วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แบกเป้ลากเป๋าไปญี่ปุ่น Backpacker 2 Japan ด้วยสายการบิน Cebu Pacific [Part 1]

หลังจากจบทริปเจแปนเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา หาเวลาว่างมารีวิว เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนแบกเป้ลากเป๋าจ้า เป็นรีวิวแรกในชีวิต หลังจากทำการบ้านเก็บข้อมูลในห้องบลูตลอดระยะเวลา 3 เดือน ก่อนบินไปญี่ปุ่นช่วง 17-24 กย 57 แวะทรานซิทที่มะนิลา เพราะได้ตั๋วโปรราคาถูกของเซบู ขอบคุณหลากหลายข้อมูลที่แต่ละคนได้นำมาแชร์กัน เยี่ยม [ขออภัยรูปเยอะไปหน่อยจ้า...อิอิ] ยิ้ม เริ่มเลยละกัน...ตามไปดู...........เล๊ยยยย ใครที่จะใช้สายการบินนี้ควรจะระวังเรื่องการจองน้ำหนักให้ดี เพราะถ้าน้ำหนักเกิน แล้วมาซื้อเพิ่มที่หน้าเคาเตอร์เชคอินราคาคงไม่ไหวนะ หลังจากผ่านเชคอิน และ ตม. ศุลกากร แวะเดินดูของใน Duty free ก็พุ่งไปรอที่หน้าเกตได้เลย เครื่องบินมารอรับผู้โดยสารละจ้า อากาศที่กรุงเทพดีมากไม่เจอฝนเลย ได้แต่ภาวนาที่มะนิลาอย่าเจอฝนเลย...สาทุ!!! ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวฟิลิปปินส์ คนไทยน้อยมากๆๆๆๆ ได้ยินแต่ภาษาตากาล็อก ก็แปลกหูดีนะ ภายในเครื่องจะคล้ายกับโลว์คอสบ้านเรา ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะที่ฟิลิปปินส์สายการบิน Cebu เป็น Low Cost เจ้าถิ่นเลยก็ว่าได้ เริ่มแจกแบบฟอร์มเข้าประเทศฟิลิปปินส์ อย่าลืมกรอกชื่อที่พักนะเด๋วจะโดนถาม เริ่มเห็นทะเลสีสวย และหมู่เกาะน้อยใหญ่ เครื่องใกล้จะแลนดิ้งล่ะจ้า ใช้เวลาเดินทางประมาน 3 ชม.กว่า ก็มาถึงที่สนามบิน Ninoy Aquino International Airport Terminal 3 อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใส เดินตามคนฝรั่งไปคะ เพราะจะต้องไปจ๊อบพาสปอร์ต ผ่านตม. ที่ช่อง Foreign Passport สำหรับชาวต่างชาติ ลุ้นตลอดเพราะไม่เคยมาฟิลิปปินส์ โชคดี ตม.ไม่ได้ถามอะไรเลย ประทับตราแล้วผ่านโลดดดด ภายในสนามบินนินอย T3 ไม่ใหญ่มาก ในความคิดดอนเมืองน่าจะกว้างกว่านะ มารอรับกระเป๋าตรงสายพานจ้า พร้อมเล่น WiFi Free ของสนามบิน เนตแรงใช้ได้เลยละ เดินออกมาก็จะเจอป้าย Taxi และรถโดยสารสำหรับเข้าเมือง เลยเดินไปถาม Taxi สีขาว จะเข้าเมือง Makati พนงแจ้งมา 1,800 PHP เดินกลับมาตั้งหลักใหม่ โชคดีที่ได้เจอพี่คนไทย เขาเลยอาสาออกมาส่งนอกสนามบิน และเรียก Taxi ให้ ขอบคุณมากจ้า พาพันขอบคุณ หรือใช้ Taxi สีเหลืองก็ได้นะ ประมาน 300 PHP ต้องต่อรองราคากันเอาเองอ่ะ แต่ถ้าอยากประหยัดต้องขึ้นไปชั้นบนขาออก ไปเข้าแถวต่อรอ Taxi  ที่มาส่งผู้โดยสาร แล้วมารอรับผู้โดยสารต่อ รอคิวนานเหมือนกานแหะ รถยนต์ที่นี่พวงมาลัยจะอยู่ด้านซ้าย ซึ่งตรงข้ามกับประเทศไทยที่อยู่ด้านขวา จากสนามบินมาถึง Tune Makati Hotel ราคา 140 PHP ใช้เวลาประมานครึ่งชั่วโมง รถติดนิดหน่อย ในส่วนห้องพักไม่ได้กว้างขวางมากมาย ออกแนวแคบไปนิดเลยล่ะ แต่ไม่ได้ซีเรียสเพราะนอนไม่กี่ชั่วโมงต้องตื่นตี 2 ไปที่สนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่องไปยังญี่ปุ่น ตอนตี 5 เวลาที่มะนิลาเร็วกว่าไทย 1 ชม. เดินออกมาหาของกินแถวที่พัก คงต้องพึ่ง Madonald's ไปก่อน สภาพบ้านเมืองไม่ต่างจากเมืองใหญ่มากนัก การจราจรก็ติดขัดเป็นธรรมดาเป็นช่วงๆไป วันรุ่งขึ้นต้องรีบมาถึงสนามบินเร็วกว่าเพราะก่อนเข้าสนามบินต้องยืนต่อแถวเพื่อ X-Ray กระเป๋าทุกใบ คนฟิลิปปินส์เยอะมาก ***กรุณาเก็บ Boarding Pass ใบเก่าขามาจากกทม. ให้ดี อย่าทำหายนะ ไม่ง้านจะต้องเสียค่าภาษีสนามบิน 550 PHP*** แล้วนำไปยื่นที่เคาเตอร์จ่ายค่าภาษีสนามบิน ก่อนผ่านไปยัง ตม. และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าแค่มา Connecting Flight อยู่ไม่ถึง 24 ชม. พร้อมกับยื่นบอร์ดดิ้งพาสใบเก่าและใบใหม่ให้กับเจ้าหน้าที่แล้วเขาจะเย็บแม็กติดเป็นชุดเดียวกัน ผ่านได้เลยไม่ต้องจ่ายตังค์คร๊าบบบ ระวังก่อนผ่านเข้าไปด้านใน จะมีเจ้าหน้าที่จะเอากระเป๋าไปชั่งน้ำหนัก Carry on ไม่ควรเกิน 7 kg นะ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา) เข้าไปรอในเกตเริ่มหิว ต้องหาอะไรใส่ท้องก่อนเดินทางต่ออีกหลายชั่วโมง จนไปเจออยู่ร้านนึง สั่งข้าวหมูหวานมาทาน อร่อยมากมาย มาถึงมะนิลาไม่ควรพลาดของฝากชื่อดัง เป็นมะม่วงอบแห้งยี่ห้อ 7D เป็นสินค้าส่งออกเลยนะ อร่อยดีอ่ะ ซื้อไปกินบนเครื่องแก้เบื่อได้ดี มองออกไปข้างนอกฟ้ายังมืดอยู่เลย เครื่องบินมาแล้ว เตรียมพร้อม Take Off โก เจแปน ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ หลังจากเครื่องบินอยู่บนฟ้า แอร์เริ่มแจกใบฟอร์มของประเทศญี่ปุ่น อย่าลืมกรอกข้อความให้ครบทุกช่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบุข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อที่ผ่าน ตม. ญี่ปุ่นจะได้ไม่ถามมาก พร้อมทั้งเตรียมเอกสารให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นใบจองโรงแรม ตั๋วขากลับ แพลนเดินทาง ใช้เวลาเดินทางประมาน 4 ชม. จากมะนิลามายังสนามบินนาริตะ แอบเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย ขามานั่งทางด้านซ้ายของเครื่องบินจ๊ะ พอเครื่องแลนด์ดิ้ง ก็เดินตามทางไปยัง ตม. และรับกระเป๋าที่สายพาน สามารถเล่น WiFi Free ได้เลยจ้า เดินมาที่ช่อง Foreign Passport สำหรับชาวต่างชาติ สแกนนิ้วมือและหน้าตา ก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น ตม.ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ขอดูตั๋วขากลับเท่านั้น เลยยื่นเอกสารทั้งหมดที่มีให้ตรวจสอบ ผ่านโลดดดดจ้า หลังจากผ่านตม. และ ศุลกากร เดินออกมาจะเจอเคาเตอร์ขายตั๋วรถไฟเข้าเมือง จะเดินทางด้วยรถไฟ JR สาย Narita express   แบบจองที่นั่ง เลยซื้อโปรขาเดียวเข้าเมือง 1,500 Yen รอรอบรถไฟเวลา 11:48 ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนาริตะ ไปยังสถานีชินจูกุ ประมาน 1 ชม. ได้ตั๋วมาตรวจสอบหมายเลขว่าตู้คันที่เท่าไหร่ ที่นั่งเบอร์อะไร เชคได้จากที่พื้น บนแพลตฟอร์มจะมีระบุอยู่จ้า นำเจ้าเครื่อง Pocket Wifi ของค่าย BS ที่เช่ามาจากเมืองไทย มาเปิดเครื่องพร้อมใช้งานกันเล๊ยยย รถไฟมาแล้ว ตรงเวลาเป๊ะๆ แนะนำควรมารอรถไฟก่อนเวลาสัก 10 นาที รถไฟที่ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าตรงเวลาสุดๆ เข้าไปข้างในกันเล๊ย มีป้ายบอกสถานีและเวลาที่รถไฟจะจอดอย่างชัดเจน เช็คได้จากหน้าจอ ขึ้นมาบนรถไฟปุ๊ปต้องเก็บกระเป๋าสัมภาระไว้ในที่เก็บให้เรียบร้อย มีสายล็อกกระเป๋าพร้อมภาพวิธีใช้งานอย่างละเอียด   ภายในรถไฟที่ดูเรียบหรู เบาะนั่งปรับเอนได้สบายมาก กว้างขวางจนไม่รู้สึกอึดอัด เห็นวิวโตเกียวสกายทรี ก็ใกล้เขตเมืองมากขึ้นแล้วจ้า ท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีเงาฝน รถไฟ JR สาย Yamanote Line วิ่งสวนกานอยู่ด้านบน เตรียมลงสถานีชินจูกุ พร้อมเอากระเป๋าสัมพาระ  บนรถไฟมีแจ้งแผนที่ของแต่ละสถานีด้วยล่ะ ออกจากรถไฟปุ๊ป เดินหาทางออก West Exit เพื่อขึ้นข้างบนไปยังคิวรถบัส Keio สถานีชินจูกุมีทางออกหลายทางมากมาย เล่นเอามึนตึ๊บไปเลย ระหว่างทางแวะซื้อบัตร Suica ที่ตู้จำหน่ายบัตร มีหลายตู้มาก เช็คให้ดีก่อนซื้อจ้า   สรุปซื้อมา 2,000 Yen โดยมีค่าธรรมเนียมบัตรอีก 500 Yen ใช้ได้ 1,500 Yen บัตร Suica สามารถพิมชื่อตัวเองลงบนบัตรได้เลยนะ ขึ้นมาทางด้านบนออกมาแล้วให้ข้ามไปฝั่งตรงข้าม จะเห็นตึกขายเครื่องใช้ไฟฟ้า Yodobashi บริษัท Keio ขายตั๋วรถบัสจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย หาไม่ยากนะ เดินเข้ามาข้างในเพื่อมาจองซื้อตั๋วรถบัสไป Kawaguchiko ไม่ทันรอบล่าสุด สรุปรอ 1 ชม. รถมีออกทุกชั่วโมงจ้า ราคาเที่ยวละ 1,750 Yen จึงซื้อแบบตั๋วไป - กลับ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้รับส่วนลดด้วย ดีใจกันใหญ่ ประหยัดไปหลายเยน หน้าตาของตั๋ว เชควัน เวลาเดินทางไป - กลับให้ดีๆนะ กันพลาด แล้วมารอรถที่ชานชะลาเทียบรถ ก่อนรถออกสัก 10 นาที รถมาแล้วจ้า ตรงเวลาเป๊ะๆ เตรียมเข้าแถวและยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ได้เช็คเพื่อปั้มแสตมป์ลงบนตั๋ว พร้อมเก็บสัมพาระไว้ที่ใต้รถ อย่าลืมเก็บตั๋วใบเก่าไว้ เพราะเจ้าหน้าที่จะเช็คตั๋วตอนลงจากรถบัสที่ Kawaguchiko อีกทีนึงจ้า ขึ้นมาบนรถบัส นั่งตามที่นั่งที่ระบุไว้บนตั๋ว เตรียมตัวออกเดินทางไปยัง Kawaguchiko...Go go go!!! ไปหา Fujisan จุ๊บๆ ***รอติดตามตอนที่ 2 กัน แล้วจะมารีวิวต่อให้นะ เนตเน่ามากกกกก ไม่ไหวเกินจะทน แฮ่ๆ***นานาขอบคุณพาพันขอบคุณ ชื่อสินค้า:   ฟิลิปปินส์ Philippines มะนิลา Manila โตเกียว Japan Kawaguchiko Fujisan คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น