วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557
My 1st Trip in Rangoon #2: ตลาดน้ำดำเนินโสร่ง
ผมได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามทีมงานผลิตรายการโทรทัศน์ ไปถ่ายทำรายการที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
ถือเป็นการเดินทางไปประเทศพม่าครั้งแรกในชีวิตผม (เอาเข้าจริงชีวิตมันแทบไม่เคยออกนอกประเทศกะเขาหรอก)
จึงอยากแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ที่ผมได้เรียนรู้จากการเดินทางครั้งนี้ครับ
บันทึกนี้เขียนขึ้นมาจากความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะนักเดินทางมือสมัครเล่นที่ชั่วโมงบินยังต่ำติดดิน
หากผิดพลาดประการใดก็... เหยียบย่ำทับถมตามสะดวกครับ
ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มเดินทางกันต่อเลยครับ#2: ตลาดน้ำดำเนินโสร่ง
เราอยู่ที่ท่าเรือปันโซดัน (Pansodan port) เพื่อขึ้นเรือข้ามฟากจากย่างกุ้งไปยังเมืองดาลา (Dala township)
ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ เรื่องของเมืองนี้ผมจะเล่าให้ฟังอีกทีในวันพรุ่งนี้นะครับ กระทู้นี้ผมจะพูดถึงเรือข้ามฟากก่อน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ท่าเรือปันโซดัน ถ่ายจากฝั่งย่างกุ้ง
อยู่ใกล้ๆ กับร้านอาหารเป็ดน้อยที่เราเพิ่งไปกินกลางวันกัน
ท่าเรือข้ามฟากปันโซดันแห่งนี้มีคนใช้บริการอย่างเนืองแน่น บรรยากาศคึกคักพอควร วุ่นวายพอได้
ตอนที่เราใช้บริการนั้นไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน จึงพอหาที่นั่งบนเรือ สร้างแลนด์มาร์คให้ตัวเองได้ไม่ยาก
แต่ถ้าเป็นช่วงเช้า หรือหัวค่ำล่ะก็ รับรองแทบไม่มีที่ยืน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผู้โดยสารที่มานั่ง 'คอยท่า'
สนนราคาค่าตั๋วเรือถ้าเป็นคนท้องถิ่นก็ราว 700 จ๊าด
แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติราคาจะขึ้นไปถึง 1-2 ดอลล์เลยทีเดียว
(ราคาขึ้นๆ ลงๆ แล้วแต่ช่วง ซึ่งก็ไม่เข้าใจมาตรฐานเขาเหมือนกัน)
อย่างว่าล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน ทัวริสต์มักต้องจ่ายทุกอย่างแพงกว่าคนท้องถิ่นอยู่แล้ว
บริเวณท่าเรือทั้งสองฝั่งก็มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายสินค้า+ของกินกันเนืองแน่น แทบจะเป็นตลาดเล็กๆ ได้เลย
บนเรือเองก็เช่นกัน จะเรียกว่าเป็นตลาดลอยน้ำก็ได้ครับ
ตลอดระยะเวลา 10-15 นาทีที่ใช้ในการข้ามฟาก
คุณจะได้เห็นบรรดาพ่อค้าแม่ขายหาบของกินของใช้ เร่ขายไปทั่วลำเรือ
มีทั้งไข่นกกระทา, ขนมขบเคี้ยว, ผลไม้, โปสการ์ด กระทั่ง VCD ก็ยังมีขาย
นอกจากจะเป็นตลาดลอยน้ำแล้ว เรือข้ามฟากยังมีหน้าที่เป็นระบบขนส่งสินค้าเล็กๆ ด้วย
ทั้งผัก ไก่ ขนมจีน จักรยาน และอีกสารพัดสิ่งของต้องประสงค์ก็ขนผ่านเรือลำนี้แหละ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูปนี้ดูแล้วเข้าท่ามาก
มีเรื่องหนึ่งที่น่าประทับใจคือ ผมสังเกตว่าเมื่อเรือจอดเทียบท่าทั้งขาขึ้นและขาลง
ไม่ว่าผู้โดยสารจะเนืองแน่นแค่ไหน แต่พวกเขาก็จะค่อยๆ ทยอยลง - ขึ้นเรืออย่างเป็นระเบียบ
ไม่มีการถือวิสาสะตัดช่องน้อยแต่พอตัว แทรกตัวไปก่อนเลย ท่าเรือนี้ไม่จำเป็นต้องมีป้ายบอกว่า
กรุณาหลีกทางให้ผู้โดยสารลงก่อน หรือลูกศรสีเหลืองกำกับแบบในสถานีรถไฟฟ้า
เพราะต่างคนต่างมีจิตสำนึกเพียงพออยู่แล้ว หรือพวกเขาคงคิดว่า
‘แล้วพวกข้าจะรีบร้อนไปเพื่อมรรคผลอันใด ไงๆ ก็ถึงฝั่ง / ได้ขึ้นเรืออยู่ดี’ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผู้โดยสารลงจากเรือ ด้วยจังหวะที่เร่งแต่ไม่รีบ
นั่นสิครับ จะรีบไปไหน ต่อให้คุณแซงคนอื่นได้มันก็ทำให้ชีวิตคุณมีเวลาเพิ่มขึ้นแค่ไม่กี่นาที
แล้วคุณจะเอาไม่กี่นาทีนั้นไปทำอะไรได้? เออถ้าแซงคิวแล้วประหยัดเวลาได้สองชั่วโมงค่อยว่าไปอย่าง
ว่างั้นมั้ยครับ?[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไก่เหล่านี้ยังไม่ตายนะครับ แต่ก็รอดได้อีกไม่นานหรอก
พอเห็นภาพนี้แล้วทำให้รู้สึก... อยากกินไก่ทอดสูตรพม่าขึ้นมาเลย
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาดูนะครับ พบกันใหม่วันพรุ่งนี้
เครดิตภาพและบทความจาก https://www.facebook.com/Companiontv
ลิงค์ตอนที่ 1 : ย่างแรกที่ย่างกุ้ง ดูได้ที่นี่ครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/32694045
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น