถึงซิดนีย์ในวันที่ 25 ธ.ค. เลยค่ะ รบกวนเพื่อน ๆ ที่เคยขับรถไป
ช่วยแนะนำจุดพักรถหรือจุดท่องเที่ยวควรแวะถ่ายรูประหว่างทางให้หน่อยค่ะ
และพอมีที่พักที่ซิดนี่ย์แบบดอร์ม หรือแบคแพค สำหรับ 6 คน แนะนำมั้ยคะ
และสถานที่เที่ยวที่ไหนที่ไม่ควรพลาดบ้างค่ะ เพราะเวลาเราค่อนข้างน้อยค่ะ
เลยอยากได้สถานที่แบบ Must go เลยค่ะ ^ ^

ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าเลยนะคะ

บุหรี่ที่เขมร

มีคนเอาบุหรี่ LM แดงมาให้ ตรงซองเป็นภาษาเขมรแล้วก็มีแสตมป์  แล้วก็ mevius ตรงซองจะมีคำว่า smoking kills
มันเป็นบุหรี่ปลอมไหมครับ กลัวสูบแล้วจะได้โทษมากกว่าปกติ

อยากจะไปเป็น "ครูอาสาบนดอย" ต้องทำอย่างไรครับ?

เป็นอีกหนึ่งความฝันที่ในสักวันหนึ่งจะมีโอกาสไปเป็น ครูอาสา เพื่อพัฒนาการศึกษาให้กับน้องๆบนดอย

ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอม จึงอยากจะขอรายละเอียดจากเพื่อนๆหน่อยนะครับ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง?

...ขอบคุณครับ...

เทศกาลโคลนที่เกาหลีใต้ 2012

เทศกาลโคลน เมืองโพเรียง ครั้งที่ 15 (Boryeong Mud Festival) ที่เกาหลี ชื่อเสียงของ โคลน ที่เมืองโพเรียง ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญกันว่ามีคุณ สมบัติ ในการบำรุงผิว และช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง จึงเป็นที่นิยมของผู้คนทั้ง ชาวเกาหลี และ ชาวต่างชาติ ซึ่งนิยมมาพอกโคลนบำรุงผิวกันที่นี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้แล้วโคลนที่โพเรียง ยังได้รับประกาศนียบัตร ISO 9002 และได้รับ การรับรองจาก คณะกรรมการอาหารและยา (FDA)ของสหรัฐอเมริกา และการรับรองคุณภาพโดยกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นด้วย คุณสมบัติของโคลน เมืองโพเรียงนี้ สามารถช่วยป้องกันรังสีอินฟาเหรด และมี แร่ธาตุ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายต่าง ๆด้วย


เมามันมากนึกว่าคนทะเลาะกัน
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
หนุบหนับๆไม่แพ้สงกรานต์ไทย
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
เลอะโคลนก็สวยไปอีกแบบ
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
เข้าตาเข้าจมูกจนแทบจะทนไม่ไหว
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
สาวๆฝรั่งก็มาแบบเต็มที่
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
เละกันทั้งเมืองงานนี้
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
มันลื่น บาทาลูบพักต์โดยมิได้เจตนา
อัพโหลด 14-9-2012 14:44
ยืนมันลำบากนอนดีกว่า
อัพโหลด 14-9-2012 14:44

สอบถามการเดินทางไปเวียงจนทร์

จากสนามบินอุดรไปเวียงจันยังไงครับ  แล้ว มีสถานที่เที่ยวไหนบ้าง นอนพักที่เวียงจันทร์หรือที่ หนองคายดีครับ

คลิป รายการเนวิเกเตอร์เมื่อวานค่ะ "กำเนิดแห่งชีวิต และทฤษฎีวิวัฒนาการ" (2)

Navigator Year10 Trip144: "กำเนิดแห่งชีวิต และทฤษฎีวิวัฒนาการ" (2) - Galapagos
วันหยุดสบายๆ เอาคลิปรายการเมื่อวานมาชมกันอีกสักรอบค่ะ  ยิ้ม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บาหลี เที่ยววัดพุทธ Brahmavihara ชมวิว Twin lake จากมุมสูง นั่งรอดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ Pura Tanah Lot

ออกจากที่พักสายๆ มุ่งหน้าสู่ วัด Brahmavihara-Arama หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า พรหมวิหารอาราม ที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าชมค่ะ แล้วแต่จะบริจาค และเช่นเคยต้องนุ่งโสร่งด้วย ที่วัดมีเตรียมไว้ให้ สวยเลยค่ะ วันนี้เราใส่ชุดที่ซื้อมาจากตลาดวันก่อน เข้ากับบรรยากาศ 555

ที่วัดแห่งนี้ จัดว่าเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในบาหลี ภายในมีภาพพุทธประวัติ พระพุทธรูป และจุดเด่นคือ มีเจดีย์ขนาดใหญ่ จำลองแบบมาจากบุโรพุทโธ สวยงามมากค่ะ มีฉากหลังเป็นเนินเขา




ชื่อสินค้า:   บาหลี คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

่jr pass สำคัญมากแค่ไหน ...ถ้าไม่หายก็คงไม่รู้สึกหรอก

วันนี้มีเรื่องน่าตื่นเต้นจะมาเล่าให้ฟังคะ เอามาแชร์ประสบการณ์กันนะคะ จริงๆก็เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณเดือนที่แล้วตอนไปญี่ปุ่น แต่ก็ยังประทับใจมิรู้ลืมนะคะ จุ๊บๆยิ้มอมยิ้ม16 เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเช้าก่อนขึ้นชินคันเซนต่อเพื่อจะไปhuis ten bosch เดียร์ก็ไปทำการจองที่นั่งไว้ก่อนตามปกตินี่ละคะ ( เพราะที่นั่งบนชินคันเซนเนี่ยถ้าอยากนั่งด้วยกันละก็เราต้องมีการbookไว้นะคะ ถ้าไม่บุ๊คเราก็ไปขึ้นตรงโบกี้ที่ไม่ต้องจองแต่เราอาจไม่ได้นั่งด้วยกันคะ ) ออกมาก็รอเวลาเดินเล่นสักพัก แต่พอตอนจะเข้าไปขึ้นรถไฟนี่ดิ  เจอาร์พาสดันหายคะ!!!!!!  ตอนแรกก็ใจดีสู้เสือหล่นอยู่ตรงนั้นตรงนี้มั้ง เอ้า หา เทกระเป๋าแล้วก็ไม่เจอ ไปที่ตรงจองตั๋วก็ไม่มี โอ๊ยยยยนย ถามพนักงานก็ไม่มี 😟😟 ตอนนั้นคิดคำแปลไม่ออกเลยคะ แทบร้อง  เหตุการณ์ตอนนั้น หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยนะคะ เจอาร์หายนี่มันเรื่องใหญ่(แต่ก็ยังน้อยกว่าพาสปรอตหายนะคะ555) แต่เรื่องใหญ่คะ ใหญ่จริงๆ เพิ่งใช้ไปแค่วันเดียวเองด้วย  ซื้อในประเทศก็ไม่ได้ และเดียร์ดันแบบต้องข้ามภูมิภาคด้วย ที่พักก็จ่ายเงินไปแล้ว จากคุมาโมโตะไปซัปโปโรแล้วกลับจากซัปโปโรไปโตเกียวนี่มันไม่ใช่น้อยๆเลยนะคะ
เคยคิดเล่นๆนะคะถ้าหายทำไงไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองคะ Facepalmเม่าตาสว่างเม่าตกใจ......... .. จนแล้วจนรอดทำยังไงก็ยังไม่เจอ ....
เดินคอตกๆไปหาเจ้าหน้าที่คะ เค้าฟังไม่รู้เรื่องอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่น ตัวชาไปหมดคะตอนนั้น(มันหนาวด้วยละ) สุดท้ายเปิดภาพให้ดู แล้วพูดภาษาอังกฤษคำเดียวคะ หายยยยยย พนักงานใจดีคะ วิ่งวุ่นเลยช่วยกันตามหา ตอนนั้นคิดว่าจริงๆถ้าใครเก็บไปได้ก็เอาไปใช้ได้อยู่นะคะ แค่โชว์บัตรแล้วเดินเข้าได้เลยเค้าเห็นบัตรเจอาร์ปุ๊ปก็ให้เข้าคะ ...เกือบต้องทำใจ พนักงานอีกประตูที่ไปตามหา ยกบัตรเจอาร์ 2 ใบขึ้นมา บอกเหมือนประมาณว่ามีคนเก็บได้ แล้วเอามาส่ง...... โอ๊ย อารมณ์นั้นแทบร้องคะ ดีใจ รักญี่ปุ่นไปยิ่งกว่าเดิมพาพันดี๊ด๊าเยี่ยมเยี่ยมประหลาดใจ
ถึงจะพลาดเที่ยวรถไฟไปประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ประสบการณ์ที่ได้รับ ก็หาไม่ได้อีกแล้วคะ นอกโปรแกรม 5555 เขียนมาซะยาวเลย สรุปสั้นๆนะคะ อยากมาที่นี่ทุกปีคะ i love japan .. ณ วันนี้ ยิ่งรักมากขึ้นคะ  ใครมีประสบการณ์อะไรที่ญี่ปุ่นกันบ้าง มาเล่าให้กันฟังบ้างนะคะ เผื่อจะเป็นประสบการณ์กับคนต่อๆไปคะ

ปล. เจอาร์พาสรักษายิ่งชีพนะคะ
ชื่อสินค้า:   JR pass , Kyoto , Tokyo , Shinkansen , sapporo คะแนน:      **SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว