เหตุเกิดบนรถไฟ... ขณะที่ผู้หญิงอย่างเรากำลังฟินฉิ้งฉ่องอยู่ ทันใดนั้น! มีผู้ชายเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาตาประสานตา คุณจะ...

จขกท. ชั่งใจอยู่นานว่าจะมาโพสต์ดีมั้ย คิดไปคิดมา... เผื่อมันจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยขึ้นรถไฟต่างประเทศและภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง (เหมือน จขกท.) ดีกว่า... บอกตรงๆ ว่า... อายน่ะ โ ค ต ร มหา อาย เลย... กะเหตุการณ์นี้ แม้จะแค่เสี้ยวนาทีก็เถอะนะ!! เรื่องของเรื่องคือ จขกท. อ่านเจอมานานแล้ว ว่าระบบขนส่งมวลชนของอังกฤษ หรือของยุโรป นั้นสุดยอดคอดๆ ผู้หญิงเดินทางคนเดียวได้ปลอดภัยไม่ต้องห่วง พอได้โอกาสทุบกระปุกมาเที่ยวจริงๆ จึงตั้งใจว่าจะขึ้นรถเมล์ นั่งเรือ ขึ้นรถไฟให้สมใจอยากไปเลย ดูซิว่าจะดีกว่าเมืองไทยสมคำล่ำลือซักแค่ไหน ...เส้นทางรถไฟข้ามเมืองสายแรกในชีวิตที่ จขกท. จะนั่งเมื่อมาเที่ยวลอนดอนได้พักนึง ก็คือ จับรถไฟจากลอนดอนไปเที่ยวเมืองบาธ 1 วันแบบไปเช้าเย็นกลับ ตั๋วขาไป 18 ปอนด์ ขากลับ 15 ปอนด์... จขกท. ตื่นเต้นมากเหมือนเด็กๆที่ได้ของเล่นใหม่...เขียนให้ดูดี จริงๆ คือ จขกท.เหมือนมนุษญ์ถ้ำที่ออกมาเห็นโลกข้างนอกมากกว่า... พอได้ขึ้นรถไฟ ก็หาที่นั่งตามที่ระบุในตั๋ว... อื้มมม... มันดีจริงๆด้วย สะอาด กว้างขวาง เก้าอี้ก็ใหญ่ดี มีปลั๊กให้เสียบคอมด้วยวุ้ยยย เอ... ไอ้เรามันก็ผู้หญิงไซด์เอเชียนี่นา... โบกี้รถไฟมันก็ต้องดูกว้างใหญ่เป็นธรรมดาก็คนเมืองเค้าตัวใหญ่ๆทั้งนั้น แต่ที่ชอบคือ หน้าต่างบานใหญ่ได้เห็นวิวข้างทางสวยๆ ดีทีเดียว นั่งชมวิวตลอดไม่หลับคือเสียดายตังค์ไว้กลับมาหลับที่บางกอกก็ได้ นั่งยาวมานานจนเริ่มปวดฉิ้งฉ่องแต่ก็พยายามอั้นไว้ เพราะไม่ค่อยชอบเข้าห้องน้ำรถไฟมันคงจะแคบและอาจสกปรกไม่มีน้ำให้ล้างมือ(เคยเจอที่เมืองไทย) นั่งบิดไปมาจนทนไม่ไหว เห็นฝรั่งตัวใหญ่ๆ ก็เดินเข้าห้องน้ำกัน... ลองดูดีกว่า ไหนๆ ก็ตั้งใจมานั่งรถไฟแล้ว จะได้รู้ว่าเป็นยังไง ห้องน้ำอยู่โบกี้ถัดไป พอป้าย WC บนเพดานไม่มีขึ้นคำอะไร แปลว่า ห้องน้ำว่าง ถ้าห้องน้ำมีคนใช้อยู่ป้ายจะโชว์ WC "engage" จขกท. ก็เลยเดินไปสุดโบกี้แล้วกดปุ่มเปิดประตูโบกี้ของตัวเอง เดินออกไป พอไปถึงประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่ จะมีปุ่มกลมๆ 2 ปุ่มข้างประตู คือ open และ close จขกท.กดปุ่ม open ประตูก็ค่อยๆเปิดออกด้วยความเร็วที่ช้ากว่าประตูลิฟ โอ๊ะ โอ๊ะ... ห้องน้ำข้างในมันกว้างใหญ่ทีเดียว พอจขกท.เข้าไปประตูยังไม่ปิด ก็เลยมองหาปุ่ม close อ่ะ เจอล่ะ... พอกดปุ๊บ ประตูก็ปิด จขกท.กวาดตาทั่วๆ ข้างในมีอ่างล้างมือสแตนเลสทรงกลมขนาดชามอ่าง 13 นิ้วมั้ง มีกระดาษเช็ดมือ มีโต๊ะพับเปลี่ยนผ้าอ้อม มีราวจับสำหรับผู้ชรา มีโถส้วมขนาดกระทัดลัดแต่แข็งแรง จขกท.ก็จัดการทำธุระส่วนตัวไป แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า เอ... แล้วไอ้ป้ายสัญญาณที่บอกว่าห้องน้ำว่าง ไม่ว่าง มันจะรู้ได้ไงว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำ จขกท.คิดต่อ... มันต้องมีปุ่มล็อกเหมือนบนเครื่องบินซิ ที่พอคนเข้าแล้วเลื่อนก้านล็อกประตู คนข้างนอกจะเห็นคำว่า “occupied” แต่ตะกี้เรากดปุ่ม close มันใช่ปุ่มล็อกป่าวหว่า แต่ปุ่ม lock มันขึ้นแสงสีเหลือง จขกท.เลยคิดว่ามันล็อกอัตโนมัติ... คิดต่อขณะที่ยังฉิ้งฉ่องไม่สุดอยู่ แล้วถ้าเกิดมีคนกดปุ่ม open ข้างนอกล่ะ ประตูมันจะเปิดมั้ย... ไว เท่าความคิด... ได้ยินเสียงคลิกแล้วประตูมันก็ค่อยๆ เปิดออก ผู้ชายฝรั่งตัวโตยืนอยู่นอกห้องน้ำ... ซวยล่ะ จขกท.ร้องลั่นส้วม... OH!!! NO NO NO NOOOOOO ยกตัวขึ้นพร้อมยื่นมือซ้ายอันแสนสั้นพยายามจะปิดประตูที่อยู่ข้างซ้าย แต่มันไม่ถึงเพราะห้องมันกว้างเกิน หมดกันเลยตู ช่วงก้นขาวๆคงกระแทกเข้าตาผู้ชายคนนั้นอย่างจัง แม้จะยังไม่เห็น ...จุมปุยโด้... ของเราก็เถอะ วินาทีนั้นเลือดทั้งร่างคงวิ่งขึ้นหน้าจขกท.หมด กลั้นหายใจ เพี้ยง!! จงหายตัว จงหายตัวได้... เอ๋ยยย ไม่หายเว้ยยย ผู้ชายเค้ารีบเบือนหน้าหนี แล้ว สบถ... ชีส ชีส (คำที่ไม่สุภาพนะ ออกอากาศชัดๆม่ายล่าย) ตามด้วยเสียงที่ไม่เบาว่า Why don’t you lock the door??? อย่างที่บอกไว้ไอ้ประตูเจ้ากรรมมันใช้เวลาเปิดปิดอัตโนมัติช้ากว่าลิฟง่ะ น่าจะกินเวลา 6 วินาทีต่อครั้ง ไม่เหมือนประตูอัตโนมือแบบบ้านเราที่แค่เอามือหรือเท้ายันไว้คนข้างนอกก็ไม่เปิดเข้ามาแล้ว... คิดดูว่าเวลา 12 วินาทีสำหรับประตูที่เปิดแล้วปิดอีกครั้ง มันสโลโมชั่นมากกกกก มันช่างยาวนานเหลือเกิน สำหรับผู้หญิงขี้อายอย่างเรา จขกท.รีบพุ่งตัวจากโถส้วมไปกดปุ่มกลมๆ lock ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ปุ่ม open กะปุ่ม close เฮ้ยยย...ทำไมตอนแรกเราถึงไม่กดฟร่ะ... ถึงเหตุการณ์จะสงบลงอย่างรวดเร็ว แต่ความคิดถัดมา เค้าจะยังยืนรอเข้าส้วมมั้ยเนี่ย....T T" จขกท.อยากกดชักโครกแล้วให้มันดูดจขกท.หายตัวไปเลย ณ จุดนี้ รีบลุกขึ้นล้างมือ ดึงกระดาษเช็ดมือจนแห้ง เอาว่ะ... เห็นกันครั้งเดียว ชาตินี้... ถ้าเป็นที่เมืองไทยเราคงจะอายมากกว่านี้เป็นแน่... อย่างมากผู้ชายฝรั่งคนนั้นคงคิดว่าจขกท.นี่ช่างโง่บรมหลือเกินหล่อนคงมาจากที่ยังไม่เจริญ ...ว่าแล้ว จขกท.ก็ออกจากส้วม แล้วเดินทำหน้าปกติออกมาไปนั่งเก้าอี้ที่เดิม ลงสถานีหน้าแล้ว เฮ้อ... จำไปจนตาย ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับเพื่อนๆ แล้วจะทำไงกันบ้าง ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างมาเล่าสู่กันฟัง จขกท.จะได้รู้สึกว่าไม่ได้ประสบอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ หวังว่า เพื่อนๆ ที่จะไปนั่งรถไฟที่ต่างประเทศก็อย่าลืมเช็คประตูส้วมกันให้ดีๆ นะ ว่ากดล็อกแล้วยังเวลาเข้าห้องน้ำ ...โชคดีนะพี่น้อง! ขอโทษด้วยที่จขกท.ทำให้ชื่อเสียงผู้หญิงเอเชียต้องด่างพร้อย ไปล่ะ อายยยยย... ใครที่มีรูปเจ้าปุ่ม3ปุ่มในห้องน้ำบนรถไฟอังกฤษที่เล่ามาเนี่ย มาแปะไว้ให้ก็ดีนะ เผื่อจะช่วยคนอื่นๆให้เห็นภาพชัดขึ้น ขอบใจจริงๆ แก้ไขข้อความเมื่อ