วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ถามพี่ๆที่ทำงานแล้วหน่อยค่ะ กลุ้มใจมากเลย

สวัสดีค่ะ คิดมาอยู่นานแล้วว่าพยายามเขียนอธิบายความรู้สึกที่มีตอนนี้ยังไงดี... (ยาวหน่อยนะคะ) คือตอนนี้ จขกท เรียนอยู่ปีสี่แล้วค่ะ กำลังจะจบปีนี้แล้ว ในใจส่วนนึง ดีใจที่เรากำลังจะเรียบจบแล้ว เรียบจบสักทีที่พ่อแม่หวังไว้ แต่อีกใจนึงก็กังวลกับอนาคตที่ใกล้เข้ามาทุกวันๆค่ะ ไม่รู้ว่าการคิดแบบนี้มันอินดี้ไปไหม แต่ จขกท คิดว่าพี่ๆแทบทุกคนน่าจะต้องผ่านประสบการณ์ความรู้สึกตรงนี้มาก่อนแน่นอนเกี่ยวกับการทำงานในอนาคตที่เหลือของเรา คือมีแผนจะเรียนต่อโทค่ะ อาจจะในหรือต่างประเทศก็ว่ากันไป แต่อยากจะทำงานก่อนให้ได้ประสบการณ์ก่อน แล้วค่ะไปเรียนต่อค่ะ ต้องเล่าก่อนว่าตอนนี้ จขกท เรียนอยู่คณะวิศวะค่ะ ถามว่าชอบไหม ไม่ค่ะ แต่ถามว่าเกลียดไหม ก็ไม่อีกค่ะ คือเรียนได้ไม่ได้ทุกข์ แต่ไม่มีความสุขกับมันแน่นอนค่ะ และตั้งแต่ขึ้นปีสามก็หาตัวเองได้คำตอบอย่างชัดเจนว่าไม่อยากจบไปเป็นวิศวะ และต้องทำงานแบบที่เราเรียนมานี้ไปตลอดขีวิต เพราะมันไม่มีความสุขเลย (การฝึกงานยิ่งตอกย้ำความชัดเจนค่ะ) แล้วถามว่าทำไมมาเรียนคณะตั้งแต่แรก พูดตรงๆคือตอนแรกไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรค่ะ คือเรียนได้ เป็นคนหัวกลางๆ ตั้งใจเรียน ไม่ได้เกเรอะไร พอตอนเลือกสอบตรงก็ตามเพื่อนๆไปสอบดูค่ะ (เป็นวิศวะอินเตอร์) ด้วยความที่เราชอบภาษา เลยเอาน่ะ ลองไปสอบดู ติดก็ดี ไม่ติดก็ไม่เป็นไร รอไปแอดมิชชั่นเอา...พอสอบติดก็เลยเลือกเรียนเอาค่ะ เพราะตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเราอยากเรียนอะไร แต่ที่แน่ๆเราสอบติดคณะนี้แล้ว มอนี้แล้ว พ่อแม่ก็ดีใจ เรามีที่เรียนแล้ว มันก็เหมือนโล่งใจไป แต่พอขึ้นปีสามมา ตอนปิดเทอมได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ พบเพื่อนต่างชาติทั่วโลก การใข้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวต้องดูแลตัวเอง ต้องมีวินัย ทำอาหารกินเอง ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง มันก็โตขึ้นะคะ และก็มานั่งคิดอะไรหลายๆอย่าง มันก็เกิดความคิดว่า เราจะทำงานอะไร ถ้าเรามองตัวเองวันนึงเราตื่นมาตอนอายุ40 ทำงานในสิ่งที่เราไม่ชอบ ไปตลอดชีวิตเพียงเพราะต้องหาเงินทำงาน มันจะใช่หรอ เราไม่อยากตื่นมารู้ตัวอีกทีคือเราอยู่กับงานที่เราไม่ได้รักไปตลอดชีวิต คือต้องทำด้วยความจำเป็น เพราะมันไม่มีใครจะอยู่ช่วยเราไปตลอดชีวิตหรอก พ่อแม่ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า แต่มันคงเป็นชีวิตที่ไร้ความหมายไปวันๆ ตื่นมา ไปทำงาน(หมายถึงงานที่เราไม่ได้ชอบเลย ไม่ใช่ตัวเราเลย) นั่งทำงานหลังคดหลังแข็ง พักเที่ยง ไปทำงานต่อ กลับบ้าน คือมันไม่ใช่ สิ่งที่เราอยากให้ชีวิตเราเป็นอย่างนั้นไปจนเราแก่ ไม่ได้หมายความไม่สู้งานหนักนะคะ แต่เราอยากทำงานที่เรามีความสุขกับมันในทุกๆวัน ทำงานที่เข้ากับความสามารถของเราจริงๆ แต่ถ้าถามว่า อ้าว งั้นจะทำอะไร ถ้าไม่ทำที่จบมา? นั่นล่ะค่ะที่ จขกท เศร้าใจมาก เพราะว่าเราไม่ได้รักที่เราจบมา แล้วเราจะไปแขนงอื่นได้ยังไง แล้วถามว่าอ้าว แล้วสรุปอยากทำอะไร ถ้าไม่เป็นวิศวะ?คำตอบคือ ไม่ทราบจริงๆค่ะ ถึงสับสนได้ขนาดนี้ แต่ที่รู้ๆคือไม่เอาวิศวะแน่ๆ (แต่เป็นคนที่มีทักษะภาษาอังกฤษดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบการพรีเซนหน้าห้อง พวกการนำเสนอ เป็นหัวหน้ากลุ่มนี่จะชอบมาก คิดโปรเจค) อยากถามพี่ๆว่าบางที่เราก็ต้องเลิกทิ้งความฝันของเราไปใช่ไหมคะ มันหมดเวลาแล้วกับการมานั่งค้นหาตัวตนที่ใช้ หาความฝันที่เรารัก แล้วทำมันให้จริง เรียนจบ หมดเวลาแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องทำงานเลี้ยงชีพตัวเองแล้ว โตแล้ว ควรทำในสิ่งที่ควรต้องทำ ไม่ได้มีเวลาขอออกตามหาความฝัน เพราะในชีวิตมันไม่ใช่แบบในหนังที่จะมีเวลาออกไปท่องโลกหาตัวเอง คือ จขกท เข้าใจว่าในความเป็นจริงมันไม่ใช่ว่าทุกคนจะเลือกงานได้อยากที่ตัวเองต้องการ บางครั้งมันต้องฝืนใจทำ และอยู่กับมันไป ตอนนี้มันกลุ้มใจจริงๆค่ะ มันสับสนมากๆเลย เศร้า แล้วอยากถามพี่ๆว่า พี่ๆเคยผ่านจุดนี้มาไหมคะ แล้วเลือกทางเดินตัวเองยังไง ทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้นไปคะ ขอบคุณที่รับฟังจนจนค่ะ แก้ไขข้อความเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น