วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557
(Chapter 2) Lost in Japan#ตามรอยแมวเหมียว Tama, Wakayama#
สวัสดีค่ะทุกท่าน ต้องขออภัยที่ทำให้รอกันนานน่ะค่ะ กว่าจะรวบรวมข้อมูลและรูปภาพเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1 อย่าลืมไปกดอ่านกันน่ะค่ะ http://pantip.com/topic/32787898
(Chapter 1) Lost in Japan#Osaka,Wakayama,Tottori,Kyoto,Tokyo#2 สาว ตะลุย 5 เมือง กับ 8 วัน 7 คืน ด้วยงบ 40,000 บาท
ตอนที่ 2 นี้ เรามาตามรอยแมวเหมียวทามะกันน่ะค่ะ โดยดาด้าและเพื่อนโอ๋เราเดินทางกันวันที่ 14 ต.ค. 57 ค่ะ เจ้าแมวเหมียวทามะเนี่ย มันคือนายสถานีแมวค่ะ จริงๆดาด้ารู้จักแมวทามะมาจากรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นรายการนึงทาง true vision แล้วเราก็คิดว่า เห้ย!!น่ารักอ่ะ อยากไปดู
แต่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้ายมากค่ะ.....
เอ้าล่ะค่ะเวิ่นเว้อมาเยอะ 555++ วิธีการเดินทางไปหาเจ้าแมวเหมียวทามะน่ะค่ะ พวกเราเริ่มต้นการเดินทางจากสถานี shin-osaka นั่งรถไฟสาย LTD. EXP KUROSHIO 3 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงน่ะค่ะ สามารถใช้ JR PASS เดินทางได้ค่ะ ไปลงที่สถานี Wakayama จากนั้นเราก็นั่งรถไฟสาย Wakayama Electric Railway ไปลงสถานี Kishi station (อ่านว่า คิชิ น่ะค่ะ ดาด้าเป็นกะเหรี่ยงไปอ่านว่า ไคชิ ค่ะ ทำเอาเจ้าหน้าที่งง 555) ประมาณ 30 นาที ค่ะ ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่มต่างหากน่ะค่ะ
ซึ่งรถไฟสายนี้จะมีหลายแบบด้วยกันค่ะ ทั้งลายสตรอเบอรี่ ลายแมวทามะ ลายน้องหมา(คาดว่าน่าจะต้อนรับกีฬาปี 2015 รึเปล่า)
ไม่ต้องกลัวว่าจะหาทางไปต่อรถไฟไม่เจอน่ะค่ะ พอถึงสถานี Wakayama ปุ๊ป เราจะเห็นรอยเท้าแมวเหมียวทามะนั่นแหละค่ะ เราเดินตามรอยเท้าแมวไปเลยค่ะ เลี้ยวขวาตามขึ้นบันไดไปน่ะค่ะเราจะเจอนายสถานีค่ะ เราก็สามารถไปซื้อตั๋วที่นั้นได้เลย พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยค่ะ ด้ากับเพื่อนก็พูดแค่ Tama dencha แค่นั่นเขาก็เข้าใจแล้วค่ะ แล้วนายสถานีก็เอากระดาษภาษาอังกฤษมาให้เราอ่านค่ะ 555++ เป็นบริการที่น่ารักดีค่ะ คือเขาจะให้เราเลือกว่าเอาตั๋วแบบเที่ยวเดียวราคา 370 เยน หรือไป-กลับแบบ 1 day pass คือเราจะขึ้นลงที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ พวกเราจึงตัดสินใจซื้อตั๋วแบบ 1 Day pass มาเลยค่ะ ราคา 720 เยน
จริงๆแล้วถ้าคนไหนมีเวลาว่างทั้งวันหรือยิ่งมาเป็นครอบครัวมีลูก หากมานอนค้างที Wakayama รับรองว่ามาเที่ยวตรงนีคุ้มมากค่ะ เพราะระหว่างสถานีจะมีสวนน้ำให้แวะด้วยน่ะค่ะ มีสวนสตรอเบอรี่ให้เก็บ โอ๊ยยสารพัดกิจกรรมในเส้นทางนี้ค่ะ ส่วนรูปด้านล่างนี้เป็นบรรยากาศภายในรถไฟแมวทามะค่ะ
ถึงแล้ววววววววววววว สถานีKishi ค่ะ ขนาดหลังคายังเป็นหูแมว น่าร๊ากกกกกกกกกกกฝุดๆ
ที่สถานี เจ้าแมวเหมียวจะนอนอยู่ในตู้แบบนี้ค่ะ แบบว่าผิดคลาดดดมากกก ไหนล่ะแมวนั่งใส่หมวก คุณหลอกดาวววววว!!
เมื่อไม่มีแมวใส่หมวก งั้นเราขอใส่โชว์เองค่ะ 555++ ที่สถานีจะมีเสื้อนายสถานีและหมวกแขวนไว้ที่ออฟฟิศ ซึ่งเราสามารถนำมาใส่ถ่ายรูปได้ค่ะ
ฝั่งออฟฟิศแมวจะมีตารางบอกเวลาการทำงานของแมวเหมียวค่ะว่ามีวันไหนมั้ง แหม่!!เหมือนคนเลยน่ะแกมีวันหยุดด้วย เพื่อนๆก็อย่าลืมตรวจเช็คตารางการทำงานของเจ้าแมวทามะกันด้วยน่ะค่ะ
เอ้าล่ะค่ะเล่าสู่กันฟังแบบเล็กๆน้อยๆ จริงๆตามแพลนเที่ยววันที่ 14 ตอนเย็นเราต้องไปเที่ยวตึก Umeda Sky Building กันค่ะ แต่ด้วยความที่วันที่ 13 เราลงเครื่องที่สนามบินคันไซแล้วกระเป๋าของเพื่อนโอ๋ตกหล่นไป ตอนเย็นเราจึงไปเดินซื้อเสื้อผ้า ครีมทาผิว และถุงน่องกันหนาวกันค่ะ ถ้าเพื่อนๆคนไหนไปพักแถวย่านชินโอซาก้า แนะนำให้ไปเดินเที่ยวในสถานีรถไฟได้เลยน่ะค่ะ ใหญ่มากกกกกกกของกินเยอะแถมถูกด้วยไม่แพงมากค่ะ
อ่อตบท้ายดาด้าถ่ายรูปโรงแรม Shin-osaka station hotel Honkan มาให้ดูกันด้วยน่ะค่ะ เวลาเดินตามหาโรงแรมระวังไปผิดที่น่ะค่ะ เพราะฝั่งตรงข้ามสถานีมีโรงแรมชื่อ Shin-osaka Hotel ซึ่งพวกเราก็ไปมาแล้ว แป่ววววววว!!! 555++ เป็นกะเหรี่ยงอีกแล้ว เวลาเดินออกจากสถานีน่ะค่ะให้ออกมาทาง east exit ค่ะ ถ้าใครมีกระเป๋าเดินทางก็จะมีลิฟท์ฝั่งขวามือข้างบันไดค่ะ พอเดินออกมาแล้วเราจะเจอแยกที่มีร้านกดตู้ข้าวหน้าเนื้อแบบนี้ก็ให้เลี้ยวขวาไปค่ะ
เดินตรงไปเรื่อยๆค่ะ จะผ่านร้าน Lawson ผ่านสะพานลอย จนถึงแยกที่มีป้ายแบบนี้ค่ะ
พอเราเดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปเราจะเจอป้ายแบบนี้น่ะค่ะ ทีนี้เราก็ดูค่ะว่าโรงแรมที่เราจองมามันชื่อลงท้ายด้วย Annex หรือ Honkan น่ะค่ะ แต่ทั้ง 2 โรงแรมเป็นเครือเดียวกันน่ะค่ะ
นี่คือโรงแรมหน้าโรงแรมที่เราเห็นค่ะ เดินเข้ามานิดเดียวค่ะ ระยะเวลาเดินจากสถานีประมาณ 5 นาทีค่ะ เดินชิวๆ สบายมากค่ะ
และรูปภายในห้องพักน่ะค่ะ เราพักที่นี้กัน 2 คืน ราคาทั้งหมดรวมอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นอยูที่ 14,920 เยน เงินไทยแลกได้ 0.30 บาทตกอยู่ที่ 4,476 บาทค่ะ
ขวดสีฟ้าที่แขวนอยู่ตรงนั้น มันเอาไว้ฉีดเสื้อผ้าค่ะกันอับชื้นค่ะ เป็นกลิ่นชาเขียวค่ะ หอมมากกกกกกกกก
อาหารเช้าที่โรงแรมรวมอยู่ในค่าห้องแล้วค่ะ แต่จะมีให้เราเลือก 2 แบบคือ แบบตะวันตกและแบบญี่ปุ่นค่ะ พวกเราเลือกแบบญี่ปุ่นทั้ง 3 วันเลยค่ะ เขาก็จะให้เรามา 1 เซตแบบนี้ แต่เราสามารถตักข้าว น้ำซุป ชา กาแฟ นม น้ำส้มได้ไม่อั้นค่ะ ขอบอกว่ากาแฟอร่อยมากน่ะค่ะ!!!
ส่วนนี้คือวิวจากห้องนอนพวกเราค่ะ เพื่อนๆหลายคนอาจจะคิดว่ามันเสียงดังใช่มั้ยค่ะ ไม่เลยค่ะ เงียบมากกกกกกกกก กระจกกั้นเขาหนาและดีจริงๆค่ะ
นั่นในภาพที่เห็นคือสะพานเขียวๆที่บอกว่าให้เดินเลยมาค่ะ
Part 2 ขออณุญาตจบเพียงเท่านี้ค่ะ อย่าลืมติดตามชมใน part ต่อๆไปน่ะค่ะ ตอนหน้าเราก็ยังคงอยู่ที่โอซาก้ากันค่ะ แต่เราจะพาไปเที่ยว Tottori ที่ Conan Town กันน่ะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ชื่อสินค้า: Osaka - JAPAN
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น