วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเดินทาง แบบตัวคนเดียว เที่ยวไปทั่ว : ผู้หญิงคนเดียว ก็เที่ยวญี่ปุ่นได้

INTRO การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นด้วย "ความอยาก" ล้วนๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะ ความอยากคือ อยากไปญี่ปุ่น อยากเที่ยว อยากเห็นฟูจิ อยากไปดูบ้านเมืองเค้า อยากลองเดินทางคนเดียว พออยากแล้ว ก็เริ่มวางแผนการเดินทาง เลือกเมืองที่อยากไป และเส้นทางที่พอเป็นไปได้ โดยไม่ใช้เวลาเดินทางมากนัก ใจจริงอยากไป Hokkaido มากๆ แต่เวลาที่มีคงไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ คงต้องตัดใจไปก่อนรอบนี้ ได้มาเป็น Tokyo - Osaka เป็นการตั้งหลักปักฐานเมืองใหญ่ๆ ไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดย่อยๆ ในทริปนั้น ค่อยมาว่ากันอีกที เลือกช่วงเวลาที่อยากไปเที่ยว เอาแบบที่ ไม่หนาวเกิน ไม่ฝนเกิน ไม่พีคเกิน = "ตุลาคม" แต่เนื่องจากทำงานประจำสายบริการ เลยคิดว่าน่าจะลาได้ไม่ยาวนัก เลยวางแผนไปเสาร์-อาทิตย์ ชน เสาร์-อาทิตย์ คือเต็มที่ 9 วัน โดยจะเดินทางวันที่ 18-26 ตุลาคม ต้องหาตั๋วให้อยู่ในช่วงเวลานี้ ช่วงที่เริ่มหาตั๋วเครื่องบินจองคือช่วงเดือนกรกฎาคม พอดีช่วงนั้น แอร์สีแดงจัดโปรโมชั่น เลยได้ตั๋วแบบบินตรงมาในราคาที่น่าพอใจมากๆ คือดอนเมือง - นาริตะ 6,580 บาท (ถ้าโหลดกระเป๋าบวกอีก 200 บาท) คันไซ - ดอนเมือง 24,300 yen (ถ้าโหลดกระเป๋าบวกอีก 3,000 yen) ประหยัดค่าเครื่องบินไปได้ระดับนึง (แต่อันที่จริง นี่ก็ยังไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุดสำหรับสองขา สามารถหาไป-กลับที่ถูกมากๆ กว่านี้ได้ แต่อาจจะไป-กลับจากสนามบินเดิม ซึ่งก็ต้องไปคำนวณกับค่าเดินทางกลับมาที่สนามบินเดิมตอนอยู่ที่โน่นอีกทีนะ แต่เราไม่อยากนั่งรถย้อนไปมา เลยเลือกแบบนี้แทน) ทีนี้ ก็ไปหาที่พักกัน เราก็ใช้วิธีธรรมดาทั่วไป "Google" ก่อนเลย บ้านๆ โดยความตั้งใจคือ ต้องการประหยัดค่าที่พักให้ได้มากที่สุด เพื่อเซฟเงินไปเที่ยวไปทำอย่างอื่น เลยเลือกที่พักแบบ Hostel Dorm ซึ่งเป็นแบบ หอพัก นอนรวมๆ กันกับคนอื่น ห้องหนึ่ง จะจัดให้นอน 5 คน 10 คน จะจัดเป็นชายล้วนบ้าง หญิงล้วนบ้าง หรือแบบปนกัน ก็แล้วแต่ที่กันไป หลายๆ คนก็ทัก ไปคนเดียว นอนห้องปนกับใครก็ไม่รู้ ไม่กลัวหรอ ? อืมมมม . . ก็ไม่รู้จะกลัวอะไรดี เค้าก็ไปเที่ยวเหมือนเรา จริงๆ เค้าก็ต้องระวังตัวจากเราเหมือนกัน และก็คงได้ใช้เวลาในที่พักไม่มากนัก เช้ามาก็ออกไปเที่ยว ดึกมาอาบน้ำนอน แค่นั้นเอง คิดแบบนั้นเลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แต่การจองที่พัก กว่าเราจะได้จองแบบแน่นอนตายตัว ก็ใกล้เดินทางมากๆ เพราะเนื่องจากเรามีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเดินทางไปที่นั่น ก็จะต้องมีการนัดพบปะกันบ้าง เป็นมารยาทซักเล็กน้อย ซึ่งทำให้จากตอนแรกเราวางแผนว่า จะอยู่โตเกียว 3-4 วัน แล้วย้ายไปนอนพักที่เมืองแถบๆ ภูเขาไฟฟูจิซักคืน แล้วค่อยไปโอซาก้า แผนก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ เนื่องจากเพื่อนบอกว่า พ่อเขาจะอาสาขับรถพาเที่ยวแถวๆ ฟูจิ ซึ่งจะสะดวกเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ทำให้สุดท้ายต้องนอนที่โตเกียวยาว 5 คืน ซึ่งที่พักที่ได้มาทั้งหมด ก็คือ 1. K's House Oasis : เลือกแบบ 5 People Mixed Dorm ราคาอยู่ที่ 2,950 yen ต่อคืน ต่อคน คือ ในหนึ่งห้องนอน นอนรวมกัน 5 คน มีห้องน้ำและอ่างล้างมือในห้อง แต่ห้องอาบน้ำ จะต้องออกมาใช้รวมข้างนอก มีห้องนั่งเล่น ทีวี คอมพิวเตอร์ ห้องครัว ที่นั่งกินข้าว รวมถึงที่ซักผ้า เป็นของส่วนกลาง สามารถใช้ร่วมกันได้หมด แต่ที่นี่จองได้แค่คืนเดียว เพราะว่ามาจองเอาใกล้ๆ แล้ว เนื่องจากตอนแรก คุยกันว่าอาจจะต้องไปนอนบ้านเพื่อนในคืนแรกที่มาถึง แต่คุยไปคุยมา ไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะไกลเกินไป ซึ่งที่พักวันถัดไปที่จองไว้ก่อนหน้านี้ก็ดันเต็มไปแล้ว เลยมาได้ที่นี่แทน 2. Khaosan World Asakusa Hostel & Ryokan : เลือกแบบ 10 Mixed Dorm คือในห้องนอนได้ 10 คน ราคาอยู่ที่ 7,034 Yen สำหรับ 3 คืน รายละเอียดก็คล้ายๆ ที่พักข้อข้างบน คือมีพื้นที่ส่วนกลางใช้รวมกัน 3. Khaosan Tokyo Ninja : เป็นแบบ Cabin Bed คือเหมือนพวกแคปซูล แต่เป็นกล่องๆ เปิดเข้าด้านข้าง ไม่ใช่ด้านหัวท้าย ราคาอยู่ที่ 2,800 yen ต่อคืน ซึ่ง ก็มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ ไม่ต่างจากที่พัก Hostel อื่นๆ เช่นกัน ที่พักที่นี่เป็นติ่งมา 1 คืน เนื่องจากตอนแรก แพลนว่าจะไปนอนแถวฟูจิ แล้วโดนเปลี่ยนแพลน เลยต้องมาหาที่พักเพิ่มอีกหนึ่งคืน ซึ่งที่พักที่จองไว้แรกสุด ก็เต็มไปแล้วอีกเหมือนกัน เลยมาได้ที่นี่ บวกกับอยากลองแนวแคปซูลดูซักคืน เตียงแบบ Cabin เมื่อเทียบกับเตียงสองชั้นในห้องนอนรวมแบบ Hostel ทั่วไป ข้อดี คือ เป็นส่วนตัวกว่านิดหน่อย มองไม่เห็นกัน เพราะสามารถปิดกล่องทึบ อยู่ในโลกของตัวเองได้ ข้อเสีย คือ ถ้าวันรุ่งขึ้นต้องรีบตื่นมาขึ้นเครื่อง หรือ รถไฟ หรืออะไรก็ตาม อาจสายได้ เพราะมันจะมองไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลย ถ้าหลับลึกไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกคือจบ! 4. ที่พักที่โอซาก้า สำหรับ 2 คืนสุดท้าย เลือกแบบห้องนอนเดี่ยว ห้องน้ำในตัว แต่เลือกโรงแรมแบบราคาถูก ให้โอกาสตัวเองได้นอนสบายพักผ่อนดูบ้าง เผื่อที่พักแบบ Dorm ที่เลือกไป มันวุ่นวายมากเกิน หรือไม่ถูกใจ อย่างน้อย สองคืนนี้ก็ได้พักผ่อนเต็มที่ (ซึ่งพอไปมาจริงๆ แล้ว ก็ไม่วุ่นวายเลย สบายมากๆ แถมประหยัดดีด้วย) ได้มาเป็นโรงแรม For Leaves Inn Uehonmachi ซึ่งอยู่ห่างจาก Namba สองสถานี ถือว่าเดินทางสะดวก ราคาอยู่ที่ 3,600 yen ต่อห้อง ต่อคืน (สำหรับ 1 คน) *** ที่พักทั้ง 4 ที่ ไม่มีผ้าเช็ดตัวบริการเลย ! อาจจะไม่เหมือนที่ไทย ไม่ว่าจะถูกจะแพง มาตรฐานคือมีผ้าให้เป็นอย่างน้อย แต่ต้องพกสบู่แชมพูไปเอง แต่ที่นั่นคือ อย่างน้อยถ้าพักแบบโฮสเทล สบู่แชมพูมีครบ แถมเป็นแบบใช้ดี ไม่ไก่กา แต่ผ้าเช็ดตัวไม่มีให้ คงต้องพกไปเอง ซึ่งคิดว่า คนที่ไปโรงแรมแบบห้องพักเดี่ยว จ่ายสูงกว่านี้หน่อย ก็อาจจะมีบริการให้ก็ได้ แต่ถ้าจ่ายแบบถูก เค้าจะมี"ขาย" แต่ไม่มีบริการฟรี ซึ่งเราไม่ได้พกอะไรไปเลย นึกว่าจะมีให้ เลยต้องพึ่งผ้าเช็ดตัวเค้าไปตามระเบียบ ถ้าเป็นโฮสเทล มีแบบให้เช่า ถ้าเป็นโรงแรม มีขาย (พูดถึงที่เราไปมาน่ะนะ) เอาล่ะ ! ได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว ไปเที่ยวกันดีกว่า !!~ <TO BE CONTINUED . . . แก้ไขข้อความเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น