วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

1ปีมี1ครั้ง!!งานนมัสการรอยพระพุทธเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2556

งานนมัสการรอยพระพุทธเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2556 อัพโหลด 25-1-2013 10:47

เทศบาลตำบลพลวง และจังหวัดจันทบุรี ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานนมัสการรอยพระพุทธเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 26 มกราคม - 11 เมษายน 2556 ณ เขาคิชกูฏ จังหวัดจันทบุรี
อัพโหลด 25-1-2013 10:47

ตำนานรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎ
ตำนานรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎมีอยู่ว่า นายติ่งและคณะได้ขึ้นบนเขาเพื่อไปหาไม้กฤษณามาขาย และได้ไปพักเหนื่อยบนลานหินกว้าง ระหว่างนั้นเพื่อนของนายติ่งคนหนึ่ง ได้ถอนหญ้าเพื่อนอนพักก็พบแหวนใหญ่ขนาดสวมหัวแม่เท้าได้ เเละเมื่อช่วยกันตรวจดูก็พบหินแผ่นหนึ่ง มีพื้นที่เป็นรอยรูปก้นหอย ต่อมานายติ่งและเพื่อนได้นำบุตรชายไปอุปสมบทที่วัดพลับ รุ่งขึ้นก็มีงานปิดรอยพระพุทธบาทจำลอง นายติ่งซื้อทองไปปิดแล้วจึงพูดว่าแถวบ้านตนก็มีรอยแบบนี้เช่นเดียวกัน พอดีมีพระได้ยินเข้าจึงไปเรียนให้เจ้าอาวาสวัดรับทราบ เจ้าอาวาสจึงเรียกนายติ่งเข้าไปสอบถาม พร้อมกับส่งคณะขึ้นไปพิสูจน์ดู ก็พบว่าเป็นความจริง และเมื่อตรวจดูบริเวณรอบ ๆ ก็พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์อีกหลายอย่าง รอยพระพุทธบาทนั้นท่านทรงเหยียบจารึกไว้ที่ศิลาแผ่นใหญ่ บรรจุคนนั่งได้ร้อยกว่าคน บนยอดเขาสูงสุด กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร
อัพโหลด 25-1-2013 10:47 ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรอยพระพุทธบาทมีหินกลมก้อนหนึ่งใหญ่มาก เรียกว่า หินลูกพระบาท ตั้งขึ้นมาอย่างน่าแปลกประหลาดมหัศจรรย์ มองดูคล้ายลอยอยู่เฉย ๆ มีคนกล่าวว่าเขาเคยเอาด้ายสายสิญจน์คล้องแล้วหลุดออกมาได้ และยังมีหินอีกลูกอยู่ตรงข้ามกับหินลูกพระบาทนี้ ก็มีรอยพระหัตถ์ไปรับหินก้อนนี้ จากรอยพระพุทธบาทกับรอยพระหัตถ์นั้น ห่างกันประมาณ 5 เมตร และยิ่งแปลกไปกว่านั้น ในก้อนหินตรงกันข้ามกับรอยพระหัตถ์ ยังมีรูปรอยเท้าใหญ่ ซึ่งเรียกกันว่ารอยเท้าพญามาร เพียงแหงนหน้าขึ้นไปจะมองเห็นได้ทันที สูงประมาณ 15 เมตร
อัพโหลด 25-1-2013 10:47

อัพโหลด 25-1-2013 10:47

ต่อจากนั้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากหินลูกนี้ไปเพียง 15 วา มีหินลูกข้างบนเป็นลานและมองเห็นรอยรถหรือรอยเกวียน เมื่อยืนบนหินลูกนั้นมองลงไปทางทิศเหนือจะเห็นถ้ำเต่า หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรอยพระพุทธบาทจะเห็นถ้ำช้าง และถ้ามองจากรอยพระพุทธบาทขึ้นไป จะเห็นหินก้อนหนึ่งมีรูปลักษณะคล้ายช้างจริง เลยจากช้างไปสูงสุดนั้นเรียกกันว่าห้างฝรั่ง เพราะฝรั่งได้ขึ้นไปตั้งห้างส่องกล้องเพื่อทำแผนที่ มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งเรียกว่าถ้ำสำเภา เพราะมีหินก้อนหนึ่งข้างบนถ้ำมีลักษณะคล้าย ๆ เรือสำเภา และยังมีอีกถ้ำหนึ่งใต้พระบาทนี้เรียกว่าถ้ำตาฤาษี


****เคยไปมา3รอบแล้วคะ เดินสนุกดี แต่ชอบตอนขึ้นรถมากกว่าคะทางชันๆๆ รถกระบะต้องมีความชำนาญในการขับพอสมควรคะไม่งั้นอาจจะเกิดอันตรายคะ กะว่าปีนี้ก็น่าจะได้ไปเที่ยวอีกไปยืนบนก้อนหินสูงแล้วก็เอามือจับเมฆ จับหมอก สนุกดีคะ แต่คนเยอะมากเลยแต่ละปี ชอบที่สุดก็คือการเดินสุดทางผ้าแดงคะ ได้ไปขอพรจะผ้าแดงตำนานเล่าว่า ใครที่เดินผ่านผ้าแดงไป ถ้าหันหลังกลับมาจะไม่เจอผ้าแดงอีกเหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่งเลยทางเขาคิชกูฏเลยเอาเชือกมากลั้นไว้ไม่ให้คนหลงเข้าไปคะ ฟังดูน่ากลัวนะคะ!!! ผ้าแดงมีความสักสิทธิ์นะคะคือ กว่าจะเดินขึ้นมาถึงผ้าเหมือนเดินทางข้ามเขาเกือบ4ลูกด้วยกัน ระยะทางมันไกลมาก เวลาคนตั้งใจมาขอก็จะได้สมหวังดั่งคำขอคะ ..เพราะคำพยายามคะ ไปมา3ครั้งไปถึงผ้าแดงแค่ครั้งเดียวคะ ตอนจะสอบเข้าม.1 5555++  (ความคิดเห็นส่วนตัว)

ลิงค์นี้บอกเหล่าความเป็นเขาคิชกูฏได้ดีมากคะ[url]http://forum.sukiflix.com/index.php?topic=329.0[/url]

กำหนดการ งานนมัสการรอยพระพุทธเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2556

วันที่ 26 ม.ค. - 1 ก.พ. 25556
บวชพราหมณ์
วันที่ 7 ก.พ. 2556

พิธีเปิดเปิดงานบริเวณสันเขื่อนพลวง
พิธีสักการะเจ้าพ่อขุนด่าน
วันที่ 9 ก.พ. 2556

พิธีบวงงสรวงยอดเขาพระบาท
วันที่ 11 ก.พ. - 11 เม.ย. 2556

เปิดให้ประชาชนทั่วไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏประจำปี 2556
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
วัดกะทิง โทร.039-452056
พระครูประดิษฐ์ 089-0561517 ประธานสงฆ์
พระครูวิโจจน์ธรรมานุกูล 081-1378203 เจ้าอาวาสวัดกะทิง
นายทองเลื่อน 089-0950992 ประธานฆราวาส
เทศบาลตำบลพลวง 039-309284

ที่มา:[url]http://variety.teenee.com[/url],ลายน้ำคู่หูเดินทาง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น