วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หาเพื่อนร่วมเดินทางแบบ Backpack ไปวังเวียง หลวงพระบาง ช่วงเดือน ธค 57 หรือ มค 58 มีใครสนใจไหมครับ?? 😊😊

ยังไม่แพลนใดๆครับ อยากไปแบบลุยๆ

แบกเป้รุงรัง เที่ยวลาว เวียงจันทน์-หลวงพระบาง-วังเวียง 5 วัน 6 คืน งงอะดิ 5 วัน 6 คืนจริงๆ ตัวคนเดียวด้วยกิกิ



สวัสดีครับ นี่คือการรรีวิวครั้งแรกของผมเลยนะเนี่ย อิอิ ยืมรหัสพี่สาวมาอีกตั้งหาก เนื่องจากผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศลาว
เมื่อวันที่ 14 กลางคืน ถึงวันที่ 19 ด้วยตัวคนเดียวถือว่าเป็นการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกของผมเลย
และก็เป็นการ Backpack ครั้งแรกในชีวิตด้วยเหมือนกัน เพราะปกติแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ทำงานเป็นแรงงานทาสสสสสส
แล้วพอดีเมื่อวันที่ 14 ถึง 23 พ.ย. 2557 นี้ ผมปิดเทอมพอดีหลังจากใช้ชีวิตยืดยาว ทำงานและเรียนติดต่อกัน
ตั้งแต่จันทร์ถึงวันอาทติย์ ไม่ได้หยุดพักเลย บางวันขึ้นงาน 6.30 เลิกก็เที่ยงคืนแบบนี้ประจำ ในเมื่อมีโอกาสแล้วผมจึงเลือกที่จะไปเที่ยวสักที่หนึ่ง
ผมเลือกที่จะไปประเทศลาวครับ เนื่องจากไปง่าย และใกล้ดี อีกทั้งยังใช้เวลาไม่นานด้วย(มั้ง ผมหลับตลอดการขึ้นรถเลย)

ตื่นเต้นมากครับ เกิดมาจนอายุ 23 บอกเลยว่านอกจากการนั่งรถทัวร์เข้า กทม. แล้วผมแทบไม่เคยนั่งไปจังหวัดอื่นเลย
อีกทั้งเป็นคนกลัวรถสองแถว รถเมย์ รถตู้อะไรแบบนี้มาก ถ้าไม่ใช่ทัวร์ หรืออะไรที่แบบว่าขับเรื่อยๆ ผมไม่กล้านั่งเลย 555+ (โรคกลัวหลงทางนะ T^T)
ปกติไป กทม. ก็จะนั่งรถแท็กซี่ตลอด เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่หลงนะ 555+
ดังนั้น ครั้งนี้เหมือนเป็นการท้าทายจิตใจผมน่าดูเลยนะคับ เนื่องจากต้องนั่งรถเองหลายต่อเพื่อไปเที่ยวแล้ว และต้องนั่งรถในประเทศอื่นอีก ลังเลมากกกกกกกกกกกก ตอนแรกวันที่จะไปเกือบตัดสินใจไม่ไปแล้ววววว เพราะคิดไปคิดมา กลัวววว ถ้าหลงทางจะทำยังไงดีนะ แต่ด้วยความคิดที่ว่า เอาวะ!!!! ครั้งแรกในชีวิต เป็นไงเป็นกัน

โทรหาแม่เลยครับ แม่อนุมัติการเดินทาง เก็บข้าวของ ระหว่างที่รอให้ถึงวันเดินทางตื่นเต้นมากเลยครับ นับวันถอยหลัง สอบแล้วเดินทางกันเลยทีเดียว

เริ่มกันเลยละกันดีกว่านะครับหลังจากฟังอะไรเวิ่นเว้อมานานมากกกกกๆ
***เรามาดูของที่จำเป็นต้องพกติดตัวไปกันดีกว่าครับ
1.เสื้อผ้า กางเกงใน ยกทรง(อันนี้ผมไม่มีนะครับ อย่าเข้าใจผิด)
2.แว่นกันแดด
3.หมวก
4.ครีมกันแดด
5.รมคันเล็กๆ
6.เครื่องอาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน โฟมล้างหน้า ยาสระผม
7.กล้องถ่ายรูป (กรณีผมเป็น Iphone 4 ธรรมดาครับ ไม่มีงบซื้อ และขี้เกียจแบกครับ)
8.Power Bank ของผม 2800 ชาร์จได้ครั้งเดียว แต่ไม่ซีเรียสครับ ปกติไม่ค่อยเล่นอยู่และ
9.ขาดไม่ได้ครับ ไปคนเดียว ต้องมีไม้ Selfie และ Remote ด้วยเพื่อใช้ถ่ายภาพตัวเอง 555+
10. Passport (ห้ามลืมเด็ดขาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด*********** ดอกจันตัวโตๆ)
11.เงินครับ สำคัญที่สุดในการเดินทางแล้วนะเนี่ยยยย ครั้งนี้ได้งบประมาณจากทางบ้าน มีเงินติดตัวไป 8000 บาทถ้วนครับ กะใช้ไม่เกินนี้นะครับ
12.ไฟฉายครับเพื่อยามจำเป็น
13.หูฟัง จำเป็นมากกกกกกกก เวลาเดินทาง เพราะไม่อยากได้ยินเสียงเครื่องยนต์บ้าง อะไรงี้ครับ
14.ถ้ามี Ipad โหลดหนังการ์ตูน อะไรก้อตามแต่แล้วแต่ชอบครับ ใส่ไปด้วยก็ดีครับ เวลาเดินทางบางครั้งมันยาวนานนิดหน่อย อาจจะเบื่อกันได้

หลังจากเตรียมของเสร็จแล้ว เราได้กระเป๋าเป้ Backpack เก่าๆของผมที่ใช้ตั้งแต่ปี 1 ตอนนี้ปี 5 และเก่ามากกกกกก เอากลับมาใช้ยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิมครับ พอผ่านการซักในรอบ 5 ปีนี้ สภาพนี้อย่างใหม่อะ
..........ครับผมเรียนและทำงานอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์แหละ ดังนั้นการเดินทางของผม จึงเริ่มจากจังหวัดนี้ ไม่ได้เริ่มจาก กทม เหมือนกระทู้อื่นเขานะครับ
ผมเดินทางวันที่ 14 พย. 2557 เวลาประมาณ 3 ทุ่มด้วยรถทัวร์ของบริษัท เพชรประเสริฐทัวร์ครับ สาย เชียงใหม่-อุบลราชธานี เวลา 21.30 น ครับ
ตื่นเต้นมากๆเลย วันแรก ขนาดรถทัวร์ยังไปขึ้นแทบไม่ทัน 555+ พอดีคนที่จะไปส่งเค้าบังเอิญลืมนะคับ ต้องให้คนในหอไปส่งแบบ Emer กันเลยทีเดียว
พอวิ่งไปถึงรถทัวร์เค้าประกาศชื่อผมทันที อายมากกกกกกกก T^T กลับตัวไม่ทันแล้ววววว ทำไงได้

ช่วงนี้ยังไม่มีภาพอะไรมากนะคับ เนื่องจากกำลังงงๆ
- อ่อ ผมไม่มีกล้องอะไรเลยครับ มีแค่ Iphone 4 ธรรมดา กับ PowerBank ขนาด 2800 ธรรมดามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
พอดีไม่มีงบซื้อ 555+ แต่โอเคครับผมไม่ได้ซีเรียสอะไรสักนิดเลย มีไอโฟนเก๋ๆเครื่องเดียวพอแล้วววว กิกิ

ผมเดินทางออกจากจังหวัดอุตรดิตถ์เวลา 21.30 น ในวันที่ 14/11/2557 ครับ ระหว่างทางผมหลับตั้งแต่นั่งลงเนื่องจากความเหนื่อยล้าหลังสอบ ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปขนาดสอบ Oral กับ OSCE สามข้อ ยังเหนื่อยได้ขนาดนี้(หราาาา) ตื่นอีกที ก็จังหวัดอุดรธานีแล้วครับเวลา 04.40น.

จังหว่ะนี้บอกเลยว่าตื่นเต้นมากกกกกกกกกกกกกจริงๆ พอลงรถที่หน้าบริเวณ Central อุดรธานี จะมีตู้ Van Station ที่บริเวณลานจอดรถหน้า Central อุดรธานีพอดีเลยครับ ซึ่งตอนนี้ต้องซื้อตั๋วรถตูต่อจากอุดรไปที่ จ . หนองคายครับ
-- ระยะทางระหว่างท่ารถตู้อุดรธานี ถึง ด่านจังหวัดหนองคาย ราวๆ 50 กม.ครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-45 นาที
ถ้าใครขาแข็งแรงจะวิ่ง จะเดิน ไปก็ได้นะครับ (หลอกกกกกกก) อิอิ อย่าเสียเวลาครับ ขึ้นรถตู้ไปเลย บอกเค้า ลงหน้าด่านเลยลุง
-- รถที่ผมได้เป็นรถตู้ขนาด 12 ที่นั่งครับไม่กว้างมาก รอบ 5.30 น . คนเต็มรถพอดีครับ ไม่มีที่วางของต้องวางของบนตัก
-- ระหว่างทางจะมีด่านครับ เค้าจะขอดูบัตร ปชช หรือ passport ก็เปิดให้เค้าดูปกติครับ แล้วเราก็จะผ่านไป
--หลังจากรถวิ่งได้สักพักก็จะมาถึงด่านผ่านแดน ไทย-ลาว ครับ ตอนนั้นเช้ามากกกกกกกกก คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ พอลงรถ ให้เราเดินไปยังจุดผ่านแดนช่องซ้ายมือมือครับ เป็นขาออกจากประเทศไทย

*******มาถึงช่วงผ่านแดนครับ สิ่งที่เราต้องเตรียมคือ*******
-Passport
- เขียนบัตร Immigration Department ของประเทศไทยครับซึ่งจะมีสองส่วน มีขาเข้า และ ขาออก
------- หลังจากเขียนเสร็จแล้ว ให้ไปยื่นที่ช่องผ่านแดนครับ จนท จะทำการดึงบัตร ขาออกของเราไป ให้เราเก็บบัตรส่วนขาเข้า เอาไว้ให้ดีจนวันกลับนะครับ(เพื่อความไม่เสียเวลาตอนกลับ)***

หลังจากผ่านจุดแดนประเทศไทยมา เราก็ชิวแล้วครับ พอเดินออกจากประตูจุดผ่านแดนไทย จะมีจุดขายตั๋วรถเมย์ข้ามสะพานผ่านแดน ราคาคนละ 15 บาทครับ มีรถออกตลอด พอซื้อตั๋วเสร็จก็สามารถเดินไปขึ้นรถที่จอดรอได้ทันทีเลย ง่ายมากๆครับ


อันนี้ภาพระหว่างข้ามสะพานไทย - ลาว เวลาประมาณ 7.00 น ครับ เช้ามากกกกกกกๆๆ
อิอิ สวยงามและตื่นเต้นครับ


--พอรถวิ่งออกได้มาประมาณ 5 นาทีก็จะถึงด่านประเทศลาวครับ
ขั้นตอนผ่านแดนประเทศลาวจะค่อนข้างเยอะหน่อยครับ
ต้องตั้งใจฟังดีๆนะครับ

พอลงรถมาหน้าด่านลาวจะมีสามล้อมารุมเราเยอะมากๆๆๆๆๆๆ เราอย่าไปสนใจนะครับเดินตรงไปที่ตู้แรกเลย
----ตู้แรกจะขายบัตร ผ่านประตู One Way Ticket ราคาประมาณ 20 บาทได้มั้ง (เรื่องราคาผมจำไม่ได้สักเท่าไหร่ไม่ได้จดเลยครับ ตอนนั้นยังๆ ราคาเงินบาทกับกีบอบู่เลย)
---- หลังจากซื้อบัตรเสร็จ ให้เราเดินต่อไปตู้ที่สองเพื่อรับบัตร ผ่านแดนเหมือนประเทศไทยเลยครับ

มีให้เขียนสองส่วนขาเข้า - ขาออก
ให้เราเขียนบัตรส่วนขาเข้าและออกไว้เลยครับ
หลังจากนั้นก็แนบกับ passport และยื่นให้ตู้ที่สองครับ และส่วนนี้เราก็จะเสียตังอีก ประมาณ 20 บาทมั้งครับ
555+ ผมจำราคาไม่ได้เท่าไหร่ เค้าจะดึงบัตรขาเข้าเราไว้ แล้วให้เราเก็บบัตรขาออกไว้เหมือนประเทศไทย (เพื่อความรวดเร็วในตอนกลับ)

--พอยื่นบัตรเสร็จก็เดินตรงไปเรื่อยๆ จะไปถึงจุดที่เราต้องใช้บัตร One Way Ticket หยอดเข้าตู้เหมือนขึ้น BTS บ้านเราเลย
พอหยอดเสร็จเดินไปเลยนะครับ ไม่ต้องรอรับบัตร 55555+ (คือผมรอรับบัตรหน่ะ _<")

เท่านี้เราก็เข้าประเทศลาวได้แล้ว เย่ๆๆๆ
**** อ่อๆ passport เราจะได้ตาปั้มแบบนี้เมื่อผ่านด่านลาวด้วยนะครับ



*****ฟังดีดีนะครับหลังจากออกจากประตูที่ต้องใช้บัตรแล้ว จะมีพี่สามล้อมารุมล้อมเราเหมือนเราเป็นนางเอกหนัง AV (ประมาณนั้น) เราอย่าไปสนใจครับเดินผ่าไปเลย ซ้ายมือเราจะมีธนาคารครับ แต่เปิด 9.00 น นะครับ ค่าเงินตอนนั้น 1 บาท = 247 กีบ แต่ตอนนั้นเพิ่งจะ 7.30 น ได้ เราเลยยังแลกเงินไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะครับ เรายังสามารถใช้เงินไทยได้ เย๊ๆๆๆๆๆๆ

หลังจากเดินผ่านธนาคาร เราข้ามถนนไปทางขวามือครับเดินไปขวามือยังไงก็ได้
จะเจอรับป้ายรถเมย์ อยู่ที่ฟุตบาท ขวามือครับ และจะมีรถสีเขียวๆ คือแบบเขียวทั้งคันนะคับ
มันจะจะเขียนที่รถตัวเล็กๆว่า From peoples of Japan อะไรสักอย่าง ขึ้นไปเลยครับ
นั่งตรงไหนของรถก็ได้ จะเกาะล้อรถก็ได้ แหะๆ ผมอำนะ

พอขึ้นรถแล้วก็นั่งรอไปครับ จะหลับก็ได้ รถจะออกเมื่อนาง อยากอออกครับ
พอรถออกจะขับด้วยความเร็วประมาณ 41.4 กม/ชม. ได้ และจะจอดรับ ผดส. ตลอดทางครับ
แต่ผมโอเคดีนะ ได้มองเมืองเวียงจันทน์ไปด้วยเรื่อยๆ สบายดีครับไม่ซีเรียส

-- ถามผมว่านี่คือการนั่งรถเม ในรอบกี่ปี บอกได้เลยครับ 5 ปี ตั้งแต่เรียนปี1 ผมไม่เคยข้นรถเมเลยแหละ 555+ คือเรียนที่พิษณุโลกตอนปี 1-3 เวลากลับบ้านก็กลับรถส่วนตัวกับเพื่อนหน่ะ พอปี 4-6 ต้องมาเรียนที่อุตรดิตถ์ ก็ใช้รถส่วนตัวตลอด ดังนั้นระหว่างนั่งรถเมในเวียงจันทน์นี่บอกเลย "โครตตื่นเต้นอะ"
นั่งทำหน้าเหมือนเคยมาบ่อย อะไรประมาณนั้นแหละ 555+

-- รถเมย์วิ่งจะมาถึงท่ารถในเวียงจันทน์ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีครับ จะจอดปลายสายที่ท่ารถเลยหล่ะ
*** ค่าโดยสานประมาณ 20-40 บาทละมั้งครับ ผมไม่แน่ใจอีกแล้ว!!!! 5555+ ตอนนั้นก็ยังงงๆค่าเงินเลย


**เดี๋ยวมาต่อนะครับ
***ไม่ค่อยมีรูปอะไรมาก เพราะยังไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรเท่าไหร่เลยนะครับ T^T ขอโทษด้วย แต่ถ้ามีอะไรสงสัยผมตอบได้ผมจะตอบนะครับ ชื่อสินค้า:   ลาวเหนือ เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง คะแนน:      **SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ

6 เหตุผล “ทำไม” Tokyu Hands สิงคโปร์ จึงน่าช็อปกว่า “ญี่ปุ่น”!!!



อีกหนึ่งร้านที่ “เขยิบ” เข้ามาใกล้เราอีกนิดแล้วค่ะ
Tokyu Hands ห้างสรรพสินค้าสร้างสรรค์ เอกลักษณ์ของญี่ปุ่น เปิดสาขาที่สิงคโปร์แล้ว!!!

ฉันแวะไปเดินชมมาเมื่อคืนก่อนนี้ …ในระหว่างที่เดินดู ความคิดหลายๆอย่างก็ผุดขึ้นมา
หนึ่งในนั้นคือสินค้าของ Tokyu Hands สิงคโปร์ น่าซื้อแทบทุกชิ้น และยิ่งไปกว่านั้นมันน่าซื้อกว่าญี่ปุ่นอีกด้วยนะ?

------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเพจของเราได้ที่ www.facebook.com/thaifootprint
หรือสมัครรับข้อมูลท่องเที่ยว www.thaifootprint.com คร้า

------------------------------------------------------------------------------

1…
พื้นที่ของ Tokyu Hands สิงคโปร์เล็กกว่าญี่ปุ่นมากโข สินค้ามหศัจรรย์เหมือนที่ดึงออกมาจากกระเป๋าโดราเอมอน จึงต้องคัดเฉพาะรุ่นเด็ด Best Seller เท่านั้น ที่จะได้มาวางขาย

โชคดีจึงเป็นของลูกค้า ประหยัดเวลา ไม่ต้องควานหาแต่ละชั้นแต่ละมุมเหมือนที่ญี่ปุ่น

ของเด็ดๆจะถูกว่างที่หัวชั้น เช่น แปรงสีฟันนาโน ผงย้อมสีผมมหัศจรรย์ กรรไกรตัดเล็บแว่นขยาย … ฯลฯ


แปรงสีฟันนาโน


ยาย้อมผมมหัศจรรย์

2…
ทุกชิ้น ทุกอย่าง มี “คำแปล” ภาษาอังกฤษ!!! โอ้แม่เจ้า ไม่ต้องเดาจาก verb และภาษาญี่ปุ่น ที่ข้างกล่องกันอีกต่อไป!!!! คราวนี้แหละเข้าใจทุกชิ้น มีคำแนะนำทุกสเต็ป … สวรรค์ของฉัน แต่นรกของคุณสามีค่ะ



3…
มีแยกสินค้า “The Japan Difference” ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ และ “First Time in SG” ให้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าเหล่านี้ก็ต้องเป็นครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน เพราะ Tokyu Hands มีสาขาที่สิงคโปร์ประเทศเดียวเท่านั้นในภูมิภาคนี้!!!





------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเพจของเราได้ที่ www.facebook.com/thaifootprint
หรือสมัครรับข้อมูลท่องเที่ยว www.thaifootprint.com คร้า

------------------------------------------------------------------------------

4…
เป็นอาณาจักรของเครื่องเขียน คนรักงานวาด อย่างไม่ต้องสงสัย กำแพงปากกากว่าห้าสิบแบบ พร้อมคำอธิบาย สมุดโน็ตปกเก๋ๆ สติกเกอร์สุดน่ารัก ตัวสแตมป์ที่อยากครอบครอบแทบทุกแบบ … เห็นแล้วก็อยากกวาด เป็นเจ้าของทุกชิ้นเลยค่ะ







5…
มีเครื่องสำอางที่สาวญี่ปุ่นไว้วางใจให้เลือกซื้อมากมาย สาวไทยเห็นแล้วกรี้ดเสียงแหบกันแน่นอน และที่สำคัญมีครีมพอกหน้า “เต้าหู้” ที่สาวไทยติดใจด้วยค่ะ





6…
ของขบขัน ตลกโปกฮา แต่แฝงนัยซีเรียส ก็มีขายตามสไตล์คนญี่ปุ่น เช่นหน้ากากประธานาธิบดี โอบามา หรือนายกรัฐมนตรีชินโซอาเบะ เข็มกลัดตัวการ์ตูนที่วาดจากฝีมือของศิลปินญี่ปุ่น ตุ๊กตาฟูจิโก๊ะ หรือสาวน้อยเกาะแก้วที่กำลังฮิตนักหนาก็มีให้หาซื้อกันค่ะ







------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเพจของเราได้ที่ www.facebook.com/thaifootprint
หรือสมัครรับข้อมูลท่องเที่ยว www.thaifootprint.com คร้า

------------------------------------------------------------------------------

ที่ตั้ง B1 Orchard Central
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Somerset
เปิด ปิด 10.00-22.00 น. ทุกวัน ชื่อสินค้า:   ช็อปปิ้งสิงคโปร์ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว