วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ลองเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว 6 วัน ลุยฟูจิ-ใบไม้แดง-แฮร์รี่ บิน Thai AirasiaX ถึง Osaka ดึก แนะนำวิธีเข้าเมือง




     ยิ้ม สวัสดีครับ พอดีผมพึ่งกลับจากการ Backpack เที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว ช่วงเทศกาลใบไม้แดง เลยอยากลองแวะมารีวิวกับเค้าบ้าง หัวเราะ   ผมเป็น First Jobber ครับ อายุ 23ปี  ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นรอบที่ 2 ซึ่งรอบแรกผมพาแม่กับน้องสาวไปด้วย แต่รอบนี้ขอลุยเดี่ยว ไปตามใจเลยแล้วกัน สถานที่ที่ไปอาจจะไม่มีบางที่ที่ฮิตๆ เพราะผมเคยไปมาบ้างแล้ว ก็จะขอข้ามไปละกันนะคับ

         เริ่มแรกเลย ผมได้จองตั๋วบินตรงไปกลับ โอซากา ของ Thai AirasiaX มา 7,8xx บาท  ซึ่งเป็นไฟลท์ที่ขาไปโหดไปหน่อย คือเดินทางช่วงเย็นถึงโอซากา ดึกมาก  หลายคนคงเลือกที่จะนอนสนามบิน  แต่ผมเลือกที่จะเข้าเมืองครับ เดี๋ยวจะมาบอกวิธีการ ;)   
         สถานที่ที่จะไป ผมไม่ได้วางแผนอะไรตายตัวเท่าไหร่ แค่นึกไว้ว่าอยากจะไปเมืองไหนวันไหน  ก็จองโรงแรมใกล้ๆสถานีรถไฟทิ้งเอาไว้ พอไปถึงที่นั่นแล้วอยากไปไหนต่อก็ลุยเลย  ที่ผมวางคร่าวๆไว้ก็ประมาณนี้ครับ

12 พ.ย. 57 - ออกจากประเทศไทย ถึงโอซากา  22.40 ขึ้นรถไฟเข้าเมืองไปนอน นัมบะ (เอาเข้าจริงๆเครื่องดีเลย์มากๆ)
13 พ.ย. 57 - โอซากา – ยูนิเวอแซล ( อยากไปแฮร์รี่ ^^ )
14 พ.ย. 57 - เกียวโต – ตะลุยใบไม้แดง  แล้วนั่งชินคันเซ็นไป โตเกียวตอนเย็นๆถึงดึก
15 พ.ย. 57 - คาวากูชิโกะ – ฟูจิซัง    เย็นๆกลับโตเกียว
16 พ.ย. 57 - โตเกียว - โยโกฮามา – กลับโอซากา ถึงค่ำๆ
17 พ.ย. 57 โอซากา จนถึง 2ทุ่ม  เดินทางกลับสนามบิน  
18 พ.ย. 57 ถึงประเทศไทย

         หลายคนเห็นแผนแบบนี้อาจจะพูดว่า เหนื่อยไปไหม แค่ 6วัน ไปทำไมหลายๆเมือง   สำหรับผมผมว่าการเดินทางเยอะๆมันเหนื่อยแต่คุ้มค่ามากๆคับ ขายังไหวยังไงก็ต้องไปให้ถึง ยิ่งทำงานแล้ววันลาน้อยๆอยู่ด้วย
         สำหรับทริปนี้ค่าเสียหายประมาณ 30,xxx บาท ( ค่าตั๋วเครื่องบิน 7,8xx + JR PASS 8,250 + โรงแรม 5 คืน รวมประมาณ 3,xxx เลือกนอนโรงแรมแคปซูลทุกวันเพราะสะดวกและประหยัดมากๆครับ + ค่าเดินทางอื่นๆ +ค่ากิน+ค่าช้อป )  ก็ถือว่าไม่สูงมาก เพราะผมพยายามเซฟเงิน ไม่ค่อยมีตังน่ะ แหะๆ
     อุปกรณ์ในการลุยคนเดียวครั้งนี้ ได้แก่ ไม้ selfie ไปยืดๆให้คนญี่ปุ่นตกใจ / กล้อง Digital Sony RX100iii / กล้อง iphone



เริ่มออกเดินทางกันเลยละกันนะ ....
     12 พ.ย.57  เดินทางออกจากบ้านมายังสนามบินดอนเมือง  วันนี้เราจะเดินทางโดยสายการบิน Thai AirasiaX บินตรงสู่กรุง Osaka ประเทศญี่ปุ่น   เครื่องออกเวลา 15.20 ถึง 22.40  ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น    ผมได้ทำ web check in  และปริ้น Boarding pass มาจากบ้านเรียบร้อยแล้ว  มาถึงสนามบินก็เดินเข้า ตม. ได้เลย  

ทางออกขึ้นเครื่องวันนั้นอยู่ Gate 15  ภายในเกทไม่มีห้องน้ำนะครับ เข้าให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปข้างในเกทนะ



เครื่องบินที่จะพาเราไปยัง Osaka วันนี้ พึ่งเข้ามาจอดเทียบท่า

บริเวณที่นั่งรอภายในเกท เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องจะเดินลงไปตามทางด้านขวา

ภายในบริเวณที่นั่ง economy class  เป็นแบบ 3-3-3  ยกเว้นด้านหลังสุดจะเป็น 2-3-2  

ที่นั่งของผมครับอยู่ด้านหลังเลยเป็นที่นั่ง 2-3-2   

ออกเดินทางแล้ว


ไฟลท์นี้เดินทางช่วงเย็นถึงดึก ที่นั่งติดหน้าต่างก็จะได้ชมวิวแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในระหว่างการเดินทางด้วย

อาหารลอยฟ้ามื้อนี้เป็นข้าวกระเพราไก่สั่งจากเว็บก่อนเดินทาง ราคา 150บาท แถมน้ำเปล่า1ขวด  อร่อยดีคับ  เสริฟหลังจากเครื่องขึ้นไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง

บินไปกลางหมู่ดาว  


ถึงท่าอากาศยาน Osaka Kansai แล้วครับ  วันนี้เครื่องดีเลย์ไปเกือบชั่วโมง  ต้องเตรียมวิ่งแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟเข้าเมืองรอบสุดท้าย

เมื่อเดินออกจากเครื่องแล้ว ต้องเดินไปขึ้นรถไฟสนามบินไปยังอาคารผู้โดยสารขาเข้าครับ รถไฟวิ่งรับส่งตลอดไม่ต้องรีบก็ได้  แต่ผมรีบสุดๆกลัวไม่ทันรถไฟเข้าเมือง -0-  

พอมาถึงก็จะเจอป้ายต้อนรับป้ายนี้ครับ ลงไปก็จะเจอ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งห้ามถ่ายรูปแล้ว   
พอออกจาก ตม ก็จะเป็นทางเดินไปรับกระเป๋า  หากใครไม่ได้โหลดกระเป๋าเช่นผม ก็รีบพุ่งไปยังทางออกเลยครับ โดยบริเวณทางออกจะมีเจ้าหน้าที่มาชวนคุยนิดหน่อย ก็ถามพวกกลับวันไหน มากี่วัน มาทำอะไร ประมาณนี้  พอผ่านมาแล้วผมก็รีบเดินออกเลยครับ   

    เมื่อออกมาแล้วเราจะอยู่ชั้นล่างของอาคารสนามบิน   หากใครจะไปขึ้นรถไฟเข้าเมือง จากทางที่เดินออกมา จะมีบันไดเลื่อนอยู่ด้านซ้าย ให้ขึ้นไปชั้น 2   จากนั้นเลี้ยวขวาจะเจอสะพานเดินไปยังอาคารสถานีรถไฟ คราวนี้ก็เลือกเลยครับว่าจะใช้บริการของเจ้าไหน  ของผมไฟล์ทที่มา Delay มากๆ เหลือรถไฟรอบสุดท้ายเป็นของ Nankai ไปยัง Namba  ผมจึงรีบวิ่งไปซื้อตั๋วแล้วรีบลงไปขึ้นรถไฟเลยครับ

ขึ้นบันไดเลื่อนมา เลี้ยวขวา เดินข้ามสะพาน จะเจอสถานีรถไฟแบบนี้

ด้านซ้ายเป็นที่ซื้อตั๋ว สีส้มของ Nankai สีเขียวของ JR

เมื่อได้ตั๋วแล้วก็เข้ามายังสถานีตามเจ้าที่ใช้บริการเลยครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

รอบที่ผมขึ้นทันวันนั้น ทันรถไฟรอบ 23.40 พอดี  ไม่งั้นต้องรอถึงตี 5แหนะ ( อันนี้เช็ครอบรถไฟจาก http://www.hyperdia.com/en )

หน้าตาตั๋วรถไฟ ไปนัมบะ 920Yen   ถูกกว่า ไนท์บัสซึ่งราคาประมาณ 1500yen

บนรถไฟรอบสุดท้ายมีผู้โดยสารอยู่แค่ไม่กี่คน เหมือนไฟล์ทผมจะไม่มีใครมาเลย แหะ

ระยะเวลาก็ประมาณ 1ชั่วโมงครับ

ถึงสถานี Namba แล้วครับ ^^  ใครพักที่ไหนยังไงก็เดินทางตามสะดวกเลย ด้านหน้าสถานีมีจุดเรียกแทกซี่ได้  สำหรับผมเดินต่อไปยังโรงแรมครับ  ประมาณ 1 กิโลเมตร  เดินชิวๆอากาศหนาวๆ

การเดินไปโรงแรม ถึงแม้จะดึก เรายังมีเทคโนโลยีเป็นที่พึ่งที่สุดยอด หัวเราะ

ถึงแม้จะตี 1 แล้ว แถวๆโรงแรมย่านนัมบะก็ยังคึกคักอยู่


ถึงโรงแรมแล้วค้าบ นอนโรงแรมแคปซูลครั้งแรกอยากจะรู้จริงๆเป็นยังไง

เมื่อเข้ามาในโรงแรม อย่างแรกเลย เราต้องถอดรองเท้าเอาไปเก็บในตู้ก่อนแล้วนำกุญแจตู้เก็บรองเท้ามาฝากไว้ที่เค้าเตอร์คับ พอเช็คอินเรียบร้อยก็จะได้กุญแจลอคเกอร์ไว้เก็บของซึ่งจะอยู่ในชั้นที่เราพัก

ถึงแล้ว รู นอนของผม

ความกว้างสำหรับผมก็นอนสบายๆนะ แต่ถ้าคนอ้วนๆหน่อยน่าจะลำบาก  ภายในมีทีวี นาฬิกาปลุก ช่องเสียบปลั๊กไฟ   
สำหรับสิ่งนึงที่ผมคิดไว้ผิดก็คือ ตรงที่ปิดแคปซูลของเรา ตอนแรกนึกว่าว่าจะเป็นพวกกระจกพลาสติก แต่จริงๆแล้วเป็นแค่ผ้าม่านดึงลงมาปิดเฉยๆครับ  ดังนั้นไม่เก็บเสียงแน่นอน ใครนอนกรน หรือคุยกันก็ได้ยินหมดครับ    แต่อย่างว่าเรามาอาศัยแค่นอนหลับเนอะ แพลนเที่ยวแน่น ออกเช้าทุกวันเลยไม่ได้คิดอะไรมาก   สำหรับผมโรงแรมแคปซูลเป็นอะไรที่ประหยัด สะดวกสบายใกล้ที่เที่ยวมากๆ นอนหลับสนิททุกคืนเหมือนกันนะ

แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ.... ไปโรงเรียน Hogwarts  ที่ Universal Studio Japan
ชื่อสินค้า:   AirAsia X คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น