วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

15 ชายหาดสันโดษ ที่ยังคงงดงามด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vivyfreshy เมื่อ 5-5-2013 13:55

15 ชายหาดสันโดษ ที่ยังคงงดงามด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์

อัพโหลด 5-5-2013 13:54

1. หาดโฮโนพู, สหรัฐอเมริกา

          หากพูดถึงเรื่องความยากลำบากในการเข้าถึงตัวชายหาดแล้ว รับรองได้ว่าที่หาดโฮโนพู รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา แห่งนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ไหนแน่นอน ทำไมน่ะเหรอ...ก็เพราะมันไม่มีถนนหนทางเข้าถึง หรือแม้แต่ทางปีนเขาไต่เข้าไปยังไงล่ะ แต่วิธีเดียวที่จะเข้าไปได้ ก็คือ การว่ายน้ำเข้าไปเท่านั้น โดยหาดโฮโนพูนั้นถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน และตรงมุมก็มีน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงสู่ทะเล เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากทีเดียว อย่างไรก็ดี แม้จะอยากชมความงามของที่นี่มากแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าการไปเยือนหาดโฮโนพูจะเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับทุกคนนะคะ เพราะกว่าจะว่ายไปถึงเกาะได้ ก็ต้องเป็นคนที่ว่ายน้ำแข็งพอสมควรเลยล่ะ



2. หาดนาวาจิโอ, ประเทศกรีซ

          หรืออีกชื่อว่า Shipwreck Beach ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะซาคินทอส ประเทศกรีซนี้ ลึกลับถึงขนาดเคยถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนสินค้าหนีภาษี รวมถึงค้ามนุษย์ในยุค 80 มาก่อน แต่ปัจจุบันมันได้กลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศกรีซ ไปซะแล้ว และแทบทุกคนที่มาก็ต้องมาถ่ายรูปกับซากเรือแตกขนาดใหญ่ ที่ทอดตัวอยู่บนหาดทรายสีขาวนี้เสียด้วย โดยเชื่อกันว่ามันเป็นเรือของพวกโจรสลัดโบราณ ซึ่งถ้าใครมาแล้วลืมถ่ายรูปกับเรือนี้ล่ะก็...เรียกว่ามาเสียเที่ยวมาก ๆ เลยล่ะ



3. หาดซลัตนี แรท, ประเทศโครเอเชีย

          ด้วยรูปร่างที่แปลกตาน่าทึ่งของชายหาด ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้พักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวด้วยใน เวลาเดียวกัน เพราะส่วนเว้าของชายหาดมีพื้นที่พอสำหรับการผ่อนคลายแบบเงียบ ๆ ของทุกคน และนอกจากลักษณะที่โดดเด่นนี้แล้ว หาดซลัตนี แรทยังขึ้นชื่อมากสำหรับนักโต้คลื่นอีกด้วย เพราะลมแมเอสทรอลที่พัดอยู่บริเวณหาดนี้ ช่วยให้มันเหมาะสำหรับการโต้คลื่นมากทีเดียว



4. หาดไวท์เฮเวน, ประเทศออสเตรเลีย

          เรียกได้ว่า หาดไวท์เฮเวน ณ เกาะวิธซันเดย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในชายหาดที่งดงามที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยมันมีทรายที่ขาวสะอาดที่สุดในโลก ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ออกมาเป็นภาพที่สวยเหนือจินตนาการ โดยเฉพาะบริเวณเขาอินเลททางตอนเหนือของหาด ที่น้ำทะเลและทรายผสมปนเปกันคล้ายกับภาพวาด ซึ่งการจะมาที่นี่สามารถเดินทางได้โดยเรือเท่านั้น ปราศจากที่พักบนเกาะ และยังห้ามนำสุนัข รวมทั้งบุหรี่เข้าไปอีกด้วย มันจึงเป็นเหมือนเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ถ้าคิดจะตักทรายนี้กลับไปเป็นที่ระลึก อาจต้องคิดเสียใหม่นะ เพราะคุณมีสิทธิ์เจอค่าปรับสูงสุดตั้ง 5 พันเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.4 แสนบาทได้เลย



5. หาดคาลา ดิ เอน เซอร์รา, ประเทศสเปน

          ทางตอนเหนือของเกาะอิบิซาในประเทศสเปน คือที่ตั้งของ หาดคาลา ดิ เอน เซอร์รา ในหมู่บ้าน แซนท์ โจน ดิ ลาบริทจา ชายหาดขนาดเล็กรูปเกือกม้าแสนเงียบสงบ ซึ่งความงดงามของมันทำให้หนังสือพิมพ์ The Guardian newspaper ของประเทศอังกฤษ
([url]www.guardian.co.uk)[/url] ยกย่องให้เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลกมาแล้ว นอกจากนี้ ทางตอนใต้ยังมีชายหาดขนาดเล็กที่ใกล้พอจะว่ายน้ำไปเยี่ยมชมได้เช่นกัน



6. หาดฮิดเดน บีช, ประเทศเม็กซิโก

          คุณจะพบว่าตัวเองอยู่บนเกาะส่วนตัวจริง ๆ และลืมความวุ่นวายไปเลยเมื่อได้ไปพักผ่อนที่ ฮิดเดน บีช ในเกาะมาริเอ็ตต้า เมือง เปอร์โต วัลลาร์ตา ประเทศเม็กซิโกนี้ เพราะที่ชายหาดใกล้อ่าวแบนเดอร่านี้ คือเกาะที่เกิดขึ้นจากภูเขาไฟ และเพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน ธรรมชาติของที่นี่จึงสมบูรณ์มาก โดยมันเป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเลกว่า 103 ชนิด ซึ่งการที่ชายหาดแห่งนี้อยู่ห่างจากหมู่เกาะอื่น ๆ และเดินทางได้ด้วยเรือเท่านั้น ทำให้มันเหมือนสวรรค์บนดินที่แสนเงียบสงบเลยทีเดียว



7. อ่าวไวน์กลาส, ประเทศออสเตรเลีย

          อ่าวที่มีรูปร่างคล้ายกับแก้วไวน์สมชื่อนี้ เข้าถึงยากอยู่สักหน่อย จากการที่เราต้องเดินเท้าร่วมชั่วโมงผ่านแนวป่าไม้ กว่าจะได้ยลโฉมทะเลแสนสวยแห่งนี้ แต่รับรองว่าความงามที่คุณจะได้พบคุ้มค่ากับความลำบากแน่นอนค่ะ เพราะน้ำทะเลสีฟ้าใสของที่นี่งามจับตาจริง ๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้นักผจญภัยได้ใช้ปีนเขากันด้วย ยิ่งไปกว่านั้นทางตอนใต้ของหาดซึ่งมีหินแกรนิตสูงชันราว 300 เมตรตั้งอยู่ เมื่อกระทบกับแสงพระอาทิตย์เกิดเป็นสีชมพูอ่อน ยังเป็นจุดชมวิวอาทิตย์ตกที่ขึ้นชื่อมากอีกต่างหาก



8. อันเช่ คอคอส, สาธารณรัฐเซย์เชลล์

          สำหรับคนที่ต้องการจะไปชมความงามของ อันเช่ คอคอส บนเกาะ ลา ดิกิว คุณสามารถเดินทางได้โดยการเดินเท้าผ่านหาด แกรนด์ อันเช่ หรือ เพทิท อันเช่ ส่วนใครที่อยากผจญภัยแบบลุย ๆ มากกว่านั้น ก็สามารถเลือกเดินป่าเข้ามาจากเกาะนิดไอเกิลได้เช่นกัน ซึ่งชายหาดแห่งนี้มีน้ำทะเลสีฟ้าใสงดงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลย แต่คุณจำเป็นต้องระวังในการว่ายน้ำอยู่สักหน่อย เพราะแม้ปกติทะเลที่นี่จะเงียบสงบ แต่นาน ๆ ทีก็เกิดคลื่นลมแรงจนเป็นอันตรายได้เหมือนกัน



9. หุบเขาบัตเตอร์ฟลาย, ประเทศตุรกี

          ถึงแม้ว่าตัวภูเขาที่ล้อมรอบชายหาดบริเวณอ่าวคาบัคใกล้เมืองโอลูเดนิซแห่ง นี้จะมีถนนตัดผ่าน แต่การเดินทางลัดเลาะหุบเขาลงไปเล่นน้ำทะเลก็ยากลำบากเหลือเกิน ดังนั้น ทางเดียวที่จะเข้าถึงตัวหาดท่ามกลางหุบเขาแห่งนี้ ก็คือ การนั่งเรือมาเท่านั้น และนอกจากทะเลอันสวยงามของที่นี่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมแล้ว สิ่งพิเศษอีกอย่างที่เป็นที่มาของชื่อหาดบัตเตอร์ฟลาย ก็คือผีเสื้อมากมายกว่า 80 สายพันธุ์ที่เติมสีสันให้ที่นี่ดูสดใสขึ้นอีกนั่นเอง



10. หาดพลาญ่า เดอ คูวาส มาร์, ประเทศสเปน

          หาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในเขตพื้นที่อนุรักษ์ของชายฝั่งแอสทูเรียส ซึ่งมันตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำคูวาสพอดิบพอดี และในช่วงที่น้ำลด เราก็สามารถเดินไปตามทางหินปูนธรรมชาติเพื่อไปชมชายหาดที่สวยงามแห่งนี้ได้ เลย ซึ่งท้องทะเลสีเขียวมรกต ตัดกับหินปูนสีเทาบนท้องทะเลนั้น เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม คุ้มค่ากับการมาเยือนให้เห็นกับตาสักครั้งเสียจริง ๆ



11. อ่าวทรังก์, สหรัฐอเมริกา

          ชื่อเสียงอันโด่งดังของอ่าวทรังก์เป็นที่รู้จักไปทั่ว จากการที่มันมักติดอันดับหาดที่สวยที่สุดในโลกเสมอ ไม่ว่าจากชาร์ตไหน ๆ รวมไปถึง National Geographic Society และนิตยสารสำหรับการท่องเที่ยว Condé Nast ดังนั้น เรื่องความงามคงมั่นใจได้แน่นอน โดยเฉพาะกิจกรรมดำน้ำชมแนวปะการัง ที่ได้รับการยอมรับว่าสมบูรณ์แบบมากเสียจนใครที่มาแล้วพลาดถือว่ามาไม่ถึง เลยด้วยซ้ำ



12. หาด ลอช อาร์ด จอร์จ, ประเทศออสเตรเลีย

          ณ ชายหาดที่เต็มไปด้วยหินที่ถูกกัดกร่อนนี้ เมื่อถึงเวลาที่ปราศจากเสียงผู้คนชุกชุม เราจะได้ยินเสียงหินที่ถูกกัดเซาะอย่างชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งแนวหินที่โดดเด่นนี้เป็นตัวช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้ชายหาดดูงดงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ซึ่งซากเรือโดยสาร อับปางเมื่อปี 1878 ลอช อาร์ด ตั้งอยู่อีกด้วย ดังนั้น นอกจากทะเลสวย ๆ แล้วจึงยังมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกประวัติศาสตร์ยุคเก่าด้วยเช่นกัน



13. หาดเฟอเรโร ฟยอร์ด, ประเทศอิตาลี

          ใครเลยจะรู้ว่าภายใต้รอยแยกของหินจะมีชายหาดขนาดย่อมแสนสวยนี้ซ่อนอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มันเคยเป็นแหล่งกบดานของโจรสลัดยุคโบราณ ก่อนจะกลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนแสนสงบสำหรับนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยความสันโดษของที่นี่ทำให้คนท้องถิ่นเรียกหาดแห่งนี้ว่า "โมนาซเซน" ซึ่งมีความหมายว่า "การอยู่อย่างโดดเดี่ยว" อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์หายากหลายชนิด รวมไปถึงเหยี่ยวพิลกริมด้วย



14. หาดกลอสซา, ประเทศกรีซ

          พูดถึงเรื่องของความสวยงามแล้ว รับรองว่าชายหาดกลอสซาบริเวณแคว้นเมสเซเนียแห่งนี้ไม่แพ้ที่ไหน ๆ แน่นอน เพราะมันมีครบพร้อมไปซะทุกอย่าง ทั้งหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใส และทิวทัศน์ภูเขา พร้อมป่าละเมาะอุดมสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทสุดหรู ไปจนถึงเกสท์เฮ้าส์อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าที่ควร ชายหาดแห่งนี้จึงยังคงเป็นหาดที่ลึกลับของประเทศกรีซอยู่



15. หาดพลาญ่า เดอ บอลลอตตา, ประเทศสเปน

          ด้วยความที่หาดแห่งนี้อยู่ตรงกับแท่นหินที่ดูคล้ายหอสังเกตการณ์ รวมทั้งรายล้อมด้วยสีเขียวชอุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของชายฝั่งแอสทูเรียน ทำให้บอลลอตตาเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามที่สุด จนกลายมาเป็นหนึ่งในเขตพื้นที่อนุรักษ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งหญ้าที่ขึ้นเขียวขจีเต็มชายฝั่ง ทำให้ที่นี่เหมือนรวมความงามของทะเลและป่าไม้เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว เกิดเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจ



          การได้ไปพักผ่อนที่ชายหาดเงียบสงบ ปราศจากผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย คงเป็นประสบการณ์ที่หลาย ๆ คนใฝ่ฝันหากันอย่างแน่นอน เพื่อจะได้ลืมความยุ่งเหยิงในชีวิตประจำวันไปสักพักแล้วสนุกกันให้เต็มที่ เพราะฉะนั้น ก่อนที่ชายหาดเหล่านี้จะสูญเสียความสงบไป อย่าลืมหาโอกาสไปเที่ยวดูให้ได้สักครั้งนะคะ





ขอบคุณแหล่งที่มาจาก  :  http://kapook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น