ทริปกระบี่พังงาครั้งแรกค่ะ 7 คืน ..วันแรกพักใกล้สนามบินกระบี่ และรอเพื่อนมาสมทบ..วันที่สองเช่ารถยนต์ เรท 1500 (รถขนาดเล็ก)คุยไปม่ได้ 1300 บาทเป็นฮอนด้าซิตี้ ก็เที่ยวแถวน้ำตกร้อน สระมรกต สวยดีตามฉบับสารน้ำลำธาร ประทับใจสระมรกตแต่ผิดหวังเล็กน้อยน้ำตกร้อน..เช่าวันเดียว
🌸วัน2 ย้ายมาพักอ่าวนาง ..วันแรกก็ไร่เลย์ และเดินสำรวจ เห็นทะเลแล้วชื่นใจ
🌸วัน3 โปรแกรมตกปลาเหมาลำ 4 คน 13,xxxบาท..ตกลงเอเจนซี่ว่าโอเคทำอาหารบนเรือได้แต่พอ(แค่อยากชิมปลาที่ตัวเองตกได้)เอาเข้าจริงเจ้าของเรือบอกไม่ได้และคุยเอเจนซี่แล้วว่าทำไม่ได้(เอเจนซี่ไม่บอกเรา)ถามเจ้าของเรือบอกว่าไปตกที่ไหนมาที่ว่าทำอาหารบนเรือได้(แล้วหัวเราะ)อยากจะบอกเหมือนกันว่าอย่าให้สาธยายเลย แต่ก็ไม่พูด แล้วราคาต่อหัวถูกกว่าเป็นครึ่งถ้าเทียบต่อหัว..สรุปกินข้าวกับผัดเปรี้ยวหวานไก่และสัปรดแตงโมเป็นผลไม้..ส่วนที่ตกได้(เยอะมาก)ก็ไม่ได้แตะเลนเพราะไม่สะดวกเอากลับ..สรุปก็ไม่ประทับใจแต่มีความสุขที่ได้ตกปลา
🌸วัน4 พักผ่อนและรอส่งเพื่อนกลับ ตอนเย็นหาทัวร์ไปสิมิลันและเกาะตาชัย แต่มันไม่มีรวมเลยเลือกเกาะตาชัยแต่ต้องนั่งรถตู้ของทัวร์สองชั่วโมงไปพังงาเพื่อต่อเรือไปเกาะตาชัย..แต่ติดตรงที่ว่าจะไม่นั่งรถตู้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เลยเช่ารถกับเอเจนซี่อีกหนึ่งวัน(คนละเจ้า)เพื่อจะขับไปพังงาเองสองคนแล้วโทรจองทัวร์กับ*ดาวทะเลเลย..คุยกับเอเจ้นว่าต้องการรถยนต์เล็ก เขาเสนอว่า 1500 บาท เราเลยบอกไม่สู้(คิดว่าจะกลับไปเช่าที่เดิมแต่ต้องเดินอีกไกลหน่อย)เขาเลยบอกว่า 1200บาทสู้มั้ย เราบอกโอเค เพราะเรทมันก็ประมาณ 800-1300/วัน แล้วแต่ช่วง...พอโทรถามรถเสร็จทางเอเจ้นก็บอกว่าได้อัลตีส เราก็นึกว่าเอเจ้นคงจำผิดจากซิตี้แน่นอนเลยไม่เอะใจเพราะจากที่คุยกันเหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องรถเท่าไหร่..เราก็ตอบตกลงและแจ้งเวลาที่ต้องการคือสองทุ่มส่งที่โรงแรม(เช่าไว้ตอนบ่ายสอง) ทุกอย่างก็โอเค และซื้อทัวร์เพิ่มอีกเพื่อวันที่6 ของทริป....พอสองทุ่มครึ่งก็มีคนเอารถมาส่ง(เรามานั่งีอกับแฟนตั้งแต่ทุ่มห้าสิบ)..ตกลงเรียนร้อยทำสัญญาเสร็จเขาก็แจ้งว่าถ้าส่งช้าหนึ่งชั่วโมงไม่คิดเงินแต่เกินหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นคิดสองร้อยต่อชั่วโมง...ตกลงกันเสร็จก็ดูรถและสำรวจก็เป็นอัลตีสจริงแต่เก่า..
🌸วัน5 ตื่นตีสี่ออกจากโรงแรมตีห้า(เดินทางสองชั่วโมงครึ่งถึงท่าเรือ)ทัวร์ออก 9.30นแต่เราเผื่อเวลาไว้..เราขับคนแรกสตาร์ทมา สัญลักษณ์เครื่องยนต์โชว์หรา ไม่ดับ เรานี่ใจไม่ดีเลยพูดกับแฟนว่า"ชิหายแล้ว"ตีห้าก็ไม่อยากโทรปลุกเจ้าของรถ เกรงใจ..ขับมาเรื่อยๆ ไม่เร็ว..เออรถก็รวมแล้วดีแต่ใจแป้วเรื่องเครื่องยนต์..ขับออกจากอ่าวนางสัก40-50 กม/ชม เพราะเช้ามากไม่รถและยังไม่รีบและลองรถด้วย..พอขึ้นถนนหลักเริ่มทำความเร็วประมาณ60 ขึ้น รถเหยียบไม่ขึ้น เครื่องกระตูกเหมือนจะดับแหล่ไม่ดับแหล่ เหมือนมอร์ไซด์หัวเทียนจะบอด เรากับแฟนมองหน้ากันเพราะแฟนก็รู้สึกได้ หน้าเสียทั้งคู่ หงุดหงิดขึ้นมาทันที..ตอนแรกคิดว่าน้ำมันจะหมด ส่วนเกตวัดน้ำมันยังเยอะแต่กลัวมันพังแล้วเพราะไม่ได้ถามผู้ให้เช่าละเอียดขนาดนั้น...ก็เลยขับต่ำกว่าหกสิบประคองไปถึงปั้ม พอเติมเสร็จขับออกมามันก็ยังเป็นแบบเดิม..โมโหมาก รถไม่พร้อมทำไมมาปล่อยเช่า แต่ไม่โทรไปถามเพราะยังเช้าตรู่ ด้วยเกรงใจ..ขับมาจนแปดโมงเพิ่งจะเข้าพังงา กลัวไม่ทันทัวร์ ไม่กล้าแซงใครเพราะกดไม่ขึ้นเลย ไม่อยากเสี่ยง..พอแปดโมงครึ่งแฟนเราโทรหาผู้ให้เช่าเลยและบอกว่าเครื่องมีปัญหา เขาตอบกลับมาว่ารู้แล้ว เราเลยบอกว่าถ้ารถเป็นอะไรนอกจากเฉี่ยวชนแล้วทางเราจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ...เขาบอกโอเคและขอโทษแต่เขาซ่อมแล้วมันไม่หาย(อ้าว)แต่อาการกระตุกจะแค่ความเร็วที่60-80เท่านั้น นอกนั้นไม่เป็นไร(โอย) มันกดคันเร่งตอนแซงไม่ขึ้นด้วยอ่ะ..แฟนก็วางสายแบบอารมณ์เสีย.....พอกลับจากทริป กะว่าต้องสายแน่ แต่ชั่วโมงนึงเขาไม่คิด(อุ่นใจ)แต่เอาเข้าจริงคงต้องถึง 9.30 ทุ่มแน่นอน(แปลว่าต้องจ่ายเพิ่ม200)ก็ไม่เป็นไร....มาถึง 2ทุ่ม 50 นาที แต่โทรให้เขามารับรถตั้งแต่ 2ทุ่ม35 เขาก็โอเค...พอถึงโรงแรมเราก็นั่งรอกับแฟนถึง 3 ทุ่ม 15(มันเหนื่อย ง่วง หิว อยากอาบน้ำเพราะตัวยังเปียก)เราเลยโทรถาม เขาบอกขอเป็นสี่ทุ่มเพราะเขาติดธุระ เราก็ตามนั้น ..เก็บของเสร็จยังไม่อาบน้ำรีบเดินมากินก๊วยเตี๋ยวหน้าโรงแรมเพราะหิว รีบกินแล้วมานั่งรอ 9.45 ทุ่ม..รอจนถึง10.15 ทุ่ม คันก็คัน ส่วนแฟนนั่งหลับเพราะเหนื่อยมาก รอไม่ไหวเลยกลับห้อง แฟนอาบน้ำแล้วหลับเลย ส่วนเรายังไม่กล้าอาบเพราะกลัวเขาโทรมา ถ้าอาบนี่นานเพราะหัวก็เปียก รอไม่ไหวหลับไปหนึ่งจิบก็ลุกไปอาบน้ำแล้วนอน ไม่โทรตามเพราะคิดว่าอย่างน้อยเขาทำงานต้องรู้เวลาและรักษาคำพูดถ้าติดอะไรก็ต้องโทรบอกเรา..แต่เขาไม่ทำ..
อาบน้ำเสร็จก็หลับ ตื่นเสียงโทรศัพท์ตอนห้าทุ่มเกินครึ่งไปกว่าๆบอกว่ารอเราที่ร็อบบี้โรงแรม เราก็ปลุกแฟนรีบลงมา...พอมาถึงก็ขอโทษเราและบอกว่าขอชาร์ต200บาท เพราะเกิน 1ชั่วโมง..แฟนนี่ชักสีหน้าเลย(เป็นไข้ตั้งแต่บนรถแล้ว ให้กินยาแล้วนอน แต่มาเป็นเพื่อน)แฟนพูดว่า"ไม่ยุติธรรม" ส่วนเราแค่บอกว่า"รถคันนี้ไม่เหมาะมาปล่อยเช่า"...เขาพูดว่า"อ้าวไม่ให้ชาร์ตเหรอคะ งั้นไม่ชาร์ตก็ได้ค่ะ"...เรานี่คิดอยากฟาดด้วยแจกันเลย...รับเงินมัดจำเสร็จก็กลับห้อง..แฟนบอกว่าแทบไม่อยากเชื่อ
🌸🌸อ่านยาว ตาลายเลย ...รู้สึกว่าตัวเองมีแต่เรื่องวุ่นวายกับรถ...เรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราหงุดหงิดทั้งวันเลย..ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นจะเป็นแบบไหนกันบ้าง..เงินแค่นี้น่ะไม่เท่าไหร่ แต่ความรับผิดชอบหลายๆอย่างเราคิดว่าเขายังไม่พร้อมที่จะให้บริการในจุดนี้จริงๆ...ยินดีรับฟังทุกรูปแบบความคิดเห็นค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น