วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
แบกเป้ตะลุยเที่ยว 12 วัน @ เนปาล ตอนที่ 3
ความเดิมตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/31253397
ความเดิมตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/32828851
กระทู้ด้วยการสรุปข้อมูลสำหรับการ trekking ไป poon hill ตามประสบการณ์ของเรานะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆนักเดินทางข้อที่ 1 จะหาลูกหาบ และไกด์ได้ที่ไหน
- การไป poon hill จะจ้างแค่ลูกหาบหรือจะเพิ่มไกด์ก็ได้ ลูกหาบช่วยขนของและบอกเล่าสถานที่ได้บ้าง ส่วนไกด์จ้างแพงกว่าไม่ช่วยขนของแต่บอกเล่าเรื่องได้เป็นฉากๆๆ... ก็แล้วแต่งบนะคะ....โดยส่วนตัวก็จ้าง potter อย่างเดียวระบุเอาที่พูดอังกฤษได้ โอเลยเค้าช่วยเหลือทุกอย่าง เพราะเวลาเดินเราก็เหนื่อยจนแทบไม่มีอารมณ์ฟังอะไรอ่ะ
- คุณสามารถจ้างจากเอเจนซี่หรือที่พักจากกาฐมัณฑุ หรือแจ้งกะที่พักที่โพคราก็ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต่างกันก็คือค่าใช้จ่ายเพราะถ้าคุณจ้างมาจากกาฐค้าจะคิดค่าเดินทางของลูกหาบบวกรวมไปกับของคุณด้วย.....สุดท้ายเราก็แจ้งความประสงค์กับที่พักที่โพคราว่าขอลูกหาบพูดอังกฤษได้ ด้วยค่าจ้าง 1300 รูปีต่อวัน (ประมาณ 15 usd/วัน)...ขอย้ำว่าการหาลูกหาบที่โพคราง่ายมาก...แค่แจ้งกะที่พักอยากได้ไรเค้าหาให้หมด
- ระหว่างการเดินทางเราไม่ต้องจ่ายค่าอาหารหรือที่พักสำหรับ potter นะคะเค้าพัก กิน ฟรี เนื่องจากหาลูกค้ามาให้ที่พัก
- คุณควรจะทิปเค้านะในวันสุดท้ายที่ trekking เสร็จ เพราะเค้าแบกของให้เราหนักและเดินขึ้นลงเขาในค่าจ้างวันละ 450 บาท น่าเห็นใจ....มากน้อยแล้วแต่ผลงานเนอะข้อที่ 2 อยากได้อุปกรณ์ treking ทำไงดี
- คุณสามารถหาทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับ trekking ได้ที่โพครา ร้านอยู่ตามริมถนนในเมือง น่าจะของก๊อบแต่ก็ใช้ดีอยู่
- ไม่แนะนำการใส่ยีนส์เดินเขานะจ๊ะเพราะจะเสียดสีและหนักเวลาเดิน แนะนำใส่การเกงที่เนื้อนิ่มยืดหยุ่นหรือการเกงเดินเขา ราคาก็ไม่แพงเราสอยมาได้ประมาณ 200 กว่า ใส่มันทุกวันระหว่างเดินเขาสบายและเบามากๆ แถมยังสามารถถอดขาเป็นขาสั้นเก๋ๆได้ด้วย
- สิ่งที่ห้ามพลาดต้องใช้คือถุงนอนเอาแบบที่ทนได้ถึงประมาณ 10-15 องศานะ ตอนกลางคืนจะหนาว
- ส่วนยาก็แล้วแต่ น่าจะมียาพื้นฐานเช่น แก้ปวดกล้ามเนื้อ (NSAIDs), คลายกล้ามเนื้อ ex norgesic/mydocalm, แก้แพ้อากาศ, paracetamol, เบตาดีน และ plaster ปิดแผล ติดไว้กันเหนียวข้อที่ 3 TIM&ACAP
- ที่อ่านรีวิวมาสามารถทำผ่านที่พัก หรือไปทำที่ทำการเองก็ได้ ทั้งในโพคราและกาฐ
- ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาใจร้อนเหมือนเรา ก็แนะนำแบบเราได้ค่ะ เราฝากที่กาฐทำทั้ง TIM&ACAP ตั้งแต่ตอนอยู่เมืองไทย....ติดต่อกันทางอีเมลล์และเฟซบุ๊ค โดยส่งรูปหนึ่งนิ้วกะ passport ให้เค้าทางอีเมลล์แล้วเค้าก็จะไปจัดการให้....นัดรับตั๋วกันที่หน้าสนามบิน เราจ่ายค่า TIM&ACAP รวมกัน 30 usd ค่ารูปคนละ 1 usd ถือว่าไม่แพงและสะดวกมากทีเดียวข้อที่ 4 สภาพอากาศ (เอาตามประสบการณ์ที่ไปมาสองรอบนะ)
- ดีที่สุดคงต้องยกให้ช่วงปลายตุลา-พย เพราะช่วงนั้นอากาศปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย ไม่มีฝน
- รองลงมาคงต้องให้ช่วง มีนา ฟ้าไม่โปร่งเท่า แต่ก็เห็นทิวเขา และมีฝนประปราย (เหมือนที่เห็นในรายการคนค้นตน)
- แย่สุดก็ช่วงมรสุม อย่างที่เราไปคือปลายกันยาต่อตุลา ก็แล้วแต่ดวงจริงๆ ของเราโชคไม่ดีเพราะแทบไม่เห็นอะไรเลย ยกเว้นวันที่ขึ้น poon hill
สภาพอากาศวันที่เดินลง
อากาศตอนเช้าที่ Ulleri
วิวจากซารางกอต
วิวที่นากากอต
**** ดังนั้นถ้าคุณจะจองตั๋วโปรของสายการบินก็ควรจะเลือกให้ดีนะว่าจะเสี่ยงหรือเอาแบบเห็นชัวร์จ่ายทีเดียวไม่ต้องซ่อม5555******ข้อที่ 5 เดินเหนื่อยรึปล่าว.....จะไปไหวมั้ย
- คำตอบของประเด็นนี้ก็คงต้องตอบว่าแล้วแต่บุญเก่าที่ออกกำลังกายมา
- ส่วนตัวเองไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมากมาย...วิ่งบ้างเดินบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง..ครั้งละ 2-3 กิโล...ก็เลยสรุปว่าตัวเองไม่ได้ฟิตมากมาย แต่ถ้าใจมันสู้ก็ไปถึงนะ....เดิน...เดิน...เดิน..ถ้าเหนื่อยก็พัก...
- คุณควรพกขนม ลูกอม ชอคโกแลต ไปด้วยนะ เพราะมันจะให้พลังงานระหว่างการเดิน
- น้ำดื่มจะพกขวดเล็กหรือใหญ่ก็ตามสบาย แต่ระหว่างทางมีที่พักเติมน้ำตลอด
- ไม่ต้องกังวลว่าจะหลงหรือทุกคนต้องมารอเรานานนะคะเพราะมีเพื่อนร่วมเดินทางตลอด ตอนของตัวเองโบกมือให้น้องๆกะ potter ไปก่อนเลยเราก็ค่อยๆเยื้องย่างตามกำลังกายแล้วก็เดินไปพร้อมๆกะคนที่ตามมาข้างหลัง.....ภาพบางส่วนการ trekking
ข้อที่ 6 ถ้าคุณจะเดินทางตาม route ที่เราเลือก วันแรกควรจะเดินให้ถึง Ulleri นะคะ ไม่งั้นวันที่สองคุณจะต้องเดินทางมหาโหดเชียวกว่าจะถึง Ghorapani
ข้อที่ 7 เรื่องที่พักละเป็นไง/ห้องน้ำ
- ลูกหาบจะเป็นคนดูแลหาที่พักให้เรา บางครั้งถ้าเราเดินช้าเค้าจะล่วงหน้าไปก่อนเพื่อหาที่พักไว้ให้
- ที่พักก็โอเคนะเป็นบ้านไม้สองชั้นยาวด้านบนซอยเป็นห้องพักกั้นด้วยไม้แผ่นอัด ข้างในมีเตียง ฟูก ผ้าห่ม นอนได้ 2-3 คนต่อห้อง สามารถเลือกวิวได้ถ้ามีห้องว่าง
ลักษณะจะคล้ายกันในทุกหมู่บ้าน
- ตอนตื่นนอนหรือหัวค่ำแนะนำให้ออกมาดูดาวนะคะ สวยมากกกกก....เต็มท้องฟ้าเลย
ข้อที่ 8 อาหารการกินล่ะกินได้มั้ย
- ไม่ลำบากเลยสำหรับการกิน รสชาดโอเค (ไม่ได้รสเลิศอะไรมาก)
- แต่คุณจะเจอเมนูซ้ำเดิมในทุกๆวันและทุกๆมื้อ เพราะเค้าควบคุมร้านอาหารให้มันเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคุณเจอเมนูที่ใช่เร็วก็จะสบาย5555
- ขอยืนยันอีกเสียงว่า " เค้าทำอาหารช้ามากกกกกกก " รอเงกแทบอยากเข้าไปขอเค้าทำเองเลย
- แนะนำให้พกอาหารแห้งพวก มาม่า หมูแผ่น หมูเส้น น้ำพริกซอง เพื่อเพิ่มรสชาติหรือเผื่อเบื่ออาหาร คุณสามารถสั่งน้ำต้มมากินได้
- เมนูที่เรากินเช่น
โชวเมี่ยนผัก มันคล้ายหมี่ผัดบ้านเรา
โชวเมี่ยนชีส เค็มๆมันๆดี
พิซซ่า
แป้งคล้ายซาลาเปาทอดไว้กินกับแยม
ดาวบาทอาหารประจำชาติ
น้ำอัดลมมีบริการทุกที่
น้ำจากยอดข้าวเพิ่มความอบอุ่น ซักวันชั้นอยากเห็นสักครั้ง
ข้อที่ 9 ค่าใช้จ่าย trekking ของเรา 4 วันสำหรับ 3 คน
ค่าลูกหาบ 4 วัน วันละ 1300 = 5200 รูปี
ค่ารถแทกซี่ไปกลับนายาปุล 1500*2 = 3000 รูปี
ค่าที่พักและอาหาร = 12340 รูปี
ค่าเข้า POON HILL คนละ 50 = 150 รูปี
TIM&ACAP คนละ 30 usd = 90 usd
รูปถ่าย คนละ 1 usd = 3 usd
รวม 20690 รูปี ( 6900 บาท ) + 93 usd
เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณ 3300 บาท
ชื่อสินค้า: poon hill
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น