วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

One Day Trip in Kuala Lumpur, Malaysia เที่ยวมาเลเซียไม่ง้อทัวร์

สวัสดีค่ะ / Selamat Datang ขอเปิดประเดิมกระทู้แรกด้วยรีวิวเที่ยวมาเลเซียไม่ง้อทัวร์นะคะ พอดีมีโอกาสได้ไปทำงานที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีเวลาว่าง 1 วัน ก็เลยเกิด One Day Trip in Kuala Lumpur และมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่ช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และเส้นทางได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่น่ารักมากๆ ค่ะ และขอขอบคุณรีวิวเที่ยวมาเลเซียใน Pantip ด้วยนะคะ หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูลเช่นกันนะ ^^ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกและเป็นการบอกเล่าจากประสบการณ์ที่ไปเจอมา ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะคะ ก่อนอื่นสิ่งที่อยากจะแนะนำสำหรับคนไปเที่ยวมาเลเซียก็คือ แลกเงินไปเลยค่ะ ตอนที่เราไป (11 กันยายน 2557) ค่าเงินอยู่ประมาณ 1 ริงกิตมาเลเซีย (MYR) เท่ากับ 10 บาทไทย หากสะดวกแลกที่สนามบินไปเลยดีที่สุดค่ะ เนื่องจากที่แลกเงินจะมีในแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ และในห้างสรรพสินค้า ซึ่งในห้างคนต่อคิวเยอะมากๆ บางที่คนต่อคิวน้อยเพราะว่ามี Service Charge ด้วยค่ะ พี่ที่ไปด้วยกันมีเงินดอลล่าร์ สหรัฐ (USD) ไปซื้อของบางร้านเค้าไม่รับค่ะ ส่วนเงินบาทไทยถ้าเจอพ่อค้า/แม่ค้าไทย หรือคนมาเลใจดีเค้าก็รับนะคะ แต่น้อยมากค่ะ ใช้เงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) ชัวร์ที่สุดค่ะ อย่างที่สองสำหรับคนติด Social เหมือนเรา ต้องแชท ต้องโพสต์ อยู่ตลอดเวลา แนะนำให้ซื้อซิมที่มาเลเซียค่ะ หลายคนที่เปิดโรมมิ่งไปค่าใช้จ่ายโหดมากค่ะ Wifi ในมาเลเซียก็มีทั่วไปในสนามบิน ห้าง และโรงแรม ส่วนใหญ่เป็น Wifi ฟรี ไม่ต้องใส่รหัส แต่บางที่เราก็เชื่อมต่อไม่ได้ค่ะ เท่าที่ไปเราเล่นได้แค่ในสนามบินค่ะ ตอนไปเราใช้บริการของ Digi ค่ะ สีเหลืองๆ ค่าซิมถ้าจำไม่ผิดประมาณ 28 ริงกิต (280 บาท) เล่นเน็ตแบบ Unlimited  แต่ความเร็วจะค่อยๆ ลดระดับลงค่ะ มีโทรฟรี ใช้ได้ 7 วัน สำหรับ 3G เร็วมากค่ะ ของแท้แน่นอนไม่ใช่ 3G ปลอมเหมือนบ้านเรา สำหรับซิมเราแนะนำให้ซื้อที่สนามบินนะคะ เท่าที่เห็นมี 3 เครือข่ายค่ะ พอผ่าน ตม. มาจะเจอ Maxis เป็นศูนย์บริการใหญ่เลยค่ะ สีแดงๆ เดินมาอีกหน่อยจะเจอ Digi (สีเหลือง) อยู่ข้างๆ กับ U Mobile (สีส้ม) ส่วนโปรก็เลือกตามใจชอบเลยค่ะ ไปเจอพนักงานของ Digi พูดไทยได้นิดหน่อย ออกแนวกวนๆ ฮาๆ ดีค่ะ ร้านขายซิมข้างนอกสนามบินก็มีนะคะ ส่วนใหญ่มีในห้างใหญ่ๆ และข้างถนนก็มีบ้างแต่ไม่เยอะค่ะ ส่วนบัตรเติมเงินหาซื้อได้ทั่วไปค่ะ สุดท้ายที่จะแนะนำก็คืออย่าลืม Adapter แปลงหัวปลั๊กไฟค่ะ ที่มาเลเซียจะใช้ปลั๊กไฟแบบสี่เหลี่ยมสามขา ซึ่ง Adapter ก็หาซื้อได้ทั่วไปนะคะ บางรีวิวบอกว่าตามตลาดนัดก็มี ส่วนเราซื้อมาจากฟอร์จูน ซื้อมาแบบ 2 มาตรฐานค่ะ อันนึงราคา 25 บาท อีกอันราคา 100 กว่าบาท กันเหนียวค่ะ สำหรับเรา 3 สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ค่ะ ถ้าไม่มีมันเราคงอยู่ไม่ได้ 5555 รูปนี้เอามาจากที่เพื่อนๆ ในพันทิปโพสไว้จ้า เกริ่นเยอะแล้ว ไปเที่ยวกันดีกว่าเนอะ เราไปทำงานที่ห้าง Mid Valley ค่ะ เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่มากกกกก มีซุปเปอร์มาร์เก็ต โรงหนัง ร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์เนม ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าค่ะ ถ้าจะไปเดินให้จำทิศดีๆ นะคะ เค้าจะแบ่งเป็นโซนๆ North Court, South Court ประมาณนี้ (ที่ให้จำทิศเพราะเราหลงมาแล้วค่ะ หาทางกลับไม่เจอ 555) สถานีแรกที่จะพาไปก็คือ ร้านกาแฟ Old Town ค่ะ เป็นกาแฟขึ้นชื่อของมาเลเซีย จะเห็นกาแฟยี่ห้อนี้เยอะมาก มีทั้งเป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่ในห้าง สนามบิน ร้านข้างทาง หรือแบบ 3 in 1 ใน Supermarket สำหรับร้านที่อยู่ในห้าง Mid Valley เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ ราคาก็เริ่มตั้งแต่ 5 ริงกิต (50 บาท) ไปจนถึงเกือบ 20 ริงกิต (200 บาท) เลยค่ะ พอดีเราไม่ใช่คอกาแฟนะคะ เราเป็นคอโกโก้/ช็อคโกแลต เมนูแนะนำของเราคือ “Old Town Choc Mint Freez” เป็นโกโก้ปั่นผสมมิ้นท์ราดวิปครีมค่ะ อร่อยมากกกกก ช็อคโกแลตไม่หวานมาก ตัดกับมิ้นท์เย็นๆ ผสานกับวิปครีมนุ่มลิ้น อ๊ากกกก ฟินนนนน ^0^ ส่วนพี่คอกาแฟเค้าแนะนำ “Old Town White Coffee Mocha” กับ “Old Town White Coffee Hazelnut” ค่ะ มอคค่าพี่เค้าบอกว่าหอมช็อคโกแลตและรสชาติกลมกล่อม ส่วน Hazelnut ก็หอมถั่วรสชาติเข้มข้นดีค่ะ กาแฟเราจำราคาไม่ได้นะคะ ส่วนโกโก้มิ้นท์ของเราราคาประมาณ 18 ริงกิตกว่าๆ (180 บาทกว่าๆ) นอกจากเมนูเครื่องดื่มแล้วก็มีอาหารด้วยนะคะ บอกก่อนว่าอาหารมาเลเซียรสชาติไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ค่ะ มันค่อนข้างไปทางจืด แต่เค้ามีพริกนะคะ ตามร้านอาหารขอพริกได้ ซึ่งพริกมาเลเผ็ดกว่าบ้านเราค่ะ เผลอใส่เยอะแบบบ้านเรานี่ปากเบินกันเลยทีเดียว ส่วนบางเมนูที่เป็นอาหารไทย เช่น ต้มยำ รสชาติก็เผ็ดไปเลยค่ะ แต่ไม่กลมกล่อม (อาจจะแล้วแต่คนชอบนะคะ แต่เท่าที่ไปกับคณะส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารเค้าค่อนข้างจืด) Mid Valley Mega Mall กาแฟเย็น ชาเย็น มอคค่าร้อน และกาแฟเฮเซลนัทร้อนค่ะ โกโก้มิ้นท์เราลืมถ่าย - -" 1 เมนูในร้าน Old Town เราขอเรียกมันว่าหมี่ขาวต้มยำกุ้งแล้วกันนะคะ (เผ็ดมากกก +เปรี้ยวไปหน่อย) อีก 1 เมนูค่ะ ข้าวอบหน้าไข่ 555 ทานกาแฟเสร็จก็ไปช็อปกันค่ะ ที่นี่มีร้านเยอะมาก ซึ่งร้านเป้าหมายของเราคือร้าน “Vincci” ค่ะ เป็นร้านแบรนด์มาเลเซีย (บอกตรงๆ ว่าถ้าไม่ไปมาเลเซียเราก็ไม่รู้จักค่ะ 555) ในร้านมีพวกกระเป๋า รองเท้า เข็มขัด ผ้าพันคอ แว่นตา สร้อย ราคาไม่แรงมากค่ะ มีตั้งแต่หลักไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงหลายพันบาท คนเยอะมากค่ะร้านนี้ เห็นหลายๆ คนบอกว่าราคาถูกกว่าไทยมาก อย่างเช่นแว่นตาที่ไทยราคาอันละ 500 บาท ที่มาเลแค่ 200 กว่าบาทเองค่ะ ส่วนอีกร้านก็ “Charles & Keith” ค่ะ เป็นร้านแบรนด์สิงคโปร์ ราคาแพงกว่าสิงคโปร์แต่ถูกกว่าไทยค่ะ ขายกระเป๋า รองเท้า เหมือนกัน แต่แบรนด์ดูมีระดับกว่า Vincci ราคาก็แรงกว่าตามไปด้วย ทั้งสองร้านอยู่ชั้น G ค่ะ ร้าน Vincci ค่ะ เราลืมถ่ายรูปมา ขอยืมจากเว็บห้าง Mid Valley แล้วกันนะ ร้าน Charles & Keith สถานีต่อไปเราจะไป Central Market กันนะคะ มาต่อค่ะ ขอบคุณสำหรับคำติชมด้วยนะคะ จากห้าง Mid Valley เดินไปทาง North Wing เพื่อไปขึ้นรถไฟ KTM สถานี Mid Valley ค่ะ บอกคนขายตั๋วว่าไปลงสถานี KL Sentral ราคาคนละ 1 ริงกิต (10 บาทเองค่ะ) แต่ในตั๋วเขียนว่าไปลงสถานี Putra นะคะ ต้องฟังดีๆ ถ้าจำไม่ผิดขึ้นไปแค่ 1 สถานี ก็ถึง KL Sentral ค่ะ ตั๋วเป็นตั๋วกระดาษเก็บไว้จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตอนขาออกค่ะ KL Sentral เป็นเหมือนอนุสาวรีย์ชัยฯ บ้านเราค่ะ เป็นศูนย์กลางสำหรับต่อรถไปยังสถานที่ต่างๆ สำหรับหนุ่มๆ ระวังด้วยนะคะรถไฟเค้ามีโบกี้สำหรับผู้หญิงค่ะ สังเกตดูแถบสีชมพูเขียนเป็นภาษามาเลเซีย ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตเหมือนกัน มีเจ้าหน้าที่มาบอกพี่ผู้ชายที่ไปกับเราค่ะว่าเป็นโบกี้สำหรับผู้หญิง เค้าเห็นเป็นต่างชาติก็ให้อภัยค่ะ ^^ ซื้อตั๋วกันค่ะ ไปลงสถานี KL Sentral 4 คน 40 บาทค่ะ รอรถไฟ รถไฟมาแว้ววว โบกี้สำหรับสาวๆ จ้า บรรยากาศใน KTM ถึงแล้ว KL Sentral พอลงจากรถไฟ KTM ก็ต้องไปต่อรถไฟ LRT ค่ะ เครื่องขายตั๋วเหมือนเครื่องขายตั๋ว MRT บ้านเรา เป็นตู้อัตโนมัติใส่เหรียญใส่แบงค์ได้ หยอดเงินครบก็จะมีเหรียญออกมา ขาเข้าใช้แตะ ขาออกใช้หยอดค่ะ ส่วนรถไฟก็หน้าตาเหมือน BTS บ้านเรา คนเยอะมากๆ จากสถานี KL Sentral ไปลงที่สถานี Pasar Seni ราคาคนละ 1 ริงกิต (10 บาท) เหมือนเดิมค่ะ พอออกมาก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า Central Market ไปทางไหน เราไปกันแบบถามตลอดทาง คนมาเลเซียพูดภาษาอังกฤษได้ดี เราไปกันแบบภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ แต่พอสื่อสารได้ อย่างที่โบราณว่าเลยค่ะ “ทางอยู่ที่ปาก” ถามไปตลอดทางจะได้ไม่หลงเสียเวลา เดินไปไม่ไกลก็ถึงแล้วค่ะ Central Market เราว่าคล้ายๆ จตุจักรบ้านเรา เป็นแหล่งช็อปปิ้ง ของกิน ของฝาก ศิลปะ ราคาไม่แพงมากค่ะ ถึงแล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปต่อรถไฟ LRT กันค่ะ KL Sentral สถานีรอยต่อ KTM กับ LRT ค่ะ ซื้อตั๋วกันนะคะ เอาเงินหยอดตู้ แลกกับเหรียญค่ะ (ตอนที่ซื้อตั๋วเงินไม่พอ มีสาวมาเลเซียที่ต่อคิวอยู่ข้างหลังให้เงินด้วยค่ะ น่ารักมากๆ) ^^ ทางเข้าค่ะ ขาเข้าใช้เหรียญแตะ ขาออกใช้หยอดนะคะ จากสถานี KL Sentral ไปลงสถานี Pasar Seni นะคะ ขึ้นให้ถูกฝั่งแล้วก็คอยฟัง ถ้าจำไม่ผิดไปอีกสถานีเดียวค่ะ คนเยอะมากๆ เหมือน BTS บ้านเราเลย พอลงจากรถไฟก็ถามเจ้าหน้าที่ค่ะ ว่า Central Market ไปทางไหน เดินมาไม่ไกลก็เจอทางเข้าค่ะ รูปดาว มีโซนแอร์ด้านใน กับ Open ด้านนอกค่ะ ศิลปะจากทรายค่ะ (ทรายสีเพลิง ฮ่าๆ) โซนศิลปะคล้ายๆ จตุจักรค่ะ นี่ไงมาเลเซียแอร์ไลน์ เสื้อสัญลักษณ์มาเลเซียค่ะ ตัวละ 200 กว่าบาท สุดท้ายร้านช็อคโกแลตค่ะ ร้านเล็กๆ น่ารัก มีช็อคโกแลตเยอะมาก ชิมฟรี เราซื้อช็อคโกแลตที่เป็นเม็ดกลมๆ ข้างในเป็นอัลมอนด์ จัดโปรโมชั่นค่ะ ซื้อ 2 แถม 1 กล่องเหล็กเหมาะกับการเป็นของฝากค่ะ ราคากล่องละ 170 บาท (หาร 3 กล่องนะคะ) เดี๋ยวเอารูปมาให้ดูอีกทีค่ะ สถานีต่อไป China Town ค่ะ ชื่อสินค้า:   Kuala Lumpur , Malaysia , KL คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น