858,000กีบ 3วัน2คืน ที่วังเวียง-เวียงจันทน์

***การคิดเงินกีบเป็นเงินบาทให้ตัด ศูนย์ 3ตัว คูณ 4 ได้เลยค่าาาา สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก "การดูจากรีวิว~"ของเพื่อนๆในพันทิปนี่หล่ะคะ แล้วก็ตั้งใจว่าถ้าได้ไปก็จะกลับมารีวิวให้คนอื่นอยากไปเหมือนเรา^^   ทริปนี้แบกเป้กันไป 2 คนค่ะ เริ่มต้นโดยการตกลงว่าจะเก็บเงินวันละ 50 บาทตั้งแต่เดือนก.ค. 57เก็บมาเรื่อยๆจนได้เงินมาจำนวนนึง และก็มาลงเอยว่าจะเดินทางกันวันที่ 21ต.ค.57 ถึง 23 ต.ค. 57 ค่ะ เราโชคดีที่  เดือนกันยา Thai lion air จะเริ่มบินกรุงเทพ-อุดร มีตั๋วโปรโมชั่น ไป-กลับ 780 บาท ก็รีบจองเลยคะจะอยู่ทำไม เที่ยวไป 5.55 ถึง 7.10 เที่ยวกลับ 17.10 ถึง 18.10 เวลาเที่ยวกลับเนี้ยจะเป็นปัญหานิดหน่อย เนื่องจากจากการอ่านรีวิววของหลายๆคนแล้วถ้าเรานั่งรถจากวังเวียงกลับมาอุดรเลย กลัวจะไม่ทันเวลาขึ้นเครื่อง เราเลยเปลี่ยนเป็นนอนวังเวียง 1คืน นอนเวียงจันทน์ 1คืน แล้วการเดินทางของเราก็เริ่มต้นขึ้น เราเดินทางจากดอนเมือง 5.55 น. ถึงสนามบินอุดรฯประมาณ 7 โมง พอรับกระเป๋าเสร็จ เราก็ตามจากรีวิวที่ว่าจะมีสองแถว สาย 15 ไป บขสเก่า ราคาคนละ 15 บาท แต่จากการสอบถามแล้วต้องเดินออกไปจากสนามบินไปรอรถด้านนอก ซึ่งไกลพอสมควร เราจึงตัดสินใจนั่งรถตู้เข้าเมือง ในราคาคนละ 80 บาท (ซื้อตั๋วด้านในสนามบิน) เราคิดว่าราคานี้ค่อนข้างแพง ถ้าคิดจากระยะทางสนามบินมาที่บขส เมื่อเรามาถึง บขสเก่า เดินเข้าไปด้านในตัวอาคารไปเพื่อซื้อตั๋ว ไปวังเวียง แต่วันนั่นเราคงโชคไม่ดีรถไปวังเวียงดันเต็มซะก่อน เพราะรถที่มารับเป็นรถคันเล็กจากฝั่งลาว ทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย ต้องขึ้นรถไปลงเวียงจันทน์ก่อนแล้วค่อยต่อรถไปวังเวียง ราคาตั๋วจากอุดรไปเวียงจันทน์ราคาคนละ 80 บาท รถออกตอน 9.00น. นี่เป็นรอบรถจากอุดร ไป เวียงจันทน์ ราคาตั๋วจากอุดรไปเวียงจันทน์ราคาคนละ 80 บาท ระหว่างที่เรารอรถออก เราก็ไปหาอะไรรองท้องก่อน หาร้านแถวๆบขสนั่นแหละคะเอาใกล้ๆ มาถึงอุดรต้องกินของขึ้นชื่อ ไข่กระทะ รสชาติอร่อยดีคะหอมเนยมากๆ ร้านนี้อยู่ตรงข้ามบขส.เลยค่ะ กระทะละ 30 บาท และก่อนที่เราจะไปขึ้นรถเราก็อยากรู้ราคารถสามล้อเครื่องถ้าไปสนามบินเท่าไหร่ คุณน้าที่ขับรถท่าทางใจดีบอกเราว่า 100บาท ถ้าเป็นคันอื่นประมาณ 160 บาท เราไม่รอช้าเลยคะขอเบอร์โทรไว้เลย เพื่อนๆคนไหนสนใจ สอบถามได้นะคะ ^^ เก้าโมงถึงเวลารถออก เราต้องนั่งตามเบอร์ที่เขียนไว้ในตั๋วด้วยนะคะ บางครั้งคนขับรถก็แอบดุนิดนึงเพราะทำหน้าที่ทุกอย่างเพียงคนเดียว คนขับรถจะแจกใบกระดาษให้เขียนข้อมูลในการข้ามพรมแดนอันที่แจกให้เป็นของฝั่งลาวนะคะ พอถึงด้านฝั่งไทยเราต้องเขียนของฝั่งไทย แล้วยื่นพาสปอร์ตให้แสตมป์ แล้วกลับมาขึ้นรถ ข้ามสะพานผ่านแม่น้ำโขง สักพักเราจะเจอกับด้านฝั่งลาว นำเอกสารที่เราเขียนบนรถพร้อมพาสปอร์ตยื่นให้แสตมป์ เสร็จแล้วเราต้องซื้อ บัตร one way ticket ตู้ขายจะอยู่ตรงเกาะกลางถนนนะคะทางขวามือ ถ้าเป็นเงินไทยคนละ 5บาท เงินลาวคนละ 1000 กีบคะ นี่เป็นรถไทยที่จะพาเราไปเวียงจันทน์ค่ะ ส่วนรถคันนี้เป็นรถของลาวที่ยิงยาวจากอุดรไปวังเวียงเลย ซึ่งมันเต็มแล้ว แต่ก็มาทันเจอกันที่ด่านพอดี T^T นี่เป็นหน้าตาของบัตร one way ticket  ค่ะ พอซื้อบัตรเสร็จไปที่ประตูคล้ายๆกับรถไฟฟ้าบ้านเราคะ สอดบัตรเข้าไปประตูจะเปิดอย่างช้าๆ ตรงนี้ต้องใจเย็นๆนะคะเพราะ ไม่ได้เร็วเหมือนประตูรถไฟฟ้าบ้านเรา ผ่านมาได้เราก็มาแลกเงินคะ อัตราแลกเปลี่ยน  1THB =250 LAK ถือเงินเป็นล้านๆเลยคะ *เราแลกเงิน 4,000 บาท ได้เป็นเงินลาวมา 1ล้านกีบค่ะ ถือเงินล้านสบายใจเบย 555 นั่งรถมาสักพัก รถมาจอดที่สถานีขนส่งตลาดเช้า เวลา 12.00 น. พอประตูรถเปิดเท่านั่นแหละคะสิ่งที่ต้องพกเลยนะคะ สติ!!เพราะจะมีคนมารุมล้อมเราเยอะมาก ไปไหน ไปไหน ไปนี่มั้ย ไปนั่นมั้ย เราต้องออกมายืนตั้งหลักสักพักคะเพื่อหาทางไปต่อถ้าเรารีบตัดสินใจไปกับเค้าจะเสียค่ารถแพงกว่าที่ควรจะเป็นคะ หรือถ้ามีกลุ่มคนจะไปที่เดียวกับเราแล้วช่วยๆกันแชร์ราคาก็จะถูกลงคะ ส่วนเราต่อรถเมล์คันสีเขียวๆ ไปขนส่งสายเหนือ ราคาคนละ 5,000กีบ(20 บาท) ระหว่างทางที่นั่งรถเมล์ก็มีรถตู้มาจอดกันหน้ารถเมล์ไว้แล้วมาถามคนขับรถว่าบนรถมีคนจะไปวังเวียงช่ายมั้ย พี่คนขับหันมาถามว่าจะไปกับรถตู้มั้ย อ่อลืมเล่าไปค่ะมีอีกกลุ่มคนไทยด้วยนะคะที่จะไปวังเวียงเหมือนกันมีกันประมาณ 9คนนั่งอยู่บนรถด้วยกัน พอสอบถามราคาดูแพงน่าดูเลยคะคิดแล้วตกคนละเกือบสามร้อย พี่กระเป๋ารถเมล์บอกว่ามีอย่างนี้บ่อยเพราะรถตู้ไม่ชอบเข้าวินที่ขนส่งแล้วจะมาเอารายทางแบบนี้ซึ่งจะเก็บราคาแพงกว่าด้วย พอถึงขนส่งให้เดินไปด้านหลังขนส่งคะจะมีรถตู้จอดอยู่ เขียนเป็นภาษาลาวหน้ารถว่าวังเวียง ราคาคนละ 50,000กีบ(200 บาท) รถตู้ออกตอนเกือบๆบ่ายโมง การนั่งรถตู้ไปกินเวลานานมากคะ บวกกับเส้นทางที่มีฝุ่นแดงๆและถนนเป็นหลุม ถ้าใครคิดจะมานอนบนรถนี้ ยากเลยคะ ยิ่งตอนขึ้นเขานี้ลุ้นแล้วลุ้นอีก คุณลุงคนขับนี้ขับไม่เบรคเลยคะ เจอโค้งนี้บีบแตรอย่างเดียว ถ้าคนขับไม่ชำนาญนี้ไม่ได้เลยนะคะ 18ล้านโค้งขนาดนี้ อ้อลืมบอกไป รถจะจอดแวะให้เข้าห้องน้ำ หรือซื้อของด้วยคะแต่แค่ครั้งเดียว ถึงแล้วค่ะสถานีสายเหนือ โฉมหน้ารถตู้ของเราในทริปนี้ และนี่คือ!!!!!!!!! ระหว่างทางที่ไปสู่จุดหมายค่าาาาา ท่านผู้ชม ทางดีดีก็มีนะคะ วิวระหว่างทางค่ะ ลุงขับรถตู้ใจดีมากๆค่ะ ชวนคุยระหว่างทางชี้นู่นนี่ให้ดู ได้มิตรภาพที่ดีระหว่างทางเพราะลุงเขาก็บอกว่ารู้สึกดีใจที่เราเลือกมาเที่ยวที่บ้านเกิดของเขา เราถึงวังเวียงเกือบๆ 4โมงเย็น คุณลุงรถตู้ใจดีอีกคะขับไปส่งหน้าที่พักเลย ซึ่งปกติต้องไปส่งที่ บขส แล้วนั่งรถต่อเข้ามาในเมือง ที่พักของเรา คือ บ้านสบายบังกะโลคะ ตรงข้ามกับโรงพยาบาลวังเวียงเลย ตกคืนละ 1250บาทคะ ที่นี่พนักงานเป็นมิตรมากคะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างเลย บรรยากาศดี ที่พักตกแต่งน่าอยู่ เดินทางสะดวก เราเอาของเก็บเรียบร้อยก็ออกไปสำรวจเมืองกัน โดยการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เราเช่าตอนเย็นถึงแค่เที่ยงของวันพรุ่งนี้ ราคาอยู่ที่ 60,000 กีบ(240 บาท) ราคาเช่ารถต้องลองต่อดูนะคะ ถ้ารู้สึกว่าแพงไปหรือไม่ควร ก็ให้ทำเป็นไม่เอาไม่เป็นไร แล้วเค้าจะลดให้อีกค่ะนี้คือเคล็ดลับ แต่บางร้านก็ใช้ไม่ได้นะคะแหะๆ ต้องขับรถไปเติมน้ำมันก่อนค่ะเติมไป 20,000กีบ เต็มถังเลยค่ะ แต่ที่จริงเติมแค่ 10,000 กีบ ก็ใช้ได้แล้วค่ะ มอไซค์คู่กายคู่ใจของเรา ขับมาเติมน้ำมัน หลังจากนั้นก็ขับรถสำรวจเมืองในตอนเย็น แล้วเราก็ไปซื้อตั๋วรถ MINI BUS กลับเวียงจันทน์กับทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรม คนละ 50,000 กีบ ตรงนี้เราพลาดนี๊ดนึงรีบตัดสินไปหน่อย แนะนำให้ลองไปเดินๆดูในเมืองนะคะ จะมีร้านขายตั๋วรถอยู่เต็มไปหมดลองๆดูราคาหลายๆร้าน จากการส่องๆแล้วร้านขายตั๋วข้างนอกจะขายแค่ 35,000 กีบ เองค่ะ  ตกเย็นเราซื้อโรตีมาทานค่ะ อันละ 10,000 กีบ จากนั่นเราก้อเข้าที่พักนั่งรถมาทั้งวันเหนื่อยมากจริงๆ บรรยากาศของบ้านสบายบังกะโลค่ะ ซึ่งที่นี่หาง่ายมากค่ะ เพราะอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลวังเวียงเลยค่าาา และนี่คือ บรรยากาศรอบๆเมืองวังเวียงที่เราใฝ่ฝันมาถึงค่ะ แล้วจะพาไปเที่ยวต่อในคอมเม้นท์ต่อไปนะคะ ^^ ชื่อสินค้า:   วังเวียง เวียงจันทน์ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ