https://www.facebook.com/TotterTripper
จากกระทู้ที่แล้วที่พึ่งเดินทางมาถึงที่ปีนัง
นั่งรถไฟไปเที่ยวปีนัง part 1 : จากสิงคโปร์ถึงปีนัง
http://pantip.com/topic/32851095 ตอนตื่นมาฟ้าก็ยังคงมืดครึ้ม ผมก็ไม่ยังไม่ชัวร์ว่าจะได้ไปเที่ยวไหนมั้ย เพราะว่าปีนังเป็นเกาะเลยมีมรสุมและฝนตกเป็นตลอดเวลา แต่บางทีที่ฝนตกทางตอนเหนือของเกาะ ในเมืองหรือทางใต้อาจจะแดดออก ไม่มีฝนเลยก็ได้ ในโซนที่ผมพักอยู่ทางเหนือของเกาะเรียกว่า Batu Ferringhi ซึ่งจะเป็นโซนที่อยู่ท่ามกลางป่าและติดชายทะเล ค่อนข้างเงียบกว่าในตัวเมือง
เช้าวันที่สองที่ปีนัง ฟ้ายังคงมืดๆอยู่และสามารถมองเห็นฝนตกในบางพื้นที่จากระเบียงห้อง เจ้าของห้องที่ผมอยู่ด้วยอยู่บนชั้นเหนือห้องที่ผมนอน โดยเค้าชื่อ Michel เป็นคนฝรั่งเศสที่ย้ายมาอยู่ที่ปีนังไม่กี่ปี และกำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มจากเกาะบอร์เนียว โดยเหตุผลที่ย้ายมาอยู่เพราะไม่ชอบปธนฝรั่งเศสในตอนนั้น ไม่อยากเสียภาษีให้ เลยย้ายออกมาง่ายๆแบบนั้นเลย ผมเลยถามว่าทำไมถึงเลือกปีนัง Michel ก็ตอบว่า เพราะคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษ คุณภาพชีวิตที่นี่ดี และก็ปัญหาเรื่องวีซ่าไม่ยุ่งยาก ใช้วิธี Visa Run พร้อมหัวเราะและเสริมว่าความจริงก็ทำผิดกฎหมายหลายอย่างเหมือนกัน แต่ที่ด่านพอพูดมาเลไปนิดหน่อย ปล่อยมุขกับเจ้าหน้าที่ เค้าก็ไม่ถามอะไรต่อ ผมฟังแล้วก็เซ็งๆตามเคย บางทีก็คิดว่าต่างชาติไปไหนมาไหนง่ายเกิน เราจะไปประเทศไหนทีขอวีซ่ายากเย็นแสนเข็ญ มองกลับไปเมืองไทย จำนวนฝรั่งที่ Visa Run ก็คงมีจำนวนไม่น้อย ถึงแม้จะมีกฎหมายแล้วแต่ก็ปล่อยสบายๆ สไตล์ไทยๆ หลังจากแฟนของ Michel ออกไปทำงาน เค้าก็เริ่มจีบผม ซึ่งก็รู้สึกเหวอๆเหมือนกันแต่ก็ปฏิเสธไป พอกินข้าวเช้าเสร็จ Michel ก็แพคข้าวกลางวันให้และก็ขี่มอเตอร์ไซค์พาไปส่งที่ Penang National Park
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น