วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สักการะพระพุทธบาทเบื้องขวา ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย chinmai เมื่อ 28-7-2013 19:14

สักการะพระพุทธบาทเบื้องขวา ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

ตั้งแต่จำความได้ทุกๆ ปี เราจะต้องเดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทที่ “วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร” ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้คนจำนวนมหาศาลเบียดเสียดกันแน่นวัด ตอนเด็กๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมคนถึงเยอะขนาดนั้น เพราะได้แต่นั่งติดรถตามทุกคนในครอบครัวมา พอเริ่มโตก็ค่อยๆ ห่างหาย จนรู้สึกตัวอีกทีเราก็ไม่เคยได้มาสักการะรอยพระพุทธบาทนานเกือบ 20 ปีแล้ว คราวนี้เลยถือโอกาสมารำลึกความทรงจำครั้งเยาว์วัยซักหน่อย


วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมายาวนานจนกลายเป็นสถานที่เอกลักษณ์ประจำจังหวัดไปซะแล้ว ลองนึกย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน การเดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะเรื่องการเดินทาง ยานพหนะ ถนนหนทาง ที่ยังไม่สะดวกเหมือนในปัจจุบัน กว่าจะเดินทางมาถึงก็ใช้เวลานานอยู่พอสมควร ดังนั้นจึงมีความเชื่อกันว่า “ถ้าใครได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทนี้ครบ 7 ครั้งอานิสงส์ผลบุญก็จะส่งให้ได้ไปจุติในสรวงสวรรค์ แม้ในชาติภพนี้ก็จะมีชีวิตที่ดี สมหวังทุกประการ” ได้ยินแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจถ้าแรงศรัทธาจะนำพาให้พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลกันมาจากทั่วทุกสารทิศ รอยพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ซึ่งถูกค้นพบตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม พระมหากษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งกรุงศรีอยุธยา หรือเมื่อปีพ.ศ. 2167นับเนื่องมาจนถึงปัจจุบันก็มีอายุกว่า 400 ปีแล้ว รอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ในพระมณฑปรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ประกอบด้วยเครื่องยอดปราสาท 7 ชั้น ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ กระจกสี ปิดทองคำ เป็นลวดลายวิจิตรงดงาม ทางขึ้นมณฑปเป็นบันไดนาคสามสายสื่อความหมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว เชิงบันไดเป็นนาค 5 เศียร ทอดตัวนำไปสู่พระมณฑปด้านบน ตอนเด็กๆ จำได้ว่าทางเดินขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทนั้นช่างสูงและไกลเสียเหลือเกิน กว่าจะเดินไปถึงก็เหนื่อยหอบแล้ว แต่พอโตขึ้นมากลับรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้สูงอย่างที่เคยจำได้ เดินเพียงแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ถ้าจะมีอาการเหนื่อยหายใจแรงหน่อยก็คงเป็นเพราะสังขารที่แปรเปลี่ยนไปตามอายุนี่แหละ








สักการะรอยพระพุทธบาทแล้ว เราเดินมาที่ “วิหารคลังล่าง” หรือ “วิหารจีน” ซึ่งตั้งอยู่ถัดลงมาจากพระมณฑปนั่นเอง ซึ่งวิหารแห่งนี้นับว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะพุทธศาสนิกชนชาวจีนและไทยเชื่อกันว่าที่แห่งนี้เป็นที่สถิตของ “ซำปอกง” และ “องค์ไฉ่เซงเอี้ย” ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวจีนทุกคน นอกจากนี้ที่วิหารจีนยังเป็นสถานที่ออก “เตี๊ยบ” หรือ “พาสปอร์ตสู่สวรรค์” ตามความเชื่อของชาวจีนอันมีมากกว่า 380 ปีแล้วซึ่งเชื่อกันว่า “เตี๊ยบ” ที่วัดพระพุทธบาทออกให้จะเป็นหนังสือแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ถ้าตายแล้วมี “เตี๊ยบ” ไปด้วยชีวิตหลังความตายจะดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง ไร้มารร้ายมารบกวน และยังเชื่อว่าจะได้บุญสูงได้ทดแทนคุณบิดามารดาที่ดี ถ้าทำบุญซื้อ “เตี๊ยบ” ให้ท่านเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางไปสู่แดนสวรรค์ ดังนั้นทั้งชาวจีนในไทยหรือต่างประเทศต่างก็ถือเป็นประเพณีที่ต้องเดินทางมาไหว้บูชาพระพุทธบาททุกปี พร้อมกับทำบุญของรับ “เตี๊ยบ” ให้ตนเอง บุพการี หรือญาติสนิทมิตรสหาย และนำ “เตี๊ยบ” มารับตราประทับต่ออายุด้วยทุกปี และนี่เองที่เป็นคำตอบของเหตุผลที่เราสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่า ทำไมครอบครัวเราถึงต้องเดินทางมาวัดพระพุทธบาทอยู่เป็นประจำทุกปี











นอกจากรอยพระพุทธบาทในพระมณฑปและวิหารจีนอันเป็นจุดสำคัญๆ ของวัดแล้ว ภายในวัดพระพุทธบาทยังมีความน่าสนใจอีกหลายอย่าง ทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งพระพุทธบาท หรือพระวิหารหลวง พระเจดีย์พระธาตุพนม พระวิหารป่าเลไลย์ เขาโพธิ์ลังกา อนุสรณ์สถานพระเจ้าทรงธรรม เขายนต์ พระมกุฏภัณฑเจดีย์ ศาลพระกาฬ ระฆังแขวน รวมไปถึงโรงเจด้านหลังและอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ก่อนกลับก็ต้องแวะซื้อขนมและของฝากบริเวณแนวร้านค้าด้านหน้าวัด มีทั้ง มะขาม กระเทียม ของแห้งจำพวก เมล็ดถั่วแดง ถั่วเขียว ลูกเดือย ชุดน้ำจับเลี้ยง ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จที่ใครๆ ก็ต้องทำ ตามที่จำได้ตั้งแต่เด็ก และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างก็คือต้องซื้อ “ไม้ตะพด” กลับไปด้วยทุกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อไปทำไมเหมือนกันครับ แต่ที่รู้คือมาเที่ยวพระบาททีไรก็ต้องมีไม้ตะพดติดมือซักอันไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ..แล้วเจอกันอีกในกระทู้ต่อๆไปนะครับ

ขอบคุณที่มาและภาพสวยๆจาก :  thetrippacker.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น