วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557
“เจดีย์สแตนเลส” แห่งแรกของโลกที่ หาดใหญ่
วับวามงามเงากับ “เจดีย์สแตนเลส” แห่งแรกของโลกที่ หาดใหญ่
อัพโหลด 9-7-2013 15:22
เจดีย์สแตนเลส
พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคล เจดีย์สแตนเลสแห่งแรกของโลก
เจดีย์ส่วนใหญ่ในเมืองไทยนับตั้งแต่สมัยสุโขทัยมาถึงปัจจุบัน ล้วนแต่เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน แต่ก็ยังมีเจดีย์อีกจำนวนหนึ่งที่สร้างด้วยวัสดุที่แตกต่าง หนึ่งในนั้นก็คือ “เจดีย์สแตนเลส” ของเมืองหาดใหญ่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์สแตนเลสองค์แรกของโลก
เจดีย์สแตนเลสองค์นี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคล” แต่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า “เจดีย์สแตนเลส” หรือ “วัดสแตนเลส”
เจดีย์สแตนเลสตั้งอยู่บนยอดเขาคอหงส์ ถ.ปุณณกัณ์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจดีย์องค์นี้ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์สแตนเลสองค์แรกของโลก สร้างขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี และเพื่อเป็นศูนย์รวมใจสืบสานพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม ประเพณีไทย โดยมีการวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 28 ก.พ. พ.ศ. 2549 และสร้างแล้วเสร็จใน 160 วัน
เจดีย์สแตนเลสเป็นการนำสแตนเลสเส้นกลมหลายขนาดจำนวนมาก มารังสรรค์เรียงเชื่อมต่อกันเป็นรูป 3 เหลี่ยมของเจดีย์ เป็นสีเงินแวววาว โดยเฉพาะยามต้องแสงแดดนั้นจะส่องประกายแวววาวเป็นเงางาม
อัพโหลด 9-7-2013 15:19
เจดีย์สแตนเลส
พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคล การผสมผสานระหว่างงานพุทธศิลป์กับงานวิศวกรรมอย่างลงตัว
เจดีย์สแตนเลสมีการทำส่วนยอดเป็นเส้นวงคล้ายปล้องไฉนและมีฉัตรอยู่บนยอดสูงสุด ขณะที่ด้านล่างมีฐานวงกลมก่ออิฐฉาบปูนทาสีเหลืองทอง มีการเจาะช่อง ประตูหน้าต่างเป็นวงกลม ให้คนสามารถเดินเข้าไปชมสิ่งที่น่าสนใจภายใน ที่มีการนำสแตนเลสมาจัดแต่งอย่างสวยงาม โดยประตูแต่ละบาน (ช่อง) จะเป็นช่องประตูประจำวันเกิดรวม 8 ช่อง (วันพุธมี 2 ช่อง พุธกลางวัน-กลางคืน) พร้อมมีประประจำวันเกิดอยู่ข้างในให้สักกระบูชา
ภายในฐานเจดีย์มีทางเดินเป็นบันไดเวียนสแตนเลสอย่างสวยงามนำสู่ชั้น 2 ซึ่งสามารถขึ้นไปถ่ายรูปดูส่วนที่เป็นโครงสร้างเจดีย์ ดูสิ่งตกแต่งประดับประดาอื่นๆ รวมถึงทำบุญในบาตรสแตนเลสที่มีอยู่ทั่วไป นอกจากนี้บนฐานชั้น 2 ยังมีระเบียงให้ออกไปชมวิวทิวทัศน์ แต่ส่วนใหญ่ทางผู้ดูแลจะปิดล็อกใส่กุญแจไว้
อัพโหลด 9-7-2013 15:19
เจดีย์สแตนเลส
ส่วนยอดของเจดีย์
นอกจากเจดีย์แล้ว ที่นี่ยังมีพระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท เจ้าแม่กวนอิม และสิ่งน่าสนใจอื่นๆให้ผู้ที่เข้ามาได้สักการะ สัมผัสชื่นชมกัน โดยในทุกวันที่ 7,17 และ 27 เวลา 10.20 น. ของทุกเดือน ที่เจดีย์แห่งนี้ได้จัดให้ประชาชนทั่วไปขึ้นมาร่วมทำสังฆทานกัน
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเจดีย์สแตนเลส ที่แม้จะสร้างด้วยวัสดุที่แตกต่างจากเจดีย์ทั่วไป แต่ว่าก็มีความงดงาม สมส่วน อีกทั้งยังมีความแปลกใหม่ นับเป็นการผสมผสานงานพุทธศิลป์ งานสถาปัตยกรรม และงานวิศวกรรรม ให้ออกมาได้อย่างกลมกลืนลงตัวไม่น้อย
ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ , สิริสวัสดิ์จันทรวาร
เก๋ๆ ชิคๆ ที่ ไฮโซ ฟูลมูน ปาร์ตี้
สาวๆ ที่อยากไปฟลูมูนปาร์ตี้ไม่ต้องไปถึงเกาะพะงันแล้วละคะ ที่กรุงเทพก็มี มันส์ไม่แพ้กันค่ะ ที่โรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก นี่เอง น่าสนใจสุดๆ ใช่ไหมละ
http://www.chicministry.com/social-trends/2014/04/30/la-f%C3%AAte
http://www.chicministry.com/social-trends/2014/04/30/la-f%C3%AAte
ข่าวประชาสัมพันธ์: เปิดตัว “RABBIT” สมาร์ทการ์ดรูปแบบใหม่
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย prreporter เมื่อ 25-4-2012 17:44
เปิดตัว “RABBIT” สมาร์ทการ์ดรูปแบบใหม่ เตรียมรับการเป็นบัตรเดียวเชื่อมต่อเครือข่ายการเดินทางและใช้ในร้านค้าพันธมิตรชั้นนำ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า บีทีเอส และกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบีทีเอส กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะนำสมาร์ทการ์ดที่เรียกว่า “Rabbit (แรบบิท)” ซึ่งเป็นระบบตั๋วร่วมสำหรับระบบขนส่งมวลชน และยังสามารถนำไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้า มาใช้อย่างเป็นทางการ โดยสามารถเริ่มใช้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสและร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 และจะสามารถใช้กับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีและรถเมล์บีอาร์ทีได้ภายในปีนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพและความสะดวกสบายในการให้บริการเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศต่างๆที่มีระบบคล้ายคลึงกัน เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอังกฤษ
การดำเนินการตั๋วร่วม Rabbit นี้ เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่าง กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมเพื่อการดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 โดยทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความต้องการของผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนในการเชื่อมต่อเครือข่ายการให้บริการได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น จึงได้สนับสนุนให้มีการพัฒนาสมาร์ทการ์ดที่สามารถรองรับการพัฒนาและการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่ภาครัฐได้วางแผนไว้
“Rabbit (แรบบิท)” จะนำมาใช้ทดแทนบัตรโดยสารของบีทีเอสที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยสามารถใช้ “Rabbit (แรบบิท)” เดินทางในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งระบบ รวมถึงส่วนต่อขยายสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ และสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่ง “Rabbit (แรบบิท)” สามารถรองรับการเรียกเก็บค่าโดยสารสำหรับการเดินทางในส่วนต่อขยายสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ที่ทางกรุงเทพมหานครจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในส่วนต่อขยาย อ่อนนุช - แบริ่ง 15 บาทตลอดสายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป”
“Rabbit (แรบบิท)” ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยจะเป็นสมาร์ทการ์ดใบแรกที่สามารถใช้ได้กับทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที และรถเมล์บีอาร์ที ภายในปีนี้ รวมถึงสามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการกับร้านค้าชั้นนำ ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าตอบรับในการร่วมให้บริการแล้วราว 20 แบรนด์ รวมกว่า 600 สาขา อาทิ เช่น แมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ แบล็คแคนยอน โอ บอง แปง เบอร์เกอร์ คิง มิสเตอร์ โดนัท โออิชิ กรุ๊ป ร้านค้าที่ร่วมให้บริการในสยามพารากอน และดิ เอ็มโพเรียม และอีกมากมาย โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.rabbitcard.com”
นายอาทิตย์ ประสานสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ BSS กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สนใจสามารถขอออกแรบบิท และเติมมูลค่าได้ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุก สถานี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และจะขยายช่องทางในการเติมมูลค่าไปยังกลุ่มร้านค้า ธนาคาร และผู้ให้บริการระบบขนส่งอื่น ๆ ในอนาคต โดยในช่วงเปิดตัว ผู้ที่ถือบัตรบีทีเอสทั้งประเภทเติมเงินและประเภท 30 วัน สามารถนำมาขอเปลี่ยนเป็น “Rabbit (แรบบิท)” ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการออกแรบบิท หรือถ้าไม่มีบัตรบีทีเอสเดิมก็สามารถออกแรบบิทได้พร้อมส่วนลดค่าธรรมเนียมเหลือเพียง 50 บาท โดยกำหนดให้มีค่ามัดจำอีก 50 บาท และสามารถเติมเงินได้สูงสุดถึง 4,000 บาท อีกทั้งยังสามารถเติมเที่ยวการเดินทางประเภท 30 วัน ของรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ในบัตรเดียวกัน ซึ่งผู้โดยสารสามารถเลือกออกแรบบิทได้ 2 ประเภท คือ แรบบิทมาตรฐานสำหรับบุคคลทั่วไป (Standard Rabbit for Adult) หรือ แรบบิทมาตรฐานสำหรับนักเรียน-นักศึกษา (Standard Rabbit for Student) เพื่อรองรับค่าโดยสารที่แตกต่างกันของทั้ง 2 กลุ่ม โดยคาดว่าจะมีฐานผู้ถือแรบบิทอย่างน้อย 1 ล้านคน ภายใน 1 ปี”
“นอกจากนี้ ผู้ถือ “Rabbit (แรบบิท)” ทุกท่านยังสามารถสมัครสมาชิก “แครอท รีวอร์ดส (Carrot Rewards)” โปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษมากมาย โดย “Rabbit (แรบบิท)” และ “แครอท รีวอร์ดส” ได้ร่วมกันตั้งงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดในช่วงเปิดตัวผ่านทางสื่อและกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “Rabbit (แรบบิท) จะช่วยให้ชีวิตคนเมืองสะดวกยิ่งขึ้นดังสโลแกน “แตะ เติม เพิ่มความสะดวก””
ด้านนางสาว ไอรินทร์ อริยพงศ์สถิต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แครอท รีวอร์ดส จำกัด กล่าวถึงบทบาทของบริษัทฯ ว่ามีหน้าที่ดูแล “แครอท รีวอร์ดส (Carrot Rewards)” โปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือ“Rabbit (แรบบิท)” โดยมีสโลแกนคือ “แตะ เติม เพิ่มแต้ม”
“เราต้องการให้ผู้ถือ“Rabbit (แรบบิท)” ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน เราจึงได้ออกโปรแกรมสะสมคะแนนซึ่งสมาชิกสามารถสะสมคะแนนที่เรียกว่า “แครอท พอยท์” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป สมาชิกจะสามารถสะสมคะแนน “แครอท พอยท์” ได้ จากการโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส การเติมเงิน หรือใช้ชำระค่าสินค้าที่แมคโดนัลด์” นางสาวไอรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนร้านค้าพันธมิตรอื่นๆ คาดว่าจะเข้าร่วมโปรแกรมสะสมคะแนนกับเราภายในปีนี้อีกจำนวนมาก โดยเราพร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมการตลาดให้กับร้านค้าและพัฒนา Loyalty Program รูปแบบใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย พร้อมเสริมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษต่างๆ”
“คะแนนสะสม “แครอท พอยท์” สามารถนำไปแลกเป็นบัตรกำนัลจากร้านค้าต่างๆ อาทิเช่น แมคโดนัลด์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แอร์เอเชีย และเดอะ มอลล์กรุ๊ป” นางสาวไอรินทร์กล่าว ผู้ถือแรบบิทสามารถสมัครสมาชิกแครอท รีวอร์ดส ได้ทาง www.carrotrewards.co.th และผู้ถือ“Rabbit (แรบบิท)” สามารถลงทะเบียนสมาชิกได้โดยใช้หมายเลข“Rabbit (แรบบิท)” ได้สูงสุด 2 ใบต่อ 1 สมาชิกแครอท รีวอร์ดส
นางสาวไอรินทร์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนั้นเรายังวางแผนที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก ซึ่งจะติดตั้ง “ตู้คูปองแครอท”ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานีเร็วๆ นี้ โดยตู้คูปองแครอทนี้ สมาชิกสามารถตรวจสอบคะแนนสะสม “แครอท พอยท์” และยังแลกคะแนนสะสมเป็นมูลค่าเงินเติมกลับลงใน “Rabbit (แรบบิท)” ได้อีกด้วย นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถรับคูปองส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ อีกมากมายที่มีอยู่ในตู้คูปองแครอท "แครอท รีวอร์ดส" จะมาแทนที่โปรแกรมสะสมคะแนนเดิมของบีทีเอสที่เรียกว่า “หนูด่วน พลัส” ซึ่งได้หยุดการให้คะแนนสะสมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2555 สมาชิกหนูด่วน พลัส เดิม สามารถโอนย้ายฐานข้อมูลของสมาชิกมายัง แครอท รีวอร์ดส ได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ หรือติดต่อมาที่ศูนย์บริการข้อมูลแครอท รีวอร์ดส ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ถือ “Rabbit (แรบบิท)” ที่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกแครอท รีวอร์ดสผ่านทางออนไลน์ ก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลต่างๆ มากมายกว่า 300,000 บาท”
เปิดตัว “RABBIT” สมาร์ทการ์ดรูปแบบใหม่ เตรียมรับการเป็นบัตรเดียวเชื่อมต่อเครือข่ายการเดินทางและใช้ในร้านค้าพันธมิตรชั้นนำ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า บีทีเอส และกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบีทีเอส กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะนำสมาร์ทการ์ดที่เรียกว่า “Rabbit (แรบบิท)” ซึ่งเป็นระบบตั๋วร่วมสำหรับระบบขนส่งมวลชน และยังสามารถนำไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้า มาใช้อย่างเป็นทางการ โดยสามารถเริ่มใช้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสและร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 และจะสามารถใช้กับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีและรถเมล์บีอาร์ทีได้ภายในปีนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพและความสะดวกสบายในการให้บริการเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศต่างๆที่มีระบบคล้ายคลึงกัน เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอังกฤษ
การดำเนินการตั๋วร่วม Rabbit นี้ เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่าง กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมเพื่อการดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 โดยทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความต้องการของผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนในการเชื่อมต่อเครือข่ายการให้บริการได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น จึงได้สนับสนุนให้มีการพัฒนาสมาร์ทการ์ดที่สามารถรองรับการพัฒนาและการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่ภาครัฐได้วางแผนไว้
“Rabbit (แรบบิท)” จะนำมาใช้ทดแทนบัตรโดยสารของบีทีเอสที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยสามารถใช้ “Rabbit (แรบบิท)” เดินทางในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งระบบ รวมถึงส่วนต่อขยายสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ และสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่ง “Rabbit (แรบบิท)” สามารถรองรับการเรียกเก็บค่าโดยสารสำหรับการเดินทางในส่วนต่อขยายสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ที่ทางกรุงเทพมหานครจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในส่วนต่อขยาย อ่อนนุช - แบริ่ง 15 บาทตลอดสายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป”
“Rabbit (แรบบิท)” ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยจะเป็นสมาร์ทการ์ดใบแรกที่สามารถใช้ได้กับทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที และรถเมล์บีอาร์ที ภายในปีนี้ รวมถึงสามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการกับร้านค้าชั้นนำ ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าตอบรับในการร่วมให้บริการแล้วราว 20 แบรนด์ รวมกว่า 600 สาขา อาทิ เช่น แมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ แบล็คแคนยอน โอ บอง แปง เบอร์เกอร์ คิง มิสเตอร์ โดนัท โออิชิ กรุ๊ป ร้านค้าที่ร่วมให้บริการในสยามพารากอน และดิ เอ็มโพเรียม และอีกมากมาย โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.rabbitcard.com”
นายอาทิตย์ ประสานสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ BSS กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สนใจสามารถขอออกแรบบิท และเติมมูลค่าได้ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุก สถานี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และจะขยายช่องทางในการเติมมูลค่าไปยังกลุ่มร้านค้า ธนาคาร และผู้ให้บริการระบบขนส่งอื่น ๆ ในอนาคต โดยในช่วงเปิดตัว ผู้ที่ถือบัตรบีทีเอสทั้งประเภทเติมเงินและประเภท 30 วัน สามารถนำมาขอเปลี่ยนเป็น “Rabbit (แรบบิท)” ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการออกแรบบิท หรือถ้าไม่มีบัตรบีทีเอสเดิมก็สามารถออกแรบบิทได้พร้อมส่วนลดค่าธรรมเนียมเหลือเพียง 50 บาท โดยกำหนดให้มีค่ามัดจำอีก 50 บาท และสามารถเติมเงินได้สูงสุดถึง 4,000 บาท อีกทั้งยังสามารถเติมเที่ยวการเดินทางประเภท 30 วัน ของรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ในบัตรเดียวกัน ซึ่งผู้โดยสารสามารถเลือกออกแรบบิทได้ 2 ประเภท คือ แรบบิทมาตรฐานสำหรับบุคคลทั่วไป (Standard Rabbit for Adult) หรือ แรบบิทมาตรฐานสำหรับนักเรียน-นักศึกษา (Standard Rabbit for Student) เพื่อรองรับค่าโดยสารที่แตกต่างกันของทั้ง 2 กลุ่ม โดยคาดว่าจะมีฐานผู้ถือแรบบิทอย่างน้อย 1 ล้านคน ภายใน 1 ปี”
“นอกจากนี้ ผู้ถือ “Rabbit (แรบบิท)” ทุกท่านยังสามารถสมัครสมาชิก “แครอท รีวอร์ดส (Carrot Rewards)” โปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษมากมาย โดย “Rabbit (แรบบิท)” และ “แครอท รีวอร์ดส” ได้ร่วมกันตั้งงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดในช่วงเปิดตัวผ่านทางสื่อและกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “Rabbit (แรบบิท) จะช่วยให้ชีวิตคนเมืองสะดวกยิ่งขึ้นดังสโลแกน “แตะ เติม เพิ่มความสะดวก””
ด้านนางสาว ไอรินทร์ อริยพงศ์สถิต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แครอท รีวอร์ดส จำกัด กล่าวถึงบทบาทของบริษัทฯ ว่ามีหน้าที่ดูแล “แครอท รีวอร์ดส (Carrot Rewards)” โปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือ“Rabbit (แรบบิท)” โดยมีสโลแกนคือ “แตะ เติม เพิ่มแต้ม”
“เราต้องการให้ผู้ถือ“Rabbit (แรบบิท)” ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน เราจึงได้ออกโปรแกรมสะสมคะแนนซึ่งสมาชิกสามารถสะสมคะแนนที่เรียกว่า “แครอท พอยท์” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป สมาชิกจะสามารถสะสมคะแนน “แครอท พอยท์” ได้ จากการโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส การเติมเงิน หรือใช้ชำระค่าสินค้าที่แมคโดนัลด์” นางสาวไอรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนร้านค้าพันธมิตรอื่นๆ คาดว่าจะเข้าร่วมโปรแกรมสะสมคะแนนกับเราภายในปีนี้อีกจำนวนมาก โดยเราพร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมการตลาดให้กับร้านค้าและพัฒนา Loyalty Program รูปแบบใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย พร้อมเสริมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษต่างๆ”
“คะแนนสะสม “แครอท พอยท์” สามารถนำไปแลกเป็นบัตรกำนัลจากร้านค้าต่างๆ อาทิเช่น แมคโดนัลด์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แอร์เอเชีย และเดอะ มอลล์กรุ๊ป” นางสาวไอรินทร์กล่าว ผู้ถือแรบบิทสามารถสมัครสมาชิกแครอท รีวอร์ดส ได้ทาง www.carrotrewards.co.th และผู้ถือ“Rabbit (แรบบิท)” สามารถลงทะเบียนสมาชิกได้โดยใช้หมายเลข“Rabbit (แรบบิท)” ได้สูงสุด 2 ใบต่อ 1 สมาชิกแครอท รีวอร์ดส
นางสาวไอรินทร์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนั้นเรายังวางแผนที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก ซึ่งจะติดตั้ง “ตู้คูปองแครอท”ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานีเร็วๆ นี้ โดยตู้คูปองแครอทนี้ สมาชิกสามารถตรวจสอบคะแนนสะสม “แครอท พอยท์” และยังแลกคะแนนสะสมเป็นมูลค่าเงินเติมกลับลงใน “Rabbit (แรบบิท)” ได้อีกด้วย นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถรับคูปองส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ อีกมากมายที่มีอยู่ในตู้คูปองแครอท "แครอท รีวอร์ดส" จะมาแทนที่โปรแกรมสะสมคะแนนเดิมของบีทีเอสที่เรียกว่า “หนูด่วน พลัส” ซึ่งได้หยุดการให้คะแนนสะสมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2555 สมาชิกหนูด่วน พลัส เดิม สามารถโอนย้ายฐานข้อมูลของสมาชิกมายัง แครอท รีวอร์ดส ได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ หรือติดต่อมาที่ศูนย์บริการข้อมูลแครอท รีวอร์ดส ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ถือ “Rabbit (แรบบิท)” ที่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกแครอท รีวอร์ดสผ่านทางออนไลน์ ก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลต่างๆ มากมายกว่า 300,000 บาท”
เที่ยวรัว รัว แบบชะโงกทัวร์ 7วันที่เมกา -NY/DC/PA/MA-
หลังจากจบ Work ก็ถึงเวลา Travel กับโครงการ Work and Travel...
เราเลือกไป Universal & Disney ที่ฟลอริดา วางแผนเอง เที่ยวเอง มันส์มากกก ที่สุดในชีวิตค่ะ
หลังจากจบทริปนี้ เห็นทัวร์นึง น่าสนใจ เป็นทัวร์จีน 7วัน4รัฐ ราคาเบาๆ ซื้อ2แถม2 เราโคกับเพื่อนอีก 3 คน มีบริการรับส่งที่สนามบินฟรี
ราคาเย้ายวน ทุกอย่างลงตัวขนาดนี้ มีหรือจะพลาด จัดแจงกระเป๋า แล้วมาชะโงกทัวร์กันเตอะ
ชื่อสินค้า: ทัวร์จีน
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
บันทึกการเดินทาง 14 วัน ที่ ฮอกไกโด นอกเส้นทางหลัก ตอนที่ 9 - Abashiri to Kiroro mountain resort
วันนี้เป็นวันเดินทางจริงๆ ยิงยาวจาก Abashiri ผ่าน Supporo ไป Akaigawa
เช็ค GPS ดู มีให้เลือก 2 แบบ
- ขับไปจนถึงทางด่วน แล้วขึ้นทางด่วนไป เสียค่าทางด่วน 4000 เยน ใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง
- ขับทางธรรมดาไปตลอด ถึงช้ากว่าทางด่วน 1 ชม
เนื่องจากเห็นว่าออกเดินทาง 9.00 คงจะถึงไม่เย็นมาก เราจึงเลือกทางธรรมดา
ชื่อสินค้า: ฮอกไกโด
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แอร์แขก : เที่ยวเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์ – ดาลัต – มุยเน่ ) เยือนทะเลทรายหนึ่งเดียวแห่งเอเชีย ในงบไม่เกิน 9,XXX บาท
สวัสดี ชาวพันทิปเช่นเคยค่า
วันนี้ฝนจะมา CR ทริปเที่ยวประเทศเวียดนามใต้ 4 วัน 3 คืน โดยเที่ยว 3 เมืองด้วยกันคือ โฮจิมินต์ , เมืองดาลัต , และเมืองมุยเน่ พบกับประสบการณ์ และภูมิทัศน์ใหม่ๆ (ประเทศใกล้บ้าน!) ชมทัศนียภาพทะเลทรายขาวและทะเลทรายแดง เมืองมุยเน่ หนึ่งเดียวแห่งเอเชีย (ไม่ต้องไปไกลถึงตะวันออกกลาง) พร้อมกับซึมซับบรรยากาศยุโรป (วัฒนธรรมตะวันตก) ณ เมืองโฮจิมินต์และดาลัต แห่งเวียดนาม (ใต้)
เที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน เหมือนไปไกลถึงเมืองนอก (ภายใต้งบประมาณเพียง 9,000 ฿ )** Remark Highlight **
เมืองมุยเน่ (Mui Ne) คือ แหล่งผจญภัยชั้นยอดกับมุมมองทิวทัศน์แบบทะเลทราย หนึ่งเดียวแห่งเอเชีย ทริปสุด Unseen .. ใครจะคิดว่า ประเทศเวียดนาม (ตอนใต้) จะมีทะเลทรายกับเค้าด้วย ! นึกว่าถ้าอยากไปเที่ยวทะเลทรายทั้งที จะต้องตีตั๋วเครื่องบินไปไกลถึงเมืองแขก ขอสปอยด์หน่อยว่า ทะเลทรายที่เมืองแขกและที่เวียดนาม สวยไม่แพ้กันเลย มาในอารมณ์เดียวกันเป๊ะๆ (อีกทางเลือก สำหรับการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ กับประเทศใกล้บ้าน ในราคาย่อมเยาว์) ในความคิดฝนว่า ทะเลทรายที่เวียดนามสวยกว่าด้วยซ้ำ อากาศไม่ร้อน ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน เสียแต่ว่า ไม่มีอูฐให้ขี่เล่นเท่านั้นเอง (ตอนท้ายมีรูปพาไปชมเยอะเลยค่ะ ตอนนี้เล่าถึง ค่าใช้จ่าย และขั้นตอนการจองก่อนนะคะ)
ทะเลทรายเมืองแขก (มีน้องอูฐ)
ทะเลทราย (ขาว) เวียดนามใต้แผนการเดินทางของเราคือ
Day 1 = กรุงเทพ – โฮจิมินต์
DAY 2 = ดาลัต
DAY 3 = ดาลัต – มุยเน่
Day 4 = มุยเน่ – โฮจิมินต์ -กรุงเทพ
ปล.1 เป็นกะทู้ที่เขียนเพื่อเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ใน Pantip เพื่อสร้างแรงบันดาลให้กับเพื่อนๆ เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางท่องโลกกว้าง (ในราคาที่ไม่ได้แพงอย่างที่คิด! ประสบการณ์ชีวิต ความทรงจำของชีวิตที่หาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน) อินสไปร์ตัวเองให้มีแรงทำงานกันต่อ แล้วอย่าลืมกดบวกเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ^^
ปล.2 ส่วนใครอยากติดตามอัพเดทรายวัน ติดตามเรื่องราวบิน กินเที่ยว และของสารสายการบินของแอร์ฯต่างด้าว ณ เมืองทะเลทราย ได้ที่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/middleeastcabincrew
ปล.3 อ่านเรื่องราว เม้ามอยด์สนุกๆ กับทริปเวียดนามต่อกันได้ที่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 http://touch.exteen.com/blog/beshine/20141022/entry[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 2 http://touch.exteen.com/blog/beshine/20141022/entry-1
ปล4. เพจสร้างแรงบันดาลใจ
- หมอโจ้ และหมอวิน จากเพจหมอๆตะลุยโลก
- คุณปอ แห่ง จากเพจผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้
- คุณปั้น จากเพจThe Walking Backpack
ชื่อสินค้า: ท่องเที่ยวสนุกดี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
O.X. Seafood ปากน้ำปราณ ** ทริปกระตุ้นคอเลสเตอเรล
สวัสดีค่ะ เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้ฤกษ์เที่ยวเที่ยวอีกแล้ว
ที่เที่ยวประจำสำหรับคณะเราหนีไม่พ้น “หัวหิน” จ้า
แต่คราวนี้ขอเลยไปอีกนิดดดดด
ที่พักน่ะอยู่อีกไกลสุดโต่ง แต่มื้อแรกมันเรียกร้อง
มื้อแรกของทริป ขอเบาๆ “OX Seafood”
ปากน้ำปราณ
ว่าถึงการเดินทาง...
เอิ่มมม .... ต้องรีวิว Garmin แทน -.-
แต่เอาคร่าวๆเท่าที่จำได้เนอะ
เราขับเรื่อยมาเส้นเพชรเกษม ออกเลี่ยงเมือง ผ่านแยกสิงโตไป
มันจะเข้าเมืองอีกรอบที่ปราณบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าตรงข้ามกับค่ายธนะรัตน์
แล้วก็ตามป้ายบอกทางมาเลยจ้า
ร้านจะอยู่ติดทะเลเลย มีที่จอดรถกว้างขวาง ไม่เคยเต็มคำเตือน ระหว่างทางต้องสงบจิตสงบใจกับป้ายเชิญชวนทั้งหลาย
เพราะแถวนี้มีหลายร้านให้เลือกสรรกันจริงๆ
ตั้งใจจะไปทานร้านไหนแล้วก็ตรงดิ่งไปได้เลยค่ะ
ร้านอาหารมีโต๊ะค่อนข้างเยอะค่ะ รับลูกค้าได้เยอะเลย ไม่เคยเห็นโต๊ะเต็มเลยค่ะ
มาร้านนี้ค่อนข้างหลายครั้ง อาหารเป๊ะมากเลย
เนื่องจากไปกันแค่ 4 คน ก็อาหารบ่อยๆละกันเนอะ
อย่างแรก พบกับเมนูประจำของคณะเรา“ปลากระพงทอดน้ำปลา”
อร่อยยยยนิ กรอบนอกนุ่มใน
น้ำซอสหวานๆเค็มๆ กำลังดีเลยค่ะ
นี่เป็นตัวที่สองแล้วสำหรับร้านนี้ กลับไปเปิดเมื่อคราวที่แล้วดู หน้าตาเหมือนกันเด่ะ
มาตรฐานคงเดิมจริงๆ อร่อยค่ะ หน้าตาดีไม่เปลี่ยนแปลง
เมนูถัดไป แบบเบาๆ“กุ้งอบเกลือ”
มาทะเล เราไม่เน้นกุ้งค่ะ เน้นปู
กุ้งเลยเอาแบบเบาๆไปเนอะ
อร่อยสด เนื้อแน่น
ต่อไป เชิญพบกับ “ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว”
อันนี้ แซ่บมากกกกๆๆๆๆ น้ำตาไหลพราก
อร่อย แจ่ม น้ำลายมาเลยทีเดียวเมื่อนึกถึง
เป็นอีกเมนูที่สั่งทุกครั้งที่มา และยังคงมาตรฐานค่ะ
และสุดท้าย... พระเอก!!!สั่งแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ “ปูม้านึ่ง”
กิโลละ 600 บาท แต่เรามีคนกินปูแค่ 3 คน เลยสั่งเป็น 3 ตัวค่ะ
ได้เป็นตัวไซส์พี่บิ๊กมาเลยทีเดียว
เนื้อแน่นนนน หวานนนน อร่อยยยย
แอร๊ยยย ฟินนน เขียนไปท้องร้องไป
ดูเนื้อของนางเซ่ะค้า.............^^
มาถ่ายรูปหมู่ซะหน่อย
ที่นี่ไม่หวงน้ำจิ้มนะคะ ขอได้โลดดด แซ่บค่ะ
ตรวจสอบราคากันหน่อยมั้ยคะ??
แพงไหม?? แพง!! 555 แต่รับได้
เทียบกับความอร่อยคือ คุ้มค่า และไม่ได้แพงเกิน
ปูม้า 3 ตัว ล่อไป 13 ขีด คือ แพงแต่ดี ยอม!!
ชื่อสินค้า: O.X. Seafood อาหารทะเล ริมปากน้ำปราณ
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
รบกวนถามครับนั่ง Air China ไปโตเกียวสายการบินมีพวก Amenity Kit แจกให้ผู้โดยสารบ้างหรือเปล่าครับ นั่งชั้นประหยัด ครับ
รบกวนใครมีประสบการณ์ นั่ง Air China. ไปเที่ยวญี่ปุ่น บ้าง
สายการบินมีพวก Amenity Kit. แจกหรือเปล่าครับ พวกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน น่ะครับ
รบกวนแนะนำด้วยครับ
สอบถามที่พักสวนผึ้ง ไฮซีนรีสอร์ท ใครเคยไปเป็นยังงัยมั่งคะ
18 วัน ในดินแดน 10 มรดกโลก อาทิตย์ส่องตลอด 13 เดือน ถิ่นกำเนิดกาแฟ และ ค้นพบบรรพบุรุษยุคแรกของมนุษย์ (3.2ล้านปี)
สวัสดีครับเพื่อน ๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยังประเทศเอธิโอเปีย แบบไม่ได้ตั้งใจมาก่อนว่าจะไป แต่ถือว่าเป็นการเดินทางที่
ประทับใจมาก เพื่อนร่วมทางที่ไปด้วยก็มีส่วนให้ทริปนี้สนุกมากยิ่งขึ้น เพื่อน ๆ อาจจะแปลกใจว่า ทำไมถึงใช้เวลามากมาย กับประเทศที่ติดอันดับ 1 ในสิบของประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แต่ประเทศนี้มีมรดกโลกถึง 10 แห่ง มีแสงแดดสาดส่องตลอด 13 เดือน (ที่นี่ 1 ปี มี 13 เดือน คือทุกเดือนจะมี 30 วันเท่ากัน โดยเดือนสุดท้าย มี 5-6 วัน) แถมยังเป็นประเทศเดียวในทวีปแอฟริกา ที่รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นในยุคล่าอาณานิคมอีกด้วย เป็นถิ่นกำเนิดกาแฟแห่งแรกของโลก แถมยังมีการค้นพบบรรพบุรุษยุคแรกของมนุษย์ ที่เป็นโครงกระดูกอายุ 3.2 ล้านปี อีกต่างหาก
ผมเดินทางมาแล้ว 57 ประเทศทั่วโลก และมีแพลนที่จะเดินทางอีกเรื่อย ๆ สามารถติดตามอัพเดทข่าวสารล่าสุดได้เรื่อย ๆ ที่ fanpagewww.facebook.com/backpackerthai
รบกวนเข้าไปกดไลค์ให้ด้วยครับ
ชื่อสินค้า: ประเทศเอธิโอเปีย
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
ช่วยแนะนำ บ.ประกันภัยการเดินทางหน่อยครับ
อยากทำประกันภัยการเดินทางที่น่าเชื่อถือได้แนะนำทีครับ และสมมติจะเดินทางเดิน มีนา 57 ควรทำไว้เลยไหมหรือค่อยทำตอนจะออกเดินทางครับ
ภาพข่าว: เปิดตัวท่องเที่ยววิถีไทย
นายพรหมโชติ ไตรเวช ผอ.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถ่ายรูปกับผู้ร่วมงานในงาน เสวนาเปิดตัว “ท่องเที่ยวไทย วิถีไทย 2557” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และ สนับสนุนการอนุรักษ์วิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน ณ ห้องราชดำเนินฮอลล์ โรงแรม รอยัล ปริ๊นเซส (หลานหลวง) กรุงเทพมหานคร
โหลด discount coupon ในเกาหลีที่ไหนบ้างคะ
สวัสดีค่ะ เราจะแบคแพคไปเกาหลีช่วงปลายเดือนพ.ย. ใครพอมีแหล่งดาวน์โหลด discount coupon ต่างๆ เช่น lotte world ฯลฯ บ้างมั้ยคะ
IndyTrip...ฉายเดี่ยว...เที่ยวสิงคโปร์...นอนโฮสเทล
ชีวิตนี้เจี๊ยบรักการท่องเที่ยวมาก ปกติจะไปกับเพื่อนๆ แต่ตอนนี้เพื่อนมีครอบครัวกันเกือบจะหมดแล้ว ส่วนเพื่อนที่ยังครองความโสดนั้น ก็ว่างไม่ค่อยจะตรงกันเลย บวกกับความอินดี้ของตัวเจี๊ยบเอง เลยจัดซะ เที่ยวคนเดียวดีกว่า มันส์ดี ขอบอกว่านี่ไม่ใช่การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ก่อนหน้านี้ไปที่เดิมซ้ำๆ จนไปเองคนเดียวก็ได้ และไม่เคยซื้อทัวร์เที่ยวเลย ไปกันเอง เที่ยวกันเองตลอด อาศัยปริมาณคนเยอะ และช่วยๆกันทำการบ้านก่อนที่จะเดินทาง เลยดูปลอดภัย ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ยิ่งระยะหลังมีไอดอลแบบ ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ แอร์แขกงี้ หมอๆตะลุยโลกงี้ น้องมิ้นท์งี้ โอยยยยยยย ช้านอยากเป็นอย่างพวกเขา นั่นแหละความฝันของช้าน 555......
ที่ที่เราจะไป เรายังไม่เคยไปมาก่อน ต้องทำการบ้านเอง และทุกๆอย่างที่รอเราอยู่ข้างหน้า มันช่างน่าตื่นเต้นไปซ้าาาาาาา เลยอดใจไม่ไหว เอาละว้าาาา เขียนกระทู้ก่อนที่จะเริ่มต้นออกเดินทาง เพื่อสร้างแรงบรรดาลใจให้กับตัวเองกันสักหน่อย งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะคะ
เริ่มจาก....หาตั๋วเครื่องบินกับที่พัก เจี๊ยบเลือกไปเลือกมา เทียบราคา เทียบทำเล อยู่นานพอสมควร ระหว่าง Air Asia go และ Expedia, ตั๋ว+ที่พัก และ ตั๋วต่างหาก ที่พักต่างหาก แล้วเลือกอันที่คุ้มที่สุดมาไว้ในอ้อมกอด ทริปนี้ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า คือนึกอยากจะไปก็ไป ถ้าบังเอิญเจอโปร free seat หางแดง อาจจะจ่ายค่าเสียหายน้อยกว่านี้ก็ได้ค่ะ (บินไป-กลับ+ที่พัก 3 วัน 2 คืน ได้ราคานี้คิดว่าคุ้มนะ) แหะ!! แหะ!!
Finally!! I got it!!
****สายการบินไทเกอร์แอร์ (Tigerair) ****
บร่ะเจ้า+++ ไม่เคยรู้จักสายการบินนี้มาก่อนเลย.....
ชื่อเดิมคือ ไทเกอร์ แอร์เวย์ (Tiger Airways) คือสายการบินราคาประหยัดที่มีฐานการบินอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ให้บริการในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย จีน และอินเดีย จากสนามบินนานาชาติสิงค์โปร์ และที่สำคัญ คือ ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ใช่ดอนเมือง กระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่องได้ถ้าน้ำหนักไม่เกิน 10 กก. ซื้อน้ำหนักขั้นต่ำได้ 15 กก. (ซื้อขากลับ จ่าย 495 บาท) Call Center Tel. 0018008527146 (โทรฟรีนะคร่าาาา ขอบอก) กำลังจะเป็นหนูทดลองอีกแระ หลังจากเดินทางแล้ว จะกลับมารีวิวเพิ่มเติมอีกทีนะคะ ว่าดีหรือไม่ดียังงัย
****ที่พัก...5footway.inn project chinatown 1****
โรงแรมนี้ ตั้งอยู่ใจกลาง Chainatown ใกล้สถานนี้รถไฟฟ้า เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีของกินเยอะ และยังใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เจี๊ยบเลือกแบบหอพักรวมหญิง ห้องน้ำรวม คือแบบว่า...อยากลองไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า สร้างประสบการณ์แบบนี้ให้กับชีวิตตัวเองสักครั้ง ก็ไม่รู้สินะว่าผลออกมาจะเป็นยังงัย แต่เท่าที่หาข้อมูลมาจากเว็บต่างๆ ที่นี่ถือว่าเป็นที่พักที่โอเคเลยทีเดียว
ที่เหลือ จะไปเที่ยวไหนบ้าง เดินทางเป็นอย่างไร จะโก๊ะ จะหลงมั้ย ไว้รอชมรีวิวกันนะคะ
Review : Backpack to Korea ครั้งแรกกับเพื่อนใน Pantip ไม่ถึง 20,000 บาท-Part 2
สวัสดีค่ะ ^^ มาต่อกันที่ทริปเกาหลี Day 2 กัน
สำหรับทริป Day 1 http://pantip.com/topic/32751612
Backpack to Korea Day 1 (15/10/57) : พระราชวังเคียงบก (gyeongbokkung palace) National folk museum of Korea ถนน samcheongdong หมู่บ้านวัฒนธรรมบุกชอน (bukchon hanok village) พระราชวังชางด๊อก (changdeokkung palace) คลองชองเกยชอน (cheonggyecheon stream) shopping ตลาดเมียงดง (myeongdong market)
เริ่มต้นด้วยตื่นเช้ามา 7.30 น. รีบอาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าของโรงแรม ซึ่งมีข้าวต้ม ขนมปังปิ้ง แล้วก็ซีเรียล บริการตัวเองก็ถือว่าโอเคสำหรับอิ๋มนะ เอาแค่อิ่มท้อง มีแรงเดินเที่ยวต่อก็โอเคค่ะ
ตอนแรกวันนี้นัดกับเพื่อนที่รู้จักกันใน internet ซึ่งเขามาเที่ยวเกาหลีเหมือนกัน กะจะมาเที่ยวพระราชวังด้วยกัน เราก็นัดกันที่สถานีรถไฟใต้ดิน gyeongbokkung exit 5 แต่อิ๋มมองจากแผนที่ที่หามานั้น พระราชวังเคียงบก อยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ค่ะ เลยตัดสินใจเดินไป ชมบ้านเมืองไปเรื่อย ๆ แล้วเดินไปถึงพระราชวังเคียงบก ประมาณ 10 โมง ก็เจอการแสดงพิธีเปลี่ยนเวรทหารพอดีเลยค่ะ เลยรีบวิ่งเข้าไปดู คนเยอะมากกกกก! ทหารก็หน้าตาดีหลายคนค่ะ ใส่หนวดปลอมด้วย อิอิ <
หลังจากชมทหารเสร็จก็กังวลกับเพื่อนที่นัดไว้ เราผิดนัดเอง ไม่ได้เดินทางมาด้วย MRT ไปเดินหาที่สถานี gyeongbokkung exit 5 ก็ไม่เจอ wifi free ก็ไม่มี ติดต่อไม่ได้ เลยส่ง line ทิ้งไว้ว่า “ขอโทษด้วย ไว้เจอกันทริปหน้านะ” เรากับเพื่อนพันทิปก็เลยตัดสินใจเข้าชมพระราชวังเลย บัตรเข้าชมพระราชวังเคียงบก 3,000 won ค่ะ
พระราชวังของเกาหลีนี่โดดเด่นเรื่องหลังคาจริง ๆ ชอบมากค่ะ สวยงามดี สร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด ลักษณะพระราชวังรอบในจะเป็นของกษัตริย์ รอบนอกก็ของพวกสนม ขุนนางต่าง ๆ ก็คงคล้าย ๆ กับของไทยค่ะ
เราก็เดินไปเรื่อย ๆ รอบพระราชวัง ก็ไปเจอบ้านกลางน้ำ คิดว่าเป็นสถานที่พักผ่อนแหล่ะค่ะ สวยงามมาก ยิ่งถ่ายรูปสะท้อนน้ำ + ต้นไม้หลากสี + ท้องฟ้าสีใส มันช่างเพอร์เฟ็ค รู้สึกอยากเป็นช่างกล้องขึ้นมาทันที อิอิ
แล้วก็เดินวนมาเจอต้นไม้สีส้มแดง (น่าจะต้นเมเปิ้ลนะคะ) สวยมาก ถ่ายรูปมุมนี้กันอยู่นาน อิอิ
หลังจากนั้นก็เดินไป National folk museum of Korea อยู่ในพระราชวังเคียงบกนั่นแหละค่ะ ใช้บัตรพระราชวังเข้าชมฟรี ในพระราชวังก็จะมีประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ของเกาหลีให้ชม เดินดูก็เพลินดีค่ะ ได้เห็นว่านี่คือ เกาหลี จริง ๆ เขาห้ามถ่ายรูป แต่ก็เห็นนักท่องเที่ยวแอบถ่ายกัน ก็เลยแอบถ่ายมาบ้างค่ะ อิอิ
พอชมพระราชวังเคียงบกเสร็จก็เที่ยงแล้วค่ะ ก็เดินไปตามถนน samcheongdong ไปเรื่อย ๆ หาของกิน ก็มาเจอร้านในซอยเล็ก ๆ อิ๋มกิน bibimbab (ข้าวยำเกาหลี) 6,000 won ส่วนเพื่อนพันทิป กิน dakgalbi (ไก่ผัดซอสพริก) 7,000 won ตอนแรกก็ยำข้าวไม่เป็น ใส่มั่วค่ะ คลุก ๆ ไป ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ 555
พออิ่มเราก็เดินเล่นชมเมืองต่อ ก็เดินไปเจอป้ายหมู่บ้านวัฒนธรรมบุกชอน (bukchon hanok village) เลยเดินขึ้นแวะไปชมซักหน่อย เป็นหมู่บ้านโบราณที่ยังอนุรักษ์ไว้ มีคนอยู่จริงค่ะ ลักษณะบ้านก็คล้ายกับพระราชวัง แต่จะไม่หรูหราเท่า ชอบประตูของหลายบ้านเลยค่ะ สวยดี ที่สำคัญมีคีย์การ์ดด้วยนะเออ ทันสมัยสุด ๆ อิอิ
แล้วเราก็เดินหาพระราชวังชางด๊อก (changdeokkung palace) กันต่อค่ะ ก็ถามเด็กขายชานม เขาก็ให้แผนที่มา บอกให้นั่งรถเมล์ไป เราก็เดินไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่ ก่อนถึงป้ายรถเมล์ รถดันมาถึงก่อน แล้วก็จากเราไป..T^T มองแผนที่ เหลืออีกนิดเดียว เลยเดินต่อให้ถึงค่ะ ปวดเท้ามากกกก ฮือ...
แท่นแท๊นนนน... แล้วก็เดินมาถึงพระราชวังชางด๊อก ประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว แดดกำลังดีค่ะ ตอนแรกก็ปรึกษากัน จะเข้าดูดีมั้ย ภายในก็น่าจะเหมือนกัน เอาไปเอามา เอาว่ะ ไหน ๆ ก็ดั้นด้นเดินมาถึงแล้ว ก็เข้าไปชมหน่อยละกัน บัตรเข้าชม 3,000 won (ค่าเข้าชมสวนลับบีวอน 5,000 won อิ๋มไม่เข้าชมค่ะ)
เดินชมพระราชวังชางด๊อก แบบเพลีย ๆ เพราะเดินมาเกือบทั้งวันแล้ว แต่ก็ได้เห็นมุมสวย ๆ อยู่เหมือนกัน ลักษณะพระราชวังคล้ายกันค่ะ แต่ภายในพระราชวังชางด๊อกดูมีสีสันกว่านิดนึง อาณาบริเวณ ก็กว้างพอสมควร เดินไม่ไหวค่ะ เลยถ่ายรูปมาให้ชมเท่าที่ได้ค่ะ
เสร็จจากพระราชวังชางด๊อก เราก็อยากไปเที่ยวดู คลองชองเกยชอน (cheonggyecheon stream) อันเลื่องลือ แต่หาในแผนที่แล้วพิกัดมันสับสนไงไม่รู้ ก็เลยเดินทางไปมั่ว ๆ นั่ง MRT สาย 5 สีม่วง จากสถานี anguk ไปลงสถานี euljiro 4 ga ใช้ T money แตะโลด ค่าโดยสารแต่ละครั้งเริ่มต้นที่ 1,050 won ค่ะ เดินไปหาทางออก (จำไม่ได้ exit อะไร) ข้ามถนนเล็กน้อย เจอแล้วววว! คลองชองเกยชอน แต่เอ๊ะ! ทำไมไม่เหมือนในรีวิว ทำไมมีแต่ต้นไม้ คลองนิดเดียว ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจแถวนั้น เขาก็บอกนี่แหละคลอง เขาพูดอังกฤษไม่ได้ แต่ก็พยายามช่วย บอกให้เดินลงไปที่คลอง มีสองทางให้เดิน ซ้ายกับขวา ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ก็เลยเดินมั่วไปค่ะ คนเดินกันเยอะนะ เส้นทางยาวมาก แต่เราเดินกันจะไม่ไหวแล้ว ถ่ายรูปคลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เดินกลับ (คราวหน้าค่อยมาใหม่ละกัน T^T)
เดินคลองกันเสร็จ ก็ค่ำแล้ว เลยจะไปหาไรกินและไป shopping ที่เมียงดง นั่ง MRT สาย 3 สีส้ม จากสถานี euljiro ไปต่อ MRT สาย 4 สีฟ้า ลงสถานี myeongdong เดินไปตามทางออก myeongdong market ขึ้นมาจากสถานีปุ๊บ อากาศเย็นปะทะ หนาวเอาเรื่องค่ะ ใครบอกอากาศเย็นสบาย มันไม่จริ๊งงง! นี่มันหนาวแล้วนะ! 11 องศาเนี่ย < ที่ตลาดเมียงดง ร้านเครื่องสำอางเยอะจริง ๆ ค่ะ มีหลายสาขาในแหล่งเดียวกัน ร้านเสื้อผ้าก็เยอะ มีของขายตั้งตามถนนเยอะแยะเลย ทั้งของฝาก ของกิน เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ ตอนแรกจะเดินหารองเท้าใส่สบาย ๆ ซักคู่ เพราะเท้าระบมมากค่ะ แต่แพงเกิน 20,000 won อัพ เลยต้องทนเดินเหยียบส้นไปค่ะ T^T แล้วเราก็เดินหาของกินไปเรื่อย ๆ เอาตามซุ้มเล็ก ๆ นี่แหละ ได้กินหลากหลายดี มื้อเย็นนี้ ได้ทานขนมดังที่ขึ้นชื่อตามรีวิวต่าง ๆ (ไม่รู้เรียกว่าอะไร) เป็นแป้งเหนียวๆ ใส้น้ำตาลแดง บางคนก็บอกน้ำผึ้ง 2,500 won อร่อยดีค่ะ และได้เกี๊ยวซ่ามาด้วย 2,000 won อร่อยดีเหมือนกัน และก็ขนมปลาใส้ครีมเผือกมั้ง 2,000 won ค่ะ อร่อยๆๆ ไปหมด อิอิ
อิ่มอร่อยก็เดินช็อปหาเครื่องสำอางที่เพื่อนฝากซื้อ รวมถึงของตัวเองด้วย แต่ละร้านนำเสนอโปรโมชั่นกันสุด ๆ ไปสอยมาหลายตัวเลย อิอิ โดยเฉพาะร้าน skinfood ของแถมเยอะมากกกก! แล้วก็เดินซื้อของฝากกันเรื่อยเปื่อยค่ะ กว่าจะได้กลับที่พักก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว ก็นั่ง MRT สาย 4 สีฟ้า จากสถานี myeongdong ไปต่อ MRT สาย 3 สีส้ม ไปลงสถานี jongno 3 ga กลับโรงแรมค่ะ
วันนี้เล่นเอาเพลีย เจ็บเท้า แต่ก็สนุก เพลิน ได้เห็นสถานที่วัฒนธรรมเกาหลีต่าง ๆ ได้ไปที่อยากไป ได้เดินทางไปมั่ว ๆ แต่ก็ถึงที่หมายด้วยตัวเอง ทริป Day 3 วันต่อไป “เกาะนามิ” จะเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามเร็ว ๆ นี้นะคะ ^_^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)