วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เรื่องเล่าจากฟลอเรนซ์

ทุกครั้งที่เดินทางไปไหนมาไหน แล้วเจอดนตรีเปิดหมวกก็จะแวะฟังตลอด เฉพาะที่ฟลอเรนซ์ก็มี 3 ที่เลยให้ติสแตกตามอัธยาศัย จุดแรกเป็น Trio วงดนตรีคลาสสิคเครื่องสายสามชิ้น อยู่ด้านขาวของอูโดโม่ เป็นจุดแรกที่เราออกจากกลุ่มได้ ทันใดที่ได้ยินเสียงเพลงจากคนเล่นดนตรีข้างถนนเราจะหายไปจากกลุ่มทันที เมื่อเดินวนรอบอูโดโม่เพื่อชมความวิจิตรบรรจงของศิลปะในยุคเรเนซองค์แล้ว ก็มานั่งดูละครใบ้ ดูไปหน่อยเดียวจบซะแล้ว จึงขยับมานั่งพิงปราสาทปาลาซโซ เวคคิโอ (Palazzo Vecchio) เพื่ออินไปกับเสียงไวโอลินจากชายละตินคนนึงด้านข้างปราสาท ทันใดนั้น ข้างหน้าเราปรากฎภาพชายไม่หนุ่มเดินมาคุยโทรศัพท์และก็หยุดวางสนุ๊กการรับชมดนตรีข้างถนนของเราอยู่ เมื่อฮีคุยโทรศัพท์เสร็จก็หันมาทักทันที “เฮ้ยู รู้จักเพลงนี่ไหม” เรายิ้มน้อย ๆ พร้อมส่ายหน้า “มันเป็นเพลงที่พูดถึงการเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ปีใหม่อะไรอย่างเนี้ย” แต่เหมือนเราจะสนใจในประโยคที่ได้ยินจึงคุยกับฮีต่อไป เพราะดูเหมือนนอกจากภาษาเพลงที่ได้ยินแล้ว ความหมายในเชิงภาษาศาตร์ของเพลงๆ นี้ยังน่าฟังมากๆ อีกด้วย ถามต่อ “แล้วมันชื่อเพลงอะไรหรอยู” “#*&%*#@%” ฮีตอบ “มันเป็นภาษาละตินสินะ” คือ กรูจำไม่ได้ว่างั้น เลยไม่รู้จะบอกว่าไปฟังเพลงไรมา Ha ha ha ฮีบอก “ช่าย” “แต่เอ๊ะ... ยูเป็นอเมริกันหรอ” “โนววววว์” จะบ้าป่ะวะหน้าเจ๊กขนาดนี้ยังทักตูเป็นเมกัน “แต่สำเนียงยู…….?!?” “ก็ไม่รู้ดิ ดัดจริตพูดอย่างงี้มาแต่อ้อนแต่ออก” “งั้นโรงเรียนในฮ่องกงคงสอนแบบนี้” “หืมมม์?!” “อ้าวรึยูเป็นเจแปนนิสล่ะ” ส่ายหน้าเร็วๆ แล้วถามเชิงท้าทายกลับไป “เดาดิ” “จีน เกาหลี ไต้หวัน มาเลย์ เวียดนาม” เราลดระดับความเร็วในการส่ายหัวลง พร้อมกะบอกฮีไปคำใหญ่ๆ ว่า “โนวววววววว์” “ยูโนว์วอท มายคันทรี่อิสเดอะพาราไดร์สออนดิเอิร์ธ” ฮีทำหน้าอเมซิ่งที่กรูดูภูมิใจในประเทศตัวเองมากมาย “ไอแอมแบงคอกเกอร์..... แอนด์ แอพโซลูรี่ชัวร์ ไอคัมฟอร์มไทยแลนด์” ณ จังหวะนี้สเตรทเสียเหมือนนางงามอเมริกาใต้แนะนำตัว เป็นอันว่าทำอิตาเลี่ยนขำกร๊ากไป จากนั้นฮีก็ทำหน้าที่เจ้าของประเทศที่ดีด้วยการแนะนำปราสาทนี้ แล้วก็เล่านู้นนี่ ซอกซอกถามว่ามาจากเมืองไร จะไปที่ไหน มากใคร อะไร ยังไง ทำไม จะอั้นจะอี้ ร้อยแปดคำถาม แล้วตามด้วย “เฮ้ย ไอมีเพื่อนนั่งอยู่ที่บาร์ใกล้ๆ นี่ พอจะมีเวลาไปนั่งคุยกันไหม” ด้วยไหวพริบปฏิภาณอันว่องไวจึงรีบตอบนางไปว่า “โอ้ววววว แต๊งกิ้วที่ถามถึงเวลา” พร้อมยกนาฬิกาขึ้นมาดู และแสดงแอคติ้งมาตรฐานเดียวกับภัทราวดีเทียเธอร์ “ไอมีนัดกะฝูงกะเหรี่ยงอีกสี่สิบชีวิตที่ห้างรินาเชนเต (Rinascente) หัวมุมโน้นนนนน อีกไม่ถึงสิบนาทีจะได้เวลาแล้วด้วย” เอามือปิดปาก ทำตาเหลือกว่ากรูต้องรีบยิ้มด ฮีเบะปากนิดหน่อย เหมือนจะเสียดายที่อีนี่ดันล๊กขึ้นมาซะอย่างงั้น แล้วเหลือกตาทำหน้าตกใจตามแอคติ้งมาตรฐานเดียวกะกรูเป๊ะ “เสียดายจุง ที่ยูต้องไปแล้ว เดี๋ยวยูไปเมืองไหนต่อ” “โรม” จริงๆ กรูมาจากโรมตั้งกะวันแรกแบ้ว แต่ก็สับขาหลอกมันไว้ก่อง อิอิ “อะเคร ยังไงก็ขอให้ยูโชคดี เที่ยวให้สนุกนะ” “อืม ยินดีที่ได้คุยด้วย" แต่จะยินดีกว่าถ้าเมิงไม่มาชวนกรูคุยจนอดอินกะเสียงไวโอลิน และไม่พยายามจะยัดเยียดความเป็นสามีกะเจ๊กสาวแก่นเซี๊ยวอย่างดิชั้น เล่าขำๆ หวังว่าจะทำให้ทุกคนอารมณ์ดี^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น