วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กรมการท่องเที่ยวเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรับ “โครงการ 12 จังหวัดต้องห้ามพลาด”


          กรมการท่องเที่ยวเร่งเดินหน้าเตรียมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับ “12 เมืองต้องห้าม...พลาด” โดยเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชน ปรับภูมิทัศน์ พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว สินค้า และบริการ แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว พร้อมพัฒนามาตรฐานธุรกิจนำเที่ยว          ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวกำลังเร่งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ “12 เมืองต้องห้าม...พลาด” ได้แก่ จ.ลำปาง จ.เพชรบูรณ์ จ.น่าน จ.บุรีรัมย์ จ.เลย จ.สมุทรสงคราม จ.ราชบุรี จ.ตราด จ.จันทบุรี จ.ตรัง จ.ชุมพร และ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา เพราะในปี 2558 ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะโหมประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวไทยรวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไปสัมผัส 12 เมืองดังกล่าว ขณะที่นโยบายของนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการกระจายการท่องเที่ยวจากจังหวัดใหญ่ ๆ ไปยังจังหวัดน่าเที่ยวอื่น ๆ พร้อมกันนั้นก็ต้องการให้ดูแลสิ่งแวดล้อมของ 12 เมืองดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากการเข้าไปของนักท่องเที่ยวในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปจำนวนมากด้วย          สำหรับแผนที่จะพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวทั้ง 12 เมือง มีทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ 1.การพัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาสินค้าและบริการด้านวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน เช่นที่ จ.ลำปาง จ.น่าน และ จ.เพชรบูรณ์ 2.การส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยจะมีจัดทำรายการนำเที่ยวในเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว ของชุมชนและออกอากาศผ่านสื่อโทรทัศน์ พร้อมทั้งจัดทำคู่มือเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ 3.การเพิ่มศักยภาพเครื่อข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เช่น การฝึกอบรมคนในชุมชนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 4.การส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีศักยภาพในระดับนานาชาติ 5.การเพิ่มความรู้ให้แก่ชุมชนในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ โดยมีการออกแบบและวางแผนจัดทำหลักสูตร พร้อมทั้งจัดอบรม เพื่อพัฒนาเป็นชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย          ขณะที่ในเรื่องของการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการท่องเที่ยว ได้เร่งรัดดำเนินการใน 11 โครงการ อันได้แก่ 1.การพัฒนาเครือข่ายและรณรงค์เฝ้าระวังปัญหาด้านการท่องเที่ยว เช่น เฝ้าระวังการแสวงประโยชน์ทางเพศจากเด็ก 2.การจัดทำและพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานการท่องเที่ยว 3.การส่งเสริมและพัฒนาโฮมสเตย์ไทยเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว โดยประเมินและรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว 4.การพัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยว 5.การตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว เพื่อยกระดับคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวในเข้าสู่มาตรฐาน 6.การจัดทำและพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 7.การส่งเสริมและพัฒนาการบริการท่องเที่ยวสีเขียว เช่น การปั่นจักรยาน การปลูกป่า 8.การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ซึ่งเน้นการดูแลและให้บริการแก่กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุที่มาท่องเที่ยว 9.การตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานสินค้าและบริการเพื่อการท่องเที่ยว 10.การศึกษาและพัฒนากฎหมายเพื่อรองรับการดำเนินการธุรกิจโฮมสเตย์ และธุรกิจลองสเตย์ เพื่อให้มีคุณภาพและมาตรฐาน และ 11.การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น สร้างเครือข่ายโรงแรมรีสอร์ตที่มีบริการด้านสุขภาพ          ส่วนด้านการพัฒนาบุคลากร มีแผนการดำเนินการใน 4 โครงการ ได้แก่ 1.การพัฒนาศักยภาพธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยว เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมีการฝึกอบรม สร้างเครือข่ายและให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2.การเสริมสร้างสมรรถนะและพัฒนาศักยภาพด้านภาษาต่างประเทศให้แก่มัคคุเทศก์ และบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดยมีการฝึกอบรมภาษาให้แก่มัคคุเทศก์และบุคลากรด้านการท่องเที่ยว จำนวน 9 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย มาลายู และรัสเซีย 3.การให้บริการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์นอกสถานที่ และ 4.โครงการอาสาสมัครอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และอาสาสมัคร เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวนอกจากนี้ กรมการท่องเที่ยวยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในโครงการ “12 เมืองต้องห้าม...พลาด”ด้วย ขณะที่การเข้าไปพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้เร่งใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยแต่ละโครงการจะดำเนินการเริ่มจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2557 เพิ่ม ให้เริ่มต้นปี 2558 จะเดินหน้าโครงการพัฒนาได้ทันที          ทั้งนี้ “12 เมืองต้องห้าม...พลาด” ต่างก็มีแนวคิดและจุดขายที่น่าสนใจแตกต่างกันไป โดย จ.ลำปาง ใช้แนวคิด “เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา” จ.เพชรบูรณ์ “ภูดอกไม้สายหมอก” จ.น่าน “กระซิบรักเสมอดาว” จ.บุรีรัมย์ “ปราสาทสองยุค” จ.เลย “เย็นสุด...สุขที่เลย” จ.สมุทรสงคราม “เมืองสายน้ำสามเวลา” จ.ราชบุรี “ชุมชนคนอาร์ต” จ.ตราด“เมืองเกาะในฝัน” จ.จันทบุรี “สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้” จ.ตรัง “ยุทธจักรความอร่อย” จ.ชุมพร “หาดทรายขาวสี่ร้อยลี้” และ จ.นครศรีธรรมราช “เมืองคอนสองธรรมะ”  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น