วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557
รีวิว 10 Landmark ที่พลาดไม่ได้ใน ปารีส ผ่านเลนส์กล้อง เที่ยวเองตามใจฉันได้เลย
จากกระทู้ที่แล้ว รีวิว Backpack 10 เมื่องสุดยอดแห่งความสวยและ ความประทับใจผ่านเลนส์กล้อง http://pantip.com/topic/32632815 ได้รับการตอบรับอย่างดี ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ให้การสนับสนุนนะคะ มีกำลังขึ้นเยอะ คราวนี้เลยทำ10 Landmark สุดฮิตในปารีส มาฝาก จริงๆเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนอาจจะทราบอยู่แล้ว แต่เราตั้งใจอยากมองให้ลึกลงไปที่รูปเพราะแต่ละรูปจะมีเรื่องราว สำหรับคนที่กำลังจะไป สถานที่เหล่านี้อาจจะเป็นตัวเลือกนะคะ ส่วนคนที่ไม่เคยไปเราหวังว่าภาพเหล่านี้คงสร้างจินตนาการให้กับท่านได้ เดินทางพร้อมกันเลยค่ะ
1. โบสถ์นอทเทอร์ดัม (Notre Dame Cathedral) : เป็นมหาวิหารในสมัยกอธิค ( Gothic ) แม้ไม่ใช่ศาสนาคริสต์แต่โบสถ์เเห่งนี้ก็ไม่ควรพลาด เราแนะนำให้ไปช่วงเช้าเพราะถ้ามาสายอาจจะเจอคิวล้นทะลักออกมาจากประตูโบสถ์ได้ นอกจากนี้ ช่วงเช้า เพราะดวงอาทิตย์จะส่องกระทบกับซุ้มประตูทางทิศตะวันตกของโบสถ์ เกิดเป็นแสงระยิบสวยมาก หลังจากออกจากโบสถ์ให้ลองเดินเลียบแม่น้ำแซนไปด้านหลังโบสถ์เป็นเกาะเล็กกลางแม่น้ำ จะมีร้านIce cream ชื่อ Berthillon ที่ทุกคนต้องไปลอง ถนนเลียบแม่น้ำแซนจากโบส์จะขายพวกหนังสือ ภาพถ่ายเก่าๆ Classic ดี ใครชอบก็หาซื้อได้
2. ร้านหนังสือ Shakespeare & Company แทบจะเรียกได้ว่าเป็นร้านหนังสือแห่งเดียวในปารีสที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกัน ความพิเศษนอกจากจะขายหนังสือแล้วยังให้คนเข้าพักอาศัยได้ฟรี โดยทำงานแลกที่พักและอาหาร สำหรับเรารู้สึกว่าร้านนี้เหมือน เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆมากกว่าร้านหนังสือ
3. Pantheon: ถูกสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 หลังจากที่อธิษฐานว่าถ้าหายประชวรจะสร้างโบสถ์ถวาย จึงได้เกิดเป็นวิหาร Panthéon Panthéon กลายเป็นที่ฝังศพของวีรบุรุษฝรั่งเศสมากมายช่วงหลังหลังการปฎิวัติฝรั่งเศส หลังจากนั้นก็กลับไปเป็นโบสถ์หลายครั้ง จนกระทั่งปีค.ศ. 1885 ศพของ Victor Hugo ได้ถูกย้ายมาฝังที่ Panthéon จึงได้กลายเป็นที่สำหรับสรรเสริญเก็บศพวีรบุรุษและบุคคลสำคัญของฝรั่งเศสแบบถาวร
4. หอไอเฟล : ใครมาปารีสแล้วไม่เจอหอไอเฟลขอให้อย่าไปบอกคนอื่นนะคะว่ามาปารีส คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ กว่าจะมาเป็นของสำคัญสมัยก่อนไอเฟลถูกประนามอย่างหนักว่าทำลายภูมิทัศน์ของปารีส จากวันนั้นถึงวันนี้ไอเฟลถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างความสวยงามให้กับปารีส แทบจะเป็น Iconicเลยด้วยซ้ำ เราขอให้มาทั้งกลางวันและกลางคืน เพราความสวยงามและความโรแมนติกต่างกันมาก ขอบคุณ กุสตาฟ ไอเฟล
กลเปิดแกว 50 เหรีญเป็นของคลาสสิคพบเห็นได้แถวหอไอเฟล ใครไปอย่าหลงกลเชียว ดูแล้วน่าจะทำเป็นกระบวนการมาก เงินมาไวก็ไปไวนะคะ
5. Avenue des Champs-Élysées และ Arc De Thiomphe: ไม่ขอพูดอะไรมากกับถนนสาบช๊อปปิ้งติดอันดับโลกนี้ มาดูกันที่ประตูชัยดีกว่า ประตูชัยตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) ล้อมรอบด้วยถนน 12 สายเหมือนรัศมีแห่งดวงตะวัน คำว่า Thiomphe คือ Triumph เลยเป็นประตูแห่งชัยชนะ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะจากการรบของนโปเลียน นับเป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
6. พิพิธภัณฑ์ลูฟว์: พิพิธภัณฑ์แขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป เก็บรวบรวมศิลปะของราชวงศ์ฝรั่งเศสไว้มากมาย มีหลายชิ้นมาจากจิตกรชื่อก้องโลกอย่าง Leonardo Di Vinci และ Raphael ทั้งภาพวาด งานปั้นจากยุคโบราณของ กรีก, โรมัน, อียิปต์ รวมถึงผลงานทางศิลปะของตะวันตกยุคกลางมากมายยังถูกรวบรวมเก็บไว้ที่นี่ด้วย เดินทั้งวันก็ยังไม่ทั่ว ใครจะดูให้ครบต้องมีเวลาอีกซัก 3 วัน จริงๆฝรั่งเศสมีหลายพิพิธภัณฑ์ อย่าง musee d'orsay หรือ pompidou centre ถ้าจะดูให้ครบต้องมีเวลาเป็นเดือน
7. Sacre’ Coeur: โบสถ์ซาเครเกอร์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาวฝรั่งเศส ที่เสียชีวิตจากสงครามกับปรัสเซียโบสถ์สไตล์ Romano Byzentine ตั้งอยู่บนย่านมงมาร์ต เนินเขาแห่งเดียวของปารีสนอกจากจะได้ เข้าไปเยื่ยมชมและสักการะสิ่งศักสิทธิ์แล้ว เรายังได้มองเห็นเมืองปารีสในมุมสูงอีกด้วย
ย่านมงมาร์ตยังเป็นแหล่งรวมของศิลปิน เราจึงไม่แปลกใจที่เห็นนักดนตรี นักวาดภาพมาแสดงฝีมือกัน ระหว่างทางก็มีร้านขายของ คาเฟ่น่ารักให้เพลินกันไป
French Kiss ของจริง
งานเทศกาลหน้าโบสถ์
8. Moulin Rouge: ละเเวกเดียวกับย่านมงมาร์ต มูแลงรูจจริงๆเรารู้จักที่นี่จากหนัง Hollywood พอมาเจอจริงๆแล้วก็ตระการตาไม่น้อย ความเก่าแก่มามากว่า 120 ปี โชว์คาบาเรต์ที่มีชื่อเสียงต้องมาดูที่นี่ บัตรมีหลายราคาแต่ที่แน่ๆ เกิน 100 Euro แน่นอน เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดูเพราะต้องจองล่วงหน้า เลยได้ดูแต่ข้างนอน ตรงเกาะกลางป็นตระแกรงเป่าลมขนาดให้ สามารถสมมุตติตัวเองเป็นมาริรีน มอนโรลได้ ใครใส่กระโปรงบานมาขอให้สวมกางเกงข้างในมาด้วยจะได้ไม่ต้องกลัวโป๊
9. Pont des Arts: สะพานสุดโรแมนติกข้ามแม่น้ำแซน เชื่อมต่อไปยังLouve ได้ ความพิเศษของมันคือ ช่องว่าตระแกรงของสะพานแทบจะไม่มีที่เพราะเต็มไปด้วยกุญแจคล้องเต็มไปหมด เป็นหลักฐานทางความรัก ไม่แน่ใจว่าเกาหลี หรือที่นี่มีวัฒนธรรมนี้ก่อนกัน เราทราบมาว่าทางรัฐได้ออกนโยบายไม่ให้มีการเอากุญแจไปคล้องแล้ว ใครไปแล้วไม่เจอดูรูปกันไปก่อนนะ
10. พระราชวังแวร์ซาย: สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ท่านทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายน่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมา พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส แห่งฝรั่งเศส ขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิม ตัววังทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภายในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง
การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายแห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วยกิโยติน ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2332 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ต้องขอบคุณข้อมูลของเเวร์ซายจากวิกินะคะ ต้องขอโทษด้วยที่รูปไม่มี รูปชุดนี้หายไป แต่ถ้าหาเจอเมื่อไหร่จะรีบเมาลงย้อนหลังให้นะคะหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับการท่องเที่ยวปารีสแบบสั้นๆ หากผิดพลาดเรื่อขอมูลประการใดขออภัยด้วยนะคะ ไว้เจอกันในโอกาสต่อไป
ชื่อสินค้า: Paris
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น