วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
YOKOHAMA & TOKYO เดิน กิน เที่ยวไม่ต้องหรูหรา ตามประสามนุษย์เงินเดือน
~ สวัสดีค่ะ ~
กระทู้นี้เป็นบันทึกการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ของ 2 มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ
หลังจากสอดส่องกระทู้อื่นๆมานาน ขอแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของตัวเองบ้างนะคะ
ช่วงเดินทาง : 13-18 พฤศจิกายน 2557
สายการบิน : AirAsia (AK & D7) // Route CNX - KUL - HND
สถานที่พัก : Sky Court Kawasaki // Hostel Zen // Asakusa Ryokan Toukaizou
สรุปค่าใช้จ่าย : 28,000 บาท/คน (ไม่รวมช้อปปิ้ง ^^)
- ค่าตั๋วเครื่องบิน+กระเป๋า ~13,000 บาท/คน
- ค่าที่พัก 4 คืน ~ 4,000 บาท/คน
- ค่าบัตร Suica & Tokyo Subway 3 Days Pass ~ 2,500 บาท/คน
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ~3,500 บาท/คน
- ค่าอาหาร ~ 4,500 บาท/คน
- ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ~ 500 บาท/คน
หมายเหตุ : การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น สามารถใช้ google map คำนวณเวลาและราคาค่าโดยสารได้เลย
ทำให้เรารู้ว่า การเลือกซื้อบัตร Pass ต่างๆนั้น แบบไหนที่คุ้มค่ากับการเดินทางของเรา ^^
เตรียมตัวๆก่อนเดินทาง
1) วางแผนเดินทางแบบคร่าวๆ เช่น วันไหนอยู่เมืองไหน แล้วค่อยลงรายละเอียดว่าจะทำอะไรบ้างในวันนั้นๆ
2) ได้แผนแล้วก็จองที่พักต่อเลย Sky court kawasaki กับ Hostel zen เราเลือกจองกับ Booking.com
ซึ่งราคาห้องจะเป็นแบบรวม VAT มาแล้ว จะได้ไม่ต้องคำนวณหลายขั้นตอน และสามารถจ่ายค่าห้อง ณ วันที่เข้าพักได้จ้าา
ส่วน Asakusa Ryokan Toukaisou เราเมล์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่เองได้เลย
3) ด้วยความอนุเคราะห์ของพี่ที่ทำงานที่มีเพื่อนอยู่ที่ญี่ปุ่น เลยฝากซื้อบัตร Suica, บัตรเข้า Ghibli และ Fujiko F Fujio museum
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาตอนที่เราอยู่ที่ญี่ปุ่น และ ป้องกันการแห้วจากการซื้อบัตรเข้า museum ^^
4) สำหรับ Tokyo Disney Resort พอเรากำหนดวันเที่ยวได้ก็ซื้อ online จากไทยไปเลย
จากนั้น print ตั๋วลง A4 พอไปถึงหน้าสวนสนุกก็สแกน QR code ได้เลย เพื่อลดเวลาต่อแถวซื้อตั๋ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
13.11.14
"วันแห่งการเดินทาง 11 ชั่วโมงของช้านน หมดไปกับการนั่งเครื่องบิน"
เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ตอน 09.10 น. เปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ถึงจุดหมายสนามบินฮาเนดะตอน 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น
1) เป็นเดินทางที่ค่อนข้างเสียเวลา เพราะต้องการประหยัดงบเลยเลือก AirAsia เส้นทาง via KUL
(ณ วันที่ตัดสินใจซื้อตั๋ว ยังไม่มีบินตรง DMK-HND ... T^T)
2) ที่นั่งบนเครื่องบินถือว่าพอสะดวกสบายตามราคาที่เราจ่ายไป อาหารที่จองล่วงหน้าจากในเวปไซด์อร่อยดี
โดยเฉพาะ chocolate cake ใน maximise my meal นุ่มมากๆ ^^
3) ตม.ที่ญี่ปุ่นหน้าบึ้งมากๆ แต่ไม่ถามอะไรเลย มองหน้าและถ่ายรูป จบ!
**กรอกเอกสารขาเข้าให้ครบด้วยนะคะ เห็นนักท่องเที่ยวบางกลุ่มโดน ตม.ไล่ให้กลับไปใส่ข้อมูลให้ครบ เราจะได้ไม่เฟลตั้งแต่เริ่มทริป
หลังจากผ่าน ตม.และศก. เรียบร้อย ออกมาที่บริเวณ Arrival (ชั้น 2 ของสนามบิน) ก็ตรงดิ่งไปที่ Information ที่อยู่หน้าทางออก
เพื่อซื้อ Tokyo Subway 3 Days Pass อันนี้เก็บไว้ก่อนเราจะยังไม่ใช้
Link : http://www.tokyometro.jp/en/ticket/value/travel/
การขึ้นรถไฟไปที่พักคืนแรก "Sky Court Kawasaki"
เราใช้บัตร Suica (แทนเงินสด) จะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องการกดซื้อตั๋วในทุกๆสถานี ใช้ตี้ด ๆ ๆ ลูกเดียว
แผนที่วางไว้ หามาอย่างเดียวว่ารถไฟสาย ก.ไก่ ไปลงสถานี A แล้วไปต่อสาย ข.ไข่ ลงสถานี B พอถึงสถานี A เห....สาย ข.ไข่ ??
มันมีย่อยประเภทอีกแหน่ะ Local เอย / Rapid เอย ขึ้นอันไหนดีหว่า?? สุดท้ายก็ได้ลุงญี่ปุ่นสูทดำช่วย ถึงได้เข้าที่พักอย่างปลอดภัยไม่
Sky Court Kawasaki
- ลงสถานี Keikyukawasaki แล้วเดินไปอีกประมาณ 15 นาที
- พนักงานต้อนรับ 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนเดินทางมาถึงตอนดึกมากๆ
- ห้องนอนขนาดเล็กพอดีสำหรับ 2 คน & ห้องน้ำในตัว
- ไม่มี Wifi แต่มี LAN
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
14.11.14
"Doraemon - Yokohama - Onsen"
สถานที่แรกของทริป คือ Fujiko•F•Fujio museum หรือที่รู้จักกันว่า Doraemon museum
เป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมประวัติและผลงานต่างๆของ นักเขียน "Fujimoto Hiroshi"
ฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ใน Locker ที่สถานี Kawasaki (ใช้ Suica จ่ายค่าฝากได้) แล้วนั่งรถไฟมาลงที่ Noborito
รอนั่ง shutter bus ของ museum เค้าล่ะ รอบแรก ประมาณ 9 โมงกว่าๆ
พอไปถึงก็แสดงบัตรที่ได้จากซื้อที่ Lawson มาแลกเป็นแผ่นพับของพิพิธภัณฑ์และตัวดูหนังใบน้อยๆ แล้วก็เข้าไปกันเล้ย
ด้านในห้ามถ่ายรูปนะคะ ไว้เข้ามาดูกันเองดีกว่าเนอะ แถมมีเครื่องบรรยายเป็นภาษาอังกฤษให้ต่างชาติอย่างเราด้วย
ช่วงนี้ใกล้เทศกาล X'mas
พระเอกของพิพิธภัณฑ์
คาเฟ่ของพิพิธภัณฑ์ รอเกือบ 1 ชั่วโมง (-__-") กว่าจะถึงคิวเรา แต่อาหารน่ารักน่าทาน ^^
จบจาก Fujiko•F•Fujio museum ก็ไป Hostel ที่โยโกฮาม่ากัน
ที่พักคืนที่ 2 คือ Hostel Zen เป็น Hostel ขนาดเล็ก เล็กมากๆ ห้องที่จองได้ห้องที่อยู่ชั้น 5 ไม่มีลิฟต์ซะด้วย ห้องน้ำรวม
ที่นอนเป็นฟูกนุ่มๆบนเสื่อตาตามิ ได้บรรยากาศ Hostel ญี่ปุ่น (ลืมถ่ายรูปในห้อง แหะๆ)
เก็บของแล้วนั่งพักแปปนึง เพราะ 5 ชั้น แบกกระเป๋าจนเหงื่อออก จากนั้นไปต่อกันที่ Cupnoodle museum อยู่บริเวณ Minato Mirai 21
จุดเริ่มต้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ค่าเข้าชม ¥500 ซื้อได้ที่หน้าพิพิธภัณฑ์เลย เจ้าหน้าที่จะถามเลยว่าจะทำ Cupnoodle ของตัวเองมั้ย
ถ้าเราจะทำเค้าก็จะให้ตั๋วรอบเวลาที่เข้าไปทำ cupnoodle มา
มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่มานั่งทำบะหมี่กัน
เลือกรสชาติตามใจชอบเลยค่า
ออกจาก Cupnoodle ก็มืดแล้ว มื้อเย็นเลยฝากท้องไว้ที่ร้านราเมนแบบตู้กดที่ World Porter อยู่ตรงข้าม museum เลย
อิ่มท้องแล้ว ได้เวลาพักผ่อนกันที่ Manyo Minato Mirai Onsen
ตึกจะอยู่ใกล้ๆ Cupnoodle museum ถ้าหันหน้าเข้า museum ให้เดินไปทางซ้าย
ทางเข้าจะเงียบ เงียบ เงียบมากๆ จนสงสัยว่า ใช่ตึกนี้รึเปล่า? (ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกแล้ว) เสี่ยงเดินเข้าไปเลย
ตามๆคุณลุงสูทดำไปที่ลิฟท์ โผล่มาที่ชั้น 7 ก็เดินตามเค้าออกไป ... ตายละหว่า มี cashier เต็มไปหมด แล้ว Onsen อยู่ไหนนี่?
เข้าไปถามเจ้าหน้าที่แบบงงๆ เค้าก็ตอบมาแบบงงๆ ให้กำไลที่มีกุญแจล๊อกเกอร์ แถมคู่มือภาษาอังกฤษสำหรับมือใหม่
ค่อยโล่งอกว่ามาถูกที่ แล้วก็เดินเข้าไปเลือกชุดยูกาตะใส่กัน
ที่ Manyo onsen เหมือนสถานที่พักผ่อนครบวงจร มีทั้งห้องนวดแผนต่างๆ ห้องอาหาร ห้องอ่านหนังสือ บริเวณดูหนัง ตู้คีบตุ๊กตา
เกมนู่นนี่ (บางบริการเสียเงินเพิ่มนะ อยากใช้บริการก็เอากำไลที่แขนตี้ดๆๆๆ คิดเงินที่เดียวตอนออก)
ไฮไลท์มันอยู่ตรงที่ชั้นดาดฟ้าของตึก เป็น Foot onsen ท่ามกลางวิว 360 องศาของเมืองโยโกฮาม่ายามค่ำคืน โรแมนติกที่สุด
เมื่อเดินเล่นทั้วตึกจนหนำใจก็ได้เวลาล่อนจ้อน ^^ ลง onsen กันจนหน้าแดงตัวแดง กับบ่อน้ำอุณภูมิ 41 องศา
มีทั้ง indoor และ outdoor มีทั้งบ่อน้ำนิ่ง กับบ่อที่มีนวดด้วยแรงดันน้ำ ใครเมื่อยตัวปวดขาก็ฟินกันไป
เต็มที่ 15-20 นาทีก็ไม่ไหวแล้ว เส้นเลือดในตาจะแตก
อาบน้ำชำระร่างกายก็มีครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด เจลล้างหน้าไว้ให้เหมือนอยู่บ้านตัวเองเลย
ห้องแต่งตัวก็มีพร้อมทั้งหวี ไม้ปั่นหู มาส์กหน้า น้ำยาเช็ดเครื่องสำอางค์ เครื่องสำอางค์ก็มี ... ครบชุด!!!
แล้วก็ได้เวลากลับที่พัก ^^
Hostel Zen
- ห่างจากสถานี Ishikawacho ประมาณ 10 นาที
- สามารถเลือกได้ทั้งห้อง private และ dormitary
- ค่าห้องพักรวมกับอาหารเช้า เป็นขนมปังปิ้ง ไข่ต้มจิ้มเกลือ กล้วย และน้ำชา/กาแฟ/น้ำส้ม (เราเจอคุณลุงมาบริการทุกขั้นตอน)
ชื่อสินค้า: ประเทศญี่ปุ่น คะแนน: **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น