วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ฟ้าสีเพลิง ณ กรุงโตเกียว

7 - 21 กันยายน 2557 กระทู้นี้เป็นกระทู้เล่าสู่กันฟังเรื่อง ที่พัก ที่กิน ที่ช้อบของถูก ที่เที่ยว และ รวมวิธีการเดินทางในโตเกียว รวมถึงการซื้อ One day pass ในการเที่ยวตามแผนและตามผังรถไฟ ทั้งใต้ดินและบนดิน เปิดภาพมาด้วย ท้องฟ้าตอนใกล้ค่ำ ฉันยืนถ่ายแถวๆ บนสะพานข้ามแม่น้ำสายเล็กๆ ที่อยู่ติดกับ Tokyo Sky Tree ท้องฟ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ จะว่าน่ากลัวก็ใช่ จะว่าสวยก็ใช่อีก ถ้าถ่ายรูปเก่งคงได้ภาพสวยกว่านี้เนอะ การถ่ายภาพของฉัน ก็เป็นการถ่ายแบบเล่าเรื่อง อยากถ่ายรูปอะไร อยากเล่าอะไร ก็ถ่ายๆ ไปตามนั้น ถ่ายรูปไม่เก่ง แต่ก็ชอบถ่าย เพราะอยากเอามาเล่า (หวังว่ากระทู้นี้จะเล่าจบ) ฉันซื้อตั๋วเครื่องบินแบบ คิดอยากจะไป ก็ลอง search หาตั๋วจาก Air Asia ดู แบบถ้าเจอตั๋วราคาถูกใจ ก็จะไป ถ้าไม่เจอ..ก็ไม่ไป อะไรมันจะง่ายขนาดนั้นนะ ชีวิตของฉันยามแก่เฒ่า (ว่าไปนั่น 555) ไม่ได้บอกให้ตีความเป็นนัยๆ ว่า...แก่แล้ว เพราะฉันก็ยังมีหัวใจที่ปิ๊งปั๊งสดใสและชอบฟังเพลงโปรด คือ Viva La Vida ของ Coldplay ... เพลง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันไปเที่ยวอังกฤษเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา (เห็นมั้ย ว่า อะไรๆ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ออกท่องเที่ยวได้ เพียงแค่ใจมันอยากจะไป...แค่นั้น)[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Viva La Vida ตามลิ้งค์นี้ไปนะคะ http://www.youtube.com/watch?v=dvgZkm1xWPE เพราะเพลงนี้เอง ที่ฉัน search หาเนื้อเพลง แล้วก็ search ไปเรื่อยๆ จนถึงเรื่องราวต่างๆ เยอะแยะมากมาย แล้วไปโผล่ที่พระเจ้า Henry ที่ 8 ได้ไงก็จำไม่ได้ จนไปถึงเรื่องของ แอนน์ โบลิน แม่ของพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 เลยเถิดไปถึง London Tower, Hampton Court และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับประเทศอังกฤษ ฉันอยู่ต่างจังหวัด เวลาจะไปเที่ยวไหน ก็ต้องเดินทางนานกว่าคนอยู่กรุงเทพแน่นอน ปกติจากจังหวัดของฉัน การเข้ากรุงเทพโดยรถทัวร์ ถือว่าถูกที่สุด แต่ถ้าได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปกรุงเทพ บินจากจังหวัดใกล้เคียงอย่างเชียงใหม่ ก็ยินดีจะขับรถไปขึ้นเครื่องที่นั่นเพื่อซื้อเวลาที่จะไม่ต้องนอนบนรถทัวร์หนึ่งคืน ซึ่งรอบนี้ก็ได้ตั๋วถูกจาก Thai Lion Air ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสายการบินแหวกแนวที่ถ้าซื้อกระชั้นชิดก็เหมือนจะได้ถูกแฮะ แปลก แต่ก็ดี แต่ก็ต้องเสี่ยงดูว่าจะมีที่นั่งว่างให้ซื้อมั้ย สรุปราคาตั๋ว Air Asia (X) จากดอนเมือง - นาริตะ ไปกลับ 12,723 บาท Thai Lion Air จากเชียงใหม่ - ดอนเมือง เที่ยวเดียว 820 บาทภาพนี้ถ่ายเวลา 6 โมงเย็น --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จะเริ่มเล่าแล้วค่ะ...ไปถึงนาริตะ ช่วงเช้า ประมาณ 9 โมงกว่าๆ (ออกจากดอนเมือง ตี 1) เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ระยะเวลาบิน 6 ชั่วโมงนิดๆ ฉันทำการบ้านไปแล้วบ้าง คือ จองที่พัก 5 คืนแรก ที่ Tokyo Hutte และรู้ว่าเดินทางโดยรถไฟ Keisei Line ซื้อตั๋วที่ Booth ของ Keisei เลยก็ได้ หรือจะซื้อจากเครื่องอัตโนมัติเลยก็ได้ 1,170 เยน Narita terminal 2 ไปถึง สถานี Oshiage (Tokyo Sky Tree) ต่อเดียวถึงเลย ตอนจะขึ้นรถไฟ ต้องดูดีๆ นะ เพราะ Platform เดียวกัน แต่คนละขบวน ทางที่ดี ให้ดูเวลาเป็นหลักว่า รถไฟออกกี่โมง ก็ขึ้นตามเวลานั้น ที่บอกนี่ ก็เพราะขึ้นผิดขบวนมาแล้ว อิอิ ดันไปขึ้น Skyliner เจอคนตรวจตั๋ว ต้องซื้อตั๋วใหม่อีก 2xxx เยน ค่าไม่รู้แท้ๆ เลย แล้วกว่าจะรู้ว่าขึ้นผิดขบวนก็จะถึง Ueno อยู่แล้ว ทั้งๆ ที่เคยขึ้นขบวนนี้มาก่อนเมื่อปีที่แล้ว ตอนขึ้นมาก็รู้สึกตะหงิดๆ อยู่เหมือนกัน แต่กลับลำไม่ทัน ก็ปล่อยเลยตามเลย หน้าตาของรถ Skyliner เป็นแบบนี้นะ ข้างในเป็นแบบนี้ ส่วน Keisei Line เป็นแบบนี้ ขบวนนี้แหละที่ต้องขึ้นในราคา 1,170 เยน ข้างใน Keisei Line เป็นแบบนี้ ต่างกันชัดเจน ใครจะไปพักแถว Ueno ก็ขึ้น Skyliner ไปเลยค่ะ เร็วดี ถึงจะแพงหน่อยก็ถือว่าสะดวกมาก ก่อนจะไปเที่ยว ไปกิน ไปช้อป ก็จะขอแนะนำที่พักราคาถูก ทำเลดี มีที่กินอาหารดีๆ ราคาไม่แพง นั่งรถไฟต่อเดียวถึง จากสนามบิน เดินทางสะดวกมาก เป็นที่พักแบบ Hostel ชื่อ Tokyo Hutte คือแบบห้องนอนรวมชายหญิง 9 ที่นอน แยกเป็นล๊อคๆ เหมือนได้ห้องเล็กๆ กระทัดรัดของตัวเอง 1 ห้อง ราคา 2,400 เยน/คน/คืน แต่ในห้องนอนรวมแบบหญิงล้วน 3,000 เยน/คน/คืน เหตุที่แพงกว่าก็เพราะล๊อคๆ ที่แบ่งมาให้ มันกว้างกว่า มีเพียง 4 ที่เท่านั้น ส่วนห้องส่วนตัวมี 1 ห้อง นอนได้แค่ 2 คน แบบเสื่อ Tatami แต่ถ้าจะนอน 3-4 คน คงต้องติดต่อเค้าดู ราคาห้องส่วนตัวเค้าคิดต่อห้องสำหรับ 2 คนคือ 7,500 เยน แต่ทั้งหมด ใช้ห้องน้ำรวม ป้ายเล็กๆ ตั้งอยู่กับพื้น ฝั่งทางเข้าที่ติดถนน ทางเข้าฝั่งแม่น้ำ ชั้นล่าง เป็นที่นั่งดูทีวี นั่งกินดื่ม มีแต่เครื่องดื่มขาย อาหารซื้อมากินตรงนี้ได้ค่ะ เล่นเน็ตมี Mac ให้ใช้ฟรี (Wifi มีให้ใช้ฟรี แต่ชั้นบนจะมีๆ หายๆ) ที่นั่งเล่นชั้นล่าง เป็นที่รวมนักท่องเที่ยวที่เข่ามาพักต่างชาติ ต่างภาษา แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการท่องเที่ยวได้ที่นี่ ห้องนอนรวมชายหญิง วิวจากดาดฟ้า ตากผ้าบนดาดฟ้าได้ มีที่แขวนผ้าพร้อมที่หนีบผ้า แข็งแรง ไม่ต้องกลัวปลิว วิวจากทางเข้าฝั่งแม่น้ำ วิวจากฝั่งทางเข้าที่ติดกับถนน โซนล้างหน้า มีตู้เย็นเล็กๆ กับถังขยะ ไดร์เป่าผม กาต้มน้ำ ไว้ให้ใช้ อยู่ใกล้ๆ อ่างล้างหน้า เป็นสถานที่เล็กๆ กระทัดรัด มีแค่สองชั้น กับชั้นดาดฟ้า ส่วนที่นอน ห้องพักอื่นๆ เข้าไปดูในเว็บนะคะ ไม่สะดวกถ่ายรูปมาค่ะ คนเข้าพักเต็มตลอดเลย ขอเล่าเรื่องการใช้ห้องน้ำรวมหน่อยค่ะ จริงๆ ฉันก็เคยหวั่นๆ และไม่มั่นใจที่จะใช้ห้องน้ำรวมมาก่อน แต่พอได้ไปสัมผัสจริงๆ มันไม่ได้เลวร้ายเลยค่ะ เพราะทุกที่ที่ไป สะอาดหมด ฉันเลือกที่พักมาหลายแบบ การจะประหยัดเรื่องที่พักก็เป็นเรื่องที่ต้องทำบ้าง เพราะยังไง ฉันก็พบว่า ตัวเองใช้เวลาเที่ยวมากกว่านอน และที่สำคัญ ห้องน้ำรวม ไม่ได้แปลว่า ไปอาบน้ำรวมกันที่ไหนหละ ฮ่าๆ ถ้าจะขนาดนั้น ฉันก็คงมิกล้าไปทำร้ายสายตาชาวบ้าน ตรงกันข้ามนะ การใช้ห้องน้ำรวม มีข้อดี คือ ถ้าไปกัน 2-3  คน ก็ไม่ต้องรอคิวเข้าห้องอาบน้ำ หรือ ใช้ห้องสุขาเลย เราจัดเตรียมเสื้อผ้ากับเครื่องใช้ เข้าห้องอาบน้ำส่วนตัว ส่วนใหญ่ Hostel ก็จะมีพื้นที่แบ่งโซนระหว่าง Shower กับ พื้นที่แต่งตัวที่อยู่ในห้องเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงพื้นเปียกๆ ตามรูปนี้ เข้าไปดูรูปห้องพัก กับแผนที่ไปที่พักได้จากเว็บของเค้าเลยค่ะ http://www.tokyohutte.co.jp/en/ หรือจะจองผ่าน booking.com ก็ได้ จะทางไหน ก็ต้องไปจ่ายเงินสดที่นั่นเลย เค้าไม่รับบัตรเครดิตนะจ้ะ ที่พักแห่งใหม่นี้ เพิ่งเปิดมาได้แค่เดือนกว่าๆ เท่านั้นเอง เจ้าของเป็นเพื่อนผู้หญิงกัน 2 คน กับน้องชายของเค้าอีก 1 คน ช่วยกันทำ ฉันเข้าพักหลายวัน และได้ลองใช้ทั้งห้องแบบชายหญิง และห้องหญิงล้วน พบว่า ห้องหญิงล้วนน่าจะเหมาะกว่า เพราะจำนวนคนน้อยกว่า เงียบกว่า พื้นที่ส่วนตัวใหญ่กว่า ห้องนอนติดกับแม่น้ำ ชะโงกหน้าไปดูวิว Tokyo Sky Tree ได้จากหน้าต่างในห้องเลย ส่วนห้องชายหญิงรวมกัน ก็จะได้พื้นที่ส่วนตัวเล็กกว่าหน่อย ห้องติดกับถนน เวลามีรถบรรทุกวิ่งผ่าน ก็ได้อารมณ์เหมือนแผ่นดินไหวทุกชั่วโมง ฮ่าๆTips และ คำเตือน: 1. ใครจะไปพักที่นี่ ถ้าติดที่จะต้องเล่นเน็ตตลอดเวลา โดยเฉพาะก่อนนอนและตอนออกไปเที่ยวข้างนอก ควรหาเช่า Pocket Wifi ไป เห็นน้องที่เจอกันที่สถานีรถไฟบอกว่า เช่าจากเมืองไทยไปวันละ 250 บาท ไปกันหลายคนก็แชร์กันได้ แต่ถ้าไปคนเดียว คงแพงนะ ถ้าไปหลายๆ วันอย่างฉัน 2. ที่นี่ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ใช้ฟรี แต่มีให้เช่า 100 เยน ต่อผืน อยู่กี่วันก็ใช้ซ้ำไปเพราะเปลี่ยนใหม่ก็คิดเงินใหม่ 3. ใครไปพักหลายๆ วัน ไม่ต้องหอบเสื้อผ้าไปเยอะ เพราะมีเครื่องซักผ้าให้ใช้ครั้งละ 250 เยนพร้อมน้ำยาซักผ้ามาเป็นก้อนๆ โยนลงไปในเครื่องซักผ้าได้เลย หรืออยากไปซื้อเอาที่โน่นก็ได้ เดี๋ยวมาบอกร้านราคาไม่แพงให้ มีทั้งมือหนึ่งมือสอง(แต่สะอาดมากเหมือนใหม่) 4. ทางเดินไปที่พัก จากสถานีรถไฟ  Oshiage ใช้ Exit B3 ก็ได้ มีลิฟท์ให้ใช้ หรือ จะเดินผ่านห้างซึ่งสะดวกมาก ใช้ Exit ที่เขียนว่าไป Sky Tree Town ขึ้นบันไดเลื่อน หน้าตาแบบนี้ ในกรณีที่ห้างเปิดนะ เดินผ่านห้างออกมาทางนี้ ออกมาจะเจอร้าน KFC จากจุดนี้ ข้ามถนนแล้วข้ามสะพาน มีแม่น้ำสายเล็กๆ น้ำใสไหลเย็น เห็นตัวปลา เดินไปชมวิวไป วันที่ฉันไปถึง เห็นปลากระเบนด้วยหละ จริงๆ แล้ว เห็นปลากระเบนก่อนที่เด็กๆ พวกนั้นจะเดินมาถึงจุดนี้ซะอีก แต่ฉันเดินตามปลากระเบนว่ายน้ำไปเรื่อยๆ จนเจอเด็กมาตกปลา มันก็เลยมุดหายไปเลย ดูใกล้ๆ แบบซูมๆ เดินมาสักแป้บก็ถึงที่พัก (จริงๆ ใช้เวลา 5-6 นาทีก็ถึงที่พัก) แวะซื้ออาหารไปกิน แนะนำเลยค่ะ ร้านนี้ อยู่ใกล้ๆ กับร้าน Mc Donald ข้าวกับปลาดิบ อร่อยมากเลย ราคาถูกด้วย 500 เยน + Vat 8% คือ 540 เยน พักที่นี่ ก็ซื้อกินหลายมื้อเลย เพราะถูกปากมาก แม้ฉันจะไม่ได้เป็นแฟนคลับปลาดิบก็ตาม ใครยังทำใจกินปลาดิบไม่ได้ ก็กินไข่หวาน ไข่กุ้ง หรือปลาไหลย่างก็ได้ นั่งกินที่ชั้นล่างของที่พักได้ตามสบาย ในวันแรกที่โตเกียวรอบนี้ ฉันคิดไว้แล้วว่าจะกลับไปกินของปิ้งย่างเป็นไม้ๆ กินแบบคนญี่ปุ่น จึงขอตัดฉับ ไปที่การหาของกินมื้อเย็นที่ ชินจูกุ การเดินทางในโตเกียว นั้นสะดวกมากมาย หากมีแค่บัตร Suica หรือ Pasmo หรือจะซื้อ One day Pass ก็ได้ แก้ไขข้อความเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น