ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งค่ะ กลัวมาก กลัวจะโดนคอมเม้นท์แรงๆง่ะ .... เค้ากลัว...
เพราะว่าเห็นคนส่วนใหญ่โพสต์กระทู้ฮ่องกงเยอะแล้ว เลยกลัวว่าถ้าโพสต์ไปจะมีใครมาสนใจอ่ะค่ะ แต่สุดท้ายก็เอาชนะความกลัวค่ะ
อยากมาเล่าเรื่องราวที่พบเจอ มาแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนพี่ๆน้องๆในพันทิปกันค่ะ
ก่อนจะออกเดินทางสักสองสามอาทิตย์นั้น กล้องคอมแพคได้พังไป เลยต้องไปถอยกล้อง mirrorless ยี่ห้อ Fuji รุ่น X-A1 มา แต่ขอบอกว่ามีเวลาเรียนการใช้กล้องแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ฝีมือเลยได้แค่นี้นะคะ
กลับมาทริปนี้ค่ะ ทริปนี้ต้องออกตัวก่อนเลยนะคะว่าเป็นทริปทำบุญไหว้พระค่ะ ไม่มีอะไรเลยนอกจากไปวัดเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เนื่องจากว่าทริปนี้ไปกันสองคนแม่ลูก คุณแม่อายุ 66 ปีค่ะ น้ำหนักตัวค่อนข้างไปทางเยอะมาก และมีปัญหาเรื่องเข่าเป็นปัจจัยหลักค่ะ แต่ขอบอกว่าคุณแม่อึดและถึกมากค่ะ เพราะว่าไปตามแผนที่ทางคุณลูกกำหนดไว้ได้ค่อนข้างครบค่ะ เป็นทริปที่เดินหนักเอาเรื่องค่ะ (ตอนจัดทริปก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ไปจริง โอ้.....แม่เจ้า ทริปนี้หนักเอาการอยู่นะ โหดแท้) ก่อนจะอารัมภบทไปมากกว่านี้ เรามาเริ่มต้นกันเลยดีกว่าค่ะ.....
เริ่มต้นที่วันแรกเลย – สนามบิน – หาอะไรทานที่ Langham Place – วัดหวังต้าเซียน – Charlie Brown Café – Symphony of Lights – Shopping @ Sasa and Bonjour
วันแรกของการเดินทาง ขอบอกว่าไม่ได้นอนเลยค่ะ เพราะว่าคุณแม่ตื่นเต้น นอนไม่หลับ ตื่นตั้งแต่เที่ยงคืนจร้า ทั้งที่จริงๆต้องตื่นตอนตี 3.30 ค่ะ พอตื่นมาก็อาบน้ำแต่งตัว ทำผม แต่งหน้า ออกเดินทางไปสนามบินดอนเมืองตอนตี 4.00 ค่ะ ไปถึงสนามบินตอนตี 4.30 ไปด้วยสายการบินหางแดง พอเช็คอินแล้ว ก็โหลดกระเป๋าสองใบ ซื้อน้ำหนักกระเป๋าไว้ที่ 20 กิโลกรัมค่ะ หลังจากโหลดกระเป๋าเสร็จ ก็ได้เวลาผ่านตม.ค่ะ
นี่คือรูปหลังจากผ่านตม.มาแล้ว
ปล. ขอบอกว่าม๊าไม่ชอบถ่ายรูปอ่ะ ทริปนี้มีรูปม๊าน้อยมาก (รูปตัวเองยังเยอะกว่าเลย 555+)
หลังจากผ่านตม.แล้วก็มานั่งรอขึ้นเครื่องค่ะ ไปกับผู้สูงอายุก็ดีแบบนี้แหละค่ะ ได้ขึ้นเครื่องก่อนชาวบ้าน หลังจากนั้นก็นั่งอยู่บนเครื่องสองชั่งโมงกว่าๆก็ถึงสนามบินฮ่องกงแล้ว
เดินทางออกจากจากเครื่องบินมา ก็ต้องมาผ่าน ตม. ซึ่งขอบอกว่าก็เร็วมาก เพราะว่าเค้าลัดคิวให้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้สูงอายุค่ะ เลยผ่านตม.ฮ่องกงมาแบบเร็วเว่อร์ ถัดไปก็ไปหาซื้อบัตร Octopus สำหรับผู้สูงอายุค่ะ (เพราะว่าของตัวเองมีแล้วค่ะ) บัตร Octopus สำหรับผู้สูงอายุ ราคาอยู่ที่ 70 HKD (ค่ามัดจำบัตร 20 HKD) เมื่อได้ Octopus Card มา ก็ได้เวลาเดินทางมาขึ้นรถประจำทางค่ะ พักอยู่แถวมงก๊ก เลยนั่งสาย A21 มาลงที่ Argyle Centre, Nathan Road ขอบอกว่ามารอบที่ 2 ก็หลงค่ะ 55555……หลงทางจนคุณแม่บ่นแล้วบ่นอีก เหม็นควันบุหรี่ก็เหม็น ร้อนก็ร้อน หนักก็หนัก........วันแรกก็เลยเอาเหนื่อยหอบ
หลังจากหลงทางหาที่พักอยู่นานโข ก็ได้เวลาถึงที่พักแล้ว ต้องขอขอบพระคุณคุณอาฮ่องกงคนหนึ่งนะคะ ใจดีมากเลย โทรศัพท์ไปถามโรงแรมให้ พาไปส่งถึงหน้าโรงแรมเลย ใจดีสุดๆเลยค่ะ….ประทับใจมากค่ะ....ในที่สุดก็ถึงห้องพักสักที เดินหาขาลาก
นี่คือสภาพห้องพักของเราค่ะ เล็กอย่างกับรูหนูจริงๆ แต่ก็สะอาดในระดับหนึ่ง ราคาพอใช้ค่ะ แต่ที่ประทับใจสุดคือไวไฟเร็วมาก และมีน้ำให้เติมฟรีไม่อั้น เราสองคนแม่ลูกพักที่ “As Shan Hostel” @ Sincere House ค่ะ นี่คือสภาพห้องพักค่ะ พักที่ฮ่องกง 4 วัน 3 คืนค่ะ แล้วก็ไปพักที่มาเก๊า 1 คืนค่ะ
หลังจากพักเหนื่อย เข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ กรอกน้ำแล้ว ก็ออกเดินทางไปหาอะไรทานค่ะ
ออกเดินทางไปหาอะไรทานที่ห้าง Langham Place อยู่ย่านมงก๊กแหละค่ะ หาไม่ยาก เดินตาม GPS ไปเรื่อยๆค่ะ (ลืมบอกค่ะ ว่าซื้อซิมเล่น Internet ที่ฮ่องกงไปจากเมืองไทยค่ะ ราคา 360 บาท เล่น Net ได้ไม่จำกัด ขอบอกว่าคุ้มค่ะ) มาถึงก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 4 โซนร้านอาหารค่ะ ร้านอาหารร้านแรกที่จะไปทานนั้น ได้ข้อมูลมาจาก Hong Kong Fanclub ค่ะ ขอบอกว่าต้องต่อคิวรอทานด้วย ร้านนี้ดังจริงๆ ชื่อร้านว่า “Chee Kei” ขอบอกว่าเกี๊ยวกุ้งอร่อยเว่อร์.....ต่อท้ายของคาว ด้วยของหวาน จากร้าน “Honeymoon Dessert”ค่ะ ร้านอยู่ติดกันเลย หาไม่ยากค่ะ
ร้านอาหารที่ฮ่องกงและมาเก๊า ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟชาร้อน และอุปกรณ์ในการกินก็หนีไม่พ้นตะเกียบค่ะ
หน้าตาอาหารกลางวันของเราสองคนแม่ลูกค่ะ อร่อยมาก เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ สั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย และ ปีกไก่อบน้ำผึ้ง
ป้ายหน้าร้านค่ะ เผื่อใครหาไม่เจอ
ของคาวอิ่มแล้ว ก็ตามด้วยของหวาน ร้านอยู่ติดกันเลยค่ะ เมนูนี้หน้าตาน่าทานมากเลยค่ะ เลยสั่งค่ะ สั่งจากรูปค่ะ มันคือมะม่วงข้าวเหนียวดำในไอติมกะทิ อร่อยนะคะ มะม่วงหวานมาก ข้าวเหนียวดำหนืดดีค่ะ จากร้าน “Honeymoon Dessert”ค่ะ
หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้ว คุณแม่เกิดอาการงอแงเล็กน้อยถึงปานกลางค่ะ ว่าจะไม่เดินแล้ว เมื่อย ไม่อยากไปไหนแล้ว ก็เลยเดินย่อยอาหารใน Langham Place ค่ะ ที่นั้นมีงาน Sario ค่ะ มีเหล่าบรรดาตัวการ์ตูนน่ารักๆ เต็มไปหมดเลย
เหล่าบรรดาตัวการ์ตูน Sario ที่น่ารักๆค่ะ
บรรยากาศรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ พักอยู่สถานีนี้ค่ะ Mong Kok
หลังจากพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางไปทำบุญค่ะ เริ่มต้นที่วัดแรกค่ะ วัดหวังต้าเซียน (Sik Sik Yuen Wong Tai Sin Temple) ขอบอกว่าคุณแม่ไม่ประทับใจวัดนี้ค่ะ เพราะว่าไม่อนุญาตให้คุณแม่เข้าไปไหว้พระข้างใน ให้แต่คนฮ่องกงค่ะ คุณแม่เลยงอน ไม่พอใจเล็กน้อยค่ะ
การเดินทางมาวัดหวังต้าเซียนไม่ยากค่ะ นั่ง MTR สายสีเขียว (Kwun Tong Line) มาลงที่สถานี Wong Tai Sin - Exit: B3 ออกมานิดเดียวก็เจอ **ไม่ต้องซื้อธูปหน้าวัด เพราะว่าในวัดมีบริการธูปฟรี -- เปิดให้สักการะขอพร ได้ตั้งแต่ เวลา 7:00 – 17:30 น.
วิวหลังคาวัดจากทางขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีหวังต้าเซียนค่ะ มุมเงยค่ะ
ภาพบรรยากาศวัดหวังต้าเซียน
มังกรหน้าประตูทางเข้าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น