เหตุเกิดที่ จังหวัดตรัง เมื่อเช้านี้เอง (3-12-57) ผมออกไปกินติมซำกับเพื่อน ในเมืองตรัง
หลังจากกินเสร็จผมก็เข้าปั๊ม คาลเท๊กซ์ แถวถนนห้วยยอด ซอย 5 เพื่อเติมน้ำมัน
ผมก็จ่ายเงินสดบ้าง บัตรบ้าง แล้วแต่ความสะดวก (เงินสดติดตัวน้อยก็จ่ายบัตร) ซึ่งก็จ่ายด้วยบัตรมาหลายครั้ง
วันนี้ เงินสดพกมาน้อย เลยจ่ายด้วยบัตรเดบิตไป ผมเติมน้ำมัน 1000 บาท
ช่วงที่กำลังเติมน้ำมันแล้วกำลังรอเซ็นบิลใบเสร็จ ปรากฏว่า มือถือมีข้อความเข้า 2 ครั้ง (ผมรับ sms alert ธนาคารจะมร sms มาบอกทุกครั้งที่มี transaction กับ ธนาคาร)
ผมหยิบมือถือมาดู มีข้อความ ส่งมาว่า เงินในบัญชีมาออกไป 2 ยอด คือ 500 บาท กับ 1000 บาท ในเวลาไล่เลี่ยกัน (เช็คกับธนาคารแล้ว ต่างกัน 18 วินาที)
พอพนักงานเดินเอาบัตรมาคืนกับบิลมาให้เซ็น
ผม :: มีการรูด 2 ครั้งหรอ ทำไมมีเงินออกไป 2 รอบ
พนักงาน :: รูดรอบเดียวนะคะ มีบิลออกมาแค่บิลเดียว 1000 บาท
พนักงานไม่ยอมรับว่ารูด 2 รอบ ผมก็เซ็นใบ 1000 บาท แล้วขับรถจอดในปั๊บ แล้วติดต่อ ธนาคารเพื่อเช็คยอดว่ามีการรายการกี่ครั้ง
ปรากฏธนาคารแจ้งมาว่า มีการ ทำรายการจ่ายค่าน้ำมัน 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกัน
ผมจึงเดินลงจากรถไปติดต่อผู้จัดการปั๊ม ซึ่งเค้ายังยืนยันว่ามีการรูดครั้งเดียว ผมก็บอกให้คุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่อยู่ในสาย
ผู้จัดการไม่ยอมคุยกับธนาคาร แต่หันไปคุยกับพนักงานกันเอง แล้วอยู่ดีๆ ก็มีบิล 500 บาท โผล่ออกมา ทำเรื่องคืนเงินให้
ในมือถือมือข้อความเงินเข้า 500 บาท เจ้าหน้าที่ธนาคารก็แจ้งว่า มีการทำ invoice คืนเงินกลับมาแล้ว
ณ ตอนนั้น ผมคงไม่ต้องถาม หรือคาดคั้นอะไรแล้ว ทำได้เพียงแจ้งเตือน เพื่อนๆ กันว่า
"เวลาใช้บัตร บัตรเดบิต ซื้อของ โปรดเช็คยอดเงินด้วยทุกครั้ง ระบบสามารถหักเงินได้ แม้ว่าจะไม่มีลายเซ็นในสลิป"
กรณีนี้ ถ้าคนใช้บัตร ไม่ได้เช็คยอดเงินทันที (ไม่มี sms แจ้งเตือน) คงไม่ทราบว่าโดนตัดยอดเกิน อาจจะสูญเงินไปฟรีๆ
ขอขอบคุณพนักงานธนาคารแบงค์เขียวมาก ที่ให้ข้อมูล และถือสายรอ จนเหตุการณ์จบได้ด้วยดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น