วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557
เซตันร่วมกับองค์กรญี่ปุ่น จัดเทศกาลอาหารและการท่องเที่ยวในชูบุ 3 – 13 ต.ค. นี้ เป็นครั้งแรก
ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ร่วมกับองค์กรต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น จะจัด เทศกาลอาหารและการท่องเที่ยวในชูบุ (Chubu Food & Tourism Fair 2014) เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 3 - 13 ตุลาคม ศกนี้ ที่ลานจัดงานชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารแปรรูป และสินค้าเกษตรจาก 5 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ นากาโนะ, กิฟุ, ชิซุโอะกะ, ไอจิ และมิเอะ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นพิเศษที่เรียกกันว่า “เส้นทางมังกร” (Dragon Route)“ชูบุ” เป็นพื้นที่ภาคกลางของประเทศ จังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคนี้มีลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ความหลากหลายนี้ทำให้สามารถผลิตสินค้าทางการเกษตรที่สดใหม่และมีรสชาติอร่อยได้ตลอดปี อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารทะเล โดยมีทั้งจังหวัดชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่อากาศร้อนชื้นในฤดูร้อนและเย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิ ตอนกลางเป็นดินแดนแห่งแนวเทือกเขาสูงอันเป็นที่ตั้งของ แจแปนแอลป์ แหล่งเล่นสกียอดนิยมแห่งหนึ่ง ตอนล่างเป็นจังหวัดชายฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิก มีอากาศอบอุ่น เป็นที่ตั้งของ ภูเขาไฟฟูจิ ที่สูงที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ทั้งยังมีชื่อเสียงเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศ และเป็นฐานการผลิตของธุรกิจมากมายที่มีอยู่ในประเทศไทย ทั้งรถยนต์ เครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูป เครื่องบิน ฯลฯ อาหารขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดที่จัดมานำเสนอเพียงที่นี่ที่เดียวในมุมอร่อยแบบชูบุแท้ๆ ได้แก่ “อาหารสไตล์นาโงย่า” ที่โด่งดัง, “Hitsumabushi” เป็นอาหารที่สามารถทานได้ง่าย, “Iga Kuroge Wagyu” เนื้อวัวชั้นเลิศนุ่มละเอียด ความหวานอร่อยจะละลายในปากทันที, “Taiwan Ramen” ยอดนิยม, ปลาไท้ ที่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยด้วยวิธีเฉพาะเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด, ปลาทอด ด้วยน้ำมันรำข้าว ทำด้วยมือทีละชิ้นโดยไม่ใช้สารสังเคราะห์ใดๆ, “Oni Manjyu” ขนมท้องถิ่นของจังหวัดไอจิ รวมถึงของหวานและขนมนานาชนิด ผักผลไม้ต่างๆ ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ทั้งอาหารสดและอาหารแปรรูปส่งตรงจากชูบุ สาธิตการแล่ ปลามากุโระ โดยสามารถระบุส่วนที่ต้องการซื้อได้, สินค้าเอกลักษณ์ของ ชิซึโอกะ ที่เป็นแหล่งปลูกวาซาบิคุณภาพดีที่สุด และยังเป็นปลูกและดื่มชามากที่สุดในญี่ปุ่น มีทั้ง วาซาบิดอง โดดเด่นด้วยรสชาติและความหอมจากการหมักด้วยกากเหล้าสาเกนานนับปี และ ชาชั้นเลิศ ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านชา ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือก แปรรูป และส่งออกจำหน่าย เทศกาลอาหารและการท่องเที่ยวในชูบุนี้ จัดขึ้นเป็นพิเศษครั้งแรกในประเทศไทยเฉพาะที่อิเซตันเท่านั้น
อยากจะไปเที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิก ช่วยแนะนำให้หน่อยคะ
อยากไปเที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิก มากๆๆ แต่ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลยคะทางภาคเหนือ เราอยู่ภูเก็ตก็จะไปลงเครื่องที่ดอนเมืองคะ จะไปกับเพื่อน 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่คะ ดูรีวิวในพันทิปมานานเลยอยากจะไปหาประสบการณ์ด้วยตัวเองบ้างคะ หลังจากเพิ่งเรียนจบคะ อยากจะไปขึ้นเขาลงห้วยบ้าง เพราะอยู่แต่ภูเก็ตก็ได้เที่ยวแต่ทะเลและเกาะต่างๆๆไปเที่ยวจนหมดแล้ว
ขอแชร์ประสบการณ์ให้หน่อยนะคะ ขอบคุฯคะ
ที่พัก เลค เฮฟเว่น กาญจนบุรี
สวัสดีค่ะ
จะรบกวนขอคำแนะนำเกี่ยวกับที่พักที่เลค เฮฟเว่น ค่ะ ว่ามีที่พักชื่ออะไรบ้าง มีกี่ที่ พอดีเราหาในเว็บเจอแค่ไม่กี่ที่ หรือใครมีเคยไปมาแล้วสามารถแนะนำได้ค่ะ (พักประมาณ 10-15 คนค่ะ) อยากได้แบบหลังเดียวพักรวมกันค่ะ หรือถ้าแยกหลังขอประมาณหลังละ 8 คนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
5 วัน 4 คืนกับ The Wizarding World of Harry Potter, Orlando USA ชีวิตมักเกิ้ลใน Hogsmeade และตรอก Diagon Alley
สวัสดีค่าาา
วันนี้มาพาไปเที่ยวอีกแล้ว เรียกว่าเที่ยวทิ้งทวนก่อนกลับไทยเลยก็ได้ เนื่องจากเหลือเวลา
อีกไม่ถึง 3 อาทิตย์ที่ออนจะอยู่เมกา และเตรียมบินกลับไทยหลังจากเรียนจบ ดังนั้นเรื่องเที่ยว
นี่ขาดไม่ได้ เพราะไหนๆบินมาไกลถึงอเมริกา คนละซีกโลกแล้ว ก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม คราวนี้
เป็นทริปที่ตื่นเต้นมากกก เรียกว่าตื่นเต้นน่าจะเกือบที่สุด (ตื่นเต้นพอๆกะตอนไป New York) เลย
เพราะว่าทริปนี้เป็นทริป 5 วัน 4 คืน ที่จะได้ไปตะลุย The Wizarding World of Harry Potter
ใน Universal Orlando รัฐ Florida นั่นเองค่ะ ที่ผ่านมา Universal Orlando ได้เปิดบริการ
ในส่วน Hogmeade มาได้ซักพักแล้ว แต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ได้เปิด Diagon Alley หรือ
ตรอกไดแอกอนใหม่ ทำให้มันบูมมากกกกก และออนต้องไปให้ได้
ออนเห็นคนไทยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกันมาเยอะ แต่ไม่ค่อยเห็นคนไทยมาที่ Orlando เท่าไหร่
แม้กระทั่งตอนไปเที่ยวก็ไม่เจอคนไทยเลย มีแต่ฝรั่ง ดังนั้นเลยจะมาเขียนให้อ่านกันค่ะ บอกไว้
เลยว่าบล็อกนี้จะยาวมาก เพราะอัดเต็มทั้งรูปและวีดีโอ คือมันประทับใจจริงๆ เลยอยากถ่ายทอด
ประสบการณ์ความประทับใจ ความสนุกที่มีออกมาให้หมด คนอ่านจะได้เหมือนไปเที่ยวด้วยกัน
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
แฟนออนซื้อเป็น Package รวมตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก-ตั๋วเข้า-สิทธิพิเศษอื่นๆจากทางเว็บ
ของเค้าโดยตรงค่ะ เพราะว่าลองเช็คกันมาทุกวิถีทางแล้ว ว่าจะมีทางอื่นถูกกว่ามั้ย สรุปว่า
ไม่มี (ในกรณีที่จะเอาพวกสิทธิพิเศษให้ครบนะคะ ถ้าจะเอาแค่ตั๋วเครื่องบินกับที่พัก จองที่
อื่นมีถูกกว่าค่ะ) ซึ่งอันนี้คือแพ๊คเกจที่จองไป
อันนี้เป็น Exclusive Vacation Package นะคะ เป็นทริปที่แพงที่สุดที่เคยไปเที่ยวกัน
แต่เป็นทริปที่คุ้มมาก สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ราคาสำหรับ 2 คน อยู่ที่ ,500
(ประมาณ 80,000 บาท)
และใน 5 วันนี้ ก็มี Pocket Money อีก 00 (30,000 กว่าบาท) สำหรับ 2 คน
สำหรับการใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากนั้นเช่นอาหารเย็น หรือซื้อของที่ระลึกต่างๆ
แพ๊คเกจที่จะไปมีรายละเอียดตามนี้ค่ะ
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับแบบ Direct flight จาก LAX-MCO
(บินตรงจาก LA ไปถึง Orlando) ครั้งนี้บิน Delta Airlines ค่ะ
- ห้องพักที่โรงแรม 4 คืน ซึ่งโรงแรมที่เลือกคือ Loews Royal Pacific Resort เป็น
Deluxe On-Site Hotel จะราคาสูงกว่าอีก 2 แบบ แต่จะใกล้กับสวนสนุกโดยตรง
เดินทางสะดวก มี Water Taxi และ Shuttle Bus รับ-ส่งฟรี
- ตั๋วเข้าสวนสนุกแบบ Park-to-Park เป็นเวลา 3 วัน คือเข้าได้ทั้ง Universal Studios และ
The Island of Adventure (เพราะสวนสนุก 2 ที่นี้ติดกัน ถ้าซื้อตั๋วแบบเดียว จะเข้าได้ที่เดียว
ถ้าเป็นแบบ Park-to-Park จะเข้า-ออกได้ 2 ที่)
- อาหารเช้าที่ร้าน Leaky Cauldron หรือร้านหม้อใหญ่รั่ว 1 มื้อ (ต่อคน)
- อาหารเช้าที่ร้าน Three Broomsticks หรือร้านไม้กวาด 3 อัน 1 มื้อ (ต่อคน)
- Early Park Admission (สามารถเข้าไปเล่นสวนสนุกได้ก่อนเวลาที่สวนสนุกเปิดทำการ
1 ชั่วโมง ซึ่งเวลาที่เข้าไปเล่นได้คือตอน 7 โมงเช้า)
- Express Pass (บัตรที่ทำให้ลัดคิวมาได้เร็ว ถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้ซื้อ Express Pass
ก็จะต้องรอคิวนานหลายสิบนาที หรืออาจเป็นชั่วโมงๆ แต่ถ้ามี Express Pass จะมีเลน
ของมันเอง ทำให้บางทีไม่ต้องรอเลย หรือรอมากสุดแค่ 15 นาที ใช้ได้กับเครื่องเล่นแทบ
ทุกอัน ยกเว้นเครื่องเล่นใน The Wizarding World of Harry Potter อันที่เป็น
Harry Potter and The Escape from Gringotts กับ Harry Potter and The
Forbidden Journey นอกนั้นถ้าจำไม่ผิดใช้ได้หมดค่ะ) รู้สึกว่าออนได้ Express Pass
เพราะว่าจองโรงแรมที่เป็น Deluxe On-Site ซึ่งราคาสูงกว่าอันอื่น ทำให้ได้อันนี้
ไม่งั้นต้องซื้อแยก ซึ่งราคาอยู่ที่คนละ ต่อคน ต่อวัน ดังนั้นถ้ามากัน 3 วัน 2 คน
จะต้องซื้อแยกรวมเป็นเงิน 3 (ประมาณ 17,000 บาท) ดังนั้นบอกเลยคุ้มมากกกก
ที่ได้ฟรีเป็นโบนัส
- ได้ของที่ระลึกส่งมาถึงบ้านก่อนวันที่เดินทางประมาณ 3-4 อาทิตย์ ของที่ส่งมาจะมี
พวกตั๋วเครื่องเล่น ตั๋วกินอาหารทั้งหลาย ตุ๊กตานกฮูก Hedwig และ Welcome Letter to
Hogwarts เหมือนเวลาที่ Harry ได้รับจดหมายให้เข้าไปเรียน
- อาหารกลางวัน 3 วัน คนละ 1 มื้อ โดยใน 1 มื้อจะมีอาหารหลัก เครื่องดื่ม และของหวาน
ซึ่งสามารถใช้กับร้านที่ร่วมรายการได้ (และร้านหลายๆร้าน ที่ไม่ใช่พวกร้าน fine-dining
ก็จะร่วมรายการด้วย) อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ที่ได้จากการจอง Deluxe On-Site Hotel อีกเช่นกันค่ะ
- Airport Pick-Up ที่จะมารับจากแอร์พอร์ตไปส่งที่โรงแรม และจากโรงแรมมาส่งที่แอร์พอร์ต
ราคาถ้าจำไม่ผิดคนละ (รวมในที่จ่ายไปตอนแรก) ที่เหลือเราก็ให้ทิปเค้าประมาณ -
—————————————————————--
ตลอด 3 วันที่ไปเล่น ออนเข้าๆออกๆทั้งในส่วนของ Universal Studio, The Island of Adventure,
Hogsmeade และ Diagon Alley แต่ของเล่าเฉพาะในส่วนของ Hogsmeade และ Diagon Alley
นะคะ เพราะไม่งั้นจะยาวมาก ดังนั้นไม่ต้องสงสัยทำไมชุดไม่ซ้ำกัน เพราะถ่ายคนละวันค่ะ
เตรียมตัวขึ้นเครื่อง พาสปอร์ต และสัมภาระพร้อม
ออนถือพาสปอร์ตของไทย พร้อมกับวีซ่านักเรียนนะคะ ส่วนพี่โต้ถือสัญชาติอเมริกันค่ะ
มาถึงแล้วววววว วันแรกด้วยความตื่นเต้น กลัวใช้สิทธิ์ไม่คุ้ม เลยมา Early-Admission
ตื่น 6 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัว และใช้บริการ Water Taxi (เปิดให้บริการตอน 6.15) มาถึงทางเข้าตอน
7 โมงเช้าค่ะ เหตุผลที่มาเช้าเพราะวันแรกไม่รู้ว่าคนจะเยอะมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นเลยแพลนว่าจะไปเล่น
เครื่องเล่นใน The Wizarding World of Harry Potter 2 อัน ที่ไม่สามารถใช้ Fast Pass ได้ก่อน แล้ว
หลังจากนั้นก็ไปกินอาหารเช้าที่ได้จองไว้
เดินเข้ามาเรื่อยๆ จะเห็น King’s Cross Station ซึ่งจะเป็นจุดที่เราต้องไปชานชลาที่ 9 3/4
เพื่อจะไป Hogsmeade (ลืมบอกว่าเรานั่งรถไฟ Hogwarts Express จาก Diagon Alley ไป
Hogsmeade ได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถือบัตร Park-to-Park ticket เพราะว่าท้ัง 2 ที่อยู่คนละส่วน
กัน ถ้าซื้อบัตรแบบเดียว จะเข้าไม่ได้ค่ะ) แต่ยังไม่ได้ขึ้นเลย เพราะว่ารถไฟเปิดให้บริการตอน 9 โมง
เช้า ดังนั้นจะขอไปตะลุย Diagon Alley ก่อน
มาถึงแล้วววว ตรอกไดแอกอน เข้ามาจะเห็นร้าน Weasley’s Wizard Wheezes
ร้านขายของเล่นของตลกๆและแปลกๆของ Fred and George Weasley หรือพี่ชายของ Ron นั่นเอง
เดินตรงเข้ามาก็จะเห็น Gringotts Bank หรือธนาคารกริงกอตส์ ที่มีมังกรยักษ์เฝ้าอยู่แบบนี้
แต่สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการซื้อ ButterBeer กินนั่นเอง คือมาแล้ว ไม่ลองไม่ได้
ButterBeer จะมีทั้งหมด 3 แบบค่ะ
1. แบบเย็นธรรมดา (Cold) ราคา .50
2. แบบเย็นแช่แข็ง (Frozen) ราคา .50
3. แบบใส่แอลกอฮอลล์
ในมือที่ถืออยู่คือแบบเย็นธรรมดากับแช่แข็ง หลังจากลองกินแล้ว รู้สึกว่า
แบบเย็นธรรมดาอร่อยกว่า รสชาตนุ่มๆ ละมุนๆมากกว่า แบบแช่แข็งมันหวานแปลกๆ
ส่วนรสชาติที่หลายๆคนอยากรู้ว่าเป็นยังไง ใส่เบียร์กับเนยลงไปจริงๆรึเปล่า ..
บอกได้เลยว่าเปล่าค่ะ..เป็นอารมณ์แบบ Butterscotch หวานๆผสมครีมโซดา
และโปะด้วยฟอง ที่น่าจะทำมาจากนมผสมคาราเมลอะไรแบบนี้ คือหว๊านนน หวานนน
กินมากๆอาจเป็นเบาหวานได้ แต่เนื่องจากเป็นคนชอบกินอะไรหวานๆอยู่แล้ว
ดังนั้นสำหรับออนไม่ถือว่าเลี่ยนไป แต่ถ้าใครไม่ชอบกินหวาน.. แค่ 1 แก้วก็อาจจะ
เกินคำว่าเลี่ยนค่ะ
ราคาถ้าใส่แก้วธรรมดาแบบนี้ จะอยู่ที่ .50 ถ้าจำไม่ผิดนะคะ เพราะอันนี้ออน
ใช้สิทธิ์จาก Free Meal ของออน ดังนั้นออนเลยไม่ได้เสียเงินค่ะ
มาถึงแล้วกับร้านไม้กายสิทธิ์ชื่อดังกับ Ollivander’s นั่นเอง
การเข้าร้านนี้เค้าจะพาเข้าไปเป็นกรุ๊ปเล็กๆ ประมาณ 10-15 คนไม่เกิน และสุ่มเลือกออกมา 1 คน
อารมณ์แบบ The chosen one ที่จะได้มาลองเสกคาถาต่างๆ เหมือนตอนที่ Harry ไปลองครั้งแรก
และบังเอิ๊ญญญญ บังเอิญ… เค้าเลือกออน !!!
ช็อกมากกกก ดีใจมาก ไม่เคยคิดว่าจะถูกเลือก เค้าจะให้เราเดินไปข้างหน้าตรงโต๊ะ พร้อมกับ
หยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา 1 อัน พร้อมกับเสกคาถา ของก็จะขยับแรงๆกุกกักๆ แล้วเค้าก็จะหยุดคาถา
หลังจากนั้นก็ลองอันที่ 2 ก็ขยับกุกกักๆเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ใช่ จนพอจับอันที่ 3 ก็จะมีเพลง พร้อม
แสงไฟลงมา อารมณ์แบบแสงจากสวรรค์ อารมณ์แบบ “อันนี้แหละ ใช่เลย” เสร็จแล้วก็เค้า
จะบอกว่า “The wand chooses wizard…it’s not clear why”
ชื่อสินค้า: The Wizard World of Harry Potter , Orlando
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
สถานที่พักผ่อน ใกล้กรุงเทพฯ
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปกันครับ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการระแวกบางปูครับ สถานที่แห่งนี้ในความรู้สึกจะมีลักษณะคล้ายรีสอร์ท หรือบังกะโลส่วนตัวสักหน่อย การตกแต่งให้ความรู้สึกคล้ายกับอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งของประเทศกรีก และสถานที่แห่งนี้คือ 180 บางปูบีชเฮาส์ครับ
180 บางปู บีชเฮาส์ เป็นบ้านพักตากอากาศครับจุดเด่นของที่นี่คือบรรยากาศครับ สถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบตกแต่งให้มีความ Relax สูง สงบ ร่มรื่นอยู่ในทัศนียภาพที่สวยงาม มองออกไปจะเห็นนกนางนวลบินวนโฉบไปโฉบมาอยู่ไกล ๆ เหมาะแก่การพักสมอง กาย – ใจ จากความวุ่นวายได้ดีครับ
ส่วนข้อเสียก็จะเป็นเรื่องการเดินทางต้องอาศัยรถส่วนตัวครับ เนื่องจากไม่มีรถโดยสารขนส่งมวลชน ในด้านอาหารการกินก็ค่อนข้างลำบาก ด้วยความที่สถานที่แห่งนี้สงบมากจึ่งไร้ซึ่งห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าขาย ส่งผลให้อาจเป็นอันตรายสำหรับสาว ๆ ที่เดินทางลำพังบริเวณนี้ในยามวิกาล
ถ้าหากใครได้มีโอกาสผ่านมาที่จังหวัดสมุทรปราการ ลองแวะมาพักผ่อน ทิ้งกาย – ใจ ไปกับทัศนียภาพแห่งนี้กันดูนะครับ 180 บางปู บีชเฮาส์
Credit ภาพ : http://www.180bangpu.com/gallery
https://www.facebook.com/180Bangpu
ชื่อสินค้า: 180bangpu
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
สอบถามเกี่ยวกับการจองบัตร Fujiko Fujio Museum ที่ Lawson ค่ะ
ในเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ ระบุว่า
“Tickets for the following two months become available on the 30th of each month”
ความหมายคือ เราสามารถจองได้ที่ Lawson ตั้งแต่วันที่ 30 เป็นต้นไป สำหรับการเข้าชมวันใดก็ได้ในอีก 2 เดือนถัดมา แบบนี้รึเปล่าคะ ?
สงสัยค่ะว่า กรณีที่สมมติเราจะเข้าชมวันที่ 6 ธันวาคม แปลว่า เราสามารถจองที่ Lawson ได้ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม ถูกต้องมั๊ยคะ
รบกวนช่วย confirm นิดนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
[Japan] สอบถามเกี่ยวกับสถานีรถไฟฟ้า
อยาทราบว่าเราจะหาดูข้อมูลของภายใน สนามบินนาริตะ และสถานี subway หรือ JR ได้จากข้อมูลตามรูปที่ไหนได้มั่งครับ
หาเพื่อนหารค่ารถเข้าสนามบินตรัง
มีใครต้องการใช้รถเข้าสนามบินตรังวันที่ 3 ตุลา โดยเราจะออกจากอนันตราสิเกา ตอนเที่ยงคะ
หลังไมค์มานะคะ แก้ไขข้อความเมื่อ
ท่องไปตามใจฝัน @ เสี้ยวหนึ่งของเมืองสิงห์บุรี Easy Lifestyle by ป้าเกษ inhouse
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆห้องบลูฯ
(ตัว)เมืองสิงห์บุรีเป็นเมืองที่ป้าเเกษเข้าใจผิดมานานว่า คงจะเล็กกว่าในตัวเมืองเมืองอ่างทองเป็นแน่แท้ เพราะไม่เคยเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองอย่างจริงจังซักครั้ง แต่เมื่อบังเอิญเคยเข้าไปค้างในตัวเมืองสิงห์มาครั้งหนึ่ง พบว่า ภายในตัวเมืองกว้างใหญ่กว่าตัวเมืองอ่างทองมากเหมือนกัน
อย่างครั้งนี้ก็เช่นกัน ป้าเกษก็แค่มีเวลาได้เลาะเล็มเดินถ่ายรูป แถวแนวตะเข็บเมื่องสิงห์ที่ไม่ไกลจากอ่างทอง เดินทางแค่ 30 นาทีก็ถึง อย่าง ตลาดเก่าร้อยห้าสิบปีปากบาง วัดพระนอนจักสีห์ วัดพิกุลทอง วัดโพธิ์เก้าต้น เท่านั้นเองค่ะ โดยการชักชวนของหลานๆกลุ่มเล็กๆ 5-6 คน ไปเดินถ่ายรูปกัน ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ป้าเกษอยู่บ้านอ่างทองไม่ได้ออกทริปไปไหน ..
แต่ก็เป็นวันเดย์ทริปที่ป้าเกษมีความสุขในการได้ถ่ายรูป ได้พบกับชุมชนที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ได้ไปวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยอยุธยา ที่มีบรรพชนผู้กล้าก่อเกิด ณ. ที่แห่งนั้น
ขอบคุณช่วงเวลาสั้นๆที่มีความสุขเหล่านั้น จนป้าเกษอดไม่ได้ที่จะมานำเสนอรูปภาพ สถานที่ ที่ป้าเกษได้ไปมา เผื่อว่าเพื่อนๆคนอื่นที่แวะเข้ามาชมรีวิวนี้ สนใจ อยากไปสัมผัสบ้าง ก็จะดีไม่น้อย ...ทริปนี้ไปด้วยกันทั้ง 6 คน เอารถไปกันสองคันจากอ่างทอง หมดค่าใช้จ่ายหารเฉลี่ยทั้งหมด คนละ 210 บาทค่ะ
*** ขอบคุณทุกข้อความที่แวะมาทักทาย ขอบคุณทุกโหวตที่ให้มา ขอบคุณทุกกิ๊ฟเพื่อเป็นกำลังใจให้ และขอบคุณที่รักกันค่ะ ***
ชื่อสินค้า: สิงห์บุรี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
มีใครเคยนำ LG G3 (หรือโทรศัพท์เครือ LG) ไปใช้ต่างประเทศ(โรมมิ่งสัญญาณโทรศัพท์เพื่อรอรับสาย)บ้างคะ
เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งเปลี่ยนโทรศัพท์จากไอโฟนเป็นแอลจี จีสามค่ะ กำลังจะไปสิงคโปร์ในไม่นานนี้แล้ว เห็นว่าโทรศัพท์แอนดรอยแม้จะโทรไปแจ้งคอลเซนเตอร์แล้วว่าขอเปิดโรมมิ่ง แต่เมื่อไปถึงที่หมายต้องไปกดตั้งค่าโทรศัพท์เองไม่งั้นมันก็ไม่โรมหาสัญญาณให้ (ปกติไอโฟนจะโรมหาสัญญาณให้เองทันทีที่ไปถึงโดยไม่ต้องกดตั้งค่า รอบนี้พอเปลี่ยนโทรศัพท์เลยกังวลว่าจะทำไม่เป็นค่ะ รบกวนชี้แนะหน่อยนะคะ)
เพื่อนๆเคยมีใครเอา LG ไปใช้บ้างไหมคะ ต้องกดตั้งค่ายังไง ลำบากไหมคะ เราโทรไปเปิดสัญญาณโรมมิ่งไว้เรียบร้อยแล้วค่ะแต่ยังไม่ทราบวิธีตั้งค่าในมือถือค่ะ รบกวนด้วยนะคะ
ขออนุญาตแทกทั้งห้องบลู(นักเดินทางเยอะ)และห้องมาบุญครองด้วยนะคะ เผื่อมีคนทราบวิธีการ
<<< ขอคำแนะนำทริปโอซาก้า/ปีใหม่ >>>
เป็นการไปคันไซครั้งแรกกับเพื่อน 2 คน ไม่ไป USJ
เดินทางโดยเวียตนามแอร์ไลน์
Sun. 28-Dec-14 Landing 06.40 AM.
อาบน้ำที่สนามบิน
ไปปราสาท Himeji แวะอ่าวโกเบ/บุฟเฟ่ต์ปู Illumination
กลับโอซาก้า เช็คอิน airbnb Nishinagahori Station
Mon 29-Dec-14 โอซาก้า
Tue 30-Dec-14 เกียวโต
Wed 31-Dec-14 Arashiyama / เกียวโต
Thu 1-Jan-15 นารา / โอซาก้า
Fri 2-Jan-15 Take off 10.30 AM.
1. Stop ที่ฮานอยนี่ต้องเปลี่ยนเครื่องปะคะ หรือนั่งต่อยาวไปโอซาก้าเลย
2. ใช้พาสอะไร? ตั้งใจซื้อ Icoca , Osaka amazing pass อยู่แล้วค่ะ
3. ห้องพัก check in ได้ 14.00 (ฝากกระเป๋าก่อนไม่ได้) ควรจะฝากกระเป๋าที่ไหนดี
พักโอซาก้า 5 คืน(จองที่พักแล้ว)
4. เกียวโต 2 วัน พ่วงด้วย Arashiyama แพลนอย่างไรดีคะ ? เข้าใจว่าคนเยอะ รถติดแน่ๆ
5. Osaka Castle ทราบมาว่า หยุด 28 ธ.ค. - 1 ม.ค.ของทุกปี จริงหรือป่าวคะ เพราะจะไม่มีโอกาสได้เข้าชมแน่ๆ
เท่าที่หาอ่าน แจ้งว่าปราสาทจะปิดวันหยุดปีใหม่ เลยไม่แน่ใจว่าควรไปวันที่ 28 หรือ 29 ดี
สวนน้ำ ตำนานป่า ระยอง
สอบถามค่ะว่า มีใครเคยไปมาบ้างมั๊ยคะ จะพาลูกไปอาทิตย์นี้ แต่ไม่มีข้อมูลเท่าไหร่เลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าสภาพสวนน้ำเป็นอย่างไรบ้าง น่าเล่นดีมั๊ยคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นค่ะ
ชมวิวตึกใบหยก เสียค่าชมเท่าไร หรือว่าขึ้นชมฟรี
อยากทราบว่าถ้าขึ้นตึกใบหยกไปชมวิวอย่างเดียวจะเสียค่าขึ้นตึกเท่าไร หรือมีวิธีขึ้นไปฟรีไหมครับ ว่าจะพาพ่อแม่ขึ้นไปครับแต่กลัวเสียแพง อยากให้ท่านได้ดูมุมสูงของกรุงเทพ
ฉากรักในปีนัง ศิลปะเสน่ห์ของเมืองมรดกโลก (Street Arts in Georgetown, Penang)
หากต้องเลือกว่า "เมืองใด" เป็นสุดยอดแห่งความประทับใจ รางวัลใหญ่ของปีนี้คงต้องมอบให้กับ "จอร์จทาวน์" เมืองหลวงมหาเสน่ห์แห่งรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านของเรานี้เองค่ะ
ในปี 2008 องค์การ UNESCO World Heritage ขึ้นทะเบียนให้จอร์จทาวน์ ร่วมกับมะละกา เป็นสมบัติของโลก ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
เมืองเล็กที่เปี่ยมเสน่ห์หลังนี้มีทั้งงานศิลปะ ร้านอาหารอร่อย วัดวาอาราม และบูติกโรงแรมเก๋ๆให้ท่องเพลินสัก 2-3 วัน
รีวิวฉบับแรกของเรานี้ จึงขอประเดิมด้วยเมืองแห่งความประทับใจ "จอร์จทาวน์" พร้อมกับรีวิวงานศิลปะ หรือ Street Arts ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้ามาในกองไฟแห่งความแปลกตาหลังนี้ค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ในเทศกาลประจำปีของเมืองจอรจ์ทาวน์ นิทรรศการ “Mirrors Georgetown” ได้ถือกำเนิดขึ้นจากไอเดียของนายเออร์เสนสต์ ซาคาเรวิกนี้ (Ernest Zacharevic)
ภาพวาดที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวปีนังอย่างสมจริง ชายจีนถีบสามล้อ พี่น้องบนรถจักรยาน สาวกังฟู และอีกหลายภาพ ส่งให้ปีนังโด่งดังชั่วข้ามคืน … และถือเป็นจุดเริ่มต้นของงานศิลปะอีกมากมายของเมืองมรดกโลกแห่งนี้
{ Kids on Bicycle }
นายเออร์เนสต์ ซาคาเรวิก (Ernest Zacharevic) เป็นชาวลิธัวเนียโดยกำเนิด เรียนจบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยมิดเดิลเซ็กที่ลอนดอน ก่อนจะย้ายมาพำนักชั่วคราวที่ปีนัง
ภาพทั้ง 8 จากฝีมือของเค้ากลายเป็นเอกลักษณ์ และไฮไลท์ที่นอกจากจะถูกใจนักท่องเที่ยวแล้ว ยังสร้างสีสันให้กับเมืองมรดกโลกแห่งนี้อีกด้วยค่ะ
{ ใครมาซ้อนท้ายฉันนะ }
website: www.thaifootprint.com
fanpage: https://www.facebook.com/thaifootprint
ชื่อสินค้า: ปีนัง-จอร์จทาวน์
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
ญี่ปุ่น..ไม่เล่าไม่ได้...shopping สุดมันส์ อะไรจะถูกปานนั้นที่โตเกียวและชานเมือง
ออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่า เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ไม่เคยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเน้นไป Shopping โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ค่าครองชีพสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก สินค้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน น้ำดื่ม ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเดินทางและราคาที่พักนั้นใครๆ ก็รู้ว่า แพงขนาดไหน ยกตัวอย่างก็เช่น อังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และล่าสุด ที่ใครๆ ก็ไปญี่ปุ่นกัน ตั้งแต่มี Free Visa ไม่ต้องไปขอให้ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน กระทู้คำถามเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ออกมาทุกๆ สิบห้านาทีละมั้ง ฉันก็เวอร์ไป อาจไม่ขนาดนั้น แต่จะอุปมาว่า...มันเยอะจริงๆ
สาเหตุที่ฉันไม่ค่อยจะตั้งหน้าตั้งตาไป Shopping เวลาไปเที่ยว ตปท. ก็ไม่มีอะไรมาก เหตุผล Classic เพียง 2 ข้อสั้นๆ คือ
1. ไม่ได้รวยขนาดนั้น
2. ไม่มีปัญญาขนกลับบ้าน
เหตุผลแรก คือแม้จะพอมีเงินไปเที่ยวต่างประเทศ ก็จะอยู่ในงบประมาณที่ไม่มากพอที่จะไปซื้อของแพง หรือซื้อเยอะๆ อีกอย่างก็เน้นเที่ยว ประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ชมความงาม ความแปลก เทคโนโลยี ความน่าทึ่ง ความอัศจรรย์ มากกว่าที่จะไปซื้อของ
เหตุผลที่สอง บางครั้งที่ไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว ก็ไปแบบมีแค่กระเป๋าลากใบเล็กๆ หนึ่งใบ พร้อมเป้ที่เอาไว้แค่...ใส่กระเป๋าตังค์ กระเป๋าบัตรเครดิตขวดน้ำ Passport กล้องถ่ายรูป สมุดโน๊ต แป้งฝุ่น ยาดม ยาอม ยาหม่อง ไม้แคะหู กระดาษทิชชู่ ไม้จิ้มฟัน ผ้าพันคอ พลาสเตอร์ปิดแผล ฯลฯ พูดง่ายๆ มันเหมือนกระเป๋าโดเรมอน จะเอาอะไร ก็เจอหมด สัมภาระที่จะหิ้วไปทุกที่ขณะเดินทางท่องเที่ยว เพราะฉันถือคติว่า มี..ดีกว่าไม่มี 555 บ่าหอบฟางตัวแม่ จึงไม่เคยคิดหรือวางแผนจะไปซื้อของเยอะแยะกลับบ้านสักครั้ง
จนกระทั่ง...เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฉันได้ไปเที่ยวอังกฤษ กับสก๊อตแลนด์ แล้วได้มีโอกาสไปเข้าร้านขายของมือสองเพื่อหาซื้อเสื้อกันฝน ก็พบว่า ร้านมือสอง มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิด
แล้วฉันก็ติดใจมาก เพราะมีบางสิ่ง ที่เราอาจได้มาด้วยราคาที่ถูกมาก ที่สำคัญ หลายๆ อย่าง มันไม่ได้ดูเก่า และมันไม่ได้ดูเหมือนของใช้แล้วเอาซะเลย แถมบางอย่างที่ว่า มันช่างดูมีคุณค่า มีความหมายทางจิตใจ มีความเป็นหนึ่งเดียว และสำหรับฉัน บางครั้ง มันก็สร้าง Story ได้ดีมากๆ อย่างเช่น..
ตุ๊กตาตัวนี้ ไปได้เค้ามาจากเมือง Moreton-in-Marsh เมืองเล็กๆ น่ารักๆ ในอังกฤษ เลยตั้งชื่อว่า น้อง M-i-M
ซึ่ง..คุณๆ คะ ฉันมั่นใจเลยว่าคุณทายกันไม่ถูกหรอกว่าฉันซื้อมาตัวละเท่าไหร่ ดูหน้าตาเค้าก่อนเดาราคาค่ะ...
เจอเค้าในตะกร้ารวมมิตรตุ๊กตามือสองที่วางอยู่กับพื้นในร้านขายของมือสองประเภท Charity เหมือนได้ทำบุญไปในตัวค่ะ เวลาเข้าร้านพวกนี้
เห็นป้ายราคาแล้วใช่มั้ยคะ น้อง Mim ราคา 1.99 ปอนด์ เริดมั้ยหละ ฟินซะไม่มีอ่ะ 3 เหตุผลค่ะ น่ารัก, ถูก, Unique ฉันมักจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องใช้เหตุผลอย่างต่ำต้อง 3 ข้อขึ้นไป (แบบเข้าข้างตัวเองเวลาอยากได้ก็เยอะอ่ะนะ แหม..อารมณ์ผู้หญิง)
กระเป๋าเดินทาง เวลาต้องไปคนเดียว ก็จะไม่บ้าลากกระเป๋าใบใหญ่ค่ะ เพราะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่ใจใหญ่ 55
กระเป๋าที่ใส่น้อง Mim คือซื้อเพิ่มทีหลังด้วยเพราะว่า ราคามันถูก ประกอบกับ มือไม่ว่างที่จะอุ้มเค้าตลอดเวลา
และฉันก็พบว่า น้อง Mim เป็นเพื่อนเดินทางที่ทำให้ฉันยิ้มได้ทุกครั้งที่มองหน้าเค้า เค้าน่ารักนะคะ รอฉันได้ทุกที่ เป็นเพื่อนกันได้ทุกสถานการณ์ แม้แต่ในห้องน้ำ น้อง Mim ก็ยังคงน่ารักเสมอ 555 เที่ยวคนเดียวเวลามีเพื่อนแบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากค่ะ
เรื่องร้านมือสอง ในความคิดแต่เดิม จะเข้าใจว่า เก่าๆ เหม็นอับ สภาพไม่น่าใช้แน่ๆ แต่เมื่อไปเจอร้านมือสองที่อังกฤษ ความคิดเปลี่ยนเลยค่ะ เพราะเค้าจะมีการจัดการแบบมืออาชีพมากในเรื่องของการทำความสะอาด ให้ดูเหมือนใหม่ น่าใช้ และที่สำคัญถูกมากๆ เลยคิดว่า ต่อไป เวลาไปเที่ยวที่ไหน ก็จะหาร้านมือสองให้เจอ เพื่อจะไปดูว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ
จนมาถึงครั้งล่าสุดนี้ ที่พึ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วหาร้านมือสองเจอหลายร้าน ฉันถึงขึ้นต้องขอถอนคำพูดว่า ไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่เน้น Shopping นั้น มันกลายเป็นข้อยกเว้นเสียแล้วสำหรับที่นี่ เพราะฉันถึงขั้นต้องเปลี่ยนกระเป๋าและซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋าเพิ่มกันเลยทีเดียว ไปกลับด้วยสายการบิน Low Cost อย่างแอร์เอเซีย ทีแรกก็ว่าจะไม่โหลดกระเป๋าเพราะเน้นเท่ี่ยวแบบ บินประหยัด นอนประหยัด เอางบไปใส่เรื่องกินแพงบางมื้อ
มาดูกันค่ะ ว่าเป็นคุณ คุณจะอดใจไหวมั้ย ถ้าเจอของถูกขนาดนี้ มันไม่ซื้อไม่ได้อ่ะ หาเหตุผลเกิน 3 ข้อได้ทุกอย่างเลย 555
ฉันขำตัวเองมากที่สุดเลย ณ เพลานี้
ตุ๊กตาของ Disney เจ้าตุ่นปากเป็ดนี่ ราคา 300 เยน ซื้อมาวางบนโต๊ะ ใส่มือถือ ปากกา สมุดโน๊ต ของใช้จิปาถะ เพื่อหยิบใช้สะดวกๆ น่ารักๆ สีสันกับชีวิต
กระเป๋าใบนี้ ซื้อฝากคุณสามีค่ะ เป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ และสามารถแปลงร่างได้ด้วย...
เปิดออกมา กลายเป็นเป้ได้อ่ะ คิดดู มันน่าซื้อมั้ยหละ ใบไม่ถึงร้อยบาท คือ 300 เยน อัตราและเปลี่ยน ณ ต้นเดือนกันยายน 57 คือ 0.3128
กระเป๋าใส่บัตรต่างๆ กับ Passport 300 yen เหมือนกัน
กระเป๋าถือใบใหญ่ เหมาะกับฉันมากจริงๆ เพราะบ้ากระเป๋าและบ้าหอบฟางค่ะ ใส่ของได้เยอะ ซิบมีทั้งด้านข้าง ด้านหน้า ใส่ของข้างในได้หลายช่อง
ใบนี้เหมือนไม่เคยผ่านการใช้มาก่อนเลย การตัดเย็บดีมาก ดูแข็งแรง และสะอาดมาก ราคา 1600 เยน ก็ 500 บาทนิดๆ ถูกใจมากค่ะ
กล่องปิ๊กนิคใบนี้ 300 เยนเช่นกัน น่าซื้อมาก แต่ไม่สามารถนำกลับได้ เพราะมันขนาดใหญ่และหนักเกินกว่าจะยัดใส่กระเป๋าเดินทาง
ส่วนชุดส้อม 5 อันพร้อมที่ตักขนมเค้กสีทองในถุงนี้ 200 เยน คือมันโคตรถูกเลย ไม่เปลืองพื้นที่ ไม่หนัก จัดไปค่ะ
เดินเล่นแถวๆ นั้น เจออีกจนได้ ชุดช้อนสีทอง แหม เข้ากันกับชุดส้อมตะกี้ อย่าได้เสียเวลาไตร่ตรองค่ะ ณ จุดนี้ ไม่ต้องหาเหตุผลกันละ 555
ขวดฉุกเฉินค่ะ ข้างในมีของ 5 อย่าง จำไม่ได้ละว่ามีอะไรบ้าง เพราะไม่ได้ซื้อมา แต่หนึ่งอย่างที่เห็นคือไฟฉายค่ะ ราคา 300 เยน
ชุด 3 เข็มค่ะ ฉันตั้งชื่อเอง อันแรก บอกอุณหภูมิ อันที่สอง บอกเวลา ส่วนอันที่สาม บอกความชื้นค่ะ 300 เยนอีกแล้ว
ของใช้บนโต๊ะอาหาร คือผ้าเช็ดปาก พร้อม ห่วงคล้องสำหรับวางโชว์เก๋ๆ บนโต๊ะอาหาร มี 4 ชิ้น ราคาแค่ 200 เยนค่ะ ไม่ได้ซื้อมา เสียดายเหมือนกัน มัวแต่คิดเรื่องน้ำหนัก เพราะไอ้ห่วงที่คล้องผ้านั่น หนักพอสมควร
หมอนอิง ของ Disney 300 yen ค่ะ ไม่ได้ซื้อมาเหมือนกัน ห่วงเรื่องเปลืองพื้นที่
ชุดผ้าเช็ดตัว ผืนใหญ่ ผืนกลาง พร้อมห่วงตุ๊กตา Micky Mouse เอาไว้แขวนผ้าเช็ดมือ 1,280 เยน
ขอเล่านิดนึงค่ะ ชุดผ้าเช็ดตัวตะกี้ พอดีก็หยิบมาเหมือนกัน แต่ที่นี้ตอนชำระเงินเสร็จแล้ว เค้าก็จะเอาของใส่ถุงให้ ก็เลยบอกเค้าว่า ขอเอาแต่ของข้างใน ไม่เอากล่องได้มั้ย เค้าก็เลยแกะให้ ปรากฎว่า ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่นั้น มันมีรอยวาวๆ เปื้อนอยู่ ลังเลว่าจะซื้อดีไม่ดี เพราะจริงๆ ไม่ซีเรียส แค่อยากได้ตุ๊กตาห่วงคล้องผ้าเช็ดมือ จะเอาไว้ใช้ในห้องน้ำ แต่เค้าก็พยายามอธิบายว่า ถ้าของไม่ดี ไม่สะอาด หรือมีตำหนิ ไม่ต้องเอาไปก็ได้
ด้วยความที่ฉันก็ไม่ได้อยากจะคืนเงิน เพราะเห็นว่าเค้าก็รู้สึกอาย และ ขอโทษฉันไม่รู้กี่ครั้ง ก้มหัวโค้งคำนับหลายรอบมาก จนฉันรู้สึกเกรงใจสุดๆ ก็เลยไปเลือกเอาเซ็ทผ้าเช็ดตัวนี้มาแทนในราคาที่เท่ากัน
คือที่เล่า ก็เพื่อจะบอกว่า เหมือนเค้าจะยินดีให้เปลี่ยนหากพบว่า ของที่ซื้อไป มีตำหนิ หรือถ้าเป็นของใช้ เช่นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์นั่นนี่ พูดง่ายๆ ว่า ใจเขาใจเรา หากคนซื้อไปแล้วเค้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ได้อยากให้ลูกค้าผิดหวัง อะไรประมาณนั้นอ่ะค่ะ เพราะของพวกนี้ บางทีก็หลุด QC ก็เป็นไปได้ ตอนรับซื้อจากเจ้าของเดิมมาอ่ะค่ะ ก็ต้องให้อภัยกันไป หลงลืม รอดสายตา มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วอ่ะนะ
ชุดอุปกรณ์อาบน้ำค่ะ ฉันไม่ได้ซื้อหรอก เพราะคิดว่าไม่ได้ใช้ ปกติจะเอาสก๊อตไบรท์ถูตัว เอ้ย ม่ายช่าย ฮ่าๆ ดึกมากละ อาการรั่วมาเยือนได้เป็นปกติ
ชุดนี้ 500 เยนค่ะ
อะไรเอ่ย ให้ทายค่ะ......[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มันคือกล่องใส่แว่นตา ฉันซื้อมา ก็หวังจะเอามาใส่แว่นตากันแดดเพื่อจะวางไว้หน้ารถ ดูน่ารักดี ที่ไหนได้หละ แว่นตากันแดดมันใหญ่เกินไป ใส่ไม่ได้อ่ะ เลยจะเอามาแจกฟรี ตรงนี้ ใครอยากได้ แค่หลังไมค์มา จะส่งให้ถึงบ้านเลย มีกติกาว่า ตอบคำถามง่ายๆ มาหน่อยว่า ชอบกระทู้ไหนที่ฉันรีวิวมากที่สุด เพราะอะไร แค่นั้นแหละค่ะ ใครตอบถูกใจ จะส่งพัสดุไปให้ถึงบ้านเลย (ขอแค่คนที่มีที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้นนะคะ)
ส่วนอันนี้ Case Iphone 5 ดูยังใหม่ๆ อยู่เลยค่ะ 300 เยน
เดี๋ยวไปดูภาพรวมของร้านนี้ต่อนะคะ แล้วค่อยบอกสถานที่และวิธีไปค่ะ
ชื่อสินค้า: ร้านมือสอง ห้างสรรพสินค้า Solamachi Book Off Super Bazaar Mode Off
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)