วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ทริปชิลๆ ที่คิวชู - เที่ยวฟิน กินจัดหนัก พักสบาย สไตล์กระเตงลูกเที่ยว วันที่ 1
คิวชู ฟุกุโอกะ ยุฟุอิน เบบปุ คุมาโมโต้ บางคนอาจจะคุ้นๆ แต่สำหรับผมแค่ได้ยินก็ งง กันแล้วว่าอยู่ตรงไหน มีอะไรเที่ยวบ้าง อีกหน้าของบันทึกการเดินทางเปิดโลกใบใหม่ของหนูน้อยเบลล่า และครอบครัว กับ ภารกิจ 6 วัน คนละ 25,000 บาท จะเป็นอย่างไร มา ร่วมติดตามกันนะครับ
ญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจอยากไปท่องเที่ยวมากๆเป็นลำดับต้นๆเลยทีเดียว โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยกเลิกการขอวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้นๆ ทำให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นอีกมาก และด้วยอานิสงค์ตั๋วโปรโมชั่นของ JetStar ที่เปิดราคามายั่วกิเลสมากๆ เริ่มต้นที่ราวๆ หกพันบาท รู้สึกตัวอีกที่ก็กดจองจ่ายเงินไปเรียบร้อย <
หลังจากที่เราได้ตั๋วมาแบบงงๆ ก็ได้เวลาหาข้อมูลท่องเที่ยวกัน สารภาพตามตรงว่าตอนแรกกะจะต่อเครื่องบินไปเที่ยว Osaka ไปหา Harry Potter สักหน่อย แต่ดูเวลาการเดินทางต่างๆแล้ว กับสถานที่ท่องเที่ยวทางคิวชู เลยขอเปลี่ยนใจ พาหนูเบลล่าตะลุยคิวชูซะเลย โดยในทริปนี้จะมีสมาชิกผู้ร่วมทางเป็นผู้ใหญ่ 4 คน เด็กน้อย 2 ขวบอีก 2 คน (หนูน้อยเบลล่าและสุดหล่อซีเค) รวมเป็น 6 ชีวิตจะสนุกสนานกำลังสองกันขนาดไหนมาร่วมลุ้นกันต่อเลยครับ
เดี๋ยวตอนท้ายรีวิวจะมาสรุปยอดค่าใช้จ่ายตลอดทริปให้อย่างละเอียดอีกครั้งนะครับ เบื้องต้นคร่าวๆ สำหรับ ทริปคิวชู 6 วัน 5 คืน นี้ ค่าใช้จ่ายของผู้ใหญ่อยู่ที่คนละประมาณ 25,000 บาทครับ ส่วนของเบลล่าก็มีค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าข้าว ค่านม ค่าขนม ค่าบัตรเข้าสถานที่เที่ยวบางที่ รวมๆ ประมาณ 12000 บาทก่อนอื่นในการจัดทริปพาเด็กน้อย วัยสองขวบ ไปเที่ยวก็จะมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็มีคร่าวๆดังนี้ครับสภาพอากาศ สถานที่ที่จะไปต้องไม่ร้อน ไม่หนาวเกินไปสำหรับเด็กเล็ก เพราะเด็กเล็กๆจะไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนแปลงบ่อยๆได้มากนัก สำหรับทริปนี้ Mount Aso เลยต้องขอแคนเซิลไปเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยทั้งจากกำมะถัน ฝุ่นเถ้าต่างๆซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าเกิดเจ็บป่วยไม่สบายตอนอยู่ต่างประเทศคงลำบากแน่ๆเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเด็ก ในช่วงที่ไปนี้คาดว่าจะไปอากาศน่าจะอยู่ราวๆไม่เกิน 27 องศา เสื้อผ้าของเบลล่าส่วนใหญ่ก็จะสบายๆ เหมือนใส่เวลาเที่ยวตามปกติในบ้านเรา แต่ติดเสื้อกันฝนไปด้วยเพื่อความปลอดภัยอาหารและนม ผมว่าช่วงที่เหมาะในการเริ่มพาเด็กไปต่างประเทศควรเป็นช่วงที่เค้าทานอาหารหยาบๆแบบของผู้ใหญ่ได้บ้างแล้ว ช่วงนี้สบายเลยครับ ทานอาหารทั่วไปตามร้านได้ สำหรับเบลล่านั้นสามารถทานอาหารแบบผู้ใหญ่ได้ และโชคดีที่ไม่แพ้อาหารอะไรเลยไม่ได้เตรียมอาหารไป ขนมนี่หลังจากทริปโตเกียวคราวที่แล้ว เลยทำให้รู้ว่าเบลล่าโปรดปรานขนมญี่ปุ่นมาก คุกกี้ บิสกิต ขนมปัง ชอบหมดเลย ^^ ส่วนเรื่องนมนั้น ก็ไปหาซื้อนมกล่องที่นั่นแทน ซึ่งเบลล่าชอบนมกล่องที่ญี่ปุ่นมากๆ สำหรับน้ำผลไม้มีติดไปนิดหน่อยเพราะที่นั่นจะหาน้ำผลไม้ 100% ยากหน่อย เราเลยเตรียมกล่องเล็กๆไปครับเรื่องการเดินทาง จากที่หาข้อมูลเบื้องต้น การเดินทางใน คิวชู ถ้าไม่ขับรถเอง ก็มีรูปแบบการเดินทางหลักๆ 3 รูปแบบ ก็คือ รถไฟ (Nishitetsu และ Subway) รถบัส และ รถราง (หลักๆที่ คุมาโมโต้) ซึ่งในการวางแผนท่องเที่ยวไปในแต่ละสถานที่ผมมีแนวทางง่ายๆประมาณนี้ครับ
- การเดินทางพยายามเปลี่ยนสายรถไฟให้น้อยที่สุด นั่งอ้อมได้แต่อย่าขึ้นลงบ่อย
- รถบัสแทบไม่ได้ใช้เลยครับ เพราะที่ท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดในตัวเมืองก็เดินทางด้วยรถไฟได้หมด ส่วนในคุมาโมโต้ ทาง เจ้าหน้าที่แนะนำรถรางมากกว่าเพราะสะดวกกว่า เร็วกว่า รถไม่ติดมาก และถึงที่ท่องเที่ยวหลักๆเกือบทั้งหมด
- หลีกเลี่ยง rush hour 7-9โมงเช้า ถ้าเป็นไปได้ เพราะจากคราวที่แล้วที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศปลากระป๋องยามเช้ามาคงไม่สนุกแน่ถ้าต้องพาเบลล่าไปด้วย ส่วน rush hour ช่วงเย็นก็ยังไม่หนักเท่าตอนเช้า อีกอย่างคือถึงแม้จะมีที่นั่งเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้พิการ หรือผู้เดินทางกับเด็ก บนรถไฟ แต่หลายๆครั้งก็ไม่ได้มีการลุกให้นั่งแต่อย่างใดนะครับ ถึงแม้จะเป็นที่นั่งพิเศษก็ตาม
- ตารางการเดินทางหลวมๆ ต้องเผื่อเวลาเด็กๆจะนอน1-2ชั่วโมงในแต่ละวัน เวลาป้อนข้าวมื้อละ30-40นาที
- ร้านอาหารที่จะไป ต้องมีเมนูที่เด็กกินได้ เด็กเล็กยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารพวกปลาดิบ อาหารรสเผ็ดอยู่สถานที่เที่ยวที่อยากไป ตอนเริ่มจัดทริปก็พยายามกำหนดคร่าวๆมาก่อนครับว่าอยากไปไหน เดินทางอย่างไร มีเด็กไปด้วยสะดวกมั้ย ซึ่งสถานที่ที่ผมกำหนดไว้ตอนแรกในทริปนี้ก็คร่าวๆดังนี้ครับ Aquarium, Anpanman Museum, Dazaifu และ Yufuin ครับ แค่ 4 ที่นี้ก่อนแล้วค่อยปรับตารางเอา แต่ที่พิเศษสำหรับทริปนี้คือการเที่ยวรถไฟครับ ใช่ครับไม่ผิด เที่ยวรถไฟ ไม่ใช่ ท่องเที่ยวด้วยรถไฟ เดี๋ยวจะมาเล่าต่อนะครับว่าทำไมถึงต้องเที่ยวรถไฟที่คิวชู และ พิเศษอย่างไรโรงแรมที่พัก พยายามอย่าเปลี่ยนหลายที่ มีที่หลักซักที่จะเหมาะกว่า เก็บกระเป๋าเข้าออกทุกคืน เพลียกันแน่ๆครับ อีกอย่างเวลาเช็คอินแต่ละที่จะอยู่ราวๆบ่ายสามโมง ส่วนเช็คเอาท์ก็สิบโมงถึงเที่ยง จะมีช่วงเวลาที่ต่างกันถ้าจะย้ายโรงแรมก็ต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ควรนำมาตัดสินใจนะครับ
- เดินทางสะดวก เข้าออกสนามบินง่าย ยิ่งมีทางขึ้นลงด้วยบันไดเลื่อน หรือ ลิฟท์ จะวิเศษมากๆ
- ใกล้ร้านสะดวกซื้อก็ดีครับ (น้ำ นม ขนม แพมเพิส จะได้หาซื้อได้ง่ายๆ)
- มีบริการรับฝากกระเป๋าไว้ได้ เวลาที่อาจต้องไปค้างที่อื่นบ้างบางคืน ต้องดูดีๆนะครับบางที่รับฝากจริงแต่จะให้วางไว้เฉยๆที่มุมล๊อบบี้ไม่มีใบรับฝากใดๆ ซึ่งอาจเกิดการสูญหายหรือสับเปลี่ยนได้นะครับ เพื่อนผมโดนมาแล้ว ต้องรีบตามไปสนามบินเพราะมีคนหยิบกระเป๋าผิดครับ
- เรื่องควันบุหรี่หรือกลิ่นบุหรี่ซึ่งจะไม่เหมาะแน่ๆในการพาเด็กเล็กไป โรงแรมบางที่จะปลอดบุหรี่ บางที่จะแบ่งโซนห้อง เวลาจองก็ควรดูดีๆนะครับ ผมจะส่งเมลล์ไปขอเป็น Special request ไว้ ว่าเราเดินทางกับเด็กเล็ก และ ไม่มีคนสูบบุหรี่ ถ้าเป็นไปได้ขอห้องที่ปลอดบุหรี่โดยเด็ดขาดครับ ซึ่งทางโรงแรมก็จัดให้เป็นอย่างดี
- เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ถ้ามีก็จะสะดวกมากขึ้นในการเตรียมเสื้อผ้า ตลอดจน การเก็บกระเป๋ากลับการจัดกระเป๋าก่อนอื่นควรเช็คกับสายการบินให้แน่ใจนะครับว่าเราสามารถนำไปได้กี่ใบ ใบละกี่กิโล จะได้วางแผนในการจัดของและซื้อของในขากลับได้
- ถุงสูญญากาศ ช่วยในการจัดกระเป๋าได้เยอะเลยครับ เพราะช่วยลดพื้นที่ของเสื้อผ้าแต่ละชุดที่จะใส่ลงกระเป็า ทำให้ใส่ได้มากขึ้น ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายๆครับ ตามร้านไดโซะ60บาทก็มีครับ มีให้เลือกหลายขนาดตามความเหมาะสมเลยครับ
- ถ้าจะต้องไปพักที่อื่นระหว่างทริปแล้วกลับมาอีกครั้ง แนะนำให้จัดเสื้อผ้าที่จะต้องไปที่อื่นใส่กระเป๋าเล็กไว้ครับ แล้วฝากกระเป๋าใหญ่ไว้ที่โรงแรม นำแต่ใบเล็กติดตัวไป จะสะดวกกว่าครับ
- ถุงพลาสติก นอกเหนือจากนำไปใส่เสื้อผ้าเก่าแล้ว ควรนำถุงใบเล็กๆสำหรับใส่แพมเพิสใช้แล้วก่อนทิ้งถังขยะก็จะดีครับ
- กระเป๋าสำรอง ติดไปใช้เผื่อกระเป๋าจะออกลูกในขากลับนะครับ อันนี้แล้วแต่เทคนิคแต่ละคนเลยครับ จะเอาใบเล็กใส่ใบใหญ่ไป หรือ โหลดกระเป๋าไปต่างหากใช้โควต้ากระเป๋าให้เต็มที่ ^^ ส่วนตัวผมใช้ถุงโชคดีครับ ถ้านึกไม่ออกว่าเป็นอย่างไรก็คือถุงที่จะเห็นแม่ค้าใส่ของไปขายกันครับ ถุงใหญ่ๆสีสดๆ ปัจจุบันมีทั้งลายคลาสสิค ลายการ์ตูน ให้หาซื้อกันครับ ถ้าไม่รู้จะซื้อที่ไหนที่แมคโครมีนะครับใบใหญ่ประมาณ 190 บาท พับๆไปใช้พื้นที่นิดเดียวครับ เวลาขากลับช๊อปเพลินๆก็เปิดถุงยัดๆๆๆ สบายเลยครับ หรือจะเป็นกรณีฉุกเฉินที่ผมเคยเจอก็คือ กระเป๋าเดินทางชำรุด ซิปเสีย ตัวล็อคพัง ก็มีถุงโชคดีนี่แหละครับช่วยได้แพมเพิส ติดไปเผื่อเหลือเผื่อขาดดีๆครับ ของผมตอนแรกเอาไปแบบพอดีๆ กะว่าจะไปหาซื้อที่นู่นเพราะน่าจะถูกกว่า แต่เอาเข้าจริงๆต้องซื้อแพคใหญ่ถึงจะถูก และหาซื้อไม่ง่ายเลยครับ ตามร้านสะดวกซื้อมีบ้างไม่มีบ้างนะครับ แพคเล็กๆราคาก็แพงอยู่
ส่วนเฉพาะเจาะจงของผมนอกเหนือจากที่จัดตามปกติก็มี
- เอกสารการจองโรงแรม รถไฟ รถบัส โรงแรม
- JR Pass ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ Northern Kyushu ใช้ได้แค่ตอนบนกับ All Kyushu Area ใช้ได้ทุกพื้นที่ของคิวชู นะครับ ราคาก็จะแตกต่างกัน มีทั้งแบบ 3 วัน 5 วัน (แต่ไม่สามรถนั่งไปพื้นที่อื่นได้นะครับ ถ้าจะไป โตเกียว โอซาก้า ต้องซื้อแบบ All Area) ตั๋ว JR Pass ไม่สามรถซื้อได้ในญี่ปุ่นนะครับ ที่เมืองไทยก็มีหลายบริษัทนำมาจำหน่าย ตามงานท่องเที่ยวทุกครั้งก็จะมีไปขายกันนะครับ บัตรที่ซื้อจากเมืองไทย จะมีอายุ 90 วัน ต้องเอาไปแลกตั๋วที่สถานี JR อีกครั้งนะครับ
- คูปองส่วนลดต่างๆ บางห้างมีให้ในเอกสารการท่องเที่ยวครับ บางที่มีให้โหลดในเว็บ
- แผนการเดินทางหลายชุดหน่อย พับไปพับมาเยินทุกวัน
- แผนที่โรงแรม
- ลายแทงร้านอาหาร แหล่งช๊อปปิ้ง
- ประกันภัยการเดินทาง
- ยาที่จำเป็นต่างๆ อันนี้สำคัญมากๆนะครับ ของผู้ใหญ่ก็แก้ไข้ แก้ท้องเสีย แก้แพ้อากาศ ลดน้ำมูก คลายกล้ามเนื้อ ประมาณนี้ ส่วนของเด็กก็ ยาลดไข้ ยาหยดจมูก แอร์เอ็กซ์ ยาแก้ไอ เกลือแร่ซอง ชุดล้างจมูก
- ปรอทวัดไข้ แล้วแต่สะดวกเลยนะครับ ใครมีแบบไหน ยังไง ส่วนตัวผมใช้แบบวัดทางหู วัดได้รวดเร็วกว่า สะดวกกว่า
- ที่ดูดน้ำมูกไฟฟ้า แรงดูดจะสม่ำเสมอ ไม่ระคายเคืองจมูกเท่าใช้คัตต้อนบัต
- ตัวเสียบรู ปลั๊ก ครับ ไปกับเด็กเล็กๆเผลอไม่ได้กันเลยที่เดียว พกไปติดไว้เพื่อความปลอดภัยดีกว่าครับ
- รถเข็น เป้อุ้ม ตามสะดวกครับ น้องๆยอมใช้แบบไหนก็จัดกันไป แต่เบลล่าไม่ยอมสักอย่างก็ไม่ต้องเอาไป ^^
- เก้าอี้เด็ก ที่ญี่ปุ่นมีเกือบทุกร้านเลยครับ แต่จะไม่ค่อยมีสายรัดเท่าไหร่
- สายจูง สำหรับน้องๆหนูที่เริ่มเดินเริ่มวิ่ง ใช้สายจูงช่วยจะสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นนะครับ ไม่ต้องสนใจใครจะมองว่าเหมือนอะไร ยังไง ถ้าเกิดเราคลาดสายตาแค่ชั่วขณะหรือเผลอลูกหายไป จะมาโทษใครคงไม่ได้ จึงอยากให้มีการป้องกันไว้ก่อน
สำหรับผู้อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนะครับ ตอนนี้มีเพจมีเวบข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากมายไว้หาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ นี่คือตัวอย่างเวบหลักๆที่ผมใช้ประกอบการจัดทริปไปญี่ปุ่นครับ
- องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น: http://www.yokosojapan.org/
- องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบภาษาอังกฤษ: http://www.yokoso-japan.jp/en/
- Japan-guide :http://www.japan-guide.com/
- Pantip.com :http://pantip.com/tag/ประเทศญี่ปุ่น
- Fanpage JapanThaifanclub: https://www.facebook.com/pages/Japanthaifanclub/171184692941905
- ภาษาญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยว :http://www.yokosojapan.org/download/handbook_japan_thai.pdf
- เพจรวมพลคนไปญี่ปุ่นสงกรานต์ : https://www.facebook.com/groups/gotojapaninapril/1481274302101876
- Japan Travel: http://th.japantravel.com/
- Japan Guide: http://japan-guides.blogspot.com/
ชื่อสินค้า: คิวชู, jetstar, ฟุกุโอกะ, เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง, เตรียมตัวเที่ยวคิวชู, บุฟเฟต์ปู, ชาบูปู, Eiji Mitooka, เอจิ มิโตะโอะกะ, เออิจิ มิโตะโอะกะ, ทางรถไฟสายดาวตก, ทรงกลด บางยี่ขัน
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น