วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ใครมีแพลนไปเที่ยวอินเดียบ้างครับ
สวัสดีครับ
ผมจะได้ไปอินเดีย20-29พย.นี้ครับ ใครสนใจที่จะเดินทางแบบเเบล็คแพ็คแบบผม
ไปด้วยกันครับ ผมเดินทางคนเดียวครับ
กลัวๆอยู่ครับ หาเพื่อนร่วมเดินทางครับ สนใจโทรมานะครับ
0811440405
"แม่ฮ่องสอน" จุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันกล้าเที่ยวคนเดียว
เมื่อชีวิตมันดราม่า งั้นลองเปิดตามองโลกกว้างด้วยตัวเองสักทีไม่รู้จะเริ่มต้นเรื่องยังไงดี แต่ต้องเกริ่นก่อนว่า ทริปนี้เป็นทริปที่อยู่ในความทรงจำเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และอยากจะเก็บความทรงจำนี้ด้วยการรีวิวจังหวัดนี้ที่เมื่อได้สัมผัสแล้วทำยังไงก็ไม่ลืมแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยแม้แต่น้อย จังหวัดนี้หน้าตาเป็นไงหรอ? หึ!! ไม่เคยนึกภาพ จนกระทั่งเมื่อชีวิตถึงจุดเปลี่ยน จากที่เคยมีคนขับรถพาไปเที่ยว แต่วันนั้นมันดันไม่มีซะละ... และด้วยความที่เราเป็นหญิงเย่อหยิ่ง ไม่ง้อซึ่งบุรุษ ในใจพึงคิด "การเดินทางคนเดียวของฉัน ฉันต้องทำได้สิ!! ว่าแต่จะไปไหน...? งั้นไปเริ่มกันที่ งานไทยเที่ยวไทยซื้อทัวร์เลยละกัน" นี่แหละคือจุดที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับเธอ "แม่ฮ่องสอน" ทริปนี้เราซื้อทัวร์โดยมีเพื่อนร่วมทางที่เราไม่รู้จักมาก่อน หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงเที่ยวคนเดียว? เราตอบว่า..."ไม่รู้สิ ... อยากมาคนเดียวมั้ง ^_^"ข้อดีของทัวร์คือ เราไม่ต้องวางแผนชีวิตในการเที่ยวให้ยุ่งยาก จ่ายเงินครบไปได้เลย ส่วนข้อเสียคือ "ฉันยังซึมซับสถานที่แห่งนี้ได้ไม่นานเลย เธอจะพาฉันไปที่อื่นแล้วหรือ? และนี่คือการเที่ยวกับทัวร์ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราค่ะจุดเริ่มต้นที่ทัวร์พามาเที่ยวในเช้าวันแรกที่เรามาถึงแม่ฮ่องสอนคือ "อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" การมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดัง มันเป็นประสบการณ์ที่เราไม่เคยลืม เพราะภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า เหมือนเรากำลังอยู่บนสวรรค์เลย ในใจพลางคิด "นี่มันโลกมนุษย์ หรือมันคือสวรรค์...ฉันยังอยู่บนดินไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?"จบจากเช้าแรกที่ห้วยน้ำดัง ทัวร์พาเราไปอาบน้ำที่สปาแห่งหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร) หลังจากนั้นก็ตะลอนขับรถไปเที่ยววัดต่างๆในตัวอ.แม่ฮ่องสอน ที่จำได้ดีคือวัดพระธาตุดอยกองมู สิ่งที่เราจำได้ดีในวันนั้นคือ พระธาตุสีขาว ตัดกับท้องฟ้าสีครามสด ท่ากลางอากาศหนาวเย็นผสมของความร้อนแรงของแสงแดดในฤดุหนาว แต่น่าเสียดาย...ที่เวลาในการชื่นชมวัดนี้น้อยไปนิดเดียวเองจบจากการทัวร์วัดมาทั้งวัน เค้าก็พาเราไปชิมชา, เล่นชิงช้าสวรรค์ที่หมู่บ้านสันติชน มันเป็นเครื่องเล่นที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตเลย เครื่องป้องกันก็ไม่มี แต่เราก็ยังเล่นนะ เพราะเราอยากลอง ถ้าใครเคยได้สัมผัสก็คงจะรู้ว่าน่ากลัวขนาดไหน (แต่ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีรูปที่หมู่บ้าน เพราะเราเขียนรีวิวในออฟฟิศ ด้วยความที่อยากเขียนเรื่องนี้มาก... รูปที่รีวิวทั้งหมดจึงดึงมาจากเฟซบุ๊คค่ะ) หลังจากนั้นเราก็ไปพักที่หมู่บ้านรักษ์ไทย ตามจริงเราต้องได้พักที่ ลีไวน์รักษ์ไทยนะคะ แต่ว่าเกิดเหตุอันใดไม่ทราบได้ ทางทัวร์บอกว่าให้เราพักที่ห้องพักฝั่งตรงข้าม เพราะลีไวน์รักษ์ไทยห้องพักเต็ม..ผ่างงง!!! แล้วเธอมาให้ความหวังฉันทำไม??จบการรีวิววันแรก สักพักจะมาต่อวันที่สองนะคะ ลืมบอกไปทริปนี้ 2 คืน 3 วันค่ะ
ชื่อสินค้า: จ.แม่ฮ่องสอน
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
Stayin’ Alive with Khiri Travel Guides
Thirty-one Khiri Travel tour guides from around Thailand received safety and responsible tourism training on 3 October in Bangkok. Khiri Travel brought in an external medical practices company, Emergency Medical Services, to teach CPR. Following that there was a session on responsible tourism led by Khiri's Sustainability and Responsible Tourism Manager, Graham Read. The CPR training took 1.5 hours with extra practical tips and inspiration from a YouTube video featuring Vinnie Jones and the Bee Gees' Stayin' Alive soundtrack showing that emergency CPR isn't as hard as it sounds. This was followed by hands-on practice using dummies. The responsible tourism session, led by Read, was an interactive session with a focus on sensitive tourism activities such as elephants in tourism, orphanage tourism, and tourism in remote communities. "Attention was given to raise awareness about how to respond to guests' requests for locally offered excursions that may not be responsibly operated," said Read. The guides were also introduced to the eight projects in five countries undertaken by Khiri Travel's non-profit arm, Khiri Reach. Marc Ruffet Deputy General Manager at Khiri Travel Thailand said an additional objective was to extend good practices in the office to the field. "It's all about increasing the quality of our services to guests and to share Khiri's values around the country through all of our guides." Guide training sessions take place twice a year at Khiri Travel Thailand, which together with the other Khiri destinations, is working towards Travelife certification. For further information on Khiri Travel responsible tourism and guide training visit Khiri.com.
รบกวนสอบถามคนชำนาญทางไป อัมพวา - ตลาดน้ำดำเนินฯ - ดอนหอยหลอด หน่อยค่ะ
พอดีมีทริปครอบครัว จะขับรถจาก กทม.ไปเอง
วางแผนเอาไว้ประมาณนี้ รบกวนตรวจสอบหน่อยค่ะ ดูแผนที่แล้วงงๆ กลัวว่าจะวกไปมา อ้อมโลกหรือเปล่า
(เจ้าของกระทู้ ไม่ได้ขับรถเอง แต่เป็นคนเลือกสถานที่เที่ยวจ้า)
วันแรก
08.00 ออกจาก กทม
09.30 ถึงสมุทรสงคราม
10.00 ไหว้พระ วัดบ้านแหลม
11.00 เดินเล่น กินข้าวกลางวัน ณ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
13.00 ถึงที่พัก (บ้านแสนสุข ริมแม่น้ำแม่กลอง ตรงข้ามตลาดน้ำอัมพวา)
17.30 ข้ามเรือไปเดินเล่นตลาดน้ำอัมพวา
19.00 นั่งเรือชมหิ่งห้อย
20.30 พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2
06.00 ตื่นนอน เตรียมไหว้พระ ตักบาตรหน้าที่พัก
07.30 รับประทานอาหารเช้า
09.00 นั่งเรือ (ของที่พัก) ไหว้พระวัดต่างๆ บริเวณริมน้ำแม่กลอง
12.00 เช็คเอาท์
13.00 แวะดอนหอยหลอด รับประทานอาหารกลางวันที่นี่
15.00 เดินทางกลับ กทม.
ประมาณนี้ค่ะ รบกวนตรวสอบให้ที ระยะทางช่วงจากวัดบ้านแหลม - ตลาดน้ำดำเนินฯ - ที่พัก
และช่วงขากลับจากที่พัก - ดอนหอยหลอด - กลับ กทม.
โอเคไหมคะ เส้นทางวกวนไหม?
ขอบคุณมากค่ะ ^^
ดอกไม้สวยๆ ที่ยอดดอยอินนนท์ งามขนาดเลย
ดอกไม้สวยๆ ที่ยอดดอยอินนนท์ งามขนาดเลย
ภาพสวยๆ จากดอยอินทนนท์ ของคุณ Oleang Cafe งามแต๊ๆ เลย ครับ ชมกันเลยดีกว่า สำหรับหน้าหนาวแบบนี้ อากาศดีๆ แจ่มมากๆ
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
ภาพสวยๆ จากดอยอินทนนท์ ของคุณ Oleang Cafe งามแต๊ๆ เลย ครับ ชมกันเลยดีกว่า สำหรับหน้าหนาวแบบนี้ อากาศดีๆ แจ่มมากๆ
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
อัพโหลด 12-1-2012 22:50
งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่ วันสงกรานต์เมืองเชียงใหม่ 2556
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pee เมื่อ 22-3-2013 21:40
งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่ วันสงกรานต์เมืองเชียงใหม่ 2556
อัพโหลด 22-3-2013 21:38
งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12- 15 เมษายน 2556 สถานที่จัดงานบริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยจะมีกิจกรรมการจัดขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขี่รถถีบกาลางจ้อง รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ขนทรายเข้าวัด การแสดงพื้นเมือง การสาธิตศิลปะพื้นบ้าน การเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่เมืองรอบคูเมือง และถนนวัฒนธรรมคนเมืองอาหารนานาชาติ
ทั้งนี้ สำหรับ "วันสงกรานต์" คนเหนือมักจะเรียกวันสงกรานต์ว่า "ปี๋ใหม่เมือง" ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวล้านนา เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนศักราชใหม่ มักจะตรงกับวันที่ 13 หรือ 14 เมษายน ของทุกปี
อัพโหลด 22-3-2013 21:38
วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขารล่อง" โดยมีตำนานกล่าวว่า เช้ามืดของวันนี้ปู่สังขาน ย่าสังขาน จะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีแดง สยายผมล่องแพไปตามลำน้ำ ปู่หรือย่าสังขานนี้ จะนำเอาสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาตามตัวมาด้วย จึงมีการจุดประทัดในตอนเช้า ๆ เพื่อให้เกิดเสียงดังต่าง ๆ นัยว่าเป็นการไล่สังขาน วันนี้จะมีการทำความสะอาดบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล และมีการสระผม
วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" หรือ "วันเน่า" เป็นวันที่ห้ามใครด่าทอว่าร้ายเพราะเชื่อว่าจะทำให้โชคร้ายไปตลอดทั้งปี ในตอนบ่ายจะมีการขนทรายเข้าวัด โดยถือว่าเป็นการนำทรายมาทดแทนในส่วนที่ติดเท้าของตนออกจากวัด จะนำมากองรวมกันเป็นเจดีย์
วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" แต่คนเหนือมักจะเรียกว่า "วันพญาวัน" มากกว่า วันนี้ชาวบ้านจะตื่นแต่เช้าทำบุญตักบาตรเข้า วัดฟังธรรม ก่อนจะไปรดน้ำดำหัวขอขมาญาติผู้ใหญ่ในช่วงบ่าย
วันที่ 16 เมษายน เรียกว่าวัน "วันปากปี" มักจะพากันไปรดน้ำเจ้าอาวาสตามวัดต่าง ๆ เพื่อขอขมาคารวะ และจะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ห์ สืบชะตา จุดเทียนต่ออายุชะตาภายในบ้าน
สำหรับการรดน้ำดำหัว คำว่า "ดำหัว" ปกติแปลว่า "สระผม" แต่ในประเพณีสงกรานต์ล้านนา จะหมายถึง การไปแสดงความเคารพ ขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว หรือการขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ซึ่งของที่ใช้ในการดำหัวส่วนมากมีผ้าขนหนู มะพร้าว กล้วย และ ส้มป่อย โดยเรียกว่า "น้ำขมิ้นส้มป่อย" พร้อมทั้งนำของไปมอบให้ผู้ใหญ่ โดยท่านจะอวยพรแล้วใช้มือจุ่มน้ำขมิ้นส้มป่อยลูบศีรษะให้
ตารางเวลาเบื้องต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-259000 และ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-248604, 053-248607, 053-302500
http://travel.kapook.com/view39028.html
งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่ วันสงกรานต์เมืองเชียงใหม่ 2556
อัพโหลด 22-3-2013 21:38
งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12- 15 เมษายน 2556 สถานที่จัดงานบริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยจะมีกิจกรรมการจัดขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขี่รถถีบกาลางจ้อง รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ขนทรายเข้าวัด การแสดงพื้นเมือง การสาธิตศิลปะพื้นบ้าน การเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่เมืองรอบคูเมือง และถนนวัฒนธรรมคนเมืองอาหารนานาชาติ
ทั้งนี้ สำหรับ "วันสงกรานต์" คนเหนือมักจะเรียกวันสงกรานต์ว่า "ปี๋ใหม่เมือง" ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวล้านนา เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนศักราชใหม่ มักจะตรงกับวันที่ 13 หรือ 14 เมษายน ของทุกปี
อัพโหลด 22-3-2013 21:38
วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขารล่อง" โดยมีตำนานกล่าวว่า เช้ามืดของวันนี้ปู่สังขาน ย่าสังขาน จะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีแดง สยายผมล่องแพไปตามลำน้ำ ปู่หรือย่าสังขานนี้ จะนำเอาสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาตามตัวมาด้วย จึงมีการจุดประทัดในตอนเช้า ๆ เพื่อให้เกิดเสียงดังต่าง ๆ นัยว่าเป็นการไล่สังขาน วันนี้จะมีการทำความสะอาดบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล และมีการสระผม
วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" หรือ "วันเน่า" เป็นวันที่ห้ามใครด่าทอว่าร้ายเพราะเชื่อว่าจะทำให้โชคร้ายไปตลอดทั้งปี ในตอนบ่ายจะมีการขนทรายเข้าวัด โดยถือว่าเป็นการนำทรายมาทดแทนในส่วนที่ติดเท้าของตนออกจากวัด จะนำมากองรวมกันเป็นเจดีย์
วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" แต่คนเหนือมักจะเรียกว่า "วันพญาวัน" มากกว่า วันนี้ชาวบ้านจะตื่นแต่เช้าทำบุญตักบาตรเข้า วัดฟังธรรม ก่อนจะไปรดน้ำดำหัวขอขมาญาติผู้ใหญ่ในช่วงบ่าย
วันที่ 16 เมษายน เรียกว่าวัน "วันปากปี" มักจะพากันไปรดน้ำเจ้าอาวาสตามวัดต่าง ๆ เพื่อขอขมาคารวะ และจะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ห์ สืบชะตา จุดเทียนต่ออายุชะตาภายในบ้าน
สำหรับการรดน้ำดำหัว คำว่า "ดำหัว" ปกติแปลว่า "สระผม" แต่ในประเพณีสงกรานต์ล้านนา จะหมายถึง การไปแสดงความเคารพ ขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว หรือการขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ซึ่งของที่ใช้ในการดำหัวส่วนมากมีผ้าขนหนู มะพร้าว กล้วย และ ส้มป่อย โดยเรียกว่า "น้ำขมิ้นส้มป่อย" พร้อมทั้งนำของไปมอบให้ผู้ใหญ่ โดยท่านจะอวยพรแล้วใช้มือจุ่มน้ำขมิ้นส้มป่อยลูบศีรษะให้
ตารางเวลาเบื้องต้น
- ขบวนแห่และสรงน้ำ พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญ และนางสงกรานต์ จากสะพานเนาวรัตน์ถึงวัดพระสิงห์
- ขบวนแห่ขนทรายเข้าวัด – ไม้ค้ำสะหลี จากสะพานเหล็กถึงวัดบนถนนท่าแพ
- ขบวนแห่เครื่องสักการะรดน้ำดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ถึงจวนผู้ว่าฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-259000 และ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-248604, 053-248607, 053-302500
http://travel.kapook.com/view39028.html
ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ทะเลสาบที่ว่ากันว่าสวยสุดในโลก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oaiwo เมื่อ 9-7-2013 16:29
ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ทะเลสาบที่ว่ากันว่าสวยสุดในโลก
อัพโหลด 9-7-2013 16:27 ขอบคุณภาพจากhttp://news.sanook.com
อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ตั้งอยู่ที่เมืองลิก้า (Lika) ประเทศโครเอเชีย เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลบนหินปูน ใหญ่ไม่ใหญ่ก็ดูเอาได้จากชั้นน้ำตกที่มีอยู่มากถึง 16 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นยังมีความงดงามของธรรมชาติ ที่สวยงามจนสามารถสะกดสายตาของผู้ที่มาเยี่ยมชมได้อย่างอยู่หมัด
อัพโหลด 9-7-2013 16:28 ขอบคุณภาพจากhttp://www.ilovetogo.com
ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ตั้งอยู่ท่ามกลาง 3 เทือกเขา ทั้งเทือกเขา "Pljesevica", "Mala Kapela" และ "Medvedak" ที่โอบล้อมทะเลสาบแห่งนี้ไว้ โดยทะเลสาบมีลักษณะทอดตัวยาวไปตามแนวร่องระหว่างเทือกเขา และมีเขื่อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ขวางกันทะเลสาบเป็นช่วง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากพวกมอส สาหร่าย และแบคทีเรีย ที่ก่อตัวเป็นเปลือกแข็งห่อหุ้มสลับกันไปเป็นชั้น ๆ แถมยังมีน้ำตก "เวลิกิ สแล็พ" (Veliki Slap) น้ำตกที่ใหญ่และสูงกว่า 70 เมตร ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่
อัพโหลด 9-7-2013 16:28 ขอบคุณภาพจากhttp://2th.me
นอกจากความสวยงามตามธรรมชาติแบบ 100 % เต็มแล้วนั้น ทะเลสาปพลิทวิเซ่ แห่งนี้ ยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิเช่น หมีสีน้ำตาล นกอินทรี และนกชนิดอื่น ๆ อีกกว่า 140 สายพันธุ์ ซึ่งเหตุนี้เอง จึงทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศขึ้นทะเบียน อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979 อีกด้วย
อัพโหลด 9-7-2013 16:28 ขอบคุณภาพจากhttp://2th.me
จากที่ได้เห็นในภาพนั้นก็ต้องขอยกนิ้วให้กับความงามของธรรมชาติแห่งนี้จริง ๆ เรียกได้ว่าสวยสุด ๆ อย่างที่ว่ากันจริง ๆ ด้วย
ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ทะเลสาบที่ว่ากันว่าสวยสุดในโลก
อัพโหลด 9-7-2013 16:27 ขอบคุณภาพจากhttp://news.sanook.com
อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ตั้งอยู่ที่เมืองลิก้า (Lika) ประเทศโครเอเชีย เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลบนหินปูน ใหญ่ไม่ใหญ่ก็ดูเอาได้จากชั้นน้ำตกที่มีอยู่มากถึง 16 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นยังมีความงดงามของธรรมชาติ ที่สวยงามจนสามารถสะกดสายตาของผู้ที่มาเยี่ยมชมได้อย่างอยู่หมัด
อัพโหลด 9-7-2013 16:28 ขอบคุณภาพจากhttp://www.ilovetogo.com
ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ตั้งอยู่ท่ามกลาง 3 เทือกเขา ทั้งเทือกเขา "Pljesevica", "Mala Kapela" และ "Medvedak" ที่โอบล้อมทะเลสาบแห่งนี้ไว้ โดยทะเลสาบมีลักษณะทอดตัวยาวไปตามแนวร่องระหว่างเทือกเขา และมีเขื่อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ขวางกันทะเลสาบเป็นช่วง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากพวกมอส สาหร่าย และแบคทีเรีย ที่ก่อตัวเป็นเปลือกแข็งห่อหุ้มสลับกันไปเป็นชั้น ๆ แถมยังมีน้ำตก "เวลิกิ สแล็พ" (Veliki Slap) น้ำตกที่ใหญ่และสูงกว่า 70 เมตร ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่
อัพโหลด 9-7-2013 16:28 ขอบคุณภาพจากhttp://2th.me
นอกจากความสวยงามตามธรรมชาติแบบ 100 % เต็มแล้วนั้น ทะเลสาปพลิทวิเซ่ แห่งนี้ ยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิเช่น หมีสีน้ำตาล นกอินทรี และนกชนิดอื่น ๆ อีกกว่า 140 สายพันธุ์ ซึ่งเหตุนี้เอง จึงทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศขึ้นทะเบียน อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979 อีกด้วย
อัพโหลด 9-7-2013 16:28 ขอบคุณภาพจากhttp://2th.me
จากที่ได้เห็นในภาพนั้นก็ต้องขอยกนิ้วให้กับความงามของธรรมชาติแห่งนี้จริง ๆ เรียกได้ว่าสวยสุด ๆ อย่างที่ว่ากันจริง ๆ ด้วย
Pattaya Countdown 7 วัน 7 คืน วันที่25-31 ธันวาคม
Pattaya Countdown 7 วัน 7 คืน วันที่25 - 31 ธันวาคม
อัพโหลด 6-12-2012 11:37
Pattaya Countdown
อัพโหลด 6-12-2012 11:37
Pattaya Countdown-1
อัพโหลด 6-12-2012 11:37
Pattaya Countdown-2
เทศบาลเมืองพัทยา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชลบุรี ขอเชิญร่วม"งานเทศกาลปีใหม่ พัทยา 2013" (Pattaya Countdown 2013) ระหว่างวันที่ 25 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยว (แหลมบารีฮาย) พัทยาใต้ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
โดย เมืองพัทยา ร่วมสร้างความสุข ความสนุก ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ กับงาน Pattaya Countdown เฉลิมฉลองอย่างจุใจ 7 วัน 7 คืน ตระการตากับการแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่า 20,000 นัด ตลอดชายหาดพัทยา ตั้งแต่วงเวียนปลาโลมาไปจนถึงท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา (แหลมบาลีฮาย) ซึ่งเป็นเคาท์ดาวน์ที่ยาวนานและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการเฉลิมฉลองความสุขแห่งปี ตั้งแต่ "วันคริสต์มาส" ที่จะมีกิจกรรมเปิดไฟประดับถนน เปิดสัญลักษณ์เทศกาลคริสต์มาส เช่น Snowman ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ กวางเรนเดียร์ และรถลากเลื่อน ฯลฯ รวมถึงการแจกของขวัญให้เด็ก ๆ เปิดเพลงคริสต์มาส พร้อมด้วยการแสดงของศิลปินชั้นนำของไทยและต่างประเทศ
การออกร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกหลากหลายชนิด รวมถึงอาหารรสชาติถูกปากที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อิ่มอร่อย และเพลิดเพลินกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม เพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของพัทยา และเป็นการร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำให้กับพัทยาและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 038-427667, 0 38-428750 และ 038-423990
ขอขอบคุณ
http://travel.kapook.com/view51926.html
อัพโหลด 6-12-2012 11:37
Pattaya Countdown
อัพโหลด 6-12-2012 11:37
Pattaya Countdown-1
อัพโหลด 6-12-2012 11:37
Pattaya Countdown-2
เทศบาลเมืองพัทยา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชลบุรี ขอเชิญร่วม"งานเทศกาลปีใหม่ พัทยา 2013" (Pattaya Countdown 2013) ระหว่างวันที่ 25 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยว (แหลมบารีฮาย) พัทยาใต้ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
โดย เมืองพัทยา ร่วมสร้างความสุข ความสนุก ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ กับงาน Pattaya Countdown เฉลิมฉลองอย่างจุใจ 7 วัน 7 คืน ตระการตากับการแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่า 20,000 นัด ตลอดชายหาดพัทยา ตั้งแต่วงเวียนปลาโลมาไปจนถึงท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา (แหลมบาลีฮาย) ซึ่งเป็นเคาท์ดาวน์ที่ยาวนานและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการเฉลิมฉลองความสุขแห่งปี ตั้งแต่ "วันคริสต์มาส" ที่จะมีกิจกรรมเปิดไฟประดับถนน เปิดสัญลักษณ์เทศกาลคริสต์มาส เช่น Snowman ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ กวางเรนเดียร์ และรถลากเลื่อน ฯลฯ รวมถึงการแจกของขวัญให้เด็ก ๆ เปิดเพลงคริสต์มาส พร้อมด้วยการแสดงของศิลปินชั้นนำของไทยและต่างประเทศ
การออกร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกหลากหลายชนิด รวมถึงอาหารรสชาติถูกปากที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อิ่มอร่อย และเพลิดเพลินกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม เพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของพัทยา และเป็นการร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำให้กับพัทยาและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 038-427667, 0 38-428750 และ 038-423990
ขอขอบคุณ
http://travel.kapook.com/view51926.html
กระเช้าทิ้งดิ่งสูงเท่าตึก 41ชั้น ที่สหรัฐอเมริกา เปิดให้ทดสอบสภาพจิตใจได้ในปี 2557
กระเช้าทิ้งดิ่งสูงเท่าตึก 41ชั้น ที่สหรัฐอเมริกา เปิดให้ทดสอบสภาพจิตใจได้ในปี 2557
อัพโหลด 31-8-2013 22:57
อัพโหลด 31-8-2013 22:57
คาดปีหน้าเปิดให้ใช้ทดสอบความเสียวเต็มตัวในสวนสนุกแห่งหนึ่งของมลรัฐนิวเจอร์ซีย์สหรัฐอเมริกา ที่ว่ากันว่ามีความสูงที่สุดในโลก โดยเครื่องเล่นดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า กระเช้าทิ้งดิ่ง หรือ Zumanjaro : Drop of Doom มีความสูงเท่าตึก 41ชั้น ร่วงสู่พื้นด้วยความเร็ว 145 ก.ม./ช.ม.
ซึ่งว่ากันว่าหากใครได้ไปนั่งอยู่บนกระเช้าที่มีด้วยกัน 3 ชุด แต่ละแถวนั่งได้ 8 คน เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด จะสามารถมองเห็นตึกระฟ้าในเมืองฟิลาเดลเฟียไกลออกไปถึง 80ก.ม.เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ใครที่ชอบความเสียวก็ต้องรอกันหน่อย เพราะเครื่องเล่นชิ้นดังกล่าวจะเปิดให้ทดสอบสภาพจิตใจได้ในปี 2557
ขอขอบคุณ
http://news.mthai.com/world-news/266925.html
อัพโหลด 31-8-2013 22:57
อัพโหลด 31-8-2013 22:57
คาดปีหน้าเปิดให้ใช้ทดสอบความเสียวเต็มตัวในสวนสนุกแห่งหนึ่งของมลรัฐนิวเจอร์ซีย์สหรัฐอเมริกา ที่ว่ากันว่ามีความสูงที่สุดในโลก โดยเครื่องเล่นดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า กระเช้าทิ้งดิ่ง หรือ Zumanjaro : Drop of Doom มีความสูงเท่าตึก 41ชั้น ร่วงสู่พื้นด้วยความเร็ว 145 ก.ม./ช.ม.
ซึ่งว่ากันว่าหากใครได้ไปนั่งอยู่บนกระเช้าที่มีด้วยกัน 3 ชุด แต่ละแถวนั่งได้ 8 คน เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด จะสามารถมองเห็นตึกระฟ้าในเมืองฟิลาเดลเฟียไกลออกไปถึง 80ก.ม.เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ใครที่ชอบความเสียวก็ต้องรอกันหน่อย เพราะเครื่องเล่นชิ้นดังกล่าวจะเปิดให้ทดสอบสภาพจิตใจได้ในปี 2557
ขอขอบคุณ
http://news.mthai.com/world-news/266925.html
พบ วัด บนดาดฟ้า บน อพาร์ทเม้นท์ ชั้นที่ 21 ในเมืองเสิ่นเจิ้น ทุ่มทุนสร้างกว่า 75 ล้านบาท
พบวัดบนดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์ชั้นที่ 21 ในประเทศจีน เชื่อเศรษฐีจีนทุ่มทุนสร้างกว่า 75 ล้านบาท ขณะที่ชาวบ้านไม่ค่อยพอใจ หวั่นกระทบโครงสร้าง เรียกร้องให้รื้อถอนออก
อัพโหลด 24-8-2013 21:13
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ในตอนนี้ สิ่งก่อสร้างสูงเสียดฟ้าที่กลายมาเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งในประเทศจีน ก็คือ วัดที่ตั้งอยู่บนชั้นที่ 21 ของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในเมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เคารพศรัทธาในศาสนา เข้าใกล้กับสวรรค์มากขึ้น
ทั้งนี้ วัดดังกล่าวตกแต่งหลังคาด้วยกระเบื้องสีเหลืองทอง และสร้างชายคาตามแบบจีน พร้อมประดับรูปปั้นมังกรและนกฟีนิกซ์ตามความเชื่อของชาวจีน แต่วัดดังกล่าวกลับอยู่บนชั้นที่ 21 ของอพาร์ทเม้นท์ที่เป็นดาดฟ้า โดยที่วัดแห่งนี้ จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ป้องกันไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าไปถึงวัด ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือและมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด อีกทั้งยังมีสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ด้านในอีกด้วย
ด้านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า พื้นที่ชั้นดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้มีราคากว่า 15 ล้านหยวน หรือประมาณ 75 ล้านบาท และผู้พักอาศัยที่นี่มักจะเป็นข้าราชการระดับสูงหรือคนรวยเท่านั้น
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : http://kapook.com/
อัพโหลด 24-8-2013 21:13
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ในตอนนี้ สิ่งก่อสร้างสูงเสียดฟ้าที่กลายมาเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งในประเทศจีน ก็คือ วัดที่ตั้งอยู่บนชั้นที่ 21 ของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในเมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เคารพศรัทธาในศาสนา เข้าใกล้กับสวรรค์มากขึ้น
ทั้งนี้ วัดดังกล่าวตกแต่งหลังคาด้วยกระเบื้องสีเหลืองทอง และสร้างชายคาตามแบบจีน พร้อมประดับรูปปั้นมังกรและนกฟีนิกซ์ตามความเชื่อของชาวจีน แต่วัดดังกล่าวกลับอยู่บนชั้นที่ 21 ของอพาร์ทเม้นท์ที่เป็นดาดฟ้า โดยที่วัดแห่งนี้ จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ป้องกันไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าไปถึงวัด ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือและมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด อีกทั้งยังมีสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ด้านในอีกด้วย
ด้านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า พื้นที่ชั้นดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้มีราคากว่า 15 ล้านหยวน หรือประมาณ 75 ล้านบาท และผู้พักอาศัยที่นี่มักจะเป็นข้าราชการระดับสูงหรือคนรวยเท่านั้น
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : http://kapook.com/
ห้ามพลาด กับฟรีคอนเสิร์ต เจ เจตริน @ โอ้บาร์ ถนนข้าสาร
วันนี้วันที่ 11 แล้วน๊ะค๊ะ เหลือ อีกเพียงมีกี่วัน เราจะได้มันส์กับ งานครบรอบ6ปีร้านโอ้บาร์แล้ว ห้ามพลาดเลยที่เดว ทั้งร้องนักดนตรี เหล่าดีเจ ที่ขนเอาความมันมาเต็มเปี่ยม เพื่อมอบหั้ยเพื่อนๆ และ**ย้ำอีกครั้ง งานนี้ฟรีคอนเสิร์ต เจ เจตริน น๊ะค๊ะ ของขวัญของรางวัลเพียบ พลาดไม่ได้ แล้วอย่าลืมพกบัตรประชาชนมาน๊ค๊ะ เจอกันร้านโอ้บาร์ สอบถามโทร 086-3050778
Grand Iberia 10 วัน 7 คืน 103,000บาท
แพคเกจทัวร์ยุโรป รหัส : A75-TG-GRAND-IBERIA21(1) ทัวร์เทศกาล : #ทัวร์วันวิสาขบูชา 2555 #ทัวร์วันแม่ 2555 #ทัวร์วันปิยมหาราช 2555 เดินทางโดย (ตั๋วเครื่องบิน) : TG-การบินไทย
มาตรฐานโรงแรม :
จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน วันที่เดินทาง : 18-27 MAY / 25MAY-3JUN // 1-10 / 15-24 JUN / 22JUN-1JUL // 6-15 / 13-22 / 20-29 JUL / 27JUL-5AUG // 3-12 / 10-19 / 17-26 AUG / 24AUG-2SEP // 7-16 / 14-23 / 21-30 SEP // 5-14 / 12-21 / 19-28 OCT / 26OCT-4NOV ราคา / ท่าน :103,000บาท(ผู้ใหญ่) / พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 14,000 บาท
93,000 บาท(เด็กเสริมเตียง)/83,000 บาท(เด็กไม่เสริมเตียง) รายการ ทัวร์ยุโรป : Grand Iberia-ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน-มิลาน-ดูโอโม่-แกลลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล-นีซ-ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศสRiviara-เมืองคานส์-เมืองกราซ-ชมโรงงานน้ำหอม-มองติกาโล-เมืองเอ็กซองโพรวองซ์-เมืองเลโบเดอโพรวองซ์-เมืองอาวีญง-สิ่งมหัศจรรย์ปง ดู การ์-เมืองบาร์เซโลนา-กรานาด้าแฟมิเลีย-ถนนลารัมบร้า-บาเลนเซีย-กรุงแมดริด-มหาวิหารโตเลโด้-พระราชวังหลวง-ปูเอต้าเดอโซล-ปลาซาเดอเอสปันญา-ตื่นตากับระบำฟลามิงโก
วันที่ 1 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – สู่สนามบินมาเพลซ่า มิลาน (อิตาลี)21.30 น.พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 2 เคาน์เตอร์ D (9-12) สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอินหมายเหตุทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ 15 วันก่อนการเดินทาง โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองโรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่เข้าชมต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับกรุ๊ปทัวร์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันสุดวิสัย อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเป็นผลทำให้การเดินทางล่าช้า หรือ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ตามโปรแกรม หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ท่านได้ชำระมาแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้มีการตกลงชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้วันที่ 2มิลาน – ดูโอโม่ – แกลลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล – นีซ – ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศส00.40 น.ออกเดินทางสู่นครมิลาน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 940 07.35 น.ถึงสนามบินมาเพลซ่า หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว รถโค้ชนำเข้าสู่ใจกลางเมืองมิลาน เมืองแห่งแฟชั่นที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลก ชมดูโอโม่ ซึ่งเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป และอันดับสี่ของโลก สร้างขึ้นตามสไตล์โกธิก มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 3,200 ชิ้นในยุครุ่งเรืองสุดขีด ซึ่งนับเป็นสิ่งบ่งบอกให้เห็นถึงความแปลกแยก ระหว่างเมืองมิลานกับเมืองอื่นๆ ของอิตาลี นอกจากนี้มิลานยังได้ชื่อว่ามีสถานที่สำคัญระดับสุดยอดของโลกอันได้แก่ อาคารแกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล ซึ่งเป็นห้างอันเก่าแก่ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย “โรงละครสกาล่า” โรงละครโอเปร่าบนจัตุรัสเดลลา สกาลา บันทึกภาพกับรูปปั้นของศิลปินเอก ลีโอนาโดดาวินชี อิสระให้ท่านได้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร13.00 น.ออกเดินทางมุ่งลงใต้เลาะเลียบเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชายหาดริเวียร่าที่โด่งดัง เป็นทั้งเมืองตากอากาศทางตอนเหนือของอิตาลี และทางใต้ของฝรั่งเศส ผ่านเขตเมืองที่มีการปกครองตนเอง อาทิ ซานเรโม, โมนาโก จนเข้าสู่เมืองนีซ (Nice) มีความใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศฝรั่งเศสในแคว้นที่ชื่อว่า โพรวองซ์-แอลป์-โกต-ดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d'Azur) ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายหาดหินที่สวยงาม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จะมาเดินกันอยู่ที่ถนนเรียบชายหาดลา-พรอมมินาด-เด-ซองเกส (La Promenade des Anglais) เขตย่านเมืองเก่า จัดได้ว่าเป็นเมืองที่น่าเดินชมบรรยากาศแบบชาวโพรวองซ์เป็นอย่างยิ่ง18.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL MERCURE NICE CENTRE NOTRE DAME 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 3เที่ยวเมืองคานส์ – กราซ – โรงงานน้ำหอม – นีซ – มองติกาโล (รัฐโมนาโก)07.30 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.30 น.พาท่านเที่ยวชมเมืองคานส์ เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติที่จัดขึ้น ประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้า ปาเล่ เด เฟสติวาล (Palais desFestivals) ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ยังเต็มไปด้วยโรงแรมหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท (La Promenade de la Croisette) นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงามๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย จากนั้นเดินทางสู่เมืองกราซ (Grasse) เพื่อให้ท่านได้เข้าชมโรงงานผลิตน้ำหอม ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ชมกระบวนการผลิตน้ำหอมด้วยการสกัด และการกลั่น ตลอดจนห้องจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของการผลิตน้ำหอม และคอลเล็กชั่นขวดน้ำหอมต่างๆอย่างมากมาย เมืองกราซ (Grasse) หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองหลวงแห่งโลกน้ำหอม” การผลิตน้ำหอมทั้งหลายส่วนใหญ่เริ่มต้นที่นี่ โรงงานผลิตน้ำหอมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเปิดให้ท่านได้ชมเรื่องราวและขั้นตอนการผลิต12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร13.00 น.ออกเดินทางสู่รัฐโมนาโก หรือ ไมอามี่แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายทำให้เมืองมองติกาโล (Monte-CarLo) กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของยุโรป ซึ่งเศรษฐีนิยมมาเที่ยวกัน นำท่านเข้าสัมผัสกับความหรูหราภายในบ่อนคาสิโนมองติกาโล เที่ยวชมโมนาโค เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสวย, หมู่ตึกระฟ้า, และทิวเขาอันงดงาม เข้าสู่มหาวิหารที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซเคลลี แห่งโมนาโค สตรีผู้สูงศักดิ์ที่ชีวิตเปรียบเสมือนเทพนิยาย จากหญิงสาวธรรมดา ที่โชคชะตาพลิกผันให้เป็นเจ้าหญิงในราชวัง วันนี้เธอเป็นตำนานที่ไม่ใช่เพียงเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แต่เธอนำพาชื่อเสียงให้โมนาโคเป็นที่รู้จัก ด้านสาธารณะประโยชน์ องค์กรการกุศลต่างๆ มากมาย แล้วไปถ่ายรูปกับ ปาเล เดอ แปรงซ์ (Palais De Princes) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ สร้างขึ้นบนส่วนที่เป็นเดอะร็อกท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม แล้วไปชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่าเรือสองแห่งคือ Port De Fontvieille และ Port Hercule ท่าจอดเรือยอร์ชอันหรูหราแสดงถึงความมั่งคั่งและร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้18.30 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL MERCURE NICE CENTRE NOTRE DAME 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 4นีซ – เอ็กซองโพรวองซ์ – เลโบเดอโพรวองซ์ – อาวีญง07.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.00 น.รถโค้ชออกเดินทางสู่เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence) ในอดีตเคยมีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงของแคว้นโพรวองซ์ เป็นศูนย์กลางของอำนาจ ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส ที่มีความเก่าแก่ถึง 600 ปี ถนนมิราโบ (le cour Mirabeau) เป็นที่ตั้งของร้านค้าหรูและร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส เมืองนี้โด่งดังจากภาพวาด ภูเขาแซงก์ วิกตัวร์ (Saint Victoire) ที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามของภูมิทัศน์ผลงานของศิลปินชื่อก้องโลก ปอล เซซาน (Paul Cézanne) ที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองนี้12.30 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร13.30 น.นำท่านเที่ยวชมเมือง เลโบเดอโพรวองซ์ (Les Baux de Provence) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” เข้าสู่เมืองอาวีญง (Avignon) เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโรน (Rhône) และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระสันตะปาปา (Palais des Papes) ที่ได้ย้ายที่พำนักมาที่นี่ในระหว่างปี ค.ศ.1309-1423 เมืองศูนย์กลางทางการค้า, ศาสนา, ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของแคว้น นอกจากนี้ยังมีสะพานที่มีชื่อเสียงคือ เซนต์เบเนเซ่ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสะพานแห่งเมืองอาวีญง (Pont d’Avignon) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 117718.30 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE PONT D’AVIGNON HOTEL 3* หรือเทียบเท่าวันที่ 5อาวีญง – ปงต์ดูการ์ – มงเปลีเย่ – บาร์เซโลน่า – ระบำฟลามิงโก้08.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม09.00 น.นำท่านไปชมปง ดู การ์ (Pont du Gard) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวโรมันสร้างเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว คือทางส่งน้ำซึ่งมีความยาว 275 เมตร สามารถส่งน้ำได้ 34.8 ล้านลิตรต่อวัน ปงดูการ์ เป็นสะพานส่งน้ำจุดหนึ่งในการส่งน้ำระหว่าง เมือง Uzès และเมือง Nîmes ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1985 สมควรแก่เวลาออกเดินทางผ่านเมืองมงเปลีเย่ เส้นทางนี้ร่มรื่นสวยงาม ลัดเลาะผ่านไร่องุ่นสองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ เขตนี้ปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์กอร์บีแยร์และมีแนร์วัว ซึ่งเป็นไวน์แดงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร14.00 น.เดินทางสู่เมืองบาร์เซโลนา ในประเทศสเปน ซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียน ที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือ และการค้า อีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิกเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน18.45 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์ “ระบำฟลามิงโก” ที่สวยงามสนุกสนานเร้าใจ นำท่านเข้าสู่ที่พัก H10 HOTEL UNIVERSITAT 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 6บาร์เซโลน่า – เที่ยวชมเมือง – กรานาด้าแฟมิเลีย – ถนนลารัมบร้า – บาเลนเซีย08.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม09.00 น.เที่ยวชมเมืองของเกาดี้ที่ชาวบาร์เซภาคภูมิใจจนมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า City of Gaudi บนถนนกราเซีย ท่านจะได้พบกับงานสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าคือ กาซ่า บัตโย ที่เกาดี้ออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลน่า อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมคือ กาซา มิลา เกาดี้ ออกแบบให้กับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในปี ค.ศ. 1906 แสดงถึงฐานะความมั่งคั่ง, ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นแฟชั่นในยุคนั้น แล้วไปชมสวนสาธารณะเกวล (Park Guell) เป็นหนึ่งในงานสุดรักสุดหวงที่เกาดี้อุทิศให้กับชาวเมือง ออกแบบตั้งแต่ปี 1900-1914 สถานที่สุดท้ายของเกาดี้คือ โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย ที่ยังคงสร้างไม่เสร็จจนถึงปัจจุบัน ความพิเศษในงานของเกาดี้ คือการรวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆในธรรมชาติมาใช้ และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต ผ่านไปชมสนามฟุตบอลเอล กัมป์ โนว ของทีมบาร์เซโลน่า ขึ้นสู่ยอดเขามอนต์จูอิกชมความสวยงามของตัวเมืองอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ.1992 แล้วเข้าสู่จัตุรัสกาตาลุนญา จุดเริ่มของย่านถนนคนเดิน Las Ramblas ถนนที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในบาร์เซโลน่า มีทั้งสินค้านานาชนิด, แผงดอกไม้, ศิลปินเร่, และละครใบ้ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างไม่รู้เบื่อปลายสุดของถนน เป็นอนุสาวรีย์โคลัมบัสนักเดินเรือผู้ค้นพบโลกแถบใหม่หมู่เกาะเวสต์อินดีส13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่ายออกเดินทางสู่เมืองชายฝั่งกอสตา เดล อะซาร์ หรือ ชายฝั่งดอกส้มบาน ตั้งชื่อตามสวนส้มที่ปลูกทั่วที่ราบชายฝั่งและส่งกลิ่นหอมหวนในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน จนเข้าเขตเมืองบาเลนเซีย พาท่านไปชมเขตเมืองใหม่ ที่ตั้งของของท่าเรือเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเท่าที่เคยมีมา ออกแบบโดยสถาปนิกชาวบาเลนเซีย ประกอบไปด้วย โรงภาพยนตร์ออมนิแมกซ์, โรงศิลปะการแสดง, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุทยานสมุทรภูมิศาสตร์19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก AC HOTEL VALENCIA 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 7บาเลนเซีย – กรุงแมดริด – โตเลโด้ มหาวิหารโตเลโด้07.30 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.30 น.ออกเดินทางสู่ชานเมืองกรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปน เป็นเมืองหลวงที่อยู่สูงที่สุดของยุโรป (600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) เป็นที่รู้จักครั้งแรกของชาวอาหรับว่ามาการิด แล้วเดินทางต่อสู่เมืองโตเลโด้13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่ายเดินทางสู่เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลาม และฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆ เหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ สถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็น กัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง แล้วเข้าสู่เขตเมืองเก่าโดยผ่านประตูเมือง ปูเอร์ตา เด บิซากรา 1 ในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกๆแห่งของเมืองท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์ ,โกธิก และเรอเนสซองส์ เมื่อท่านมาเยือนโตเลโด้แล้วต้องแวะชมคือ มหาวิหารโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาว นาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิกในปี 1226 และเพิ่มศิลปแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็นอัลคาซาร์ เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ โบสถ์ยิว ที่สำคัญชื่อว่า ซินาโกกา ซานตา มาเรีย เดอ ลา บลันกา จุดเด่นของโบสถ์อยู่ที่หัวเสา สะท้อนถึงอิทธิพลที่ได้รับมาจากศิลปะแบบ ไบเซนไทน์หรือเปอร์เชียน ซึ่งมีดอกไอริสอันถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อ สัตย์ และเครื่องหมายดาว 6 แฉก (สัญลักษณ์ชาวยิว) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการประดับและตกแต่งโบสถ์แห่งนี้ เที่ยวชมไฮไลท์ของเมือง แล้วมีเวลาให้ท่านหาซื้อของที่ระลึก ในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดีมีชื่อเสียงของนครโตเลโด้คือ ดาบและมีดเหล็กกล้าแบบเคลือบดำฝังเงินทอง และลวดทอง แดง นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภท ให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเลโด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก TRYP MADRID CIBELES HOTEL 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 8แมดริด – พระราชวังหลวง – ปูเอต้า เดอ โซล – อิสระให้ช้อปปิ้ง07.30 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.30 น.นำคณะเที่ยวชมเมืองเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียนเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้าสู่ถนนกาเย อัลกาล่า (Calle Alcala) ผ่านชม “น้ำพุไซเบเลส” (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน และอาคารสวยงามใกล้ๆกันคือ “ที่ทำการไปรษณีย์” แล้วชม “ประตูชัย” ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลที่ 3 นำเข้าชมพระราชวังหลวง (Palacio Real) ของกษัตริย์ฮวนคาลอส ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้นรวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้,อาวุธ ฯลฯ แล้วชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่ายพาท่านไปชม ปลาซา เดอ เอส ปันญา (Plaza de Espana), อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฮเต้ และซันโซปันซา ในสวนสาธารณะ, ปลาซ่า มายอร์ จัตุรัสหลวง ศูนย์กลางเมืองอันเก่าแก่ ถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1620 แล้วอิสระให้ช้อปปิ้งย่าน ปูเอต้า เดล ซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมือง ที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วยถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนาสัญลักษณ์ของเมือง20.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก TRYP MADRID CIBELES HOTEL 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 9สนามบินแมดริด – เดินทางกลับกรุงเทพฯ08.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม09.00 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ13.00 น.ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 949วันที่ 10เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ06.05 น.สายการบินไทยนำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ดูทัวร์ทั้งหมดที่นี่
สนใจติดต่อTel: 027486245(auto) www.etravelway.com Twitter:www.twitter.com/eTravelWay Facebook:www.facebook.com/eTravelWaygoogle plus : www.eTravelWay.com/+
มาตรฐานโรงแรม :
จำนวนวัน : 10 วัน 7 คืน วันที่เดินทาง : 18-27 MAY / 25MAY-3JUN // 1-10 / 15-24 JUN / 22JUN-1JUL // 6-15 / 13-22 / 20-29 JUL / 27JUL-5AUG // 3-12 / 10-19 / 17-26 AUG / 24AUG-2SEP // 7-16 / 14-23 / 21-30 SEP // 5-14 / 12-21 / 19-28 OCT / 26OCT-4NOV ราคา / ท่าน :103,000บาท(ผู้ใหญ่) / พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 14,000 บาท
93,000 บาท(เด็กเสริมเตียง)/83,000 บาท(เด็กไม่เสริมเตียง) รายการ ทัวร์ยุโรป : Grand Iberia-ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน-มิลาน-ดูโอโม่-แกลลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล-นีซ-ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศสRiviara-เมืองคานส์-เมืองกราซ-ชมโรงงานน้ำหอม-มองติกาโล-เมืองเอ็กซองโพรวองซ์-เมืองเลโบเดอโพรวองซ์-เมืองอาวีญง-สิ่งมหัศจรรย์ปง ดู การ์-เมืองบาร์เซโลนา-กรานาด้าแฟมิเลีย-ถนนลารัมบร้า-บาเลนเซีย-กรุงแมดริด-มหาวิหารโตเลโด้-พระราชวังหลวง-ปูเอต้าเดอโซล-ปลาซาเดอเอสปันญา-ตื่นตากับระบำฟลามิงโก
วันที่ 1 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – สู่สนามบินมาเพลซ่า มิลาน (อิตาลี)21.30 น.พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 2 เคาน์เตอร์ D (9-12) สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอินหมายเหตุทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ 15 วันก่อนการเดินทาง โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองโรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่เข้าชมต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับกรุ๊ปทัวร์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันสุดวิสัย อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเป็นผลทำให้การเดินทางล่าช้า หรือ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ตามโปรแกรม หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ท่านได้ชำระมาแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้มีการตกลงชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้วันที่ 2มิลาน – ดูโอโม่ – แกลลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล – นีซ – ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศส00.40 น.ออกเดินทางสู่นครมิลาน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 940 07.35 น.ถึงสนามบินมาเพลซ่า หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว รถโค้ชนำเข้าสู่ใจกลางเมืองมิลาน เมืองแห่งแฟชั่นที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลก ชมดูโอโม่ ซึ่งเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป และอันดับสี่ของโลก สร้างขึ้นตามสไตล์โกธิก มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 3,200 ชิ้นในยุครุ่งเรืองสุดขีด ซึ่งนับเป็นสิ่งบ่งบอกให้เห็นถึงความแปลกแยก ระหว่างเมืองมิลานกับเมืองอื่นๆ ของอิตาลี นอกจากนี้มิลานยังได้ชื่อว่ามีสถานที่สำคัญระดับสุดยอดของโลกอันได้แก่ อาคารแกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล ซึ่งเป็นห้างอันเก่าแก่ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย “โรงละครสกาล่า” โรงละครโอเปร่าบนจัตุรัสเดลลา สกาลา บันทึกภาพกับรูปปั้นของศิลปินเอก ลีโอนาโดดาวินชี อิสระให้ท่านได้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร13.00 น.ออกเดินทางมุ่งลงใต้เลาะเลียบเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชายหาดริเวียร่าที่โด่งดัง เป็นทั้งเมืองตากอากาศทางตอนเหนือของอิตาลี และทางใต้ของฝรั่งเศส ผ่านเขตเมืองที่มีการปกครองตนเอง อาทิ ซานเรโม, โมนาโก จนเข้าสู่เมืองนีซ (Nice) มีความใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศฝรั่งเศสในแคว้นที่ชื่อว่า โพรวองซ์-แอลป์-โกต-ดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d'Azur) ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายหาดหินที่สวยงาม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จะมาเดินกันอยู่ที่ถนนเรียบชายหาดลา-พรอมมินาด-เด-ซองเกส (La Promenade des Anglais) เขตย่านเมืองเก่า จัดได้ว่าเป็นเมืองที่น่าเดินชมบรรยากาศแบบชาวโพรวองซ์เป็นอย่างยิ่ง18.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL MERCURE NICE CENTRE NOTRE DAME 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 3เที่ยวเมืองคานส์ – กราซ – โรงงานน้ำหอม – นีซ – มองติกาโล (รัฐโมนาโก)07.30 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.30 น.พาท่านเที่ยวชมเมืองคานส์ เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติที่จัดขึ้น ประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้า ปาเล่ เด เฟสติวาล (Palais desFestivals) ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ยังเต็มไปด้วยโรงแรมหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท (La Promenade de la Croisette) นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงามๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย จากนั้นเดินทางสู่เมืองกราซ (Grasse) เพื่อให้ท่านได้เข้าชมโรงงานผลิตน้ำหอม ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ชมกระบวนการผลิตน้ำหอมด้วยการสกัด และการกลั่น ตลอดจนห้องจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของการผลิตน้ำหอม และคอลเล็กชั่นขวดน้ำหอมต่างๆอย่างมากมาย เมืองกราซ (Grasse) หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองหลวงแห่งโลกน้ำหอม” การผลิตน้ำหอมทั้งหลายส่วนใหญ่เริ่มต้นที่นี่ โรงงานผลิตน้ำหอมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเปิดให้ท่านได้ชมเรื่องราวและขั้นตอนการผลิต12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร13.00 น.ออกเดินทางสู่รัฐโมนาโก หรือ ไมอามี่แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายทำให้เมืองมองติกาโล (Monte-CarLo) กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของยุโรป ซึ่งเศรษฐีนิยมมาเที่ยวกัน นำท่านเข้าสัมผัสกับความหรูหราภายในบ่อนคาสิโนมองติกาโล เที่ยวชมโมนาโค เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสวย, หมู่ตึกระฟ้า, และทิวเขาอันงดงาม เข้าสู่มหาวิหารที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซเคลลี แห่งโมนาโค สตรีผู้สูงศักดิ์ที่ชีวิตเปรียบเสมือนเทพนิยาย จากหญิงสาวธรรมดา ที่โชคชะตาพลิกผันให้เป็นเจ้าหญิงในราชวัง วันนี้เธอเป็นตำนานที่ไม่ใช่เพียงเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แต่เธอนำพาชื่อเสียงให้โมนาโคเป็นที่รู้จัก ด้านสาธารณะประโยชน์ องค์กรการกุศลต่างๆ มากมาย แล้วไปถ่ายรูปกับ ปาเล เดอ แปรงซ์ (Palais De Princes) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ สร้างขึ้นบนส่วนที่เป็นเดอะร็อกท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม แล้วไปชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่าเรือสองแห่งคือ Port De Fontvieille และ Port Hercule ท่าจอดเรือยอร์ชอันหรูหราแสดงถึงความมั่งคั่งและร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้18.30 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL MERCURE NICE CENTRE NOTRE DAME 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 4นีซ – เอ็กซองโพรวองซ์ – เลโบเดอโพรวองซ์ – อาวีญง07.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.00 น.รถโค้ชออกเดินทางสู่เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence) ในอดีตเคยมีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงของแคว้นโพรวองซ์ เป็นศูนย์กลางของอำนาจ ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส ที่มีความเก่าแก่ถึง 600 ปี ถนนมิราโบ (le cour Mirabeau) เป็นที่ตั้งของร้านค้าหรูและร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส เมืองนี้โด่งดังจากภาพวาด ภูเขาแซงก์ วิกตัวร์ (Saint Victoire) ที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามของภูมิทัศน์ผลงานของศิลปินชื่อก้องโลก ปอล เซซาน (Paul Cézanne) ที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองนี้12.30 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร13.30 น.นำท่านเที่ยวชมเมือง เลโบเดอโพรวองซ์ (Les Baux de Provence) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” เข้าสู่เมืองอาวีญง (Avignon) เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโรน (Rhône) และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระสันตะปาปา (Palais des Papes) ที่ได้ย้ายที่พำนักมาที่นี่ในระหว่างปี ค.ศ.1309-1423 เมืองศูนย์กลางทางการค้า, ศาสนา, ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของแคว้น นอกจากนี้ยังมีสะพานที่มีชื่อเสียงคือ เซนต์เบเนเซ่ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสะพานแห่งเมืองอาวีญง (Pont d’Avignon) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 117718.30 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE PONT D’AVIGNON HOTEL 3* หรือเทียบเท่าวันที่ 5อาวีญง – ปงต์ดูการ์ – มงเปลีเย่ – บาร์เซโลน่า – ระบำฟลามิงโก้08.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม09.00 น.นำท่านไปชมปง ดู การ์ (Pont du Gard) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวโรมันสร้างเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว คือทางส่งน้ำซึ่งมีความยาว 275 เมตร สามารถส่งน้ำได้ 34.8 ล้านลิตรต่อวัน ปงดูการ์ เป็นสะพานส่งน้ำจุดหนึ่งในการส่งน้ำระหว่าง เมือง Uzès และเมือง Nîmes ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1985 สมควรแก่เวลาออกเดินทางผ่านเมืองมงเปลีเย่ เส้นทางนี้ร่มรื่นสวยงาม ลัดเลาะผ่านไร่องุ่นสองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ เขตนี้ปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์กอร์บีแยร์และมีแนร์วัว ซึ่งเป็นไวน์แดงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร14.00 น.เดินทางสู่เมืองบาร์เซโลนา ในประเทศสเปน ซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียน ที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือ และการค้า อีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิกเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน18.45 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์ “ระบำฟลามิงโก” ที่สวยงามสนุกสนานเร้าใจ นำท่านเข้าสู่ที่พัก H10 HOTEL UNIVERSITAT 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 6บาร์เซโลน่า – เที่ยวชมเมือง – กรานาด้าแฟมิเลีย – ถนนลารัมบร้า – บาเลนเซีย08.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม09.00 น.เที่ยวชมเมืองของเกาดี้ที่ชาวบาร์เซภาคภูมิใจจนมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า City of Gaudi บนถนนกราเซีย ท่านจะได้พบกับงานสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าคือ กาซ่า บัตโย ที่เกาดี้ออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลน่า อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมคือ กาซา มิลา เกาดี้ ออกแบบให้กับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในปี ค.ศ. 1906 แสดงถึงฐานะความมั่งคั่ง, ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นแฟชั่นในยุคนั้น แล้วไปชมสวนสาธารณะเกวล (Park Guell) เป็นหนึ่งในงานสุดรักสุดหวงที่เกาดี้อุทิศให้กับชาวเมือง ออกแบบตั้งแต่ปี 1900-1914 สถานที่สุดท้ายของเกาดี้คือ โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย ที่ยังคงสร้างไม่เสร็จจนถึงปัจจุบัน ความพิเศษในงานของเกาดี้ คือการรวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆในธรรมชาติมาใช้ และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต ผ่านไปชมสนามฟุตบอลเอล กัมป์ โนว ของทีมบาร์เซโลน่า ขึ้นสู่ยอดเขามอนต์จูอิกชมความสวยงามของตัวเมืองอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ.1992 แล้วเข้าสู่จัตุรัสกาตาลุนญา จุดเริ่มของย่านถนนคนเดิน Las Ramblas ถนนที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในบาร์เซโลน่า มีทั้งสินค้านานาชนิด, แผงดอกไม้, ศิลปินเร่, และละครใบ้ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างไม่รู้เบื่อปลายสุดของถนน เป็นอนุสาวรีย์โคลัมบัสนักเดินเรือผู้ค้นพบโลกแถบใหม่หมู่เกาะเวสต์อินดีส13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่ายออกเดินทางสู่เมืองชายฝั่งกอสตา เดล อะซาร์ หรือ ชายฝั่งดอกส้มบาน ตั้งชื่อตามสวนส้มที่ปลูกทั่วที่ราบชายฝั่งและส่งกลิ่นหอมหวนในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน จนเข้าเขตเมืองบาเลนเซีย พาท่านไปชมเขตเมืองใหม่ ที่ตั้งของของท่าเรือเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเท่าที่เคยมีมา ออกแบบโดยสถาปนิกชาวบาเลนเซีย ประกอบไปด้วย โรงภาพยนตร์ออมนิแมกซ์, โรงศิลปะการแสดง, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุทยานสมุทรภูมิศาสตร์19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก AC HOTEL VALENCIA 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 7บาเลนเซีย – กรุงแมดริด – โตเลโด้ มหาวิหารโตเลโด้07.30 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.30 น.ออกเดินทางสู่ชานเมืองกรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปน เป็นเมืองหลวงที่อยู่สูงที่สุดของยุโรป (600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) เป็นที่รู้จักครั้งแรกของชาวอาหรับว่ามาการิด แล้วเดินทางต่อสู่เมืองโตเลโด้13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่ายเดินทางสู่เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลาม และฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆ เหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ สถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็น กัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง แล้วเข้าสู่เขตเมืองเก่าโดยผ่านประตูเมือง ปูเอร์ตา เด บิซากรา 1 ในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกๆแห่งของเมืองท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์ ,โกธิก และเรอเนสซองส์ เมื่อท่านมาเยือนโตเลโด้แล้วต้องแวะชมคือ มหาวิหารโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาว นาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิกในปี 1226 และเพิ่มศิลปแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็นอัลคาซาร์ เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ โบสถ์ยิว ที่สำคัญชื่อว่า ซินาโกกา ซานตา มาเรีย เดอ ลา บลันกา จุดเด่นของโบสถ์อยู่ที่หัวเสา สะท้อนถึงอิทธิพลที่ได้รับมาจากศิลปะแบบ ไบเซนไทน์หรือเปอร์เชียน ซึ่งมีดอกไอริสอันถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อ สัตย์ และเครื่องหมายดาว 6 แฉก (สัญลักษณ์ชาวยิว) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการประดับและตกแต่งโบสถ์แห่งนี้ เที่ยวชมไฮไลท์ของเมือง แล้วมีเวลาให้ท่านหาซื้อของที่ระลึก ในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดีมีชื่อเสียงของนครโตเลโด้คือ ดาบและมีดเหล็กกล้าแบบเคลือบดำฝังเงินทอง และลวดทอง แดง นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภท ให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเลโด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก TRYP MADRID CIBELES HOTEL 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 8แมดริด – พระราชวังหลวง – ปูเอต้า เดอ โซล – อิสระให้ช้อปปิ้ง07.30 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม08.30 น.นำคณะเที่ยวชมเมืองเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียนเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้าสู่ถนนกาเย อัลกาล่า (Calle Alcala) ผ่านชม “น้ำพุไซเบเลส” (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน และอาคารสวยงามใกล้ๆกันคือ “ที่ทำการไปรษณีย์” แล้วชม “ประตูชัย” ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลที่ 3 นำเข้าชมพระราชวังหลวง (Palacio Real) ของกษัตริย์ฮวนคาลอส ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้นรวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้,อาวุธ ฯลฯ แล้วชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่ายพาท่านไปชม ปลาซา เดอ เอส ปันญา (Plaza de Espana), อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฮเต้ และซันโซปันซา ในสวนสาธารณะ, ปลาซ่า มายอร์ จัตุรัสหลวง ศูนย์กลางเมืองอันเก่าแก่ ถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1620 แล้วอิสระให้ช้อปปิ้งย่าน ปูเอต้า เดล ซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมือง ที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วยถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนาสัญลักษณ์ของเมือง20.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก TRYP MADRID CIBELES HOTEL 4* หรือเทียบเท่าวันที่ 9สนามบินแมดริด – เดินทางกลับกรุงเทพฯ08.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม09.00 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ13.00 น.ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 949วันที่ 10เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ06.05 น.สายการบินไทยนำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ดูทัวร์ทั้งหมดที่นี่
สนใจติดต่อTel: 027486245(auto) www.etravelway.com Twitter:www.twitter.com/eTravelWay Facebook:www.facebook.com/eTravelWaygoogle plus : www.eTravelWay.com/+
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
สะพานอะกะชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge) หรือ สะพานไข่มุก (Pearl Bridge) ในประเทศ ญี่ปุ่น เป็นสะพานแขวนที่มีช่วงกลางยาวที่สุดในโลก ยาว 1,991 เมตร หรือ 6,532 ฟุต สะพานนี้สร้างเสร็จในปี 1998 ซึ่งใช้เชื่อมระหว่างเมืองเมืองโกเบบนเกาะฮนชู กับเมืองอิวะยะบนเกาะอะวะ จิ ข้ามช่องแคบอะกะชิ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายฮอนชู – ชิโกะกุ
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
ก่อนที่จะมีการสร้าง สะพานไข่มุก อะกะชิไคเคียว ที่ ญี่ปุ่น ขึ้น การเดินทางข้ามช่องแคบอะกะชิต้องใช้บริการเรือข้ามฟาก ซึ่งมีความอันตรายสูงมาก เนื่องจากช่องแคบอะกะชิเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่หนาแน่นแห่งหนึ่ง อีกทั้งภัยธรรมชาติรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
กระทั่ง ในปี ค.ศ. 1955 ได้เกิดเหตุการณ์เรือข้ามฟากสองลำเกิดอับปางลงกลางทะเล ทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนมากเป็นเยาวชนจำนวน 168 ราย อันเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจ ทำให้รัฐบาล ญี่ปุ่น ในขณะนั้นริเริ่มโครงการก่อสร้าง สะพานไข่มุก ขึ้นในบริเวณ ดังกล่าว
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
ซึ่งแผนการเดิมนั้นสร้างเป็นสะพานสำหรับรถยนต์และ ทางรถไฟ แต่เมื่อมีการลงมือก่อสร้างสะพานขึ้นในปี ค.ศ. 1986 ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบให้เป็นสะพานสำหรับรถยนต์เพียงอย่างเดียว ประกอบด้วยถนน 6 เลน การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1986 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1998
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีสะพานไหนที่ถูกสร้างขึ้นมาทำลายสถิติ สะพานไข่มุก อะกะชิไคเคียว ที่ ญี่ปุ่น นี้ได้ และดูแล้วน่าไปเที่ยว ภาพวิวทิวทัศน์เวลาอยู่บนสะพานแห่งนี้คงจะสวยไม่ เบาเลยทีเดียว
ที่มา: http://travel.mthai.com/world-travel/47057.html
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
สะพานอะกะชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge) หรือ สะพานไข่มุก (Pearl Bridge) ในประเทศ ญี่ปุ่น เป็นสะพานแขวนที่มีช่วงกลางยาวที่สุดในโลก ยาว 1,991 เมตร หรือ 6,532 ฟุต สะพานนี้สร้างเสร็จในปี 1998 ซึ่งใช้เชื่อมระหว่างเมืองเมืองโกเบบนเกาะฮนชู กับเมืองอิวะยะบนเกาะอะวะ จิ ข้ามช่องแคบอะกะชิ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายฮอนชู – ชิโกะกุ
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
ก่อนที่จะมีการสร้าง สะพานไข่มุก อะกะชิไคเคียว ที่ ญี่ปุ่น ขึ้น การเดินทางข้ามช่องแคบอะกะชิต้องใช้บริการเรือข้ามฟาก ซึ่งมีความอันตรายสูงมาก เนื่องจากช่องแคบอะกะชิเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่หนาแน่นแห่งหนึ่ง อีกทั้งภัยธรรมชาติรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
กระทั่ง ในปี ค.ศ. 1955 ได้เกิดเหตุการณ์เรือข้ามฟากสองลำเกิดอับปางลงกลางทะเล ทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนมากเป็นเยาวชนจำนวน 168 ราย อันเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจ ทำให้รัฐบาล ญี่ปุ่น ในขณะนั้นริเริ่มโครงการก่อสร้าง สะพานไข่มุก ขึ้นในบริเวณ ดังกล่าว
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
ซึ่งแผนการเดิมนั้นสร้างเป็นสะพานสำหรับรถยนต์และ ทางรถไฟ แต่เมื่อมีการลงมือก่อสร้างสะพานขึ้นในปี ค.ศ. 1986 ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบให้เป็นสะพานสำหรับรถยนต์เพียงอย่างเดียว ประกอบด้วยถนน 6 เลน การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1986 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1998
อัพโหลด 13-3-2013 17:27
จุดชมวิวสวยงามที่สะพานไข่มุก
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีสะพานไหนที่ถูกสร้างขึ้นมาทำลายสถิติ สะพานไข่มุก อะกะชิไคเคียว ที่ ญี่ปุ่น นี้ได้ และดูแล้วน่าไปเที่ยว ภาพวิวทิวทัศน์เวลาอยู่บนสะพานแห่งนี้คงจะสวยไม่ เบาเลยทีเดียว
ที่มา: http://travel.mthai.com/world-travel/47057.html
แนะนำทะเลสวยๆ รับหน้าร้อนค่ะ
เข้าหน้าร้อนแบบนี้ หลายๆคนคงมองหาที่พักผ่อน หย่อนใจ แบบสบายๆ รับลมเย็นๆ กันอยู่ล่ะสิ .. .
วันนี้เราก็เลยรวบรวมสถานที่ที่มีทะเลสวยๆ น้ำใสๆ มาแนะนำค่ะ
เริ่มจากใกล้ๆกรุงเทพก่อนเลยเนอะ .. .
เกาะล้าน พัทยา จ.ชลบุรี
อยู่ห่างจากชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร 45 นาทีก็ถึง แต่หากเดินทางโดยเรือเร็วจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น "เรือลากร่มชูชีพ" สำหรับผู้ที่ชอบหวาดเสียว "เรือสกี" สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย หรือจะเลือกมันส์ไปกับ "สกู๊ตเตอร์" ก็มีให้เลือกหลากหลายค่ะ
เกาะเสม็ด จ.ระยอง
เป็นอีกจุดมุ่งหมายปลายทางหนึ่งของคนรักทะเลเลือกไปเยือนในหน้าร้อนนี้ เพราะนอกจากจะเดินทางสะดวก มีที่พักให้เลือกหลากหลายแล้ว หาดทรายขาวและน้ำใสสีเขียวครามสะอาดตาก็เป็นอีกหนึ่งความสวบงามที่หลายคนรู้สึกประทับใจ
เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็ต่างขนานนามให้เกาะสมุยว่าเป็น "สวรรค์กลางอ่าวไทย" เนื่องจากเกาะสมุยมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น สวยงาม มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อาทิเช่น น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และนอกจากธรรมชาติชายทะเลแล้ว ยังมีน้ำตกที่มีน้ำใสเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่น เช่น วัดสำเร็จ วัดละไม วัดพระใหญ่ เจดีย์แหลมสอ ฯลฯ
เกาะตาชัย จ.พังงา
เกาะตาชัย ถูกสำรวจพบมานานแล้ว แต่เพิ่งจะขึ้นตรงกับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมความงามได้ไม่นาน ซึ่งช่วงเวลาที่ เกาะตาชัย งดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้น เกาะตาชัย จะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ เกาะตาชัย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปชื่นชม คือ ชายหาดทรายขาวเม็ดละเอียด เนื้อนุ่ม ที่มีความยาวทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร และการเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ มีลำตัวสีแดงสด มีก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ ชอบออกหากินในช่วงกลางคืน รวมถึงเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย
เกาะพีพี จ.กระบี่
อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ราว 40 กิโลเมตร หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น “พี พี" ซึ่งได้ ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเลและปลาหลากสีสันที่สวยงาม
ทะเลภูเก็ต
"ภูเก็ต" ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในด้านความสวยงามของทิวทัศน์ และหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวครบครัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกอย่างหลากหลาย มีชายหาดยอดนิยม ได้แก่ หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดกมลา ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ สำหรับสถานที่แนะนำของเรา หวังว่าคงจะสวยถูกใจใครหลายๆคนนะคะ
สำหรับใครที่สนใจจะเดินทางท่องเที่ยว สามารถเข้าไปที่ www.zizzee.comเพื่อค้นหาโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า เพื่อความสะดวกในการเดินทางได้เลยค่ะ
วันนี้เราก็เลยรวบรวมสถานที่ที่มีทะเลสวยๆ น้ำใสๆ มาแนะนำค่ะ
เริ่มจากใกล้ๆกรุงเทพก่อนเลยเนอะ .. .
เกาะล้าน พัทยา จ.ชลบุรี
อยู่ห่างจากชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร 45 นาทีก็ถึง แต่หากเดินทางโดยเรือเร็วจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น "เรือลากร่มชูชีพ" สำหรับผู้ที่ชอบหวาดเสียว "เรือสกี" สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย หรือจะเลือกมันส์ไปกับ "สกู๊ตเตอร์" ก็มีให้เลือกหลากหลายค่ะ
เกาะเสม็ด จ.ระยอง
เป็นอีกจุดมุ่งหมายปลายทางหนึ่งของคนรักทะเลเลือกไปเยือนในหน้าร้อนนี้ เพราะนอกจากจะเดินทางสะดวก มีที่พักให้เลือกหลากหลายแล้ว หาดทรายขาวและน้ำใสสีเขียวครามสะอาดตาก็เป็นอีกหนึ่งความสวบงามที่หลายคนรู้สึกประทับใจ
เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็ต่างขนานนามให้เกาะสมุยว่าเป็น "สวรรค์กลางอ่าวไทย" เนื่องจากเกาะสมุยมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น สวยงาม มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อาทิเช่น น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และนอกจากธรรมชาติชายทะเลแล้ว ยังมีน้ำตกที่มีน้ำใสเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่น เช่น วัดสำเร็จ วัดละไม วัดพระใหญ่ เจดีย์แหลมสอ ฯลฯ
เกาะตาชัย จ.พังงา
เกาะตาชัย ถูกสำรวจพบมานานแล้ว แต่เพิ่งจะขึ้นตรงกับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมความงามได้ไม่นาน ซึ่งช่วงเวลาที่ เกาะตาชัย งดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้น เกาะตาชัย จะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ เกาะตาชัย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปชื่นชม คือ ชายหาดทรายขาวเม็ดละเอียด เนื้อนุ่ม ที่มีความยาวทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร และการเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ มีลำตัวสีแดงสด มีก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ ชอบออกหากินในช่วงกลางคืน รวมถึงเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย
เกาะพีพี จ.กระบี่
อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ราว 40 กิโลเมตร หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น “พี พี" ซึ่งได้ ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเลและปลาหลากสีสันที่สวยงาม
ทะเลภูเก็ต
"ภูเก็ต" ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในด้านความสวยงามของทิวทัศน์ และหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวครบครัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกอย่างหลากหลาย มีชายหาดยอดนิยม ได้แก่ หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดกมลา ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ สำหรับสถานที่แนะนำของเรา หวังว่าคงจะสวยถูกใจใครหลายๆคนนะคะ
สำหรับใครที่สนใจจะเดินทางท่องเที่ยว สามารถเข้าไปที่ www.zizzee.comเพื่อค้นหาโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า เพื่อความสะดวกในการเดินทางได้เลยค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)