วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทริป "มาเลเซียสุดติ่ง สิงคโปร์สุดตา" (28 ส.ค. - 7 ก.ย. 57) : ตอนที่ 3 - เที่ยวท่อง...ส่องปีนัง

ตอนที่แล้ว (เผื่อใครจะอ่านต่อหรืออ่านย้อนหลัง) ตอนที่ 1 - รถไฟชั้นหนึ่ง ถึงบัตเตอร์เวอร์ธhttp://pantip.com/topic/32797132 ตอนที่ 2 - แนะนำประเทศมาเลเซีย + ปีนังที่หวังเหวิดhttp://pantip.com/topic/32801835 ------------------------------ หายไปนาน ๑๐ วัน ก็ต้องขออภัยที่ไม่ได้มาเล่าให้ฟังต่อ เพราะงานช่วงนี้เยอะพอสมควร ก็เครียดนิดนึง และที่สำคัญ...โน้ตบุ๊คที่ใช้มา ๗ ปีกว่าก็ช้าเป็นธรรมดา แถมเน็ตที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวติดเดี๋ยวไม่ติด ทำรูปก็ทำได้แบบช้า ๆ ทำรูปไม่ทันลง ก็เลยยังไม่ได้ลงต่อ รอให้ทำรูปถึงตอนออกจากปีนังก่อนแล้วค่อยเล่าต่อครับ ตอนที่แล้ว ก็ยังอยู่ที่เกาะปีนัง ไปดู KOMTAR ตามหาซิมมือถือ และของกินตามรายทางกันไปแล้ว ซึ่งจบกระทู้ที่ผ่านมาที่มัสยิดกัปตันเกลิง (เก-ลิง) คราวนี้จะไปดูอะไรกันต่อ...ต้องมาดูกันครับ แต่ก่อนจะเริ่มกระทู้ ก็ขอเล่าเรื่องของเกาะปีนังก่อนเริ่มกระทู้นี้นิดนึงครับ ปีนัง หรือที่ในภาษามลายูเรียกว่า Pulau Pinang เป็นรัฐหนึ่งในมาเลเซีย แปลว่า เกาะหมาก (Pulau - เกาะ, Pinang - หมาก) ถ้าสังเกตบนธงประจำรัฐก็จะมีรูปต้นหมากอยู่กลางธง ซึ่งรัฐนี้คนไทยน่าจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง โดยเฉพาะ "การเสียดินแดนเกาะหมากให้กับอังกฤษ" ซึ่งเป็นการเสียดินแดนครั้งแรกของสยามในยุครัตนโกสินทร์ ในปีพุทธศักราช ๒๓๒๙ โดยเสียดินแดนให้กับอังกฤษ กลายเป็นอาณานิคมแห่งแรกของอังกฤษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งในอดีต ในยุครัตนโกสินทร์ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คนไทยที่มีฐานะก็จะส่งลูกหลานไปเรียนหนังสือที่นี่กัน หรือแม้แต่ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง เกาะแห่งนี้เป็นปลายทางสำหรับลี้ภัยทางการเมืองของเจ้านาย และเชื้อพระวงศ์หลายท่าน หลายพระองค์ โดยเฉพาะสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จฯ กรมพระสวัสดิวัตน์วิศิษฎ์ หลังจากเหตุการณ์กบฏบวรเดช ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ อีกด้วย ปีนังเป็นรัฐที่มีดินแดน ๒ ส่วน คือ ส่วนเกาะปีนัง (อยู่ฝั่งตะวันตก) และส่วนคาบสมุทร คือ ส่วนของบัตเตอร์เวอร์ธ บูกิตเมอร์ตาจัม (อยู่ฝั่งตะวันออก) โดยมีสะพานข้ามเกาะอยู่ทางตอนกลางและตอนใต้ของเกาะ เชื่อมกับแผ่นดินฝั่งคาบสมุทร และมีท่าเรือข้ามฟากทางตอนเหนือ อีกทั้งเป็นรัฐที่มีผู้ว่าการรัฐ เป็นตำแหน่งสูงสุด เนื่องจากไม่มีสุลต่านประจำรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น