วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557
แจก ซิม ลาว
มีซิมลาว ส่งต่อค่ะ เพิ่งซื้อวันที่ 26 ก.ย. มีเหลือ อยู่ 2700 กีบ ขออนุญาติให้กับคนที่ต้องการใช้จริงๆ
รบกวนช่วยดูให้หน่อยค่ะ จะเดินทาง Salzburg – Hallstatt หารถบัสต่อรถไฟไม่เจอค่ะ
จะเดินทางจาก Salzburg ไป Hallstatt ช่วงปลายตุลาคมค่ะ จากที่หาข้อมูล เล็งไว้ว่าจะเดินทาง ด้วย
รถบัส 150 ต่อรถไฟที่ Bad Ischl แล้วนั่งเรือข้ามฟาก
จากที่ทำแผนคร่าวๆเดือนที่แล้วใน www.oebb.at ช่วงเวลา 8:15 น. ยังเจอ route นี้อยู่
พอมาเช็คอีกทีเมื่อวานไม่เห็นแล้ว เหลือแต่บัสล้วนๆ กับ รถไฟล้วนๆ
ซึ่งรถไฟล้วนๆก็ มีแต่รอบ 7:12 และแอบแพงด้วย
ก็เลยจะมาถามว่า ตัวเองหาผิด หรือ ต้องดูจากเว็บอื่น หรือ route นี้ ก็ยังมีอยู่แต่มันไม่ show ให้เห็นอะค่ะ จะได้วางแผนถูก
ขอบคุณมากๆค่ะ ^/\ ^
ซิม ลาว
มีซิมลาว ส่งต่อค่ะ ขออนุญาติให้กับคนที่ต้องการใช้จริงๆ
อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวอินเดีย ??
ตามคำถามเลยค่ะ เพราะว่าอยากรู้ว่าทำไมนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน อย่างที่รู้ๆว่าอินเดียเป็นยังไง
☆彡HOTEL LA FORESTA ~ BY RIGNA ~ @ HAKATA, FUKUOKA รีวิวโรงแรมใกล้สถานี
ว่างค่ะ มารีวิวโรงแรม (อีกแล้ว)
รีวิวท่องเที่ยวมีเยอะแล้ว จัดโรงแรมแทนค่ะ
ทริปนี้ไปมาเมื่อตอนเดือนสิงหานี้เอง
โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่รีโนเวทขึ้นมาใหม่นะคะ
แต่ก่อนไม่ได้ใช้ชื่อนี้อ่าค่ะ
ปัจจุบันใช้ชื่อว่า HOTEL LA FORESTA ~ BY RIGNA ~http://www.hotel-la-foresta.jp
(เว็บยังไม่มีภาษาอังกฤษเลย)
ภาพการเดินไปโรงแรมขออนุญาตใช้จาก Google Map เหมือนเดิมค่ะ (ลืมถ่าย)
การเดินทางเราเริ่มจากสนามบินค่ะ รถไฟจากสนามบินมาสถานีฮะกาตะ ก็ 260 เยน
นั่งแป๊บเดียวเท่านั้น!!เป็นสนามบินที่เดินทางง่ายมาก
ที่เลือกโรงแรมนี้เลยก็เพราะการเดินทางจากสถานีฮะกาตะไปโรงแรมค่ะ
ในเว็บเค้าบอกว่าแค่ 2 นาที เท่านั้นจากทางออก Tsukushi (ทางฝั่งขึ้นชินคังเซ็น)
เรามาจากสนามบินรถใต้ดิน พอถึงฮะกาตะแล้วหาทางออกทิศใต้หมายเลย 3 เลยค่ะ (ตามรูป 南3 ที่วงไว้)
คือจริงๆ ก็ทางออก 1 หรืออะไรงี้ก็ได้ค่ะ แต่อันนี้ใกล้สุด และเป็นลิฟต์ด้วย
เหมาะกับชาวเราที่หอบของพะรุงพะรังมาก มากๆ
หน้าสถานีฝั่งทางออก Tsukushi
เวลาเราขึ้นลิฟต์มาจะเจอกับตรงแดงๆ นั่นเลยค่า (ตึกที่เราใช้ลิฟต์เป็นตึกชื่อ EX-SIDE)
เดินเข้าซอยข้างๆ ตึกไปเลยค่ะ จุดสังเกตมีสตาบัคอยู่ปากซอยหน้าโรงแรมเซ็นทราซ่า
จะผ่านพวกโรงแรม GREEN HOTEL 1/2 กับ HOTEL SUNROUTE
มาทะลุอีกฝั่งค่ะ จะไปซ้ายหรือขวาก็ได้ค่ะ ข้ามถนนไปอีกฝั่งก็จะเจอโรงแรมแล้ว
ไปซ้ายข้ามไปเจอ 7/11 แล้วเดินไปทางขวา
ไปขวาข้ามไปแล้วเดินไปซ้ายค่ะ
ด้านหน้าโรงแรมค่ะ HOTEL LA FORESTA ~ BY RIGNA ~
ห้องที่จองไปมีทั้งห้อง Semi-Double และ Single ค่ะ
จองจาก Rakuten Japan เจ้าเก่าเหมือนเดิม (ชอบสะสมพอยท์ค่ะ ฮ่าๆ)
Semi-Double (มันก็คือห้อง Single แต่นอน 2 คน)
เตียงประมาณนี้นอน 2 คนค่ะ
สำหรับเราผญ. สองคน นอนสบายๆ เลย
ราคาคืนละประมาณ 5000 เยน / คืน (ถูกมากกกกกกกก)
ส่วนห้อง Single ที่จองไปให้พี่ที่ไปด้วย นอน 4 คืน
ตกคืนละ 2900 เยนเท่านั้นค่ะ (ถูกเวอร์)
ไม่มีรูปห้องเดียวนะคะ แต่ก็ขนาดเตียงเท่ากับด้านบนเลย
ห้องน้ำในตัวนะ แคบตามสไตล์ สรุป
- เดินทางชินคังเซ็นบ่อยๆ แนะนำมาก สะดวกเพราะใกล้สถานีฮะกาตะมากมาย
- พนักงานบริการดีค่ะ ช่วยเหลือเรื่องความวุ่นวายตลอด (ฮ่าๆ)
- สะอาด
- มี wi-fi ฟรีให้บริการ
- มีเซเว่นใกล้ๆ
ใครลังเลว่าไปฟุกุโอกะจะพักโรงแรมไหนดีแถวสถานี
โรงแรมนี้ก็แนะนำอยู่ค่า อันที่จริงเราก็พักแถวๆ นี้มาหลายโรงแรมแล้ว
อยากจะรีวิวอีกเหมือนกัน แต่ของขอเวลาขุดรูปค่ะ
มีของ Hakata Miyako Hotel, Hataka Terminal Hotel
เน้นทางออก Tsukushi เป็นหลักเลย...
ใครมีอะไรสงสัยถามเพิ่มได้ค่า... (ถ้าตอบได้นะ ฮ่าๆ)
ชื่อสินค้า: HOTEL LA FORESTA ~ BY RIGNA ~
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี ในรูปแบบ VDO
พึ่งโพส VDO เสร็จเลยนำบรรยากาศมาให้ชมกันครับ ผมถ่ายแบบเล่นๆ อาจมีสั่นไหว บรรยายไม่ค่อยดี แค่ชอบเก็บบรรยากาศนอกจากการถ่ายแค่รูป
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#1 หนุ่มๆ พเนจร ช่วงเดินทาง
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#2 แวะชมวิวดอยกิ่วลม
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#3 อะบูดะยา (สวัสดี) ชาวลูกข้าวหลาม
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#4 กินข้าวเย็น ดูเต้นจะคึ
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#5 เดินชมวิถีชาวบ้านลูกข้าวหลามตอนเช้า
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#6 เดินไปแค้มป์ที่ปากถ้ำ
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#7 ถึงแค้มป์
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#8 เดินชมวิวตอนเช้าก่อนลงถ้ำ
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#9 เดินไปโรยตัวลุยถ้ำน้ำบ่อผีกัน
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#10 ช่วงอยู่บนเชือก
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#11 ลงมาถึงรอดูชุดต่อไป
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#12 ปีนขึ้นมาถ่ายฝั่งตรงข้าม
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#13 ถ่ายกลุ่มสุดท้ายโรยตัวลง
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#14 ช่วงปีนขึ้น
57-9-1-2 โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี#15 กว่าจะปีนขึ้นมากันหมด ก็ดึกแล้วhttp://youtu.be/Gkp4Dze5aG8
รีวิว
ถ้ำน้ำบ่อผี 31 สค-2 กย 2557#1 จากเชียงใหม่ แวะปาย ชมวิวดอยกิ่วลม ถึงหมู่บ้านลูกข้าวหลามhttp://pantip.com/topic/32586422
ถ้ำน้ำบ่อผี 31 สค-2 กย 2557#2 เดินชมวิวหมู่บ้านตอนเช้า เดินทางสู่แค้มป์ ปากถ้ำน้ำบ่อผีhttp://pantip.com/topic/32590406/comment6
ถ้ำน้ำบ่อผี 31 สค-2 กย 2557#3 ได้เวลาโรยตัวลงแล้ว และต้องรีบปีนขึ้นเดี๋ยวจะดึก 555http://pantip.com/topic/32595286
ชื่อสินค้า: ถ้ำน้ำบ่อผี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
เวลาไปเที่ยวกับทัวร์นี่หัวหน้าทัวร์ให้ตั๋วกลับไว้ไหมครับ
เพิ่งจะไปญี่ปุ่นครั้งแรกด้วย พาสขาวหมดเลย กังวลไปหมดเลยครับ แหะๆ เลยลองหาข้อมูลสิ่งที่ต้องเตรียมไปดูแล้วพบว่าตม.อาจขอดูตั๋วกลับด้วยเลยอยากทราบว่าเวลาไปเที่ยวกับทัวร์นี่เค้าให้เราถือตั๋วกลับไว้หรือเปล่าครับ ในกรณีที่ตม.ขอดู ถ้าเราไปกับทัวร์เราจะบอกเค้าว่าไงครับ
เที่ยว UK & Iceland ต้องของ Multiple Visa รึเปล่าครับ
ปลายปีนี้ผมมีแผนจะไปเที่ยว UK (England & Scotland) ครับ โดยจะมี 2 วันที่จะบินต่อไป Iceland ด้วย
ตรงนี้ผมวางแผนไว้ว่าจะขอวีซ่า UK ก่อน แล้วค่อยขอ Iceland ต่อ
แต่เกิดข้อสงสัยว่า ในกรณีที่ผมไปลง london ก่อนวันนึง แล้วบินออกไป Iceland 2 วัน แล้วกลับเข้า London อีกครั้ง
ตรงนี้ผมต้องขอ UK Mutiple Visa รึเปล่าครับ?
หรือผมควรขอวีซ่า Icekand ไปก่อน แล้วค่อยไปขอ Multiple ของ UK ครับ
รอบกวนสอบถามผู้รู้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
ครั้งแรกในรอบ 10 ปี กับ ร.ฟ.ท. นั่งรถไฟฟรีไปเรียนหนังสือเชียงใหม่-พิษณุโลก
เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ผม(เกือบลืมไปแล้ว)เคยนั่งรถไฟ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายเป็นตู้นอน ด่วนนครพิงค์ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ จำสภาพความทุกลักทุเลของการนั่งรถไฟในครั้งนั้นได้อย่างเลือนราง จากการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งเส้นทางบินเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ดุเดือดผมจึงเลิกง้อ พี่ ร.ฟ.ท. มาเป็นเวลานาน ตราบจนกระทั่งได้มีโอกาสอ่านรีวิวของเพื่อนๆหลายคนที่เขียนถึงการเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยบริการ รถไฟฟรีเพื่อประชาชน ผมก็เกิดความสนใจการเดินทางด้วยรถไฟไทย มาเป็นระยะ แต่พอเข้าไปดูตารางเดินรถ และระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางแล้วก็ถอดใจทุกที... จนกระทั่ง!!! ช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ผมต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นประจำ โดยใช้เส้นทางวัดใจคือ รถทัวร์ (สารพัดยี่ห้อ) และรถยนต์ของเพื่อนบ้าง แม้ว่าจะมีกานต์แอร์บิน (รถตู้บินได้ 12 ที่นั่ง) แต่ก็ทำใจไม่ได้กับราคาตั๋วและขนาดของเครื่องบิน การเดินทางเชียงใหม่-พิษณุโลกของผม ลองทั้งสายเก่า (ผ่าน อ.เถิน จ.ลำปาง) และสายใหม่ (ผ่าน จ.อุตรดิตถ์) แล้วแต่ไม่น่าประทับใจทั้ง 2 เส้นทาง (มันเป็นความจำเป็นของการเดินทางมากกว่า) อีกทางเลือกหนึ่งซึ่งผมยังไม่เคยใช้ และเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้คือ “รถไฟ” เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่จนแน่ใจแล้วว่า บริการรถไฟฟรีสำหรับประชาชน ยังมีอยู่ โดยจากเชียงใหม่มี 2 เที่ยวคือเวลา 05.45 น. และ 09.30 น. ผมจึงเริ่มวางแผนการเดินทาง โดยเอาตารางเรียนเป็นหลัก ผมมีตารางรายวิชาอบรม(แบบเข้มข้น) 5 วัน คือวันที่ 27 กันยายน -1 ตุลาคม 2557 ผมจึงตัดสินใจเลือกเดินทางในวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม โดยเลือกรถไฟขบวนบริการสังคม 408 ซึ่งออกเดินทางจากสถานีเชียงใหม่เวลา 09.30 น. ผมไปถึงสถานีก่อนเวลารถออก 30 นาทีเพื่อไปรับบัตรโดยสาร(ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ผมมาหาข้อมูล) ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชน และบันทึกเลขบัตร 13 หลักของเราลงบนบัตรโดยสาร
ชื่อสินค้า: รถไฟไทยฟรี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
อยากทราบรายละเอียดของรถไฟสายโรแมนติกที่ เกียวโต ญี่ปุ่นค่ะ
1.รถไฟเปิดกี่โมง รายละเอียดอะไรบ้าง
2.ถ้าจะนั่งต้องจองก่อนมั้ย หรือถ้าไปรอ ต้องใช้เวลานานมั้ย
3.ราคา และเวลา สถานที่ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
พาลูก 1.2 ขวบ ไปเที่ยวทะเลภูเก็ตในวันสบาย ๆ สุดสัปดาห์
อารัมภบท
ภูเก็ตเป็นหนึ่งใน Dream Destination ที่หลาย ๆ คนคงอยากไป เราเองก็เคยเป็นแบบนั้นคะ เพราะทางใต้ไปเที่ยวมาหมดตั้งแต่เด็ก ยกเว้นภูเก็ตเพราะเนื่องจากแม่เป็นคนสุราษฎร์ เราก็ต้องไปเกาะเต่า ไปเกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง มากกว่าจะมองมาที่ภูเก็ต จนกระทั่งเราอายุได้ 19 ปี ไปภูเก็ตครั้งแรกเพราะไปฝึกงานไกด์กับพี่ๆ โดยต้องพานักท่องเที่ยวสเปนไปเที่ยว ก็เลยได้ไปภูเก็ตครั้งแรก จำได้สมัยโน้น Le Meridien Phuket เนี่ย ที่สุดของเจ้แล้ว หลังจากนั้นก็ไปอีกปีละครั้งเป็นอย่างน้อย ทั้งไปทำงาน ไปหาเพื่อน ไปแบ็คแพ็ค ไปเดท จนถึงปี 2006 เราก็ไม่ได้ไปอีกเลย (นานไปไหม)
ที่ไปภูเก็ตคราวนี้ก็เพราะเรามีไมล์ที่มันจะหมดอายุของการบินไทย ก็เลยต้องแลกเป็น Voucher โรงแรมมาคะ (คือถ้าไมล์หมดอายุ 500 คะแนนจะปล่อยมันไป พอไปเช็คตายแล้ว ฉันมีไมล์จะหมดอายุตั้ง 8,000 คะแนน จะทิ้งไปเฉย ๆ ก็เสียดาย จะแลกตั๋วตอนนั้นก็ยังไม่รู้ไปไหน) ตอนที่จะเลือกที่เที่ยว และโรงแรม (คือมันต้องสัมพันธ์กันนะ) เราก็ไปถามแฟนว่าไปไหนดีจ๊ะเธอ แฟนเราก็เลยบอกว่า ไปภูเก็ตเถอะ เราไม่ได้ไปกันนานแล้ว (มากอะ ตั้ง 8 ปี หมายถึงไปด้วยนะคะ) และถือโอกาสพาลูกไปเที่ยวทะเล พอเข้าไปดูรายละเอียดของการบินไทย งงมากกับคะแนน มีหลายแบบมาก ดูตอนแรกตาลาย ต้องตั้งสติอยู่นานเหมือนกันกว่า จะตัดสินใจได้ว่า จะเลือก Voucher แบบ 2 คืน พอได้จำนวนวัน เราก็ไปเลือกดูโรงแรม ณ ตอนนั้นที่แลกบัตร มันมี Le Meridien เราก็ตั้งใจว่าจะไปพักนะ กะว่าจะไปรำลึกความหลังครั้งยังเป็นวัยรุ่น เลยจัดการแลกห้องพักไปด้วย 22,000 คะแนน สำหรับบัตรห้องพัก 2 คืน (เป็นแบบที่ใช้ไมล์น้อยสุด)
พอถึงเวลาไปจริง ไม่มี Le Meridien อยู่ในลิสต์แล้ว ทำไงดีหละ ว่าแล้วเราก็ส่งรายชื่อโรงแรมทั้งหมดที่มีในลิสต์ไปถามเพื่อนคนภูเก็ตให้ช่วยแนะนำ เพื่อนบอกว่า ต้องนี่เลย Dusit Laguna Phuket เริ่ดสุดแล้ว ก็เลยตกลงเลือก วิธีการก็ไม่ยุ่งยากคะ โทรไปสอบถามวันว่างก่อน แล้วส่งอีเมล์ไปยืนยันอีกที ก็ได้ Booking confirmation มากอดรอ (แต่เราจองล่วงหน้า 2 เดือนแนะ) อัพเดท ณ วันที่ 2 ตุลาคม ตอนนี้เหลือแค่พวกในเครือ Novotel เองคะ โชคดีที่ไปมาแล้ว การเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน : ตอนแรกว่าจะซื้อตั๋ว Bangkok Air ก็ดันไม่ทันโปรโมชั่น จะซื้อ Air Asia ก็ราคารวมลูกด้วยไม่ต่างกัน กับการบินไทย เราก็เลยเลือกการบินไทย (เพราะการบินไทยสะสมไมล์ได้ด้วย คือตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บแต้ม เพราะโดนดาวน์เกรดมาเป็น สมาชิก Silver ซึ่งสิทธิประโยชน์แทบไม่มี และเราต้องเดินทางกับลูกเยอะมาก เราเลยต้องรีบทำแต้มเพื่อให้ได้กลับไปเป็น Gold Member อีกครั้ง) และเรา ตั้งใจว่าจะเช่ารถขับในช่วงระหว่างที่อยู่ภูเก็ต (คือตอนนั้นก็คิดว่าจะไปเที่ยวเยอะ) การเช่ารถ : ก็เช็คทุกที่นะไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต คาร์ เรนทัล, AVIS, HERTZ, BUDGET และอื่น ๆ และติดต่อทุกช่องทางที่มีเพื่อหาข้อเสนอดีที่สุด พบว่าส่วนใหญ่รถที่ค่าเช่าถูกมักเป็น Eco Car ซึ่งเราไม่ค่อยชินและไม่ค่อยมั่นใจในสมรรถนะ ถ้าไม่มีลูกจะไม่คิดเยอะเลยคะ พอมีลูกเนี่ยคิดหลายตลบ และอีกอย่างส่วนใหญ่ค่าเช่ารถราคาใกล้เคียงกันแหละ จะไปต่างกันพวกออฟชั่นเสริม อย่างคาร์ซีท GPS เสียมากกว่า และบางบริษัท (เช่น AVIS) ก็คิดเงินเพิ่ม ถ้ามีคนขับมากกว่าหนึ่งคน นอกจากนี้ส่วนใหญ่รถที่เช่าก็ประกันชั้นสาม ซึ่งเราคิดว่ามันก็ครอบคลุมพอแล้วสำหรับเรา เพราะครอบครัวเราทุกคนมีประกันการเดินทางรายปี ดังนั้นพวกประกันเสริมของบริษัทเช่ารถมักไม่ได้เงินเราในจุดนี้ สรุปเราได้รถ Toyota Altis (เครื่อง 1800) ในราคา 2,0xx บาท สำหรับสองวัน (48 ชั่วโมง) บวกกับค่าเช่าคาร์ซีทอีก 320 บาทสำหรับตลอดทริป กับ Avis ซึ่งเราว่าราคาโอเคเลย เพราะส่วนใหญ่ ถ้าค่าเช่า 800-900 บาทต่อวัน มันจะเป็นพวก Jazz หรือ Vios ซึ่งเราขับไม่ค่อยถนัด แถมบางที่ค่าเช่าคาร์ซีทก็แพงวันละ 300-400 บาทแนะ การเดินทางเปลี่ยนไปเมื่อไปกับลูกเล็ก
ไปคราวนี้จะบอกว่าหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป คือวิธีการเที่ยวก็เปลี่ยนนะ จากแต่ก่อนไปกับเพื่อนคนไทยก็ตระเวนกินทุกร้านแนะนำ ไปเที่ยวถ่ายรูปทุกที่ ถ้ามากับสามีสองคนสมัยก่อนก็เน้นไปเทค ไปกินอาหารฝรั่งแพง ๆ นอนอาบแดดตามเกาะ พอคราวนี้มีลูกมาก็ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมตั้งแต่จัดกระเป๋าเลย
การเดินทางกับเด็ก ไม่สามารถ Travel Light ได้อีกต่อไป
จะบอกว่าไปกับลูกเนี่ยกระเป๋าลูกใหญ่กว่ากระเป๋าพ่อแม่อีก ปรกติรายการที่เราจะใช้เป็นไกด์ไลน์ในการจัดกระเป๋าให้ลูกเวลาเดินทางเราได้มาจาก เว็บนี้ http://havebabywilltravel.com/the-mother-of-all-packing-lists/ รายละเอียดก็ครอบคลุม ของเราปรกติถ้าเดินทางต่างประเทศ เราจะมีแยกด้วยว่า ของอันไหนไปซื้อที่เมืองนอกได้ เช่น แพมเพิส หรืออาหารเด็กสำเร็จรูป (ปรกติเราทำกับข้าวให้ลูกกิน แต่เราก็ต้องหัดลูกให้กินอาหารขวด อาหารอื่น ๆ เผื่อว่าเวลาเดินทางแล้วหาไม่ได้จริง ๆ) ตอนนี้ก็เริ่มให้ลูกกินนมกล่องเพื่อความสะดวกในการเดินทาง คาดว่ารอบหน้าไปฝรั่งเศสก็คงไม่ต้องแบกนมไปด้วยแล้ว
นอกจากของใช้ที่จำเป็นในการใช้ชีวิต เราจะเอาของเล่น และหนังสือไปให้ลูกด้วย แต่ก่อนตอนลูกยังไม่ครบขวบก็ขนเยอะมากคะ ของเล่นมีหนึ่งกระเป๋า แต่ตอนนี้ลูกเริ่มชอบเล่นของจริง ไม่ใช่ของเล่น และอ่านหนังสือ เราก็เริ่มขนของน้อยลงแล้ว อย่างรอบนี้เราก็ขนไปแค่หนังสือสามเล่ม หนังสือเพลงภาษาฝรั่งเศสหนึ่งเล่ม บล๊อกต่อ รถหนึ่งคัน และของเล่นที่คิดว่าไปเล่นบนหาดทรายได้ 3-4 ชิ้น
มาดูกันว่ากระเป๋าเอเดรียนมีอะไร ตัวอย่างการจัดกระเป๋าของลูกสำหรับ ไปเที่ยวภูเก็ต 3 วัน 2 คืน
1. เสื้อผ้า 5-6 ชุด, ชุดนอน 3 ชุด, แพมเพิส 10 ชิ้น (ใช้หมดพอดี) ผ้าอ้อมแบบผ้า ผ้าขนหนูผืนเล็ก เผื่อใช้เช็ดโน่นนี่นั่น
2. ของเล่นและหนังสือ
3. นมผง (เอาไปแค่พอกิน 5 มื้อ คือมื้อเช้าและก่อนนอน) นมกล่อง 8 กล่อง (จริง ๆ อันนี้ไปซื้อเอาก็ได้ แต่ขี้เกียจไปหา เลยเตรียมไปเลยคะ) และอาหารขวด 3 ขวด เอาไปเผื่อ
4. ขวดนม ขวดน้ำ ที่ล้างขวดนม
5. ยาต่าง ๆ และครีมทาก้น ครีมกันยุง ครีมกันแดดของเด็ก สบู่อาบน้ำ ผ้าทิชชู่เปียกธรรมดา ทิชชู่เปียกแบบเช็ดมือเช็ดปาก
6. ชุดว่ายน้ำ ห่วงยาง แพมเพิสว่ายน้ำเมื่อถึงวันเดินทาง
พวกเราออกจากกรุงเทพตอนเย็นเพราะเราทั้งคู่ต้องทำงานคะ เราก็ขับรถออกจากบ้าน ขนกระเป๋าทุกอย่าง (ยกเว้นกระเป๋าใบเล็กของลูกที่มีนม น้ำ แพมเพิส ผ้าอ้อม และของเล่น) ไปทำงาน และก็นัดเจอกับแฟนที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อนเครื่องออกหนึ่งชั่วโมง โดยเราก็เช็คอินออนไลน์ไปก่อน พอถึงเวลานัดเราก็เอารถไปจอดไว้ที่ที่จอดรถสนามบิน (ตอนกลับบ้าน จ่ายค่าที่จอดรถไป 580 บาท คุ้มกว่าเรียกแท็กซี่อีก ….. แถมไม่ต้องไปยืนรอแท็กซี่ให้ลำบาก คือถ้าเราไปต่างประเทศไม่เกินสี่วัน ส่วนใหญ่เราก็จะเอารถไปจอดไว้คะ ) เมื่อเรามาถึงเคาน์เตอร์ก็เช็คอินปรกติและเดินไปรอที่เกท ระหว่างนั้น พ่อลูกก็เล่นกันไป
หลาย ๆ คนมักคิดว่าทำไมชอบพาเด็กเล็ก ๆ ไปเที่ยว สำหรับครอบครัวเรา เราว่าการพาเด็กไปคือการเปิดประสบการณ์อย่างหนึ่ง มันเป็นการเปิดโอกาสให้สมองเค้าได้เชื่อมต่อกัน และสร้างเส้นใยสมอง หลายคนคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่จริง ๆ ช่วง 0-6 ปี เป็นช่วงที่สมองของเด็กขยายและเก็บข้อมูล เด็กจะเรียนรู้ได้ดีกว่าการที่ให้เค้าเห็นจากทีวีหรือไอแพด เพราะนี่คือของจริง ประสบการณ์จริง อย่างบ้านเราจะพาลูกเที่ยวต่างจังหวัดอย่างน้อยเดือนละครั้ง และไปสวนสาธารณะในกรุงเทพอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้เค้ามีโอกาสได้เห็นธรรมชาติ วิ่งเล่น และใช้พลังงานในการเคลื่อนไหว นอกจากนี้เวลาที่แฟนเราต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ครอบครัวเราก็มักจะไปด้วยกันหมดทั้งสามคน พ่อแม่ลูก แฟนเรามองว่าเป็นการฝึกลูกให้ชินกับวิถีชีวิตของครอบครัว (เพราะพวกเราปีปีนึงเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง) Take Off & Landing ช่วงเวลาที่พ่อแม่ควรระวังและใส่ใจ
เคยไหมเวลาที่เดินทางด้วยเครื่องบินแล้วได้ยินเสียงเด็กร้องจ้า หลายคนคงรำคาญเพราะเสียงร้องก็หนวกหูไม่แพ้เสียงเครื่องบิน แต่ทราบหรือไม่ว่าในเด็กบางราย เค้ากำลังทุรนทุรายด้วยอาการหูอื้อ บางคนเรียกว่า Ear Squeeze, Aerotitis, Barotitis media, หรือ Airplane ear เพราะทารกและเด็กมีท่อยูสเตเชียนที่มีขนาดเล็ก จึงปิดเปิดลำบาก
ทุกคนเคยทำของหายที่เมืองนอกมั้ยคะ? เราเคยค่ะเมื่อ20ปีที่แล้ว
คือเมื่อ20ปีก่อนน่ะคะเราได้ไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเราทำเงินตกไว้20บาท
เราเลยพยายามทำงานหาเงินรับจ้างทุกอย่างมาตลอด20ปีเพื่อที่จะเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไปตามหา
ตอนนี้เราเก็บเงินได้ 2 ร้อยบาท 50 สตางส์แล้วค่ะ เรากะว่าจะทำงานเก็บเงินต่อไปอีกซัก 15 ปีแล้วก็จะออกเดินทางเลยค่ะ
ทุกคนเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ เรามั่นใจว่ายังไงก็หาเจอค่ะ เพราะอะไรก็ตามที่เราตั้งใจย่อมประสบความสำเร็จค่ะ
.............................
กินปลี ตามกระแส
ตอนที่จะทำรูปกระทู้ชุดนกกินปลี เจอว่ามีนกกินปลี 2 ชนิดที่สีสวยมากมาก แถมยังเป็นสีโปรดด้วยที่ยังไม่ได้เจอ
จึงตั้งเป้าหมายแรกสำหรับฤดูกาล(ดูนก)นี้ : เก็บนกกินปลีคอสีม่วง และนกกินปลีคอสีทองแดง ให้ได้
สำหรับกินปลี 2 ชนิดนี้ พบได้ไม่ยากนัก ที่จันทบุรีและตราด
ไม่นานกระแสกินปลีคอสีม่วงและกินปลีคอสีทองแดงก็เต็มหน้าฟีด fb
คอสีม่วงที่น้ำตกกระทิง อช.เขาคิชฌกูฎ คอสีทองแดงที่บ้านขาหย่าง อ.ขลุง จ.จันทบุรี
นกเจอง่าย แต่ถ่ายยาก ใครๆ ก็ว่าอย่างนั้น
แผนการเดินทางจึงเกิดขึ้น
ขาประจำไม่ว่าง จะไปคนเดียวก็กระไรอยู่
แมสเซสชวนน้องชายที่เมืองกรุง บอกก็ว่างอยู่ พาไปก็ได้นะ อีกคนบอกน่าสน
สุดท้ายพี่ก๊อตบอกไม่สะดวก เลยต้องไปกับสหายปอ 2 คน
ขอนแก่น-จันทบุรี ลองหาข้อมูลซิว่าไปยังงัยดี
นั่งรถขอนแก่นไปลงระยองแล้วต่อรถตู้ไปเมืองจันทร์ ก็ไม่ยาก
นั่งรถขอนแก่นไปลงโคราชแล้วนั่งรถบัสไปเมืองจันทร์ ประมาณ 11 ชั่วโมง
ถ้าอยากนั่งสบายหน่อย นั่งรถทัวร์ลงกรุงเทพ แล้วต่อรถตู้ที่หมอชิต ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง พอๆ กัน ถึงจะอ้อมมากๆ ก็ตาม
ตัดสินใจด้วยเส้นทางที่คุ้นเคย นั่งนครชัยแอร์ไปลงหมอชิต นัดเจอสหายปอที่คิวรถตู้ ตอนเช้ามืดวันเสาร์
+++ โซล ฟรุ๊งฟริ๊งไกด์ - ชวนไปมุ้งมิ้งให้สุดติ่ง กระดิ่งแมว กับ ไกด์สาวสายแบ๊ว ในกรุงโซล +++
สวัสดีค่าา เราพึ่งกลับมาจากกรุงโซล ณ โกง เอ้ย เกาหลีใต้มาค่ะ เราเคยมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปฟรุ๊งฟริ๊งกันในกรุงโซลไปละ คราวนี้จะมารีวิวการเดินทางในเที่ยวล่าสุดของเราให้เพื่อนๆในนี้กันนะคะ
รีวิวนี้ จะให้ดีจะเหมาะสำหรับสาวมุ้งมิ้ง กุ๊กกิ๊ก ที่มักจะอินและฟินไปกับการเจอร้านค้า และของน่ารักๆ (แบบไร้สาระเล็กๆ) แต่สำหรับสายแข็งด้านการท่องเที่ยว แบบตารางแน่นใน 1 วัน พี่เกามีอะไร ช้านจะไปทุกที่ เราก็จะมีร้านอาหารอร่อยๆ มาแนะนำพร้อมลายแทงให้เหมือนกันค่ะ สาวนักช้อปน่าจะฟิน แต่หนุ่มๆก็อย่าได้แคร์เวิลด์ค่ะ ไปเกาทั้งที ไม่ซื้อไม่ได้นะคะ พูดเลย เราเอาร้านและสถานที่น่าสนใจมาฝาก ผช ด้วยค่ะ ^^ แต่ทริปนี้ เราจะไม่พูดถึง Etude Skinfood และ The Faceshop นะคะ ไม่ใช่ไม่ซื้อนะ แต่มันเป็นภาคบังคับของสาวๆทุกคนอยู่แล้ว 555 และร้านพวกนี้ ไม่ต้องใช้ลายแทงหรือการแนะนำใดๆค่ะ เพราะอยู่มันไปทั่วหยั่งกะ 7-11
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ไปเกาคราวนี้ เราเดินทางโดย "น้องหางแดงกากบาท" ค่ะ ด้วยสนนราคาแบบ รวมค่ากระเป๋า 30 กก. ขากลับที่ 10xxx บาทเท่าน้านนน บ้าไปแล้ววว จะถูกอะไรขนาดนี้ คือบอกตรงๆว่าตอนแรก ปีนี้ไม่ได้กะจะไป แต่เห็นราคาแล้วไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆค่ะ ต้องจัดให้นางซะหน่อย อิอิ
ส่วนที่พัก เราก็เลือกจาก Agoda ค่ะ โดยเราเลือกพักที่ย่าน "ฮงแด" หรือ Hongdae น่านเอง เหตุผลที่เลือกพักย่านนี้เพราะว่าเป็นแหล่งรวมคนเท่ห์ และเก๋ เดินทางสะดวก และ ที่พักที่นี่เพิ่งเปิด เลยน่าจะสะอาดมากๆ เราเลือกพักที่ "Loft8 Hongdae Hostel" ค่ะ ที่นี่เค้าวางตัวเองให้เป็น micro suites นะคะ ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ ราคาที่พักสำหรับ 5 คืน เราจ่ายไป 13,xxx ค่ะ หารกันกับเพื่อน 2 คน = 6,500 (ตกคืนละพันกว่าๆต่อคน) มันใช่มากกก สิริรวมแล้ว ค่าตั๋วกับค่าที่พักรวมกัน ยังไม่เท่าค่าตั๋วเครื่องบินแบบปกติที่เคยไปเลยง่ะ คือดีงามมากๆ ^_^
พร้อมออกเดินทางกันยังก๊าาา ไปกันเร้ยยย Day1: Incheon -- Hongik University เดินเล่นย่ำราตรี & ช้อปเบาๆ
มาถึงอินชอน วันแรกประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ หลังจากผ่านด่านตม. มาได้ก็หิวกันมากเพราะไม่ได้ทานไรมาตั้งแต่เช้า ข้างบนเครื่องก็ทานแค่น้ำ เลยขอแวะเติมพลังซะหน่อย ออกมากปุ๊บ สิ่งที่แรกที่คุณต้องทำคือ หาร้าน GS25 เพิ่อเติมตัง T-money กันก่อนนะคะ และเนื่องจากการเข้าเมือง เราจะเข้าโดย AREX (Airport Railroad Express) เราเลยใส่ไป 20,000 วอนค่ะ
ออกมาก็เจอร้านนี ก็เข้าเลย ไม่คิดเยอะค่ะ หิว 555 สังเกตุทางออก C นะคะ
อาหารที่สั่งก็แบบนี้
udon 6,000 won
ข้าวหน้าเนื้อบุลโกกิ 9,000 won
อิ่มละ ก็ออกเดินทาง เตรียมเข้าเมืองกานค่ะ มองหาป้ายนี้ ตามป้ายไปค่ะ
AREX ที่นี่มี 2 สายนะคะ คือแบบ non stop กับ all stop ซึ่ง ถ้าใครที่ที่พักอยู่ใกล้ Seoul Station ก็สามารถเลือกขึ้น แบบ all stop train ได้ แต่ถ้าใครจะไป drop ตามสถานที่ต่างๆ ก็ให้ขึ้นแบบ all stop train ซึ่งเราจะลงที่ สถานี Hongik University Station เราเลยเลือก แบบหลังค่ะ จ่ายถูกกว่าด้วยนะ
ระหว่างรอรถ แชะซะหน่อย
มาถึงที่สถานี ทางออก 3 ก็เดินยูเทิร์นไปทางขวา จะเจอร้าน 16Oz coffee อยู่ซ้ายมือ ก็เดินไปทางนั้น และก็ตรงยาวเลยค่ะ ประมาณ 3-5 นาที่ จะเจอกับLoft8 Subway: Hongik University Station Exit 3
เช็คอินเสร็จก็เปิดมาเจอห้อง แบบนี้
ห้องน้ำ เราชอบตรงที่มันมีที่แยกระหว่างฝักบัวกับชักโครก มันทำให้เรามีที่ยืนในสังคม เพราะ Hostel ส่วนใหญ่ พื้นจะเปียกมากกกเวลาอาบน้ำ ไม่ชอบเลยเวลาใส่กางเกงขายาวมันจะเปียก จะให้ออกมาเปลี่ยนชุดโป๊ๆข้างนอกก็จะดูไม่งาม เกรงใจเพื่อนร่วมทริป 555 โดยที่ที่นี่พอจะมีส่วนแห้งอยู่บ้าง ซึ่งเราก็โอเคค่ะ รับได้ ในจุดนี้
น่านนนน อะไรคือการจ่ายคืนละสองพันและมีเครื่องซักผ้าและเตา+อ่างล้างจานในห้อง (แต่มาพบว่ามันใช้ไม่ได้นะคะ 5555)
มีกระจกไว้ส่องความพร้อมแบบ total look
ครัวที่นี่จะอยู่ชั้นล่างค่ะ เช้าๆเค้าก็จะมี breakfast ให้จุ๋มจิ๋ม แต่ทีดีงามคือมี notebook ไว้ให้ใช้ และ เครื่องซักผ้าค่ะ
มีที่ให้นั่งทาน แต่เยอะไปหน่อย เช้าๆเลยต้องหิ้วเข้าไปกินในห้องตัวเองตลอดด
ออกจากที่พัก ก็เดินกลับไปจุดเดิม และเดินตรงไปเรื่อยๆ เพื่อไปหา ผช เอ้ย!! ไปฮง-ันค่า ณ จุดนั้นเป็นเวลา 2ทุ่มนิดๆ (ถ้าใครไปฮงแด ทางออกที่ออกมาแล้วใกล้สุดคือ ทางออก 9 นะคะ แต่เนื่องจกาเราเดินมาเรื่อยๆ เรามาเจอร้านนี้ เลยเลี้ยวมาก่อน ^^ ร้านนี้ชื่อ Coco Bruni ค่ะ ทางออก 8 ร้านน่าร้ากกกก ขนมก็อร่อยดีนะคะ เคยกินแล้วจากแถวๆซํมชองดง แต่คืนนี้ไม่ได้กิน
แล้วก็เดินเข้าตามตรอกซอกซอยมาเรื่อยๆค่ะ มาเจอร้านนี้ KIRA KIRA
หมวกน่าร้ากก เลยสอยมาซะ
เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอกับร้านนี้ REDEYE ร้านนี้เค้าก็จะมีเครื่องประดับ กุ๊กกิ๊กๆ
สิ่งที่ได้มา (เครื่องหัวอีกแล้ว)
เดินออกมาตรงถนนใหญ๋ เจอกับร้าน Holika Holika
ตรงนี้แหล่ะค่ะ คือดงของทุกสิ่งอย่าง ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ และอื่นๆอีกมากมาย เดินเกันเข้าไปโลดค่ะ
ของผู้ชายก็มีนะ เยอะด้วย ไม่ต้องกลัวจะเดินเหงา
สิ่งที่สอยมา
ออกมาจากดง ก็จะเจอร้านน่ารักๆอีกเพียบ เช่น
และก็มาเจอกับร้านนี้ค่ะ กับ รองเท้า สามขา "Black" Martine Sitbon (www.blackmartinesitbon.com)
คือใน 1 คู่ คุณจะได้รองเท้ามา 3 ข้าง ไว้ใส่สลับกันค่ะ เจ๋งเฟ่อร์!! แต่แบบ 2 ข้างปกติก็มีนะคะ สนนราคาราวๆ 3พันกว่าบาทขึ้นไป
เดินเหนื่อย ขอแวะหาไรทานหน่อย ก่อนกลับบ้าน ก็อร่อยดีนะคะ น้องไข่นี่ เราเจอที่นี่ แล้วก็เมียงดง ก็เยอะค่ะ เลือกกินได้ตามอัธยาศัย ^^
จบวันแรกในโซลละ เด๋วมาต่อวันที่ 2 นะคะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)