วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขอวีซ่าพม่า ดราม่าน้ำตาเล็ด

เรื่องนี้ต้องบอกต่อ เรื่องนี้ต้องขอเล่า เรื่องนี้ไม่ยาวแต่ดราม่ามากค่ะ

อัพโหลด 20-6-2014 11:25


Black Pearl สาวน้อย (เหรอ) กับเดอะแก๊งค์เราตั้งใจจะไปเที่ยวพม่าเมืองเก่าของเราแต่ก่อน ไม่ใช่ละ!  
ปลายทางทริปนี้คือมัณฑะเลย์และพุกามค่ะ เราได้จองโปรข้ามปีของแอร์เอเชียกับสโลแกน ใครๆ ก็บินได้ (ในราคาถูกแต่รอนาน) ทีนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเดินทาง อุ๊ยตายละ! ยังไม่ได้ขอวีซ่าเลยเธอ ประเทศแถบนี้ยังมีเพียงเธอเท่านั้นที่เรายังต้องขอวีซ่า ไอ้เราก็ชะล่าใจเดินทางวันเสาร์ ไปขอวันจันทร์ก็ได้อยู่นะก็เค้ามีบริการแบบด่วนทันใจไปขอตอนเช้าบ่ายๆ ก็ได้เลยนี่นา เราเห็นว่ายังมีเวลาตั้งหลายวันขอแบบธรรมดา 3 วันก็ได้เพราะราคาต่างกันเยอะเลยแบบว่าอยากเซฟเงินด้วยงี้  (แบบด่วน 1 วัน 1200 บาท  แบบ 3 วัน 810 บาท )

เอกสารที่ต้องใช้คือ
รูปถ่ายสี 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 2 รูป
สำเนาพาสปอร์ต 1 ใบ
เอกสาร 2 หน้า (ควรกรอกไปจากบ้านเลยนะคะ)

ทุกอย่างก็พร้อมไม่น่ามีปัญหาอะไรถูกมั้ยคะ เดินทางไปทันทีโดย BTS ง่ายสุด เอารถไปกลัวไม่มีที่จอด
สถานฑูตพม่าตั้งอยู่ที่ถนนสาทรเหนือ เอาง่ายๆ ลง BTS สถานีสุรศักดิ์ ออกประตู 3 แล้วก็เดินไปเรื่อย ๆ
ไปทางโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนนั่นแหละค่ะ จนเจอถนนปั้นเลี้ยวเข้าไปก็เจอสถานฑูตละ

ไปถึงก็มีแถวยาวๆ เราก็ไปต่อแถวมองด้วยนะว่าแถวคนไทยหรือแถวต่างชาติเข้าแถวผิดก็เสียเวลานะเธอ ทุกอย่างก็ไม่น่ามีอะไร เราก็ยืนต่อแถวกับเพื่อนสวยๆ (ไม่รู้จะแต่งตัวสวยไปทำไม) แอร์ก็ไม่เย็น คือแอร์มีไม่กี่ตัวไม่เพียงพอกับคนมหาศาล เป็นลมสิคะคุณขา ดิฉันรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด เลยขอตัวไปนั่งรอ แต่พอถึงคิวที่เพื่อนสาวกำลังยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็กรูไปฟังแอบงงเล็กน้อยเมื่อเจ้าหน้าที่ถามหาใบรับรองจากที่ทำงาน<<? คืออะไรคะไปเที่ยวนะคะต้องใช้ด้วยเหรอคะ เจ้าหน้าที่หนุ่มตี๋ขาวอวบใส่แว่นก็ให้ใบสีเหลืองมา แล้วให้ไปเข้าแถวที่ช่องหมายเลข 3 หรือ 4 นี่ละ จำไม่ได้เป๊ะๆ หลังจากนั้นก็คิดว่าเรียบร้อยนัดกันไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือสาlรีย์คนละ 10 ชาม ให้หนำใจ พร้อมโทรหาเพื่อนอีกคนให้มารับใบสีเหลืองเพื่อไปรับวีซ่าแทนในวันพุธ (สามารถฝากยื่นและรับแทนกันได้)
**ตรงใบรับสีเหลืองถูกขีดๆ เขียนๆ อะไรสักอย่างตรงหัวแล้วเอาลิควิดลบออก แล้วเขียนทับด้วยภาษาพม่า**

แต่..พอเรายื่นเงินให้เพื่อนไปจ่าย เพื่อนก็งงว่า อ้าว! ทำไมพวกเธอสองคนถึงไม่ได้จ่ายเงินให้
เรา: ก็ไม่เห็นบอกให้จ่ายนี่นา
เพื่อน: แต่ของเราจ่ายไปแล้วนะ ทำไมไม่เหมือนกัน
เรา:<?? ไม่รู้ละ

เวลาผ่านไปจนถึงวันพุธ ที่ 11 มิ.ย. วันที่กำหนดรับวีซ่า....(ย้ำกันอีกทีเราเดินทางวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย.นะคะ)
เวลารับวีซ่าคือ 15.30-16.30 น.
ประมาณ 4 โมงเย็นเพื่อนสาวโทรมาว่า
เพื่อนสาว: วีซ่าเธอ 2 คนไม่ได้นะ
เรา: ทำไมไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เธอได้ถามมั้ย
เพื่อนสาว:  ถามเจ้าหน้าที่ผิวเข้มแล้วเค้าไม่ตอบ ตอบแต่ว่าพาสปอร์ตยังไม่ได้เดินทางมาถึงสถานฑูต
เรา: พาสปอร์ตชั้นไปเที่ยวไหน ทำไมไม่มา เกิดอะไรขึ้น ตึง!!
เพื่อนสาว: เจ้าหน้าที่ขอเบอร์เธอด้วยเค้าบอกว่าถ้าได้แล้วจะโทรหา
เรา: โอเค ยังมีเวลาอีก 2 วัน ชั้นรอได้(ด้วยใจพะวง)

ผ่านไปจนถึงวันพฤหัสบดี ที่ 12 มิ.ย....
ก็ยังไร้วี่แววไม่เห็นจะมีไผโทรมาหาข่อยเน้
ก็เลยโทรไปที่สถานฑูตเองเลย แต่ แต่ แต่ เบอร์สถานฑูตกี่เบอร์ๆ โทรติดแต่ไม่มีคนรับจ้า แล้วจะมีเบอร์ไว้ทำพรือออหรือคะ ของเริ่มขึ้นละ ความสงสัยเริ่มบังเกิด เริ่มกินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระวนกระวาย พรุ่งนี้วันศุกร์ วันสุดท้าย ถ้าไม่ได้ฉันไม่ไปมันแล้ว พม่า!!  
ชั้นจะไปที่อื่น!! กลับถึงบ้านนั่งหาข้อมูล ลางานแล้วด้วยสิถ้าไม่ได้ไปพม่าจะไปไหนดีนะ เกาะพยาม เกาะพิทักษ์ เกาะเภตรา จะไปนอนบ้านลุงขาว โอเค.. ไม่ง้อหรอกจ๊ะพม่าจ๋าชั้นมีที่ไปละ

เข้าสู่วันศุกร์ ที่ 13 มิ.ย.(พรุ่งนี้จะเดินทางแล้วนะตัวเธอ)
ลางานตอนบ่ายนัดเพื่อนสาวให้ไปเป็นเพื่อน ไม่ใช่อะไรกลัวคุยภาษาไทยแล้วไม่เข้าใจ แล้วต้องสปีคอิงลิชกันเราก็กลัวตอบไม่ทัน 55 เดินทางไปสถานฑูตพม่าอีกครา ไปถึงเวลาบ่าย 3 แถวเริ่มยาวแล้ว ได้ยินป้าคนข้างหลังกับพี่คนสวยคุยกันว่าเดินทางคืนนี้ มาขอเมื่อเช้านี่เอง โอ๊ยยยยยเห็นมะคนอื่นเค้ามาขอวันเดียวก็ได้ละ แล้วทำไมอิฉันถึงเกิดปัญหา เกิดปัญหาอะไรทำไมไม่บอกละคะ! แอบชำเลืองมองใบรับสีเหลืองของคนอื่นก็ไม่เห็นมีใครเป็นแบบเราสักคน

15.30 น.เป๊ะ ได้เวลารับวีซ่า เราอยู่คิวประมาณที่ 20 กว่าคนเห็นจะได้ บอกเลยไม่ได้ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ไม่มีอารมณ์ ลืมคิดด้วยแหละ พอถึงคิว เจ้าหน้าที่ผิวเข้มเห็นใบรับสีเหลืองของเรา พลางทำหน้ามึนๆ เอามือกุมหัวแล้วบอกให้ยืนรอก่อน อ้าวเลย ร้อนอยู่แล้วยิ่งอ้าว งงอีกแล้วเจ้าค่ะ

ยืนรอแป๊บเดียวก็เรียกให้เราไปอีกช่อง ทีนี้เจ้าหน้าที่คนเดิม (กับวันที่ยืนเอกสาร) ขาวตี๋อวบนิดๆ ใส่แว่น ก็มาบอกเราว่า
เจ้าหน้าที่: คืออย่างนี้นะครับ (พูดไทยไม่ค่อยชัด ค่อยๆ พูดช้าๆ ) เราได้ส่งชื่อคุณไปยังกระทรวงแล้ว แต่กระทรวงยังไม่ตอบกลับมา คุณเดินทางเมื่อไหร่
เรา:พรุ่งนี้ค่ะ
เจ้าหน้าที่: งั้นคงต้องเลื่อนการเดินทางแล้วครับ
เรา: ทำไมของคนอื่นไม่เห็นนานขนาดนี้เลยคะ เรามายื่นตั้งแต่วันจันทร์แล้วนะ ติดปัญหาอะไรบอกได้มั้ยคะ (พาสปอร์ตเล่มนี้ไม่ได้ว่างเปล่าเดินทางมาแล้ว เกาหลี อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว มาเลเซีย เก็บแต่แถบนี้แหละ)
เจ้าหน้าที่: คือเราตอบไม่ได้ครับ
เรา: เราไม่เคยเห็นใครขอไม่ได้นี่คะ ไม่เห็นเจอเคสต์แบบนี้เลย (อารมณ์เริ่มค่อยๆ ขึ้นละ)
เจ้าหน้าที่: ใครบอกคุณเหรอว่าวีซ่าต้องขอได้ทุกคน! (อารมณ์ก็เริ่มขึ้นเหมือนกัน)
เรา: โอเคค่ะ งั้นไม่ทำแล้วค่ะ ขอพาสปอร์ตคืนค่ะ ไม่ไปแล้วค่ะ (อารมณ์ขึ้นสุดๆ ละ)
เจ้าหน้าที่: ถ้าคุณเอากลับไปแปลว่ายกเลิกการขอวีซ่านะครับ
เรา:ค่ะ! ไม่ไปแล้วค่ะ
เจ้าหน้าที่: เดินไปที่ตะกร้าแล้วหยิบพาสปอร์ตคืนเรา (ไหนว่าพาสปอร์ตชั้นยังมาไม่ถึงสถานฑูตนะคะตอนนั้น!)

เรากับเพื่อนสาวเดินออกมาจากสถานฑูตอย่างเซ็ง สงสารเพื่อนด้วยจะไปกัน 3 คน ขอได้คนเดียว แล้วเพื่อนจะไปยังไง แถมลางานกันหมดแล้ว เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรเราไม่ไปละ ไปทะเลกับเธอก็ได้ ก็เลยไปหาที่นั่งคุยกันเพื่อแพลนทริปในวันรุ่งขึ้น เราเลือกไปในร้านในโรงแรม Mode Sathorn สั่งสมูทตี้แก้วละ 160 มาดับร้อน (แพงจังเลยปกติไม่ยอมจ่ายหรอกนะราคานี้) ซึ่งโรงแรมก็อยู่ไม่ไกลจากสถานฑูตมากนัก เราก็นั่งโทรจองที่พักที่เกาะพยาม แต่ปลายสายบอกว่าช่วงนี้ฝนตกนะ ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวเพราะไปแล้วอาจจะไม่ได้ดำน้ำ นอยด์สิคะคุณขา..อุตส่าห์มีเป้าหมายใหม่แล้ว นั่งมองหน้ากันสองคน ฮือๆ แล้วเราจะไปไหนดี โทรไปบ้านพักลุงขาวที่เกาะเภตรา ลุงก็บอกว่าฝนตกนะ แต่ถ้าจะมาลุงก็ยินดี โทรไปไหนก็ฝนตก ฝนตก ฝนตก T_T มันดราม่าตรงนี้ล่ะ

แต่ แต่ ..จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายเสียงหล่อมาเลย
ปลายสาย: คุณ..หรือเปล่าครับ
เรา:ค่ะ นั่นใครคะ
ปลายสาย: ผมเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตพม่าที่คุณมาขอวีซ่านะครับ
เรา: แล้วไงคะ (น้ำเสียงมิได้ยินดียินร้าย)
ปลายสาย: คือตอนนี้กระทรวงได้ส่งชื่อของคุณมาแล้วครับ มารับวีซ่าได้เลยครับ
เรา: (ตกใจมาก) ตอนนี้ 5 โมงแล้วนะคะ ยังไม่ปิดทำการอีกเหรอคะ ให้ไปรับตอนนี้ได้เลยเหรอคะ
ปลายสาย: ได้เลยครับ ผมรออยู่ครับ
เราวิ่งออกมาจากร้าน เพื่อนสาวก็เหวอทำหน้างง วิ่งมาหน้าโรงแรมบอกพี่วินให้ซิ่งไปสถานฑูต ไม่ลืมถามราคาก่อนขึ้น 55 (จริงๆก็เดินได้แต่ไม่ทันใจค่ะ) พี่วินก็พาซิ่งมากกก หัวใจจะวายค่ะ จอดรถปุ๊บยังเร่งเราอีก น้องๆให้ไวๆ เดี๋ยวเค้าปิดก่อนนะ 55 ขอบคุณค่ะพี่ที่ห่วงหนู

สรุป..เราก็ได้วีซ่ามาแบบหวุดหวิด แบบงงๆ แถมยังต้องจ่าย 1200 ทำไมไม่ 810 บาทละ เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าก็เป็นแบบด่วนไง มาวันนี้ก็ได้วันนี้ (หราาาาาได้ข่าวว่ามาทำตั้งแต่วันจันทร์นะ ) สุดท้ายก็จ่ายเงินแบบงงๆ ค่ะ และก็ได้บินสมใจ ผู้รู้ทั้งหลายใครได้อ่านวานวิเคราะห์ทีคะ ว่าเคสต์แบบนี้เกิดอะไรขึ้นคะ!

ข้อคิดเตือนใจ:
ใครจะไปพม่าก็ควรไปขอวีซ่าแต่เนิ่นๆ เลยนะ จะได้ไม่ต้องดราม่าแบบเราค่ะ ถือว่าโพสต์เล่าเป็นข้อคิดเผื่อใครมาเสิร์ชเจอจะได้รู้ว่ามีเคสต์แบบนี้ด้วย!! (บอกว่าไม่ยาวเล่าซะหลายหน้าเลย)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น