วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แชร์ประสบการณ์การไปทัวร์แม่ค้าซื้อของที่จีนค่ะ

สวัสดีค่ะ พอดีช่วงนี้ทำงานเยอะ วุ่นวายมาก เลยอยากทำอะไรอย่างอื่นบ้าง ก็เลยแวะมาแชร์ประสบการณ์ทัวร์แม่ค้าที่ไปจีนมาดีกว่า

เราขายของออนไลน์เป็นงานหลักค่ะ เคยเขียนกระทู้เกี่ยวกับขายของออนไลน์ไปแล้ว 2 กระทู้

อันนี้ http://pantip.com/topic/32843327

กับอันนี้ http://pantip.com/topic/32832563

เข้าเรื่องเลยนะคะ เราขายพวกของเล่นวัยรุ่น ของเล่นแฟชั่นอะไรประมาณนี้ค่ะ ขายมาปีกว่าๆ แล้ว เริ่มสั่งสินค้าล๊อตแรกก็สั่งจากเถาเป่า แล้วค่อยขยายมาสั่งที่ alibaba ค่ะ

แล้ววันนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้ เกิดอยากจะลองไปจีนขึ้นมาซะอย่างนั้น เรารู้สึกว่า เราขายมานานแล้ว ยังไม่เคยไปสัมผัสของจริงเลย วันนั้นก็จองเลยค่ะ ทัวร์แม่ค้าใน FB (เราเคยหาข้อมูลเอาไว้นานแล้ว) โดยที่เค้าจะพาไปกวางเจาค่ะ เค้าบอกว่ากวางเจาเป็นเหมือนตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดของจีนเลย มีทุกอย่างในโลกรวมอยู่ที่นี่ (อันนี้เราติดไว้ก่อน มีอะไรจะบอกตอนสุดท้ายสำหรับเรื่องนี้)

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่ได้มีรูปถ่ายอะไรยืนยันได้เลย เพราะเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป และที่สำคัญคือไปคนเดียวด้วย แล้วก็ไม่คิดว่าจะเอามารีวิวอะไรด้วยอ่ะค่ะ แต่เราสาบานว่าเราไปมาจริงๆ นะ 555

ราคาทัวร์ : ราคาปกติ 23,000 บาท แต่เราไปคนเดียว ขอนอนคนเดียว เลยต้องออกเพิ่มอีก 3,000 บาท รวมเป็น 26,000 บาท (ไปคนเดียวเพราะแฟนต้องอยู่ดูแลลูกค้า ตอบแชท ตอบไลน์ แล้วเค้าไปก็คงช่วยเลือกไม่ได้ด้วยล่ะ อย่าไปเลย เปลือง 555) ราคานี้รวมอาหาร 5 หรือ 6 มื้อเนี่ยแหล่ะค่ะ จำไม่ได้ แต่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กับเย็นเท่านั้น อาหารกลางวันต้องหาทานเอง เพราะว่าลักษณะทัวร์คือเค้าจะให้ไกด์ส่วนตัวมาคนนึง แล้วปล่อยฟรีทั้งวันเลย ตอนนั้นเราจะอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ หาทานเองจะสะดวกกว่ามากๆ ค่ะ ส่วนน้องไกด์ก็พูดไทยได้ ไม่ชัดมาก แต่ก็สื่อสารรู้เรื่องทีเดียว (ค่าอาหารกลางวันของไกด์ก็ต้องออกให้ด้วยนะคะ) อ่อ แล้วก็ค่าโรงแรม โรงแรมของที่นี่ก็โอเคค่ะ ชื่อว่าลิโด้ เก่าหน่อย แต่ว่าก็สะอาดสะอ้านดีค่ะ น่าจะราวๆ นี้ค่ะ สำหรับเรื่องค่าใช้จ่าย

เราเดินทางวันที่ 10-13 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วยสายการบินเคนย่าแอร์ไลน์ ทัวร์นัดเที่ยง เครื่องออกบ่ายสอง ถึงกวางเจาประมาณกี่โมงจำไม่ได้ค่ะ แต่เป็นเย็นๆ บ่ายๆ ละอ่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วก็เดินทางด้วยรถบัสไปที่โรงแรมอีก ไปถึงก็ทานข้าวเย็นที่โรงแรม และสำหรับลูกค้าใหม่เค้าจะมีอบรมการส่งของผ่านชิปปิ้ง หรือแหล่งต่างๆ ว่าเราจะซื้อไอ้นี่เราต้องไปที่ไหน ควรจะแพคของยังไง เขียนใบปะหน้ายังไง ข้อมูลพวกนี้ล้วนเป็นประโยชน์ค่ะ ใครมือใหม่เราแนะนำเลยค่ะ หัวหน้าทัวร์เค้าดูมีความรู้ดีค่ะ ไม่กั๊กด้วย จากนั้นก็แยกย้ายกันไปนอนค่ะ วันที่ 10 ตุลาคมก็จบเท่านี้

วันที่ 11 ตุลาคม
เราตื่น 7 โมง มาทานข้าวเช้าของโรงแรมตอน 8 โมง แน่นอนว่ามีแต่ผักต้ม อาหารจืดๆ กินกับซีอิ้วขาว แต่เราไม่ค่อยเรื่องมากก็ ก็กินได้ แล้วก็ลงมาเจอไกด์ตอน 9 โมง เพราะตึกที่เราจะไปมันเปิด 9 โมงค่ะ ของเราขายพวกของเล่น ของแฟชั่น เราก็จะไปตึกหว่านหลิ่ง (One Link) ซึ่งโชคดีมากว่ามันอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 10 นาทีแท๊กซี่เท่านั้น

หมายเหตุ : กรุณาอย่าถามถึงโซนอื่น เราไม่ได้ไปไหนเลยค่ะนอกจากหว่านหลิ่งนี่ เราไม่สามารถตอบได้ว่าจะซื้อกระเป๋าต้องไปที่ไหน เสื้อผ้าต้องไปที่ไหน เพราะเราไม่ได้ไปเลยซักที่ค่ะ แต่ว่าสามารถหาในกูเกิ้ลได้ค่ะ มีเยอะแยะ

ก่อนไปเราก็หาของที่เราต้องการปริ๊นใส่กระดาษไป ว่าอยากได้แบบนี้ๆ ไกด์เค้าก็จะพาไปดูค่ะ แต่เราก็ไม่ค่อยจะเจอหรอกนะ บางอย่างเค้าก็หมดไปแล้ว บางอย่างก็เก่า ไม่ผลิตแล้วอะไรประมาณนี้ แล้วคือเรารู้สึกแปลกๆ นะ คือว่าจะ fail มั้ยมันก็ไม่ขนาดนั้น แต่ว่าเรารู้สึกโคตรเหนื่อย คือเราไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายอะไรเยอะๆ ได้ ทำอะไรก็ช้า ไม่ชอบขยับตัวเลย เราจะเป็นคนคิดเร็ว คิดไว สมองโลดแล่นในการคิดงานมาก และเราถนัดการหาสินค้าทางเน็ตมากกว่า เราคล่องมากที่จะใช้เน็ตค้นหาอะไร แต่มาที่นี่ เราต้องเดินเยอะมาก มันมี 2 ตึก เราก็ต้องเดินทั้ง 2 ตึก แล้วตึกนึงมีตั้ง 6 ชั้น เราก็ต้องเดินให้หมด (คือเราก็อยากเห็นของไง) แล้วสรุปคือไอ้ที่เราเดินๆ ดูทั้งหมดนั่นในเน็ตมีหมดทุกอย่างเลย... บางอย่างที่นี่ไม่มีด้วยซ้ำ แต่ในเน็ตมี

สรุปคือวันแรกเราก็ไม่ค่อยได้อะไรกลับมามาก เพราะเราลองเดินดูทั่วๆ ก่อน และก็ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้ออะไรดี คืนนั้นก็เลยกลับไปไลน์หาแฟนเพื่อปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี คืนนั้นก็ทางข้าวที่โรงแรม (เค้านัด 6 โมงเจอที่โรงแรม) หลังจากทานข้าวเสร็จเค้าก็พาไปถนนคนเดิน เราจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่มันอยู่แถวๆ ตลาดกระเป๋าอ่ะค่ะ

หมายเหตุ : เราเปิด roaming ของซิมที่ไทยไปนะคะ เพราะที่นู่นเล่นไลน์เล่น fb ไม่ได้เลย เราก็เลยเปิดแบบเติมเงินไป 5 วัน unlimited สัญญาณก็โอเคดีค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น