จากสะพานขับรถประมาณ 35 นาทีเข้าสู่เมืองนีม สาเหตุที่เราเรียกนีมส์ว่าเป็นเมืองจระเข้ เนื่องจากเราสามารถพบเห็นสัญลักษณ์จระเข้กับต้นปาล์ม หรือ The coat of arms เป็นสัณลักษณ์ของที่นี่ มีหลายคนบอกว่าต้นปาล์มหมายถึงประเทศอียิปต์ คือสมัยก่อนหารโรมันจากถูกส่งไปรบที่โน่น ใครรอดชีวิตกลับมก็จะมาเกษียณที่เมืองนีมส์ ในสมัยโรมันนีมส์เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอิตาลีกับเสปน จึงทำให้เราเห็นสถาปัตยกรรมแบบของโรมันเยอะ และกระจายไปยังแถบอื่นใน Provence ด้วย
เริ่มด้วย Les arenes หรือในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Amphitheatre อิตาเลียนเรียก Colosseo เลซาแรนคือสนามกีฬาเหมือนที่เมือง Arlesที่นีมจุคนได้ 24,000 คน อีกนัยหนึ่งที่นี่คือโรงมหรสพ นอกจากดูแข่งกีฬาในสมัยโรมันแล้ว ปัจจุบันยังเป็นที่จัดงานละคร และคอนเสิร์ต เช่นวันที่เราไปก็กำลังเตรียมจัดงานอยู่พอดี ด้วยความเก่าแก่และความสมบูรณ์ของสนามกีฬาทำให้ Unesco ยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี คศ.1981
รอบๆเลซาแรนเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ใครเดินเที่ยวเหนื่อยก็มาพักดูวิวเลซาเเรนพร้อมจิบกาแฟกับจินตนาการย้อนกลับไปสมัยโรมันก็ไม่ว่ากัน
มรดกชาวโรมันชิ้นต่อไปคือ La Maison Carrre ( Square house ) ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ tourist information Square house ถูกสร้างใน สมัยเดียวกับ Amphitheatre เพื่อเป็นวัดของชาวโรมัน โดยสร้างสำหรับรำลึกถึงหลานของจักรพรรดิออกัสตัส แต่ปัจจุบันใช้เป็นโรงละครพิเศษ เพื่อแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองนีมส์ เราสามารถซื้อบัตรพ่วงไปกับ Amphitheatre ได้ การแสดงจะเปิดให้เข้าเป็นรอบถ้าโชคร้ายเจอทัวร์ลงอาจจะต้องรอเป็นชั่วโมง พูดถึง Tourist information เมืองใหญ่ๆอย่าง Nimes, Arles, Aix en Provence, Avignon จะมีรถไฟเล็กๆบริการพาชมเมือง ส่วนมากจะตั้งต้นที่หน้า Tourist information รถไฟจะไปสถานที่สำคัญต่างๆ ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ หรือเดินทางมากับผู้ใหญ่แล้วไม่อยากเดินเยอะ รถไฟเป็นตัวเลือกที่ดีมากทีเดียว 1 รอบใช้เวลา 45 นาที-1 ชั่วโมง
สิ่งที่ทำให้นีมส์แตกต่างจากเมืองอื่นๆใน Provence คือ นีมส์มีพื้นที่ของสวนสาธารณะที่ใหญ่และสวยงามมาก จาก La Maison เดินไปประมาณ 1.5 กิโลเห็นจะได้ก็จะถึงสวน The Jardins de la Fontaine ระยะทางค่อนข้างไกลแต่เรากลับไม่รู้สึกไกลเพราะระหว่างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และคลอง ในสมัยศตวรรษที่ 18 สวนนี้ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้านหน้าของสวนมม้านั่ง ต้นไม้ รูปปั้นโรมัน และสิ่งสำคัญคือ The Castellum เป็นถังน้ำสมัยโรมันสำหรับเก็บน้ำที่ส่งมาจาก Pont du Gard แล้วส่งจ่ายให้ชาวเมืองนีมส์ในสมัยก่อนได้ใช้กัน
เราขอเรียกสวนนี้ว่าสวนพิสูจน์กำลัง ใครจะฟิตไม่ฟิตขอให้มาที่นี่ นอกจากพื้นที่ด้านล่างแล้วยังมีพื้นที่สวนของวัด Diana และ Tour Magne ต้องเดินปีบันได เดินขึ้นเขาไป หลายคนต้องพ่ายแพ้ทางชันนี้ไปก็คงได้แต่ยืนดูน้ำพุด้านล่าง คนที่ฟิตก็ได้กำไรไปเพราะด้านบนสวยมาก มีจุดชมวิวเมืองนิมส์ทั้งจากสวนด้านบน และจาก Tour Magne หรือ Big Tower ป้อมปราการสมัยโรมัน
ก่อนจะจากเมืองนีมส์ไป สิ่งที่เราSurprise มากคือ เมืองนีมส์ดังมากเรื่องสิ่งทอ โดยเฉพาะผ้ายีนส์ ก่อนลีวายจะโด่งดัง นีมส์นั้นมีประวัติเร่องยีนส์มาก่อนซะอีก เราเลยเรียกยีนส์ว่า Denims เดนีมส์ๆๆๆๆสรุปนีมส์คือ จระเข้ Lacost ที่ผลิตกางเกงยีนส์เดนีมส์ให้กับชาวโรมัน .. มันเกี่ยวกันจริงๆนะ
สำหรับตอนอื่นๆ ติดตามได้ที่
ความเดิมตอนที่แล้วติดตามได้ที่
Road trip to provence ตอน ร้อนนี้ที่ Avignon :http://pantip.com/topic/32496304
Road trip to provence ตอน ไปหาแวนโก๊ะ ที่ Saint Rémy de Provence #2 : http://pantip.com/topic/32502720
Road trip to provence ตอน Les Baux de Provence เธอชื่อน้องโบ #3:http://pantip.com/topic/32519304
ขับเองสนุกว่า Road trip to Provence ตอน ร้านกาแฟ แวนโก๊ะ สนามกีฬา โรงละคร โรมัน มรดกโลก คือส่วนผสมของ Arles #4http://pantip.com/topic/32543419
Road trip to Provence เมืองเล็ก แต่ ไม่เล็กเลย Fontaine de Vaucluse อ่านว่า ฟง-แตน-เดอ-โว-คลูส #5http://pantip.com/topic/32575725
รีวิว Road trip to Provence ตอน เที่ยวทุ่ง Lavender ในอ้อมกอดของเมือง กอร์ด Provence... #6http://pantip.com/topic/32629917
รีวิวRoad trip to Provence ตอน Roussillon เพราะสีเธอจึงสวย #7http://pantip.com/topic/32668995
ชื่อสินค้า: Provence
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น