Skyscanner มีสถานที่น่าไปเยือนของ “เมืองเกียวโต” กรุงเก่าแห่งญี่ปุ่น แดนอาทิตย์อุทัย (เมืองที่มีสนามบินที่ใกล้ที่สุดคือ โอซาก้า) มาฝาก หากใครคิดจะแบกเป้ฉายเดี่ยวไปเที่ยวเมืองซามูไรคราวนี้ด้วยตนเอง เรามีรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ที่คุณไปเองก็ได้ไม่ต้องพึ่งไกด์ทัวร์วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple) หรือวัดน้ำใสรู้จักกันในนามวัดน้ำใส เพราะเป็นทางผ่านของทางน้ำแห่งน้ำตกโอโตวา (Otowa Waterfall) ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และภายในวัดก็มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่รองรับน้ำจากน้ำตกไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้มาตักดื่มเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต วัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 798 และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1633 วัดแห่งนี้มีจุดเด่นเรื่องสิ่งก่อสร้างระเบียงไม้ขนาดใหญ่โตสวยงามโอ่อ่าในเขตวิหารหลัก ที่ก่อสร้างโดยมิได้ใช้ตะปูสักตัวเดียวจนทำให้วิหารและระเบียงแห่งนี้ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994 นอกจากนั้นในบริเวณสวนของวัดยังมีต้นซากุระกว่าพันต้น เป็นจุดชมซากุระบานยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)ศาลเจ้ายอดนิยมอีกแห่งที่สร้างขึ้นโดยชาวนาท้องถิ่นเพื่อถวายเทพเจ้าจิ้งจอก (เทพเจ้าแห่งธัญพืช) ในราวปีค.ศ. 711 และยังเป็นที่พำนักของพระแม่โพสพตามความเชื่อท้องถิ่นที่ช่วยให้การเกษตรของเมืองอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ คือ แนวประตูไม้โทริอิสีแดงที่เรียงรายนับพันต้น ซึ่งนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ขอพรและสร้างเสาแนวประตูถวายจะช่วยให้กิจการสำเร็จสมหวัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีแนวประตูยาวไปถึงยอดเขาร่วม 4 กิโลเมตร แนวประตูโทริอินี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกแห่งของเกียวโตเลยทีเดียววัดซันจูซันเก็นโดะ (Sanjusangendo Temple)วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1164 โด่งดังเรื่องรูปแกะสลักขนาดเท่าคนจริงของแม่พระโพธิสัตว์กวนอิมที่แกะสลักจากไม้ฉาบทองในปางต่างๆ เป็นจำนวน 1,001 ปาง (องค์) ประดิษฐานในวิหารยาวกว่า 120 เมตร เชื่อกันว่าเป็นงานศิลปะในศตวรรษที่ 12 และวิหารไม้แห่งนี้ถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นพระประธานในวิหารแห่งนี้ยังเป็นงานแกะสลักรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันกรโดยช่างฝีมือโบราณชื่อดัง ตันเกอิ (Tankei) ในปี ค.ศ. 1264 และบริเวณด้านหน้ายังมีงานแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ ในศาสนาฮินดู 28 องค์ และเทพเจ้าตามความเชื่อของญี่ปุ่นอีก 2 องค์ โดยงานแกะสลักทั้งหมดนี้เป็นศิลปะสมัยคามาคุระ (Kamakura) หรือราวศตวรรษที่ 12-13วัดนินนาจิ (Ninna-ji Temple)วัดมรดกโลก วัดแห่งศาสนาพุทธขนาดใหญ่ ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 886 เป็นวัดที่จักรพรรดิยูดะ (Emperror Uda) เคยมาผนวช เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธลัทธิโอมูระ ชินกอน (Omura Shingon) วัดนี้เคยถูกเผาทำลายในช่วงสงครามโอนิน (Onin War) และได้รับการบูรณะใหม่ราว 150 ปีที่ผ่านมา สิ่งก่อสร้างดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน คือ เจดีย์ 5 ชั้น ลวดลายบนกำแพงวัด และสวนเชอรี่แคระ นอกจากนั้นวัดแห่งนี้ก็ยังเคยเป็นพระราชวังเก่าในอดีตอีกด้วยวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือวัดทองวัดประจำนิกายเซนชื่อดังประจำเมืองอีกแห่งที่มีศาลาที่ตกแต่งด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ตั้งอยู่กลางสระน้ำในสวนสวย เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองเกียวโต เคยเป็นที่ประทับของโชกุนอะชิกะงะ โยชิมิตสึ (Ashikaga Yoshimitsu) ในปี ค.ศ.1397 วัดแห่งนี้คนไทยเรารู้จักกันอย่างกว้างขวางเพราะเคยกล่าวถึงในการ์ตูนเณรน้อยเจ้าปัญญา “อิกคิวซัง” ที่มักมาเล่นทายปริศนากับท่านโชกุนโยชิมิตซึ เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นบ้านพักตากอากาศของรัฐบุรุษไซออนจิ คิซึเนะ (Sionji Kitsune) และโชกุนโยชิมิตซึได้ขอซื้อเพื่อเป็นที่ประทับ และได้รับการเปลี่ยนเป็นวัดหลังจากพระองค์สวรรคตไปแล้ววัดและศาลเจ้าวัดเรียวอันจิ (Ryoanji)ขึ้นชื่อเรื่องสวนหินอันสวยงามแปลกตาที่สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 15วัดเท็นริวจิ (Tenryuji Temple)วัดนิกายเซนแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดมรดกโลก ขึ้นชื่อเรื่องสวนญี่ปุ่นสวยงามวัดโฮโกนิน (Hogonin Temple)วัดเก่าแต่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1461 ในยุคเอโดะ ตั้งอยู่ภายในเขตของวัดเท็นริวจิ ขึ้นชื่อเรื่องสวนต้นเมเปิลขนาดกว้างใหญ่ ซึ่งสามารถเข้าชมสวนได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมถึง 30 มิถุนายนวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) หรือวัดเงินเป็นวัดคู่กับวัดคินคะคุจิวัดโคอินซาน ไซโฮจิ (Koinzan Saiho-ji) หรือวัดสวนมอสวัดที่ปกคลุมไปด้วยมอสพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 120 ชนิด ซึ่งเหมาะแก่การมาเยือนในช่วงฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมวัดโทจิ (Toji Temple)วัดเก่าที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 796 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้ขนาดใหญ่ วัดแห่งนี้โด่งดังเรื่องเจดีย์ไม้ 5 ชั้นที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นวัดเคนนินจิ (Kenninji Temple)วัดเซนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นศาลเจ้าจินชู (Jinshu Shrine)ศาลเจ้าแห่งความรักตั้งอยู่ในเขตวัดน้ำใส มีหินแห่งความรักตั้งอยู่ 1 คู่ มีความเชื่อกันว่าหากหลับตาแล้วเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้ จะพบรักแท้ในเร็ววันปราสาทและพิพิธภัณฑ์ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)ปราสาทเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603 เป็นด่านปราการป้องกันตัวพระราชวังนิโนมารุ (Ninomaru Palace) และพระราชวังฮอนมารุ (Honmaru Palace) ในชั้นใน ขึ้นชื่อเรื่องสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่อันสวยงามตระการตา และงานสถาปัตยกรรมภายในพระราชวังหลวงแห่งนครเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)พระราชวังแห่งนี้ถูกบูรณะขึ้นใหม่เมื่อราว 50 ปีก่อน เนื่องจากตัวพระราชวังเดิมถูกทำลายลงไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2พิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮโซมิ (Hosomi)จัดแสดงงานพุทธศิลป์และเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านโบราณ รวมไปถึงอุปกรณ์ชงชาอันลือชื่อพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต (Tokyo National Musuem)จัดแสดงงานศิลปะต่างๆ และทรัพย์สมบัติของชาติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยมีการหมุนเวียนการจัดแสดงไปเรื่อยๆแหล่งช้อปปิ้ง ตลาด สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและบันเทิงสถานที่เที่ยวยามค่ำคืน กิออน (Gion District)ย่านเกอิชาโบราณ ในช่วงเวลาเย็นจะเป็นแหล่งที่รวบรวมศิลปะการแสดงทุกแขนงที่ดีที่สุดของเกียวโตไว้ในที่เดียว ทั้งหุ่นละครมือ การแสดงรำของเกอิชา การร้องเพลง ละครตลก การจัดดอกไม้ ฯลฯถนนฮานามิ-โคจิ (Hanami-koji Street)ขึ้นชื่อว่าเป็นสีสันแห่งเกียวโต ถนนหลักของย่านกิออนที่จะไปสุดสายที่วัดเคนนิจิ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านกินดื่ม โรงน้ำชา และร้านค้าของที่ระลึกที่ยังอยู่ในลักษณะบ้านเรือนแบบเก่า เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งที่พลาดไม่ได้ย่านทอผ้านิชิจิน (Nishjin)แหล่งผ้าทอในบรรยากาศบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปีแหล่งช้อปปิ้งชิโจ (Shijo-Dori)เป็นเขตห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมาย มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่เครื่องไฟฟ้า เสื้อผ้าแฟชั่นไปจนถึงของที่ระลึกตรอกปอนโตโช (Pontocho)ตรอกยาวขนานแม่น้ำคาโมะ (Kamo River) ถนนสายเกอิชาและสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนประจำเมืองมาแต่อดีตถนนสายกาน้ำชาและวัฒนธรรมฮิกาชิยามะ (Higashiyama-historic district)แต่เดิมเคยเป็นแหล่งเครื่องปั้นดินเผา ตั้งอยู่ใกล้กับวัดน้ำใส ปัจจุบันเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและขนมพื้นเมือง บ้านเรือนในแถบนี้ยังเป็นลักษณะแบบเก่า มากไปกว่านั้นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นก็นิยมแต่งชุดกิโมโนมาเดินบนถนนเส้นนี้ด้วยตลาดอาหารนิชิกิ (Nishiki Market-fresh food market)ตลาดนัดอาหารสดขนาดใหญ่ที่มีทั้งอาหารและขนมพื้นเมืองให้เลือกมากมาย เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 400 ปี เจ้าของฉายา “ห้องครัวแห่งเกียวโต”สวนและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติใกล้ๆ เมืองทางเดินนักปราชญ์ (The Philosopher’s Path)เป็นเส้นทางเดินเท้ากว่า 2 กิโลเมตรเชื่อมต่อระหว่างวัดเงินและวัดนันเซนจิ ทางเดินแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระนับร้อยต้น ซึ่งจะบานในช่วงเดือนเมษายน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ เทศกาลฮานามิ (Hanami)อะราชิยาม่า (Arashiyama)เมืองเล็กๆ ชานเมืองเกียวโต มีธรรมชาติสวยงามขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางรถไฟอันแสนโรแมนติกบ่อน้ำร้อนฟูนาโอกะ (Funaoka Onsen)บ่อน้ำพุร้อนและสปาแบบญี่ปุ่นที่เป็นลักษณะบ่อน้ำกลางแจ้งมีบ่อสมุนไพรและการบำบัดต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น