วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

Santorini ในอีกมุมที่ประทับใจ(Imerovigli-Skaros rock)

สวัสดีค่ะ หลังจากได้อ่านเพื่อนๆชาวPantipมาเป็นเวลาหลายปี ติดตามหลายกระทู้ และก็หลายๆกระทู้ก็จุดประกายการท่องเที่ยวมากค่ะ ได้ดำเนินรอยตามก็หลายที่ ไม่ว่าทั้งรถไฟแมวเหมียวและKoyasanในญี่ปุ่น โคตาคินาบาลู (ต้องขอขอบคุณณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ สำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ทุกๆกระทู้) และล่าสุดก็ทริปนี้ค่ะ Santorini ที่ Greece และ Pamukkalaที่ตุรกี เลยคิดว่าอยากแบ่งปันบ้างค่ะ แต่เนื่องจากอาจจะมีหลายๆกระทู้พูดไว้เยอะแล้ว กลัวจะเบื่อ จะขอเล่าคร่าวๆกับสถานที่ที่ในห้องบลูยังไม่ยังค่อยมีนะคะ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกเลยค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ       เมื่อ 4เดือนที่ผ่านมา  เพื่อนได้จัดทริปไปเที่ยวกันที่กรีซและตุรกี โดยบินไปลงที่เอเธนส์และกลับประเทศไทยจากอิสตันบูล  ตารางโปรแกรมคร่าวๆค่ะ Day1 Athens- Acropolis Day2 Athens- Ancient Agora,National archeological museum Day3 Santorini- Imerovigli, Fira Day4 Santorini- Skaros rock, Oia Day5 Istalbul-Gulhane park Day6 Istanbul-Blue mosque, Tokapi palace, Basillar cistern, 1453panorama museum, Galata tower Day7 Pamukkale Day8 Istalbul- Dombamache palace, Aya Sofia, Grand Bazaar Day9 istanbul-airport       แบบว่าที่ไปก็มีประทับใจหลายๆที่แต่ที่ชอบมากที่สุดก็ที่Santoriniนี่ล่ะค่ะ สวรรค์ของนักท่องเที่ยวจริงๆ ยิ่งตอนเราไปเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นฤดูที่เกือบจะเป็นhigh season แต่ก็ยังไม่เป็น ราคาที่พักเลยกลางๆ  คนก็ไม่เยอะ อากาศยังเย็นๆอยู่ เรื่องที่พักก็ช่วยๆกันหากับเพื่อนๆ เรารับอาสาหาที่พักที่Santorini โดยพึ่งtripadvisorกับ City map2go app ดูราคาแบบกลางๆ แต่ขอlocationดีๆหน่อย พบว่ามีหลายเมือง เลือกแทบไม่ถูก ตั้งแต่ Fira,Oia  ดูจนกระทั่งมาสะดุดกับเมืองImerovigliที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ดูรูปโรงแรม ดูlocation แล้วใช่เลย ส่วนตัวมากๆ มีวิวเมืองขาวๆลดหลั่นตามเขา มีวิวทะเลกว้างไกล Caldera เห็นเมืองOia ที่สำคัญ มีริวิวบอกว่าเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้สวยไม่แพ้ที่Oiaเลยค่ะ หลังจากได้รับอนุมัติราคาที่พักคืนคนละประมาณ 1700บาท ก็จองผ่านเวปกันค่ะ        กระทู้นี้จะพูดถึง Santoriniเลยนะคะ(ถ้ามีเวลาจะมารีวิวในเอเธนส์เพิ่มค่ะ) หลังจากที่เราเดินทางออกจากเอเธนส์โดยเครื่องบินAegeon air เดินทางมาถึงSantorini เกือบ9โมง ก็หารถโดยสารกันเลยค่ะ งานนี้ต้องลุ้นเอา เพราะว่าจริงๆได้ติดต่อทางโรงแรมไปแล้ว แต่โรงแรมไม่ได้ตอบกลับมาเลยลืมกันไปเลย การเดินทางใช้รถโดยสารก็ได้ แต่ต้องเข้าตัวเมืองFiraซึ่งเป็นศูนย์กลางการต่อรถไปเมืองต่างๆ  รอบรถประมาณชั่วโมงละคัน เท่าที่อ่านมาTaxiบนเกาะนี้มีไม่เกิน40คัน จึงอาจจะมีไม่เพียงพอถ้านักท่องเที่ยวเยอะ และดูราคามาก็แพงพอควรเลยค่ะ แต่เนื่องจากอยากจะสะดวกหน่อยเพราะมากันสี่คน หารกันคงไม่มาก ก็ได้ราคา25Euro ไปยังเมืองImerovigliที่อยู่ระหว่างFira และ Oia เดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงโรงแรม แต่เราต้องลากกระเป๋ากันไปประมาณ100เมตร ตอนไปถึงที่สนามบินฟ้าใส แต่พอมาถึงเมืองนี้ โอ้ว...เหมือนเมืองในฝัน นี่เราอยู่เกาะนะ แต่เหมือนไม่ใช่แฮะ และแล้วเราก็เดินฝ่าหมอกกันไป ผ่านโรงแรมต่างๆ ที่มีสระว่ายน้ำ น่าดึงดูดมาก ดูสวย บรรยากาศดี  ทางเดินก็ลากกระเป๋าได้สะดวกมากเลยค่ะ ถึงโรงแรมก็เดินลงไปไม่มาก  ว่าแต่คนไปไหนกันหมดเลยอะ เงียบเหงามาก..... และแล้วเราก็เจอโรงแรมที่เราจองไว้Ilioperato apartment ก็เดินดุ่มๆ ลงไปเลยค่ะ (รูปนี้มาถ่ายวันอื่นค่ะ) พอเจ้าหน้าที่เห็นพวกเราก็มาช่วยถือกระเป๋า เราก็เดินไปที่Reception เจ้าหน้าที่ก็น่ารักมากๆเลย พาเราไปห้องพักที่ชื่อ Magganari(นึกถึงลูกมักกะนารีผลเลย) เป็นบ้านที่มีห้องนอนสองห้อง และแต่ละห้องก็มีห้องน้ำในตัว และมีครัว โต๊ะทานอาหารให้ด้วย ห้องด้านหน้ามีหน้าต่างเห็นวิวทะเล ส่วนห้องด้านใน ลักษณะอยู่ในcave อากาศค่อนข้างเย็นพอควร แต่มีเครื่องปรับอากาศทำความเย็นและร้อนได้ เนื่องจากตอนจองไม่ได้ระบุว่าจะเอาห้องแบบไหน เตียงแบบไหนชัดเจน จึงขอเตียงเสริมเพิ่ม ทางโรงแรมก็ยินดีให้บริการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเลยค่ะ ตอนเดินขึ้นลง ก็เห็นว่ายังมีอาหารเช้า เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า ขออาหารเช้าวันนี้แทนวันกลับได้มั้ย เพราะว่าเราจะพักกันสองคืน แต่วันสุดท้ายต้องรีบออกหกโมงเช้า เลยขออาหารเช้ามื้อนี้แทนวันกลับ ซึ่งเค้าก็โอเคค่ะ ห้องอาหารเป็นกระจกที่กั้นเป็นห้องอาหารและพับเก็บได้ในเวลาอื่น อาหารเช้าก็ทั่วๆไปค่ะ แต่Chocolate crepe อร่อยมากเลย (วันต่อมาเลยสั่งมาทานที่ห้องกับพิซซ่าค่ะ) กระจกจากในห้องอาหารมองไปข้างนอก บรรยากาศบริเวณที่พักค่ะ ตอนนี้เราก็ยังไม่ค่อยเห็นผู้คน ก็คาดว่าเวลาที่เราไปเก้าโมงสิบโมงของที่นั่นถือว่าเช้าค่ะ ชีวิตที่นี่เริ่มช้า และเลิกดึก หลังจากอิ่มจากอาหารเช้า ก็ทำการสำรวจพื้นที่ พวกเราสรุปว่าไปFiraกันดีกว่า โดยเดินออกไปป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นไปยังเมืองFira (1.6Euro)ที่ป้ายรถเมล์มีเวลาเดินรถ แต่งงค่ะ ยืนรอแป้บนึงก็มา(ถามคนรอบข้างว่าใช่มั้ย) เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อการเดินทางในFiraนะคะ ขาไปไปรถโดยสาร และขากลับเดินกลับมาค่ะ และดูพระอาทิคย์ตกดินกันหน้าห้องพัก ส่วนอีกวันจะไปปีนเขาบนเกาะกันที่ Skaros rock ค่ะดอกไม้ดอกไม้นานานอน ชื่อสินค้า:   SANTORINI คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น