วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ทริปนี้ที่สิงคโปร์ Day 2 ช่วงเช้า ด้วยสองขา กล้องหนึ่งตัวและหนังสือหนึ่งเล่ม
อรุณสวัสดิ์ เริ่มต้นวันที่สองที่เวลา 7.30 ออกมาไปชมบรรยากาศยามเช้าของคนเมือง ทิ้งอิเพื่อนอีกคนนอนเอาแรงไว้บนห้อง ๕๕๕๕ วันนี้เริ่มอาหารเช้าที่โรงแรม (ของฟรี มาพร้อมแพ็กเก็จ) ด้วย มอคค่าร้อนหนึ่งแก้ว ซีเรียวผสมนมและขนมปังสองแผ่น (ดูเหมือนจะไม่ค่อยอิ่ม แต่โคตะระอิ่มเลยจ่ะ)
เราเริ่มสำรวจเส้นทางจากถนนข้างๆ โรงแรมนี่แหละ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างย่าน Chinatown กับ Telok ayer บรรยากาศยามเช้าค่อนข้างสบาย แดดไม่ค่อยมี เมฆก็ไม่มาก จะเห็นว่าถนนดูโล่งๆ อาจจะเป็นเพราะว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้บริการ MRT ซะมากกว่า เนื่องด้วยความสะดวกสบาย และเร่งรีบ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เห็นรถยนต์เลยสักคัน ใครมาประเทศอาจจะพิสมัยรถราบ้านเค้า เพราะมีแทบจะทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ลานจอดรถที่นี่ก็มีให้บริการ แต่ต้องเสียค่าเช่ารายวัน/รายเดือนจ่ะ เนื่องด้วยอยู่ใกล้ Chinatown ทำให้อาคารแถวๆ นี้ ยังคงกลิ่นอายความเป็นวัฒนธรรมจีน อยู่ค่อนข้างมาก
เดินมาตามถนนเรื่อยๆ ก็จะเจอสวนสาธารณะจ่ะ เป็นสวนที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของย่าน Telok ayer โดยเฉพาะถามว่าร่มรื่นมั๊ย ก็ร่มรื่นอยู่นะ แต่ถ้าแดดออกจัดๆ อาจจะร้อนได้
เมื่อสำรวจสวนเสร็จ ถัดจากสวนสาธารณะไปคือวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ วัด Tieng Hock keng เป็นวัดที่ทำด้วยไม้ โดยไร้ตอกมุด (คนสมัยก่อนนี่เก่งเนอะ) ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปถ่ายรูปเอาบรรยากาศคนย่านนั้นสักการบูชาซะหน่อย แต่มีป้ายห้ามถ่ายรูปนี่ซิ เลยได้แต่ยืนขอพรและถ่ายรูปอยู่ด้านนอก
หลังจากขอพรพระเรียบร้อย เราก็ต้องใช้บริการ MRT เนื่องด้วยสถานที่ๆจะไปอยู่ค่อนข้างไกลจากย่านนี้ นั่นก็คือ Cityhall หลังจากลง MRT CityHall เรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าหาทางออก B เพื่อไป St.Andrew’s Catherdal ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติด้วย ..มาถึงก็ค่อนข้างเช้า คนที่นี่ยังทำวัตรเช้ากันอยู่ เลยได้แต่ถ่ายแค่ด้านนอก ซึ่งมันสวยมาก ลวดลายวิจิตร ที่สำคัญเป็นโบสถ์สีขาวทั้งหลังจ้า
หลังจากชื่นชมความงามของโบสถ์แล้ว เราก็เดินทะลุไปหาถนนหลักซึ่ง จำชื่อถนนไม่ได้เหมือนกัน แต่จะเจอสนามหญ้าใหญ่ๆซึ่ง เดินพอสมควร ตอนที่ไปฝั่งตรงข้ามเขากำลังก่อสร้างกันอยู่ แต่ถึงจะยังไม่เสร็จ เราก็รู้ได้เลยว่า ถ้าเสร็จแล้วมันต้องสวยแน่ๆ
หรือถ้าใครไม่อยากเดิน ก็กลับไปขึ้น MRT ที่ CityHall แล้วต่อสถานี Raffles place หาทางออก H ก็ได้ เพราะที่ๆ เราจะไปสำรวจกันนั้น้คือ Asian Civilisations Museum หรือ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรมและอารยธรรมของประเทศในแทบเอเชีย (แต่ด้วยตอนไปมันเช้าเกินไป เขาเลยยังไม่เปิด แต่ถ้าใครจะมา พิพิธภัณฑ์นี้เปิด 9.00-19.00 ในวันอังคาร-อาทิตย์ ส่วนวันจันทร์เปิด 13.00-19.00 และวันศุกร์ 9.00-21.00 จ้า ค่าเข้าชมก็คนละ 8SGD) ข้างกันนั้นเป็น The Arts House เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและดนตรีในตัวอาคารรัฐสภาเก่า ซึ่งเข้าชมฟรีนะ แต่บางนิทรรศการอาจจะต้องเสียค่าเข้าชมจ้า (ที่นี่ห้ามถ่ายรูปด้านในนะจ๊ะ)เมื่อเราหันหลังให้อาคาร Asian Civillisations เราจะเจอสะพานแขวนอันใหญ่ ชื่อ Cavenagh เป็นสะพานข้ามแม่น้ำสิงคโปร์
หลังจากเดินข้ามสะพานมา เราจะเจอโรงแรม Fullerton จ่ะ (ไฮโซมากนะ เท่าที่สังเกตมีแต่คนกระเป๋าหนักทั้งนั้นเลย) อยู่ทางซ้ายของสะพาน และเมื่อเลี้ยวขวา เราก็จะเข้าสู่ย่าน Boat Quay ซึ่งเป็นท่าเรือที่อยู่ปากแม่น้ำสิงคโปร์
ที่นี่ค่อนข้างคึกคักมาก เพราะมีทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์ ถ้าใครมาย่านนี้ต้องไม่ลืมมาลิ้มลองความอร่อยของ Chilli Crab และ Black pepper Crab ซึ่งเป็นปูศรีลังกาที่ตัวอลังการมาก แต่ถามราคาก็ไม่เบาเหมือนกันนะ ไม่ต่อกว่า 50SGD (ปูเขาคิดตามน้ำหนัก) กันเลยทีเดียว สำหรับใครที่จะมาย่านนี้ แนะนำว่าให้มาเย็นๆจ่ะ เพราะมีแสงสีให้ชมเยอะ แถมมองเห็น Marina bay sand ด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น