วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ผู้หญิง 4 คนแบกเป้ โบกรถไปสังขละบุรี หน้าฝน ด้วยงบพันนิดนิด

การรีวิวครั้งนี้เป็นการรีวิวครั้งแรกอาจจะงงๆบ้างก็ขอโทษด้วยน้า ชอบ แชร์ บวก ให้ด้วยน้า หัวเราะ
วันที่1
ทริปนี้เป็นผลพลอยได้มาการที่เราต้องไปทำงานและต้องลงพื้นที่กาญจนบุรี เลยตกลงกันว่าหลังงานเสร็จพวกเราจะไป สังขละบุรีกันจริงๆตอนไปกาญก็โคตรสนุกมากแต่เราไปเริ่มกันที่สังขละกันดีกว่าเนอะ

เริ่มเดินทาง
เช้าตื่นตีห้าล้างหน้าแปรงฟัน ออกเดินทางไปสถานีธนบุรี  เมื่อถึงที่สถานีเราก็ไปแลกตั๋วโชว์บัตรพม่าหน้าใสเค้าก็จะให้ตั๋วฟรีมารถไฟจะมารอบแปดโมง
ตอนแรกเราก็บแบบเห้ยรถไฟนานแน่ๆเลยคนนี้ต้องเบียดกันเป็นตั้กแตนทอดแน่
สรุปไม่นะจ๊ะรถไฟมาตรงเวลาเด๊ะ แบบวัดไม้บรรทัด คนก็ไม่เยอะนั่งกันสบายร้องเพลงพี่เบิร์ดคลอไปสบายใจเฉิบ


เรามาลงรถไฟที่สถานีสะพานข้ามแม่น้ำแควเพราะเราต้องทำงานที่นี้เรานอน  
แพที่พวกเราเลือกนอนในราคาที่ถูกมากๆใครไปแนะนำให้ไปแบมบูเฮาส์

นอนหลายคนเฮฮาปาจิงโก๊ะตื่นเข้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นริมน้ำโอ๊ยฟินเวอร์


พองานพวกเราที่เมืองกาญเสร็จแล้วที่สุดท้ายเราก็ต้องไปทำที่ช่องเขาขาด (เราแนะนำให้ไปช่องเขาขาดมากๆเป็นที่ที่ดีจริงๆเห็นแล้วจุก)


         เราเกิดปัญหานิดหน่อยเพราะว่าเราทำงานเลทและรถที่จะไปสังขละหรือรถหวานเย็นก็ดั๊นจะหมดในบ่ายสองโมง เราเลยทำทุกวิถีทางจองรถตู้ รถตู้ไม่จอดรับระหว่างทางใครจะไปไหนยาวไปโลด โทรหาคนรู้จักอยู่ไกลเเพราะกาญกว้างมาก
สรุปก็กลับไปง้อลุงรถหวานเย็นเป็นไงเป็นกันทำงานให้ทันเวลาให้เร็วที่สุด ทันก็ทันไม่ทันก็โบก
สรุปงานเราเสร็จเร็วกว่าที่คิดและทันเวลารถหวานเย็น  


พองานเสร็จเร็วเราก็มานั่งเป็นหมาหงอยอยู่หน้าป้ายช่องเขาขาดตอนนั้นถ่ายรูปจนแบตเริ่มอ่อน เมื่อยปาก และขี้เกียจรอ รถหวานเย็นก็กว่าจะมาน๊านนนน บวกกับอยากลองโบกรถดู เห้ยแบบมาแล้วครั้งหนึ่งเลยนะเว้ยลองโบกอยากรู้โบกรถจะเป็นไงไหนๆก็มาลองเหอะ ตกลงกันไปกันมาเหมือนคนบ้าคุยกันเสร็จแล้วเรา ก็วิ่งกรูออกไปเหมือนเทเลทับบี้ตอนรักกันนะ

โชคดีที่กลุ่มเรามีลักกี้เกิร์ล เราโบกรถแบบไม่ตั้งใจแต่สุดท้ายเขาก็ให้เราขึ้นเฉยเลย  ใจดีด้วยนะ  ตอนแรกๆก็แอบกลัวแต่ก็ไหนๆก็ลองละ ก็ขึ้นเลยละกัน  ระหว่างทางเราก็พยายามทำความรู้จักกับคุณลุงถามโน่นถามนี่  ถามชื่อคุณลุง  ได้คำตอบมาว่าเดี๋ยว  ‘เดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละ’  (อ้าวววว ฮ่าๆ) คุณลุงเค้ามาส่งเราถึงสังขละบุรีคุณลุงใจดีมากค่ะ  พอมาถึงสังขละบุรีเราก็ล่ำลาคุณลุง  คุณลุงจึงให้นามบัตรเราไว้  OMG! คุณลุงเป็นทหารค่ะยศใหญ่ซะด้วย  ถือว่าเป็นความโชคดีของแก๊งเราค่ะ  

จากนั้นเราก็หาที่พักเพราะว่าเราไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ตรงส่วนไหนของฝั่งมอญ  จึงโทรถามเจ้าของโฮมสเตย์แพดอกบัว  เราเลือกนอนโฮมสเตย์เพราะว่า ราคาถูกมากประหยัด  พอไปถึงที่พักก็ตามราคาเลยค่ะ  แอบกลัวอยู่นิดๆบรรยากาศมืดๆ  บ้านเป็นไม้ๆ



  พอเข้าที่พักแล้วเราไม่อยากให้เสียเวลาไปเฉยๆก็เลยกะจะไป survey รอบๆสะพานมอญ
บรรยากาศตอนเย็นสวยมาก  โรแมนติกเว่อร์  มาเที่ยวสังขละหน้าฝนก็ดีนะ  คนไม่เยอะ  อากาศดี  ผู้ชายหล่อ  ต้นไม้เขียวชอุ่ม



เราเดินไปเรื่อยๆบนสะพานมอญ  ซักพักคุณก็จะเจอไกด์เด็กเซเลปที่ใครๆที่ไปสะพานมอญก็จะเจอเด็กพวกนี้  ต้องเตรียมทริปไว้ด้วยนะเด็กๆน่ารักค่ะ  แต่เราชอบน้องอ้วนนะน่ารักมากพูดจาดี  ชวนคุย  เทคแคร์พวกเราดีมากๆ  ถ้าใครไปก็ฝากให้ ทริปน้องด้วยละกันนะคะ  ขากลับเราหาน้องไม่เจอเสียดายจัง   หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักน้องอ้วนแล้ว  น้องก็บอกความจริงกับเราข้อนึงว่า  ตอนนี้พี่อยู่ฝั่งมอญนะไม่ได้อยู่ฝั่งไทยนะ  ห้ะ!!!!!!! อยู่ฝั่งมอญแบบงงๆหวะฮ่าๆ  ปกติแล้วนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสะพานมอญจะนอนกันที่ฝั่งไทย  แต่เรานี่มาอยู่ฝั่งมอญเลย  รู้สึกกลัวๆเหมือนกันนะเนี่ยแต่ก็ไม่มีอะไรค่ะ  คนมอญน่ารักมากๆ  อาหารก็อร่อย  บรรยากาศดี  



ต่อมาเราไปเดินเล่นสะพานบวบ  เพราะตอนนั้นสะพานมอญยังซ่อมไม่เสร็จ  เดินไปถึงฝั่งไทยปุ้บ อ้าววว!!!  ฝนตก  โอเคนั่งชิลร้านกาแฟละกัน  นั่งร้านกาแฟนะแต่สั่งเหล้าปั่นกัน



เม้าเพลินเลยมองออกไปข้างนอก  มืดซะละแล้วพวกชั้นจะกลับฝั่งมอญยังไงเนี่ย  ในมือมีถุงพลาสติก1ใบและไอโฟน  ฝน  สะพานบวบ  และความมืด  บนสะพานนี่มีแค่เรา 4 คน  หิวก็หิวเหนื่อยก็เหนื่อยง่วงก็ง่วง  ด้วยความหิวทำให้เราต้องรีบกลับไปฝั่งมอญ  
พอเรารอดชีวิตจากสะพานบวบกันได้เราก็ไปหาข้าวกินกันต่อ  ร้านค้าที่นี่ปิดเร็วมาก  ถ้าเกิดใครหิวต้องรีบกินก่อน 2 ทุ่ม (ฝั่งมอญนะ)  เราเดินหาร้านข้าวตามซอยต่างๆสุดท้ายเราก็เจอร้านหมูกระทะของคนมอญ  โอ้ยน่ากินเนอะ  แต่เราสั่งข้าวผัดกันหมดเลย ฮ่าๆ  ร้านอาหารเงียบมากค่ะ  บรรยากาศบ้านๆแต่อาหารอร่อยมากหรือเพราะความหิวก็ไม่รู้ฮ่าๆ



หลังจากกินข้าวกันเสร็จเราก็รีบเข้าที่พัก  อาบน้ำ นอน โดยที่ลืมความกลัวไปเลย  จากความกลัวบ้านหลอน กลัวผี  ด้วยความเหนื่อยทำให้เราสลบ  หลับเป็นตาย  ตื่นมาอีกทีเช้าเลย
สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้    
-    ค่ารถมาสังขละบุรี  0฿
-    ค่าอาหารสี่คน  180฿
-    ค่าเหล้าปั่น      120฿    
-    ค่าที่พักสี่คน     600฿  (คนละ 150)
รวม= 900฿
เดี๋ยวมาต่อค่ะ ชื่อสินค้า:   วันนี้เราจะมารีวิว การไปเที่ยวสังขละบุรีแบบประหยัด ในเวลา 3 วัน 2คืน เราจะพาไปดูของเด็ดของสังขละบุรีกัน คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว