วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557
รีวิวลุยเดี่ยว..เที่ยวภูเขาไฟโบรโม่ด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องซื้อทัวร์ ไม่ต้องเช่ารถจิ๊ป เดินทางสุดมัน ท้งโดนโกงและตกรถไฟ
สวัสดีดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวบูลและผู้ท่องโลกออนไลน์ทุกๆคนนะครับ กลับมาอีกครั้งครับสำหรับการเขียนรีวิวผจญในต่างแดน ครั้งที่แล้วเมื่อตอนต้นปี เดือนกุมพาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวได้เดินทางไปญี่ปุ่นมา 11 วัน ผมได้เขียนรีวิวการเดินทางไป 9 ตอนตามลิงค์ (http://pantip.com/topic/31813387) ซึ่งกว่าจะเขียนจบเล่นซะมือหงิกเลยครับ เพราะยาวมากๆ แต่ก็ได้รับการตอบรับจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกๆคนเป็นอย่างมากๆ ดูได้จากการแชร์ทาง Facebook ซึ่งมีมากกว่า 90000 แชร์ทางเฟค ต้องขอขอบพระคุณจริงๆครับ ผมเองไม่ได้หวังอะไรมากครับ ขอได้แบ่งปันการเดินทางลุยเดี่ยวให้เพื่อน และอีกหลายๆคนที่ฝันอยากเดินทางด้วยตัวเองคนเดียวบ้างได้อ่านเป็นแนวทาง ผมเองก็รู้สึกยินดีและภูมิใจแล้วครับ และก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูลการเดินทางกับเพื่อนทุกคน และเป็นแรงใจให้คนเดินทางหาประสบการณ์และเปิดมุมมองใหม่กับชีวิต ข้อมูลอาจจะมีให้ไม่มากก็น้อยครับ
มารอบนี้ เป็นอีกทริป ที่โดนเรียกร้องให้มาเขียนรีวิวการเดินทางให้หน่อย ตอนแรกว่าจะวางมือเขียนรีวิวแล้วครับ เพราะเขียนตกเยอะมากๆ แต่ด้วยคำเรียกร้องจากเพื่อนๆ ใน Facebook ขอให้มาเขียนให้อ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเดินทางกับคนอื่นๆด้วย ผมเลยขอมาเปิดจอคอมวางมือบนแป้นพิมพ์ เล่าเรื่องการเดินทางครั้งนี้อีกครับ
สำหรับ การเดินทางไปเที่ยว ภูเขาไฟโบรโม่ ก็คงเป็นอีกสถานที่และจุดมุ่งหมายของใครหลายๆคน ฝันว่าสักครั้งฉันจะต้องได้มาภูเขาไฟแห่งนี้ ผมเองก็เช่นเดียวกัน จุดประกายแห่งการเดินทางครั้งนี้คือ ได้อ่านหนังสือนิตยสารท่องเที่ยวเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยเกิดความฝันว่าอยากมาสักเยือนสักครั้ง เพราะเป็นภูเขาไฟที่สวยงามเหมือนภาพวาดและน่าตื่นตาตื่นใจมาก อีกอย่างมีการเดิน Trekking ด้วยครับ เลยวางแผนปักหมุดไว้ในสมองว่าต้องมาให้ได้แล้วแหละ
ผมวางแผนเที่ยวภูเขาไฟโบรโม ได้จองตั๋วโปร 0 คะแนนของหางแดงไว้ตั้งแต่เมื่อตอนต้นปี คือ ดอนเมือง-สุราบายา ขากลับ บาหลี-กรุงเทพ แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายเพราะเมื่อตอนเดือน พ.ค.ทางหางแดงอินโดประกาศยกเลิกเที่ยวบินดอนเมือง-สุราบายา... เอ้าหละว่ะทีนี้จะทำอย่างไรดี วางแผนไว้แล้ว เหลือเที่ยวบินทริปบาหลีอย่างเดียว ตอนแรกจะทิ้งเงิน พันกว่าบาท คงไม่ไปแล้ว .... แต่ด้วยจิตสำนึกของความเค็ม(เสียดาย) และความมุ่งมั่นที่รักการเดินทาง หลังจากขอเคลมค่าเดินทางเที่ยวบินสุราบายา ก็ตั้งงบค่าใช้จ่ายใหม่ในหัว แต่เพิ่มงบประมาณการเดินทาง ได้ลุกขึ้นมานั่งหน้าจอคอม จองตั๋วเครื่องบินอีกครั้งเมื่อปลายเดือน ก.ค. ความฝันการเดินทางลุยเดี่ยวเริ่มเบ่งบานเป็นคุณนายอีกครั้ง สรุปเลือกจองตั๋ว ดอนเมือง- จาการ์ต้า และขากลับคือ บาหลี- ดอนเมือง และซึ้อเที่ยวบินในประเทศอินโดฯเพิ่ม จาการ์ต้า-สุราบายาครับ ตอนแรกผมจะเลือกนั่งรถไฟ แต่ด้วยระยะเวลาการเดินทางและราคาตั๋วรถไฟกับเครื่องบิน ราคาก็ไม่ต่างกันมากนัก เลยเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินดีกว่า เพราะจะได้มีเวลาเที่ยวในจาการ์ต้าเพิ่ม 1 วันจะได้เห็นเมืองหลวงของอินโดฯ ว่ามีอะไรบ้าง วิถีชีวิตคนเมืองเหมือนๆกับคนในกรุงเทพหรือเปล่า เลยได้วันเพิ่ม 1 วัน
วางแผนการเดินทางไป 7 วันครับ ซึ่ง 7 วันกับการเดินทางได้ประสบการณ์อะไรมากมายจากเกาะชวาและเกาะบาหลี ทั้งมิตรภาพและการหลอกหลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายให้ผมมองโลกในแง่ดีเสมอครับ
และที่ผิดพลาดที่สุดในทริปนี้คือการลืมที่ชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 เครื่องไว้ที่เมืองไทย ก็เลยอดได้ใช้อินเตอร์เน็ต และอีกอย่างข้อมูลแผนที่การเดินทางในบาหลีที่อยู่ในโทรศัพท์ก็ไม่ได้ใช้ GPS ก็ไม่ได้ใช้ WiFi ก็ไม่ได้ใช้ ... โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่เป็นคนแก่ขึ้ลืม พลาดเพราะรีบจนเกินไป เนื่องจากวันที่ 5 ก.ย.เป็นวันศุกร์ ลางานตอนเย็นออกจากออฟฟิศมาเก็บกระเป๋า แล้วก็รีบขึ้นรถไฟฟ้า นึกได้ตอนอยู่สนามบินตอนจะขึ้นเครื่องแล้ว พลาดแล้วเรา ....เห้อ เอาเป็นว่า ตนแลเป็นที่พึงแห่งตน แต่จากเดินทางหลงทางในครั้งนี้ก็ทำให้ผมได้เห็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทาง ได้แวะที่ใหนก็ได้ที่อยากจะไป ได้พบมิตรภาพชาวบ้านและความมีน้ำใจของเพื่อนบ้านอาเซียนเราคอยให้ข้อมูลการเดินทาง ถึงแม้จะหลงทางก็ตาม แต่จากสิ่งที่หลงทางนั้นคือประสบการณ์ที่ดีทีสุดครับ สรุปรายละเอียดการเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย คร่าวๆ มีดังนี้ครับ
5 ก.ย.57
- เดินทางออกจากดอนเมือง- จาการ์ต้ารอบ 21.00 น. ถึงจาร์การต้าตอน 24.30 น. นอนที่สนามบิน 3 ซุกาโน่ฮัทต้า
หาที่เงียบ ตามมุม พอเป็นที่ซุกหัวนอนไป 1 คืนครับ นอนเอาแรง
6 ก.ย.57
- ตอนเช้าเดินทางด้วยรถบัสดำริ Airport Bus จากสนามบิน 3 ซุกาโน่ฮัทต้า ไปลงที่สถานีรถไฟแกมเบอร์ ใจกลางเมืองจาการ์ต้า
- แวะเที่ยวชมอนุสรณ์ โมนาส พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และเมืองเก่าปัตตาเวีย ใช้เวลาเที่ยวในเมืองหลวงอินโดฯ 7 ชั่วโมง
- ตอนบ่ายประมาณ 4 โมงเย็นเดินทางจากสถานีรถไฟแกมเบอร์ด้วยรถบัสดำริ กลับมาที่สนามบิน (รถติดมากๆ) ใช้เวลานานกว่าจะมาถึงสนามบิน
- ตอนเย็นประมาณ 18.00 น.เดินทางด้วยเครื่องบินออกจากจาการ์ต้ามาลงที่สุราบาย่า ถึงสุราบายา นั่งบัสดำริมาลงสถานีขนส่ง นั่งแท๊กซี่ไปที่พักซึ่งผม-
ได้จองที่พักไว้แล้ว พักในเมืองสุราบายา ห้องพักราคา 164 บาท ห้องน้ำรวม เป็นห้องแอร์อย่างดี
7 ก.ย.57
- ตอนเช้า เดินทางออกจากที่พักราคาถูก นั่งรถบัสคันเก่าๆ จากในเมืองจะมาหยุดที่สถานีขนส่งปุราบายา (โดนโกงค่าโดยสารไปถึง 10000 รูเปีย)
จากนั้นเดินทางด้วยรถโดยสารแบบแอร์ เดินทางจากสถานีขนส่งปุราบายา มาลงที่โปรโบลิงโก
- ตอนบ่าย เดินออกจากขนส่งโปรโบลิงโก มาหารถ Bemo คันเล็กซึ่งอยู่นอกสถานีขนส่ง ต้องรอให้ผู้โดยสารเต็มหรือ มากกว่าครึ่งนึงรอถึงจะออก
เพื่อขึ้นรถไปหมู่บ้าน คาเมร่าลาแวง สุดปลายทางแห่งภูเขาไฟโบรโม่ อากาศเย็นมากๆ
- ตอนเย็น เดินทางถึงที่หมาย เดินหาที่พักอีกเป็น Home Stay กว่าจะหาที่พักได้ก็ 6 โมงเย็นพอดี ได้ที่พักราคาถูก คืน 450 บาท นอนคนเดียว
8 ก.ย.
- เช้ามืด ตอนตี 3 นาฬิกาปลุกตื่น ล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมร่างกายให้พร้อม ฟิตให้เต็ม ออกเดินทางไปยังจุดชมวิวด้วยการเดิน (Trekking)
- เริ่มต้นเดินจากโรงแรมคาเมราอินวา ไปยังจุดชมวิว เดินตามเนินเขาไปเรื่อยๆประมาณ 3 กิโลกว่าๆ ถึงประมาณตี 5 กว่าๆ
อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่คุ้มครับ หลังจากนี้ รอชมพระอาทิตย์ขึ้น และตอนเช้าจะเห็นวิวภูเขาไฟโบรโม่ สวยงามมากๆครับ
- ตอนเประมาณ 7 โมงเช้า เดินลงจากจุดชมวิวกลับมาตั้งหลัก ณ ที่โรงแรมคาเมร่าอินวาอีกครั้ง เพื่อเดินไปยังภูเขาไฟโบรโม่อีก 2 กิโล
- ตอนสายๆ กลับมาที่พัก Check out ได้ขึ้นรถ Bemo รอบรถ 12.00 น. พลาดรถรอบ 9.00 น. เดินทางออกจากหมู่บ้านคาเมร่าลาแวงถึงสถานีรถไฟ
โปรโบลิงโกเกือบ 14.00 น. ตกรถไฟไปบันยุงวังกิ เพื่อข้ามไปเกาะบาหลี แถมโดนโก่งค่าโดยสารอีก ไม่งั้นรถไม่ไป
- เดินทางออกจากขนส่งโปรโบลิงโก มาลงที่สุราบาย่าอีกครั้ง ถึงตอน 5 โมงเย็น นั่งรถดำริบัส มาที่สนามบินสุราบาย่า
- ซื้อตั๋วเครื่องบินมาจากสุราบายามา ลงที่บาหลี เดินออกจากสนามบินมาขึ้นวินมอเตอร์ไซต์ มาส่ง ณ ที่พักใกล้หาดกู้ต้า จบทริปโบรโม่ครับ
9 -12 ก.ย. 57
- ขับมอไซต์แบบหลงทาง และถามทางไปเรื่อยตามสถานที่ ที่ได้ปักหมุดไว้ โดยใช้วิถีการสังเกตุป้ายและถามเส้นทางกับชาวบาหลีไปเรื่อยๆ
โดยผมจะเพิ่มกระทู้รีวิวอีกหน้านึงครับ รอติดตามนะครับ
สรุปค่าใช้จ่ายจากเดินทางไปอินโดนีเซียทั้งหมด 7 วัน
- เดินทางตั้งแต่วันที่ 6-12 ก.ย.57 ใช้เงินไปทั้งหมด 15,732 บาท ตั้งงบไว้ 13,000 บาท เกินไป 2,732 บาท จำแนกค่าใช้จ่าย คลิ๊กที่ซ่อนข้อความ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้.สรุปค่าใช้จ่ายเดินทางไปอินโดนีเซียทั้งเกาะชวาและเกาะบาหลี การเดินทางทั้งหมด 7 วันรวม = 15,732 บาท (เกินงบไป 2,732 บาท)
ตั้งงบ 13,000 บาท จำแนกรายละเอียดดังนี้ครับ
- ค่าเครื่องบิงลงที่จารการต้า 2790- สุราบายา 930 -บาหลี 820 กลับดอนเมือง 1830 ค่าภาษีสนามบินที่อินโด 3 แห่ง 913 บาท รวมค่าใช้จ่ายเครื่องบินทั้งหมด = 7,283 บาท
- ค่าที่พักบนภูเขาไฟโบรโม่ และที่บาหลี 6 คืน 164+435+271+519+830+528 = 1,917 บาท (พักรีสอร์ท 830 บาท มีสระว่ายน้ำสำหรับพักผ่อน)
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ 3 วัน เช่า 180/ วัน x 3 = 540 บาท
- ค่าเดินทางไปภูเขาไฟโบรโม่ แชร์ค่ารถกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ไป-กลับ 565 บาท
- ค่ากิน 5 ดาว+ค่าน้ำมันมอไซต์+ค่าความอยากได้อยากมี+ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ = 5,427 บาท ตั้งงบไป 13000 บาท เกินงบไป 2732 บาทครับ .....ต้องขอบพระคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกๆคนที่ร่วมติดตามการเดินทางของผมมาตลอดตั้งแต่นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองวันที่ 5 ก.ย.มาลงที่จาร์การต้านอนที่สนามบิน -- ต่อด้วยการลุยภูเขาไฟโบรโม่ด้วยตัวเองไม่ต้องเช่ารถจิ๊ป ยอมตื่นตี 3 เพื่อไปจุดชุมวิว--และจบที่เกาะบาหลี ด้วยการเช่ามอเตอร์ไซต์ขับแบบไม่มี GPS เนื่องจากลืมที่ชาร์ตแบต รวมทั้งหมด 7 วันเป็นการเดินทางที่ได้ประสบการณ์เดินทางที่ได้ทั้งมิตรภาพ โดนโกงหรือการโก่งราคาโดยสาร และอื่นมากมาย ซึ่งไม่สามารถซื้อหาได้ รวมทั้งได้รับความมีน้ำใจของชาวอินโดนีเซียเพื่อนบ้านอาเซียนเราที่ช่วยเหลือแนะนำการเดินทาง... ขอบคุณจริงๆครับ
การเดินทางทริปนี้ พลาดตั้งแต่ลืมที่ชาร์ตแบตโทรศัพท์ เลยต้องเผชิญหน้าต่างๆด้วยตัวเองในเรื่องการเดินทาง แต่ก็รอดมาได้โดยสวัสดิภาพ หากใครวางแผนจะไปอินโดนีเซีย ยินดีให้คำแนะนำเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ ขอบพระคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องลุงป้า น้าอามากครับ ไว้พบกันใหม่ทริปต่อไปครับ.........
ชื่อสินค้า: แบ่งปันการเดินทางเที่ยวภูเขาไฟโบรโม่ด้วยตัวเอง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น