วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประสบการณ์ดีๆกับการเที่ยวลอนดอนครั้งแรก กับภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆ ตอนที่ 3

ขอโทษที่หายไปหลายวันเด้อค่ะ   คักกับเวียก กับ งาน คัก ลักไปเที่ยว อาทิตย์นึง กลับมา โดนให้เฮ็ดชดเชย จ้ำ (สมน้ำหน้าจะของ ) มื้อนี้ กะสิมาโส ให้ฟัง เรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ที่ไปยามมาเด้อค่ะ   หอนาฬิกา Big Ben (เห็นว่าเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วด้วย บ่แน่ใจว่า  ว่าชื่อราชินีรึเปล่า)     หอนาฬิกา งามบักคัก  ขนาดสร้างมาหลายปีแล้วเด้นิ  แข็งแรงทนทานอีหลีเน้อะ  มองจั๋งใด๋ก็ขลัง  ผู้ใด๋ ที่ใช้ Tube ในการเดินทาง กะ ไปสถานี Westminster เลยเด้อค่ะ มีทางออกหลายทาง มีท่าเรือ หรือไม่ก็ Parliament  ตรงนี้ ถ้าออกจากเห็น ฐานของหอนาฬิกาเลยค่ะ ใกล้บักคัก แต่ถ้าออกตรงนี้ ตอนขึ้น ก็ ต้องข้ามไปฝั่ง ท่าเรือนั่นแหละ  เพื่อ ถ่ายรูป  จะได้วิว สวยกว่า(เราคิดว่านะ)  และจะได้เดินต่อ ที่ London eye ด้วย     เราไป Big Ben ทั้ง ตอนเช้า และตอนเย็นค่ะ เพราะ ตอนกลางคืน มันสวยไปอีกแบบค่ะ  ดูไฟสวยมากๆ  แต่เราถ่ายรูปออกมาไม่สวยค่ะ เลยไม่ได้เอาลง  อยากอาย แหม๋  แต่ขอเตือนอย่างนึงเด้อค่ะ   ตอนกลางคืน เราไปคนเดียวค่ะ (ใจกล้าหน้าด้าน เพราะ ญาตินอยๆ ไม่ค่อย อยากออกไปไหน เราก็ไม่อยากนอนเน่าตายคาห้อง ก็เลยออกมาตอน 2 ทุ่ม  ใช้เวลาให้คุ้มว่างั้นเหอะ) ระวัง อย่า ซัว คือเรา เด็ดขาด ตรง แยกไฟแดง  ตรง Big Ben  กับ ท่าเรืออ่ะ มีพวก ยิปซี ที่เค้าแต่งตัวเป็น Shlek    Charlie Chaplin  พวกนี้ วิ่งเข้ามาหาเรา กอดคอ เราเลย เราก็ รู้สึกแปลก ๆ เค้าบอกว่า จะถ่ายรูปให้ ให้ถ่ายรูปกะเค้าด้วย  ก่อนถ่าย เราก็ถามว่าเสียเงินไหม มันบอกว่า ไม่ไม่ เป็น service พ่ะน่ะ ตอนนั้น ก็คิดอยู่ว่า ก็คงคือบ้านเฮา แหม๋ อาจจะ  ให้เป็นสินน้ำใจ ไม่เกิน 2-5 ปอนด์หรอก  ที่ไหนได้  พอถ่ายเสร็จ มันมารุมเราเลย บอกว่า 20 ปอนด์   เป็นบ้าติ๊  เราไม่ให้ เราก็เลยให้ไป คนละ 1 -2 ปอนด์ มันไม่ยอม  ก็เลยให้ไปอีกคนละ  5 ปอนด์ (2 คนคนที่ถ่ายกะเรา กะคนที่ถ่ายให้เรา ) กะบ่ยอมอีก ที่นี้ มันมีผุ้ชายอีกคน มา รุม ล้อม แบบวงกลมเลย เราเลยเอาเงิน 12 ปอนด์คืน ให้มัน 20 ปอนด์  มันบอกจะเอาคนละ 20 ปอนด์ เราบอก ไม่ให้  พอแค่นี้ แล้วเราก็ผลัก มันออก ตอนนั้น คนก็เยอะนะ แต่ส่วนมากก็เป็นนักท่องเที่ยวแบบเรานี่ล่ะ  และพวกมันก็เป็นสิบ ยืนระเกะระกะ ยอมรับกว่ากลัวมาก แต่เราต้องผ่านทางนี้ อีกตอนขากลับ กลัวมันจะมาเล่นงานเอา ( เฮาคือซัวคักแท้ เจ้าว่าบ่)      เสร็จออกจากดง มิจฉาชีพแล้ว เราก็เดินติงนองนอย ไป London eye  มีคนบอกปิด 3 ทุ่ม  ในใจคิดว่า คงได้ขึ้นรอบสุดท้าย 55555 คิดผิด ไปฮอด ปิดแล้วจ้า   มีแต่คนถ่ายรูป  เค้าปิด 2 ทุ่มเด้อ แต่ต้องไปก่อน ค่ะ เพราะวันต่อมา เราไป ต้องต่อแถว เกือบ 1 ชั่วโมง  ที่สำคัญ เด้อค่ะ ถ้าจองบัตรทาง อินเตอร์เน็ตได้ ก็จองซะ เพราะถ้าไปซื้อหน้างาน  ต้องซื้อแบบ พ่วง ดูอย่างอื่นด้วยจ้า  เราซื้อ พ่วง London eye กะ พิพิธภัณฑ์ สัตว์น้ำ  อยู่ใกล้ๆกันแหละ คนเยอะทั้งนั้น  ดูสองอย่างนี้ คนละ ประมาณ 34 -38  ปอนด์ค่ะ จำไม่ค่อยได้ แต่เราขึ้น London eye อย่างเดียว เพราะลงมา พิพิธภัณฑ์ก็ปิดแล้ว  เลย เอาบัตรฝากไปให้พี่ ที่อยู่ที่นั้น ไปดูแทน (บัตร มีเวลา 1 เดือนค่ะ) London eye ในแคปซูล น่ะค่ะ เค้ามีม้านั่งให้นั่งค่ะ  แต่ส่วนมากไม่ค่อยมีใครนั่งหรอกค่ะ ยืนติดขอบถ่ายรูปกันทั้งนั้น  วิว สวยมาก เราก็ย่านมาก ค่ะ ย่านความสูง  ขึ้นประมาณ 30-45 นาที มั้งคะ ภาพต้องให้เครดิต Ying Wimonsiri ค่ะ เธอถ่ายรุปได้สวยมากๆ วิวจากด้านบนค่ะ  พระอาทิตย์ กำลังจะลาลับแล้ว อันนี้รถม้า ที่เราเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ค่ะ มีรถม้าพระที่นั่ง ของจริง ที่ ใช้งานจริง และยังใช้อยู่ค่ะ ข้างในยังทำการอยู่นะคะ มีเจ้าหน้าที่ ดูแล ค่ะ คันใหญ่มากๆค่ะ สวยมากเลย สิ่งนึงที่สำคัญ เวลามาลอนดอนนะคะ ก็คือการ ได้ไปดู ทหารม้ารักษาพระองค์ เปลี่ยนเวรค่ะ เราไปสายค่ะ คิดว่าคงไม่มี เพราะวันนั้น ฝนตกค่ะ เห็น อยู่นิดหน่อย คนเยอะมากค่ะ ถ่ายคลิปมา แต่ดูมันจะยาว มาก ย่อไม่เป็น ขอโทษด้วย นะคะ เลยไม่ได้เอามาลงค่ะ ดูรูปเราไปพลางๆก่อนนะคะ ตรงหน้าพระราชวัง เลยค่ะ เรายืนอยุ่แถวน้ำพุค่ะ ฝนตกค่ะ  ไม่มาก พอ ทิ้งร่มถ่ายรูปได้ ค่ะ ห้าง ดังค่ะ เข้าไปก็ไม่ได้ซื้ออะไรหรอกค่ะ เข้าไปดูซือ ๆว่าหยั่งกัน ของที่อยากได้ กะ แพงโพด      ใกล้จบแล้ว มาโสกันเรื่องหนุ่มๆบ้างนะคะ หนุ่มๆที่นี่ มีเยอะ หลายเชื้อชาติมากๆค่ะ  ส่วนใหญ่ที่เข้ามา   มาแบบ เดินดึงแขน  เดินเข้ามาหา ป๊าดอิโธ่  บ่เคยเจอ แหม่ะ ค่ะ   ไป อยู่ 6 คืน มีคนมาเดินมาถาม คุยด้วย 14  คน 55555  เรตติ้งไม่เคยดีแบบนี้มาก่อน จั๊กมาแมนเสียดาย เว่าอังกฤษ บ่ถอก  กะเลยบ่ได้ผู้บ่าวอังกฤษ มาฝากอิแม่เลย สิโส เน้นๆ 2 คนเด้อค่ะ นอกนั้น พอบอกว่า เว่าอังกฤษบ่ได้ จ้า  เจ้าสิเมื่อยเด้    ข่อยกะสิเมื่อยนำ เพราะ เว่านำเจ้าบ่ฮู้เรื่อง  หนุ่มๆ ก็ขอบายจ้า  มีอยู่คนนึง เป็นคนตุรกี หล่อนะ มีเคลานิดๆ เป็นแขกขาว อยู่อังกฤษ มา 21 ปีแหละ  เรานั่งเล่นตู้ ใน คาสิโน อ่ะ เค้าเข้ามาคุยด้วย เราบอกว่า เราคุยอังกฤษไม่เป็น แต่ก็ความพยามยามสูง นั่งคุยคนเดียว เฉยเลย เราได้แต่ยิ้ม ทื่อๆ ไป พอเข้าใจนิดหน่อย พอเราจะหยุดเล่น ก็หยอดเงินให้เรา 40 ปอนด์ บอกให้เราเล่นไป  เค้าจะนั่งดูเรา เล่น 55555 บ่ฮอด 5 นาที  หมดจ้ำ ได้แต่มองล่ะเน้อะ  ค่าตัว ข่อย กะงามอยู่เด้ล่ะ 5 นาที มองซือๆ หมด ไป 40 ปอนด์  จากนั้น เราก็กลับโรงแรมกะญาติ กะ ได้แลกเบอร์กันอยู่ แต่กะบ่มีหยั่งคืบหน้าดอกค๊า  หนุ่มอังกฤษ ยอมรับว่าสุภาพมาก ค่ะ      อีกผู้นึง  เป็นทหารม้า รักษาพระองค์ แว๊ปแรก ก็บ่เชือเด้อค่ะ ฝรั่งเลยถาม เป็นหยั่งจั๋งบ่เซือ  ข่อยกะว่า  ทหารหยั่งคือเตี้ยแถะ(สูงกว่าเรานิดหน่อยเอง)  เมื่อวานไปถ่ายรูป กับทหาร ขะเข้าคือโตใหญ่แถะ (รูปข้างล่าง) ทหารม้า  Daniel  กะพาไปกินข้าวเย็นเด้  เฮาอยากกิน เป็ด  Daniel   ก็เลยพาไป Four season นั่นแหละ  พอเราบอกว่าไม่เชื่อ ก็เลย พาเรา เดินไปดู คอกม้า และตึกที่ทหารเค้าอยู่น่ะค่ะ  แรกๆก็ เอ๋า สิพาขึ้นห้อง เราจะเหลือบ่นิ  เค้าเลยว่า บ่ต้องย่าน มียาม มีกล้อง สิพาขึ้นไปเบิ่งวิว ลอนดอนซือๆ  เราก็ ได้เข้าไปดูคอกม้า ม้า แต่ต้องเบาๆ เพราะม้าหลับอยู่ ยอมรับว่าม้า สีดำ สวยมากๆค่ะ ถ่ายรูปตอนกลางคืนไม่ติดเลย สาบาน ว่ากำลังให้หญ้ากินอยู่ อยู่ที่ไหนไม่รู้ แปลไม่ออก  รุ้แค่ว่า ตึกสุงๆ  คล้ายพิพิธภัณฑ์ มืดเพราะ เที่ยงคืนแหละ (โอ้ย เป็นสาวเป็นแส้ อยู่กะผู้ชายดึกๆดื่น ๆ แสดงความ 11รด มาก) ถ่ายรูปมาอยู่ค่ะ แต่รูปมันมืดมากเลย  พอแค่แสงให้เราดู  กลัวก้กลัว คล้ายผู้บุกรุกอ่ะค่ะ ข้างใน มี ชุดทหารเก่าแก่ ของคนนั่นคนนี่ บอกสมัย มี ผ้ารองนั่ง (บนหลังม้าของพระราชินี และ พระสวามี) มีชุดเกราะทหาร รูปโบราณ จับใจความได้ว่า ตอนทำสงคราม กับ ฝรั่งเศส ไม่รู้ว่า เข้าใจถึกบ่ฮึ พอดูวิว เมืองอังกฤษจากมุมสูงแล้ว  Daniel   ก็มาส่งที่โรงแรมค่ะ ในใจคิดว่า ถ้าเค้าจะขอไปส่งเราถึงห้องเหมือนในหนัง จะบอกขะเข้าจั๋งใด๋น้อ คึดยาก หาคำบ่ได้  แต่ว่า อย่างที่บอก ผู้ดีอังกฤษเน้อะ เค้ามาส่ง หน้าโรงแรมกะ กลับ   สุภาพบักขนาด ขนาดบ่แม่นสเปคเด้นิ ยังประทับใจเพราะความ เป็นสุภาพบุรษของเค้าเลย   วันต่อมาค่ะ สิกลับแล้ว เครื่องออก 13.30  ไปฮฮด สนามบิน  Gatwick  12.40  เพราะตอนมา จาก โตริโน่ 1 ชั่วโมง มันทันเน้อะ แต่ ที่นี้ บ่ค่ะ  พนักงาน บอกว่า อีก 5 นาที จะปิดประตูแล้ว   เราก็บอกว่า วิ่งไป ไม่ทันเหรอ เค้าบอกไม่ทันค่ะ เอาเป็นว่า ตกเครื่องค่ะ อยุ่ต่ออีกวันนึงค่ะ  เสียค่าตั๋ว ของพรุ่งนี้ ไป 60 ยูโร ค่ะ     กลับสิคะ เข้าไปในเมืองค่ะ ไหนๆก็อยุ่ต่ออีกวัน นึง ฝากกระเป๋าใหญ่ไว้สนามบินค่ะ (มีที่ให้รับฝากนะคะ  ประมาณ 8-9 ปอนด์ค่ะ ) เพราะตอนมา  เราขึ้น Tube  มา กระเป๋า 2 ใบ ลำบากมาก (หอบผุเดียว บ่มีผุบ่าว)     พอฮอด กะนอนในเมืองค่ะ ตามเดิม ใกล้ๆกับที่เก่า   แต่จะดูคลาสสิคกว่าค่ะ  ติดถนนใหญ่ เลยมีร้านพิซซ่า อิตาเลี่ยน อยู่ใกล้ๆ ของกิน พร้อม โอเคเลย โรงแรม Best Western Premier Shaftesbury London Piccadilly Hotel ชื่อยาวมาก หายากมาก  เพราะทางเข้ามันเล็กค่ะ แต่บริการสุภาพค่ะ     ตอนเย็น   Daniel  กะพา ไป หา ที่ นั่งฟังเพลงค่ะ เดินเที่ยวข้างนอกไม่ไหว หนาวมาก เค้าก็เลยพาไปหาที่อุ่นๆนั่งสบายๆ บรรยากาศดีมาก   barista  หล่อโฮก  เท่สุดๆ  อยู่แถว Soho ค่ะ อยู่ในคาสิโน่  มีทางแยกขึ้นไป  เป็นผับ เป็นร้านอาหาร นั่งคุยกัน (อาศัยพี่เกิ้ลกะพี่เปิ้ลช่วยแปลค่ะ  ฝรั่งก็ ช่างมีความอดทนกับเราเหลือเกินนั่งข้างกันพิมพ์ข้อความให้อ่านคำแปล ปาน เล่น MSN)   หลังจากนั้น เราก็กลับบ้านค่ะ  แต่คราวนี้ คิดว่า นั่งแท็กซี่ไปสนามบินเลยดีกว่า 5555 คิด่า 50 ปอนด์คงพอ ที่ไหนได้ ฟาด ไป  120 ปอนด์ค่ะ นั่งสวยๆ คนเดียวๆ  เลย พอไปถึง 11.30 เวลาเป๊ะมาก ค่ะ ใช้เวลา 1.30  ชั่วโมง เราเช็คอิน ไปรอที่  gate  เลยค่ะ แต่กลับกลายเป็นว่า ไม่มีเขียน ว่า ประตูไหน ในตั๋ว พนักงานบอกว่า ต้องรอดู ที่จอใหญ่  อ่ะ โอเค รอก็ได้ ระหว่างนั้น ก็ไปนั่งสวยๆคนเดียว กิน มะกะโรนี รอค่ะ ประตู เครื่องจะปิด เวลา 13.10 ค่ะ ในตั๋ว เรา 12.40  ก็รอว่า เมื่อไหร่ จอใหญ่มันจะขึ้นสักที  ก็ไม่ขึ้น เราก็เลยไปถาม Information   เค้าก็บอกว่า ประตูที่569  เราวิ่งตับแตกค่ะ ไปถึง ไม่มีใครเลย ในจอใหญ่ ก็ไม่บอกว่า ดีเลย์   เราวิ่งตาตั้งกลับไปถามใหม่ เค้าก็ยืนยัน บอกว่า คงดีเลย์  แต่เราแปลกใจ ทำไมไม่ขึ้นบนจอว่ะ เค้าบอกไม่ต้องห่วง  ที่ไปไม่เจอใคร เพราะ เราเป็นคนแรก 5555  (เราไม่คิดแบบนั้นเลย คิดว่า มันบินไป ทิ้งตูข่อยอีกแล้ว)  กลัวตกเครื่องอีกอ่ะ แล้วก็จริงๆ จน เวลา 13.30  เครื่องบินเพิ่งมาจอดเทียบทา   เล่นเอา ตรู วิ่งซะหมดสวย ในที่สุด ก็กลับ  โตริโน่ กลับมารับความเป็นจริง   แต่สัญญาว่า จะกลับไปใหม่นะคะ ชอบมาก คิดไว้ว่า ปีหน้าพักร้อนจะไปอยู่ลอนดอนสักเดือน ตอนนี้เลยต้องทำงานหาเงิน ค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ 1 เดือน ในลอนดอน ซึ่งลองหาดู มันแพงมากเลย    ตอนนี้ สมัครเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ แล้วค่ะ อยากพูดได้ ชอบภาษานี้มาก  รอบหน้ากลับไป จะได้ไม่ไป แบบโง่ๆ ค่ะ   ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ   ถ้าไปไสอีก จะขยันถ่ายรูปมาให้เบิ่งเด้อจ้า(ที่บ่แมนรูปจะของ)   บะบาย ค๊า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น