Singapore Trip * 12-14 September 2014
Part 1 -- เดินทางวันแรก ตะลุย Universal Studio Singapore **
http://pantip.com/topic/32675359วันที่สอง
ตื่นเช้าตรู่รับอาหารเช้าที่โรงแรม ที่นี่อาหารดี ทานง่าย
บริเวณห้องอาหารติดกับสระว่ายน้ำ มีมุมสวยให้ถ่ายรูปค่ะ ^^
หลังจากเตรียมพร้อมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเราก็เริ่มต้นวันกันอีกครั้งนึง
ทริปนี้เป็นทริปที่ทำแพลนมาเป๊ะมากๆ เสมือนบริษัททัวร์มาเอง
ตารางวันนี้คือ China Town, วัดพระเขี้ยวแก้ว, วัดแขก,
Marina Bay Sand, Singapore Flyer, Fountain of Wealth
และ Duck Tour ทุกอย่างแลดูเลอค่ามากกก
แต่......!!! ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เมื่อแวะมา
Orchard Road -.-
มากันตั้งแต่ห้างยังไม่เปิดดี
เริ่มต้นด้วย
313@Somerset
ที่นี่มีGarrett Popcorn ขาย ซึ่งพนักงานดีมากกก
และ ไม่มีคน ไม่มีแถว ไม่มีคิว คือ ดี!!
เดินเรื่อยๆไป Takashimaya Wisma iON
รู้ตัวอีกทีตอนกี่โมงคะ??? บ่ายโมงกว่า -.-
ทริปทัวร์เมืองหายไป กลายเป็นทริปช็อปปิ้ง หรือทริปสูบเงิน -.-
Charles & Keith หาได้ทั่วไป แต่... อยากแนะนำให้ซื้อที่สนามบินจัง
เพราะไม่ต้องVAT refund มัน0%อยู่แล้ว
ถ้าซื้อสินค้าครบ100SGD สามารถขอใบทำTax refund ได้ แล้วไปใช้ยื่นขอเงินคืนที่สนามบิน
หลังจากช็อปของมาอย่างมหึมาเป็นอันว่าไม่สามารถไปต่อได้
ต้องกลับโรงแรมเพื่อไปเก็บของ ก่อนที่จะตะลุยกันต่อไป
เดินตั้งกะตื่น นี่คือ
ทริปกระชับน่องอย่างแท้จริง
เราไปต่อยังตึก Esplanade ตึกนี่คือตึกทุเรียน (เรียกง่ายๆภาษาบ้านเรา)
แต่ไม่มีใครได้สนใจทุเรียนเลย เพราะทุกคนมุ่งหน้ามายัง........
ปูผัดพริก!! No Sign Board
หลังจากทรหดมาจนบ่ายสอง ก็ถึงเวลาของอาหารกลางวัน
คือ แพง แบบไม่แพง (คือไร?? งงมั้ย??)
คือราคาประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้น่ากลัวเท่าที่คิดไว้
และอาหารดี ร้านดี รู้สึกคุ้มค่า แต่...!!
คิดเงินทุกอย่าง ตั้งแต่น้ำเปล่า ผ้าเช็ดมือ ยันถั่วที่วางตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
และไม่ได้ขอ และถ้ารู้ก่อนว่าคิดเงินจะคืน -.- แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น!!!
ประเด็นคือ...อร่อย และ ดี
แนะนำอีกอย่าง คือ หมูอบกาแฟ ^^
หลังจากทานอาหารเสร็จ เพียงออกมาน่าร้านก็จะเห็นวิวสวยๆ
ได้เจอสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรเจอสักที
จากฝั่งนี้ เราสามารถมองเห็น ตึกแป๊ะซะ (Marina Bay Sand) ทางฝั่งซ้าย
และเห็นสิงโตพ่นน้ำทางฝั่งขวา ห่างกันเพียงแค่แม่น้ำกั้น
เราใช้วิธีการเดินเพื่อข้ามสะพานมายังจุดสิงโตพ่นน้ำ
ใช้เวลา แต่ไม่มาก ปัญหาคือ...
แดดร้อนนนน ถึงร้อนที่สุด
แต่สุดท้ายได้ภาพออกมาสวยทีเดียว
ตรงบริเวณสิงโตพ่นน้ำ เขาจะมีบริเวณที่ยื่นไปในน้ำ
เพื่อให้คนถ่ายย้อนมาเห็นสิงโตพ่นน้ำด้วย และท่าสุดฮิต คือ ......
หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยัง
Gardens by the bay
เพื่อไปชม Super tree รอเวลาเพื่อดูต้นไม้ดนตรี
จะเป็นไฟแสงสีสวยๆ ที่ตอนแรกคิดว่าเสียเวลาเพราะรอนานมาก กว่าจะเล่น เหมือนมานั่งสวนสาธารณะ
แต่พอได้ดู... เห้ยยยย สวยยยย คือดีอีกละ
เมื่อจบการแสดง เดินกลับกันอย่างเร็ว
เพื่อไปต่อยัง
Singapore Flyer 
สรุปวันนี้สิ่งที่เราพลาดคือ...
วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดแขก ย่านไชน่าทาวน์
Duck Tour และ Fountain of wealth
แต่สิ่งที่เราได้รับก็คุ้มจนไม่เสียดายที่ไม่ได้ไปที่เหล่านี้
น่าจะดีกว่าที่ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในแต่ละสถานที่แทนที่จะชะโงกทัวร์
วันที่สาม
วันนี้เรายังคงตะลุยกันแต่เช้าเหมือนเดิม
ทริปกระชับต้นขา ตื่นมาเพื่อเดิน หยุดเดินเมื่อนอน -.-
วันนี้ไม่มีเวลามากนัก เพราะเป็นวันสุดท้ายของการท่องเที่ยว
เราต้องกลับมาขึ้นรถตู้ที่โรงแรมตอนบ่ายโมง ทำให้มีเวลาไม่มากนัก
จุดหมายแห่งเดียวของเราในวันนี้คือ
City Mall
ที่เมื่อวานได้เพียงแค่ผ่านๆตอนไปตึก Esplanade
ที่นี่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งอีกแห่งหนึ่ง
เราเริ่มต้นช๊อปตั้งแต่ออกจากสถานีรถไฟ แล้วมาเจอร้าน Guardian
ที่นี่เปรียบเสมือนวัตสันบ้านเรา
เข้าไปดูเป้าหมายที่คิดไว้จากบ้านคือ Bioderma
ตัวนี้ใช้ประจำ ซึ่งก็ไม่ได้คิดไว้ว่าจะซื้อเพราะที่นี่ไม่ใช่ฮ่องกง ฮ่องกงถึงจะถูกที่สุด
แต่แล้ว!!! Sales!!! ซื้อ2ขวด จะได้ลด 47%
คือบังเอิญมาก เหลือตกขวดละ700บาท
ซึ่งโอเค ปกติซื้อวัตสัน แค่นี้คือดีงามละ
รับไปคนละ2ขวดเลยค่ะ โดนไปประมาณคนละ 50กว่า SGD
เราเดินออกจาก Guardian ตั้งใจเดินไปเรื่อย
แต่เดินมาได้นิดนึง มีคุณป้าท่านนึงเข้ามาทัก
ตอนแรกคืองง เขาบอกว่าซื้ออะไร ซื้อไปเท่าไหร่
สุดท้ายคือได้ใจความว่า เขาตั้งใจมาบอกเราว่า...
ซื้อของครบ50เหรียญน่ะ เอาไปแลก Cash Coupon ได้ฟรีอีก 50 เหรียญ แต่รีบไปนะ เขาแจกแค่ 30 คนแรกต่อวัน
เห้ย!! คือแบบ... นางงาม!! แต๊งกิ้ว กราบบบบ
รีบวิ่งไปต่อแถวเลยค่ะ คือโชคดีมาก ซื้อ50 ได้ฟรี50
แล้วCash Couponนี่คือใช้ซื้อได้ทุกอย่างในนั้นเลยจริงๆ
ทั้ง Garrett Popcorn ทั้ง Giordano หรือจะเป็น Charles & Keith
เมื่อถึงเวลา เราก็เดินทางกลับมายังโรงแรม เพื่อรอขึ้นรถตู้
รถตู้ขากลับที่มารับคือดีมาก แอร์เย็นช่ำ
ที่เสียใจคือ เงินหมดจ้า ไม่มีทิป หนูเสียใจ
เมื่อมาถึงที่สนามบิน เราก็ทำการทำ Tax refund กันก่อนเลย
ซึ่งเป็นเครื่องอัตโนมัติแบบจิ้มซึ่งใช้ง่ายสะดวก ที่สำคัญมีเลือกภาษาไทยได้
เรื่องภาษี แค่ภาษาไทยก็งงอยู่แล้ว อย่าให้ต้องแปล
เสร็จแล้วเราเข้าผ่านตมเพื่อเข้าไปด้านใน เผื่อเวลาสำหรับช็อปปิ้ง (อีกแล้ว) ไว้เยอะๆ
มีร้าน Charles & Keith อีกครั้งที่นี่ ของที่นี่ค่อนข้างดีและครบ
ถ้าไม่รีบหรือกิเลสครอบงำ อยากได้เดี๋ยวนี้!! มาซื้อที่นี่ก็ดีค่ะ
ไม่ต้องทำVat refund เพราะ 0% อยู่แล้ว
ใช้บัตรรูดสามารถเลือกเงินบาทได้ด้วย เห็นยอดเงินบาทกันเดี๋ยวนั้น
ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าเรทตอนจ่ายจะเท่าไร
จุดน่าสนใจอีกอย่างคือ มี ต้นไม้แห่งชางกี -.-
คือถ่ายรูป และสามารถอัพโหลดขึ้นเฟซบุคผ่านทางระบบของสนามบิน
หรือสามารถอัพเอาไปโชว์หล้าบน Super Tree เวอร์ชั่นสนามบินก็ได้
ถ่ายรูปกันแบบเพลินๆ จนลืมเวลา
รู้ตัวกันอีกทีคือ... รู้สึกว่าใกล้ละ -.-
จนกระทั่งพี่คนนึง... เห้ย.. อีก 7 นาที
ทุกนางผงะ!!! ห่ะ??? 7 นาที ???
คือประตูเกทไกลมากอ่ะ เกือบสุดท้ายเลยทีเดียว
ทำไงคะ..... วิ่งสิคะ!!
วิ่งกันตาลีตาเหลือก ลำไส้จะย้อนออกปาก
วิ่งกันให้ตายกันไปข้างนึง
ข้าวของพะรุงพะรังหาได้แคร์ใครไม่
วิ่งจนใช้เวลาร่วม7นาทีละ ถึงหน้าเกทพอดีค่ะ
อะไรค่ะ!!!???
………..
คนยังต่อคิวเข้าเกทอยู่เลยค่ะ
คืออะไร???!!
……………….
…………
…..
พี่คนเดิม : จะบอกว่า อีก 7 นาทีค่อยเดินมา!! ทำไมไม่ฟังกันก่อน...........
- จบแบบเหนื่อยๆ และเดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพ -
ทริคเล็กทริคน้อยก่อนไป *การเดินทาง
เราเดินทางโดยรถไฟเป็นหลักค่ะ (สลับกับเดิน -.-)
เราซื้อบัตร EZ-Link ค่ะ
ใช้งานง่าย สะดวก
ซื้อครั้งแรกจะ 15 เหรียญ เป็นราคาตัวบัตร 5 เหรียญ ให้เราใช้ได้ 7 เหรียญ
เราเติมเงินเพิ่มไปอีก 10 เหรียญ ก็พอดีๆ ใช้เหลือๆสำหรับ3วัน
บัตรนี้มีอายุประมาณ 5 ปีค่ะ เก็บไว้ได้ เผื่อมาเที่ยวใหม่
หรือใช้เป็นข้ออ้างมาเที่ยว -.-
สำหรับค่าโดยสาร ถ้าอยากประมาณราคาไว้ก่อน
ลองเข้าไปเช็คที่ website ของ smrt ได้เลยค่ะ
จะแสดงสายตารางรถไฟใต้ดินทั้งหมด ใช้ง่าย ให้ข้อมูลดี
สามารถจิ้มสถานีต้นและปลายทางได้เลย
ระบบจะบอกวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดให้
พร้อมบอกประมาณเวลาการเดินทางให้ด้วย
เราสามารถเช็คสถานที่รอบสถานีรถไฟได้จากเว็บนี้เลยค่ะ
จะไปที่ไหน ลงสถานีไหน ออกประตูไหน มีแผนที่จิ๋วให้
การแต่งกาย
ที่นี่ไม่มีแฟชั่นค่ะ
บ้านเขาอากาศร้อนชื้นมากกกก
มีแต่ฝน แดด และไอร้อน
ใส่น้องแตะได้ก็แตะค่ะ ลมพัดผ่าน
กระฉับกระเฉงหน่อยก็ผ้าใบ ที่เราขอผ่าน -.-
กลัวฝนตกละจะกลายเป็น...สิงคโปร์ฟุต
โทรศัพท์
ใช้บริการโรมมิ่งของเครือข่ายที่ใช้อยู่ไปค่ะ
เปลี่ยนเป็นสัญญาน SingTel ที่นู้น
สัญญานดีค่ะ ส่งรูปโหลดรูปกันวิ่งชิ้ววว
สำหรับใครอยากประหยัดหน่อย ก็แชร์สัญญานกันกับเพื่อนค่ะ
เปิด Hotspot ให้กันได้ค่ะ สัญญานไม่ดึง
ดีเหมือนเดิม แต่ตัวเมนจะเปลืองแบตมาก
ชื่อสินค้า:
สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น