Polaroid Z340
หลังจากการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน International Consumer Electronics Show (CES) ที่สหรัฐอเมริกา
และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Best gadget of the year วันนี้เราจะมาำความรู้จักกับกล้อง Polaroid Z340 ที่คาดว่า
จะปฏิวัติวงการถ่ายภาพของโลกกันดีกว่า
Instant Digital Camera Polaroid Z340 ถือว่าเป็นกล้องตัวแรกของโลกที่รวบรวมจุดเด่นต่างๆของ Instant Camera
และ Digital Camera เข้าไว้ด้วยกัน
โดยปกติแล้วผู้ที่ต้องการจะเลือกซื้อกล้อง มักจะเจอปัญหาในการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อกล้องที่เป็น Instant Camera ที่มี
ระบบอัดและล้างรูปในทันทีแบบกล้อง Polaroid หรือจะเลือกซื้อ Digital Camera ที่มีความละเอียดสูงกว่า
สามารถเก็บภาพได้มากกว่า และ ซิงค์ลงคอมเพื่อนำไปแชร์กับเพื่อนๆได้ง่ายๆ ดีกว่ากัน
ทางบริษัท Polaroid จึงได้คิดค้นกล้องคอนเซป Instant Digital Camera ขึ้นมาโดยมี Polaroid Z340 นี้เป็น
ตัวชูโรงด้วยความละเอียดกว่า 14 ล้านพิกเซล และรูปทรงของ Polaroid จึงเรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันระหว่าง
ความ Modern และ Classic ที่ลงตัว โดยรูปทรงของ Polaroid Z340 นั้นใช้ Prototype ที่พัฒนามาจาก
กล้อง Polaroid SX-70 ที่เป็นที่นิยมในปี 1972 นั่นเอง
ด้วยการให้ความสำคัญกับ Simple Style product ของ Polaroid ทางบริษัทจึงพยายามออกแบบรายละเอียดของ Z340 มาให้
สามารถใช้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
จากรูป ตัวกล้องด้านบนประกอบไปด้วย ช่องใส่ฟิล์ม แบตเตอรี่ LCD screen และ Print button ส่วน LCD Screen ขนาด 2.7 นิ้วนั้น
ก็ออกแบบมาให้สามารถปรับตั้งขึ้นมาเพื่อให้สะดวกต่อการถ่ายภาพได้อีกด้วย
การทำงานของตัวเครื่องก็สามารถใช้ได้เหมือนกล้องดิจิตอลปกติ คือเมื่อถ่ายภาพ ตัวกล้องจะบันทึกรูปภาพลงไป
ใน SD card ที่อยู่ในตัวเครื่อง
ผู้ใช้สามารถเลือกดูภาพใน Memory ผ่านทางหน้าจอ LCD ได้ตามปกติ เมื่อถูกใจภาพใดก็สามารถ
กด Print button ที่อยู่ทางด้านบนเพื่อ Print ภาพออกมา ในทางกลับกันถ้าไม่ชอบ อยากที่จะถ่ายใหม่ ก็สามารถลบทิ้ง
เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่ และ ที่สำคัญไม่เปลืองฟิล์มด้วยครับ
มาถึงฟังก์ชันของกล้องนะครับ, Polaroid Z340 ประกอบไปด้วยฟังก์ชันทั่วไปของ Digital Camera ที่สามารถปรับค่า ISO
(ความไวของแสงที่จะสามารถทำให้ถ่ายภาพที่แสงน้อยๆได้ดีขึ้น) AWB และ EV (Exposure Value) หรือฟังก์ชันพื้นฐานอื่นๆได้ตามต้องการ
บวกกับความสามารถในการถ่ายวิดีโอในระบบ High Resolution Video Mode ที่ความละเอียดระดับ 1280 x 720 ซึ่งถ้านึกภาพไม่ออก
ให้นึกถึง File Youtube ระดับ HD ละกันนะครับ ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรในปัจจุบัน
รวมไปถึง Mode สำเร็จรูป ที่ใช้ในการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็น Lomo, Night Portrait, Fisheye Lens หรือ Vintage Color ซึ่งเปรียบ
เสมือนการยัดกล้อง Lomo ชนิดต่างๆรวมลงไปใน Z340 ตัวนี้
ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน Polaroid Z340 ให้ใช้ได้ทั้งในความต้องการที่จะถ่ายรูปปกติ เช่น เวลาไปเที่ยว งานรับปริญญา
หรือ ในเวลาที่อยากจะถ่ายรูป Snap shot สวยๆเล่นกับเพื่อน
ก็สามารถปรับแต่งภาพได้โดยง่ายเหมือนใช้ Instagram นั่นทำให้ Polaroid Z340 สามารถตอบทุกโจทย์ ทุกความต้องการของผู้ใช้
ที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องมากนักได้อย่างไม่มีที่ติ
นอกจากการปรับแต่ง รูปภาพแล้ว Polaroid Z340 ยังคงออกแบบมาให้มีฟังก์ชันที่คุณจะสามารถปรับแต่งและเลือกรูปแบบ
การแสดงผลของฟิล์ม ที่จะ Print ออกมา ไม่ว่าจะเป็น Polaroid classic Border ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Polaroid หรือ
จะเลือกเป็น Full Length Photo ก็สามารถเลือกได้เช่นกัน
จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ Polaroid Z340 ได้รับรางวัลก็คือนวัตกรรม Zero ink ของทาง Zink Imaging นั่นเองที่ทำให้ Z340 ตัวนี้
สามารถ Print รูปออกมาได้โดยไม่ใช่หมึกแม้แต่หยดเดียว
โดยการใช้ ฟิล์มแบบพิเศษที่จะทำปฏิกริยากับความร้อนที่สร้างขึ้นในตัว Print Control ของกล้องก่อให้เกิดออกมาเป็นภาพในเฉดสีต่างๆ
สำหรับคนที่กลัวปัญหาเรื่องของฟิล์มราคาแพง ตัวฟิล์ม Zink Paper ตัวนี้มีราคาถูกกว่า และมี Life time ที่ยาวกว่าฟิล์มของกล้องโพลารอยด์ทั่วไป
บวกกับความสามารถที่สามารถ Display รูปจาก LCD Screen ก่อนที่จะสั่ง Print จึงทำให้รูปแต่ละรูปที่ออกมาเป็นรูป
ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งจุดนี้ถือว่า Polaroid แก้ปัญหาได้ดีทีเดียว
นอกจากการใช้ฟิล์มที่เป็นหนึ่งในทางเลือกของการเก็บรูปภาพแล้ว Z340 ยังออกแบบมาให้สามารถรองรับกับ SD Card เพื่อที่
จะขยายหน่วยความจำในตัวเครื่องอีกด้วย
โดยสามารถใส่ SDHC Card ให้มีความจุสูงสุดได้ถึง 32GB ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้ในการออกทริปใหญ่ๆ ได้สบายๆไม่มีปํญหา
ด้วยเหตุผลต่างๆที่กล่าวมาจึงทำให้ Polaroid Z340 ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อกล้อง ที่ใช้ง่ายและมีฟังก์ชันที่ครอบคลุม
โดยการนำจุดเด่นของทั้ง Digital และ Instant camera มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ส่วนเรื่องราคานั้น Polaroid Z340
มีราคาขายนอกสหรัฐอยู่ที่ 299.99 USD หรือประมาณ 9300 บาท สำหรับผู้ที่สนใจในไทยมีขายแล้วนะครับ
ที่มา http://musthave1.wordpress.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น