วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

นายแบบน้อย Thai-Turkish พาตะลอนถ่ายรูป ไอร์แลนด์ #2

สวัสดีค่ะ ^^ หลังจาก จขกท พลาดทริปฝรั่งเศส-อิตาลี เพราะไม่ได้อ่านกฎกติกาในการขอเชงเก้นวีซ่าให้ละเอียด ทำให้ จขกท อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ(เวอร์) หลายวัน พอถึงวันหยุดนี้ ตื่นมา อากาศดีมาก เห็นแสงแดด ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ซึ่งหาได้ยากในไอร์แลนด์ ประเทศซึ่งปกคลุมด้วยเมฆดำคลึ้มเกือบตลอดเวลา จขกท เลยรีบพาเจ้าเดนิสตัวป่วนออกทริปถ่ายรูปทันที ก่อนที่เมฆจะลอยมาบดบังแสงแดดอีกครั้ง ก้อขอเริ่มใกล้ๆบ้านเลยละกันค่ะ คือใกล้มากอะ หน้าบ้านเลย Carlow Castle สร้างขึ้นระหว่างปี 1207-1213 จริงๆแล้วเคยมีสี่หอคอย แต่ภายหลังโดนระเบิดเพื่อขยายอาณาเขต(?) ตอนนี้เลยเหลือแค่สองหอคอย เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง Carlow Brownshill Dolmen สุสานที่ถูกสร้างมาเมื่อประมาณ4000-3000 BC หินก้อนนี้หนักประมาณ 150ตัน เค้าบอกว่าหนักที่สุดในยุโรปเลย ไม่รู้คนสมัยก่อนยกมาได้ยังไง Duckett's Grove ถูกสร้างในปี 1830 ในสไตล์โกธิค แต่ต่อมาในปี 1933 ถูกไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ บรรยากาศน่าสะพรึงมากก

ลอยละลิ่วปลิวไปดอยอินทนนท์

เหมือนเป็นกิจวัตรประจำปียังไงก็ไม่รู้กับการต้องหาเรื่องไปเที่ยวเชียงใหม่ ไปมันเกือบทุกปี บางปีก็ไปหลายครั้ง ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อซักที แม้ว่าในบางครั้งจะไปที่เดิม ๆ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ทั้งนาขั้นบันได ทั้งดอยอินทนนท์ ไปมาหมดแล้ว แต่ก็ยังอยากไปอีก แต่ครั้งนี้ลองเปลี่ยนแนวทางการเก็บความทรงจำผ่านกล้องฟิล์มดู (ไม่คิดว่าจะเก็บกล้องอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้) ถ้าจะเดินทางไปบ่อยขนาดนี้ แน่นอนว่าก็ต้องจองตั๋วราคาโปรไว้ตั้งแต่ไก่โห่เป็นแน่แท้ แต่ยอมรับเลยว่าครั้งนี้ได้เวลาบินไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขาไป ๆ วันพฤหัส ไฟล์ท 13.45 ถึงเชียงใหม่ ก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว ขากลับก็ 12.10 ก็ต้องรีบลงดอยมาให้ทัน แต่เวลาไม่ใช่ปัญหา ในเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องวางแผนให้มันดีที่สุด ครั้งนี้ใช้บริการรถเช่า ค่าใช้จ่ายตกวันละ 1000 บาท น้ำมันเติมคืนเท่าตอนที่ได้รับรถ ราคาค่าเช่าแตกต่างกันไปตามซีซีที่เราเลือก ขาไปอากาศแจ่มใสมาก ๆ ทีแรกแพลนไว้ว่าวันแรกกะว่าจะขึ้นดอยสุเทพ ไม่ก็เที่ยววัดรอบ ๆ คูเมือง แต่เกิดปัญหานิดหน่อยแพลนเที่ยววันแรกรวนทั้งหมดเลย สรุปพอหลังจากรับรถเสร็จก็จัดอาหารเมืองกันชนิดที่ว่า ถูกใจลูกทีมกันทีเดียว แนะนำเลยร้านนี้ไม่ไกลจากสนามบินนัก ลาบไก่สะเมิง สั่งเลยอร่อยทุกอย่าง หัวเราะหัวเราะ กว่าจะทำธุระอะไรเสร็จ ได้เช็คอินเข้าที่พักก็ค่ำ ๆ แล้ว ครั้งนี้ได้ที่พักราคาประหยัด แค่ 450 บาทเท่านั้น อยู่ในซอยวัดเจ็ดยอด (ที่นี่น่าจะเหมาะกับคนที่เช่ารถนะคะเพราะว่าอยู่ในซอย) มีรถก็เลยไม่คิดอะไรมาก ที่พักพึ่งเปิดใหม่ด้วยค่ะ สะอาด ปลอดภัย มีที่จอดรถให้ ชื่อ O2 Hostel & Apartment service มืดแล้วไม่รู้จะไปไหนเลยชวนกันไปไหว้ครูบากัน พึ่งเคยมาไหว้ตอนกลางคืน บรรยากาศดีมากเลย ผู้คนไม่พลุกพล่าน อากาศเย็นกำลังดี จากนั้นเดิน shopping นิดหน่อยหน้ามช. จะบอกว่าที่นี่ร้านตัดแว่นเยอะมาก คือที่นี่เค้าฮิตใส่แว่นกันหรอ ร้านตัดแว่นเยอะจนไม่รู้จะเยอะยังไงแล้ว ในที่สุดก็มาตายรังที่นี่กะเค้าด้วย สมาชิกในทีมได้แว่นกลับไปหนึ่งอัน ด้วยราคาที่ถูกแสนถูก วันที่สองเตรียมมุ่งหน้าขึ้นดอยอินฯ จุดแวะระหว่างทางแรกคือวัดพระธาตุหริภุญชัย ที่จังหวัดลำพูน ด้วยระยะทางไม่ไกล แล้วก็เป็นเส้นทางที่สามารถใช้ในการขึ้นดอยอินฯ เราเลยเลือกที่จะไปสักการะขอพรกัน แล้วก็แวะกินข้าวซอยหน้าวัดด้วย ช่วงที่มาใกล้เทศกาลลอยกระทงพอดิบพอดี เลยมีการประดับประดาด้วยโคมสวยงามทั่ววัด จากลำพูน ใช้เส้นทางไปอ.ป่าซางเพื่อไปโผล่ที่จอมทอง แล้วต่อขึ้นไปดอยอินฯ ทางจากป่าซางไปจอมทองขับสบายมาก ๆ หรือด้วยว่าจะเป็นวันธรรมดารถเลยไม่ค่อยมี ก่อนจะถึงดอยอินฯ แวะไปสัมผัสกับทุ่งนาขั้นบันไดสีทองที่บ้านแม่กลางหลวงกันก่อน บ้านแม่กลางหลวงอยู่ช่วงกม.ที่ 26 ทางเข้ามีศาลารอรถอยู่ ช่วงนี้ที่ไปข้าวออกรวงพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว เห็นบางแปลงมีเกี่ยวไปบ้างแล้วด้วย ด้วยความชอบของตัวเองส่วนตัวขอแนะนำว่าลองซื้อข้าวดอยกลับมากินด้วย เราคิดว่ามันอร่อยดีนะ ที่นี่ไม่ได้มีให้เที่ยวแค่ทุ่งนาขั้นบันไดนะ เราจอดรถไว้ตรงร้านค้าแล้วก็เดิน ๆ ถ่ายรูปเล่นกัน แล้วถ้าเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จะเจอทางแยก แยกซ้ายจะไปในส่วนของพื้นที่ ๆ เค้าเลี้ยงปลา เห็นว่ามีปูด้วยนะ แต่ตอนไปมันน่าจะหลบอยู่ข้างใต้เลยไม่เห็น ส่วนถ้าไปด้านขวาจะไปหมู่บ้านแม่กลางหลวง เห็นว่ามีให้ชิมกาแฟ (แต่เราไม่ได้ไป) แล้วก็ลึกเข้าไปอีกหลายกิโลเป็นน้ำตกรักจัง ที่เรียกว่าน้ำตกรักจัง เพราะว่าหนังเรื่องรักจังเคยมาถ่ายทำ ที่จริงอยากเข้าไปนะ แต่ด้วยอาจจะต้องใช้เวลานานแน่ ๆ เลยขอแปะไว้ก่อน จากแม่กลางหลวงก็ขึ้นต่อไปที่พัก ครั้งนี้เลือกที่จะพักที่เดิมคือที่โครงการหลวง ราคาช่วง High อยู่ที่ 1500 บาท พร้อมอาหารเช้า แล้วก็ครั้งนี้ได้ห้องริมสุดติดน้ำตกสิริภูมิ เดินไปได้เลย ที่สำคัญตอนนอนได้นอนฟังเสียงน้ำตกทั้งคืน มีความสุขมาก ๆ รูปนี้ถ่ายจากดอยชัวร์ญ่า จะเห็นน้ำตกอยู่ไกล ๆ บนดอยอินฯ ต้นไม้ที่เราจะพบค่อนข้างเยอะคือต้นสน ถ้าขึ้นมาที่ดอยอินฯ เรื่องอาหารการกินสะดวกสบายมีให้เลือกทั้งในโครงการหลวง หรือจะเป็นร้านค้าหน้าลานกางเต๊นท์ดอยอินทนนท์ เมนูแนะนำถ้ามาดอยอินฯ แล้วต้องได้ลองกินคือปลาเทร้า (ปลาเทร้าจะราคาสูงหน่อยสั่งต้มยำมาราคาหม้อละ 350 บาท) ผัดผักต่าง ๆ ใช้ผักสดจากยอดดอย เมนูพวกนี้ไม่แพง รสชาติอร่อยดีค่ะ ถัดจากลานกลางเต๊นท์ไปนิดหน่อยจะมีลานขายของจากชาวบ้านเต็มไปหมด ผักผลไม้สด ๆ อร่อย ๆ ราคาไม่แพงมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย เสียดายบินหางแดงแบบไม่โหลดกระเป๋า เลยจัดของได้ไม่เยอะ เด็กน้อยเล่นกันสนุกสนานกันเลยทีเดียว แวะไปสักการะพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จากจุดชมวิวบนพระธาตุจะมองเห็นอ.แม่แจ่มอยู่ด้านล่าง แล้วก็ต่อขึ้นไปจุดสูงสุดเพื่อไปถ่ายรูปป้าย"สูงสุดแดนสยาม" เป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจ ยิ้มยิ้ม มานอนบนดอยก็ดีอย่างนะ กลางคืนไม่มีไรทำ ก็ได้เข้านอนเร็ว ตื่นเช้า แต่ยังเช้าไม่พอที่จะทันไปดูหมอก เพราะทางลูกทีมลงความเห็นกันแล้วว่าขอนอนขดตัวใต้ผ้าห่มดีกว่า รุ่งขึ้นหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จก็ต้องรีบลงจากดอยเพื่อให้ทันขึ้นเครื่องกลับ ลงมาถึงข้างล่างมองนาฬิกาเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือ เลยขอแวะสักการะพระพิฆเนศ ที่พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี เสร็จสิ้นภาระกิจทุกอย่างได้เวลาเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯแล้ว ดูเหมือนทริปนี้อาจจะได้เที่ยวน้อยไปหน่อย แต่แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว อีกอย่างเดี๋ยวเดือนมกราก็จะไปตามล่าพญาเสือโคร่งที่อ่างขางดูซักครั้ง ยังไงรอติดตามกันได้นะคะ ค่าใช้จ่ายทริปนี้ใช้ไปกำลังดี ไม่มาก ไม่มาย ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าอื่น ๆ รวมแล้วประมาณคนละ 3500 บาท (4คน) ตั๋วจองไว้ตั้งแต่พย.56 ราคาประมาณ 6XX บาท ส่วนต่างที่เหลือก็มีเวลาเก็บเงินตั้งเกือบ 1 ปีแหนะ วางแผนกันยาว ๆ Tag กล้องฟิล์มด้วยนะคะ เพราะว่าอาวุธครั้งนี้คือ FUJICA STX-1, Fujinon f=55mm [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ท้ายนี้ขอฝากเพจไว้นิดนึงด้วยนะคะ ลองไปทักทายกันได้ค่ะ www.facebook.com/iamtravelaholic ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่ ดอยอินทนนท์ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว