วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

(CR) เที่ยวภูเก็ตวันฝนพรำ สองขาเดินมันส์ ทริป 2 วัน 1 คืน

เพิ่งกลับจากทริปภูเก็ต เมื่อวันที่ 6-7 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นทริปที่แปลกใหม่ เหนื่อยแต่สนุกมาก ไปเที่ยวก็หลายที่ แต่เพิ่งรีวิวที่นี่ที่แรกในพันทิพ ต้องรีบรีวิวก่อนที่จะขี้เกียจแล้วนานจนเกินไปเหมือนทริปอื่นๆ เที่ยวทะเลหน้าฝน ไม่คิดว่าจะเที่ยวทะเลหน้าฝนเลย คิดเข้าข้างตัวเองตั้งแต่เริ่มจองตั๋วแล้วว่า ตุลาฝนคงไม่ตกแล้วล่ะเนอะ แต่ 1 คืนก่อนเดินทาง เข้าไปเช็คอากาศซะหน่อย ตายละว้า 5-7 เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนฤดูฝนเข้าฤดูหนาว จะมีฝนตก แถมยังเฝ้าระวังภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดเลย คิดต่างๆนาๆ ไฟท์จะยกเลิกไหม อากาศที่นั้นจะเลวร้ายแค่ไหน แต่ไหนก็จองแล้ว กระเป๋าก็เก็บแล้ว ก็คงต้องไปกันสักตั้ง คิดได้ดังนั้นก็วาปไปดอนเมืองทันที เดินทางกับพี่หางแดงเจ้าประจำ สอยโปรดอนเมือง-ภูเก็ต 790 บาทมา คนบนเครื่องเยอะมาก เริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อย เอาฟ่ะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเยอะแยะไปฝ่าฝนด้วยกัน ไปถึงสนามบินภูเก็ตฝนไม่ตก ก็แอบดีใจ เฮ้ย เรายังมีโชคอยู่บ้าง แต่ไม่เลย ขึ้นบัสเข้าในเมืองได้แปบเดียวฝนเทกระจาดมาแบบไม่ยั้ง ใจแป๋วเลย รถบัสสีส้มเข้าในเมือง ราคา 90 บาทต่อคน ออกจากสนามบินเลี้ยวซ้ายไปเลย จะเจอพี่ส้มจอดนอนนิ่งสนิทเหมือนรถเสียรออยู่ ใช้เวลาจากสนามบินถึงบขสในเมืองประมาณ 1.30ชม. ถึงตัวเมืองปุ๊บนั่งคิดปั๊บไปกินข้าวที่ไหนดี ตอนนั้นประมาณ10โมง ร้านอาหารเช้าที่ว่าดังๆ ของก็หมดเก็บร้านกันแล้ว เลยหารีวิวในแอพ จบลงที่ร้านหมี่อ่าวเก ได้จุดหมายปุ๊บ เดินปั๊บเลยจ้า ไม่ง้อมอไซต์หรือรถใดๆ ถือว่าชมวิวเมืองไปในตัว ดูแผนที่จนเปื่อย เพราะฝนตกลงมาเป็นระยะ ฝนที่นั้นอารมณ์แปรปวนมาก ตก10นาทีหยุดบ้าง 2 นาทีหยุดบ้าง เอาใจไม่ถูก บ้างก็แดดออกสลับกันไป เจ๋งอ่ะ หมี่ที่นั้นอร่อยดี แคปหมูกรอบกรุบกรับ ซัดหมดในเวลาอันรวดเร็วเพราะหิวมาก แล้วก็ออกเดินทางต่อ เพื่อไปที่พักกัน ถามลุงเจ้าของร้านเสร็จสรรพว่าไปหาดขึ้นรถที่ไหน ก่อนจะเข้าที่พัก ขอไปหาร้านกาแฟดูดสักจ๊วบแก้กระหายสักหน่อย ร้านที่ใครๆก็พูดถึงกันคือ โกปี้ เดอ ภูเก็ต รอช้าอยู่ใยรีบเดินไปโดยเร็ว สั่งกาแฟโกปี้อูเล้งๆอะไรสักอย่าง ก็คือกาแฟใส่นมเนี้ยแหละกะอีกแก้วคือชาผสมโกปี้ กาแฟ 35 บาท กาแฟผสมชา 60 บาท ลองชิมรสชาติไม่ต่างกันมาก แต่ชอบแพจเกจที่ทำคล้ายชานมไข่มุก ถือยังไงก็ไม่หก ยกเว้นทำแก้วคว่ำ ซื้อของฝากนิดหน่อยแล้วไปกันต่อ รถสองแถวจากเมืองไปหาดอยู่ที่ตลาดแถวถนนระนอง ราคาคนละ 35 บาท สำหรับหาดกะตะ กะรน รถมันจะวิ่งไปเส้นถนนปฏักแล้วค่อยอ้อมไปถนนหน้าหาด ใช้เวลาประมาณ 30-1 ชั่วโมงได้ ไปถึงก็งงเป็นไก่ตาแตก เพราะไม่รู้ว่าจะลงตรงไหน ตรงไหนคือหาดกะตะ ทำไมฉันไม่เจอทะเล ตะโกนถามโชเฟอร์ โชเฟอร์บอกยังไม่ถึง นั่งไปสักพักจนเริ่มเห็นคำว่าหาดกระรน คิดในใจตายล่ะว้า เลยแล้วแน่ๆ รีบลงรถทันทีกว่าจะรู้ตัวก็ซอยปฏัก 12 รีบเปิดกูเกิ้ลแมปหาทิศทางด่วนๆ เคราะห์ซ้ำกำซัด ฝนเทลงมาห่าใหญ่ ติดฝนกะคุณลุงที่นุ่งแค่ผ้าขาวม้าตัวเดียว ร้องเพลงเสียงดังอย่างสบายใจ พอฝนเริ่มซานิดก็ลุยทันที เห็นป้ายนี้ถึงกับน้ำตาจะไหล ถึงซะที เพราะมันเหนื่อยโฮก อยากอาบน้ำสุดๆ สำหรับที่พักหารีวิวอยู่นาน คิดแล้วคิดอีก จนมาลงเอยที่โรมแรมนี้ด้วยเพราะว่ามันเพิ่งเปิด และมีห้องที่ลงสระน้ำได้ด้วย จองห้อง pool access+อาหารเช้า 2 ที่ ฟรีมินิบาร์ ราคา 1900 บาทจองผ่านเฟสบุ๊คไป หน้าซอยมี 7 และ pizza หน้าโรงแรมมีร้านเช่ามอไซต์ ค่อนข้างสะดวกสบายค่ะ ที่ห้องมีไดร์เป่าผมให้อยู่นะคะ สาวๆ จะได้ไปต้องพกไปให้หนัก ที่นั้นมีฟิตเนตให้เล่น มีสระว่ายน้ำบริการ แต่เราไม่ได้เล่นทั้งสองอย่าง คิดไว้เต็มที่ว่าจะไปว่ายน้ำ แต่ในตกตลอดทั้งวัน ไปเที่ยวกลับมาหนาวเหน็บได้แต่มองสระตาปริบๆ อุตส่าห์วาดฝันไว้ว่าจะว่ายน้ำ จิ๊บเครื่องดื่มชิวๆ หลังห้อง ฝันสลายค่ะ พับโครงการเก็บไปเลย เก็บของอาบน้ำอาบท่า เตรียมลุย เริ่มจากเดินไปดูชายหาด (เดินอีกแหละ --") ชายหาดปักธรงแดง คลื่นแรง ฟ้าปิด แต่ลมเย็นดีมาก คือว่าโอเคละน่า สักพักคิดว่าถ้าเรายังขืนเดินแบบนี้ต่อไป คงไปไม่ถึงไหน ไม่คุ้มๆ เลยเช่ามอไซต์หน้าโรงแรม วันละ 250 บาท ได้ 24 ชั่วโมง เลือกรถแล้วลุยโลด หนทางคดเคี้ยว เลี้ยวโหด ยังกะเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ ขับไม่เกิน 30-40 ไปแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ถึงแล้วที่แรก จุดชมวิวสามหาด สวยมาก แม้ฟ้าจะไม่เปิด แต่ก็ชื่นใจนะ แล้วก็ไปกันต่อไปที่แหลมพรหมเทพ จุดมุ่งหมายหลักของภูเก็ตครั้งนี้ ขอให้ไปเห็นสักครั้ง เคยเห็นแต่ในรูป ในปฏิทิน ที่นั้นลมแรงมาก แรงชนิดที่แทบยืนไม่อยู่ เห็นเด็ก ชาวจีน ปีนไปยืนถ่ายรูปแล้วแอบเสียวแทน คือลมมันแรงจริงๆ อย่าหวังจะได้ถ่ายรูปเดียวสวยๆ ผมไปคนละทิศละทาง อยูที่นั้นได้ประมาณครึ่งชม. เริ่มเห็นว่ามีเมฆดำกำลังจะลอยมา เลยรีบเดินทางกลับ กลัวค่ำ กลัวฝนตกหนัก ตกเย็นคืนนั้นฝนตกตลอด เลยกินข้าวเย็นร้านก้อยโภชนาตามคำแนะนำของร้านเช่ามอไซต์ สั่งกระเพรารวมมากินเผ็ดจนน้ำตาไหล พริกอะไรเผ็ดๆ เผ็ดจนกินไม่หมด คือกินไปดิ้นไป วันนี้จบลงที่กลับไปนอนแผ่หมดแรง เดินทั้งวันเลย ตอนเช้ารีบตื่นเช้ามาทานข้าวเพื่อที่จะไปเลาะแถวๆนี้ต่อ อาหารที่นั้นน่ากินมาก ขนมเยอะสุดๆ แต่ก็กินได้แค่อิ่ม เค้าชิมไม่หมดอ่า เสียดายจัง หลังจากทานอาหารอิ่มแล้วก็แว๊นไปเที่ยวแถวชายหาดแถวๆนี้ซะหน่อย มันชื่ออะไรจำไม่ได้ ชายเล หรือทะเลอะไรสักอย่าง ถ่ายรูปเพลินมาก คลื่นแรงกว่าเมื่อวานแต่ไม่มีลมเลย ดูสักพักก็รีบกลับไปเช็คเอาท์เข้าเมืองไปซื้อของฝากกัน เดินอีกเช่นเคยจากบขสไปร้านต้าวส้อปิยวรรณ ซื้อไส้รวมมาอย่างเดียว กล่องละ 55 บาท ก่อนกลับเกิดลื่นล้ม ได้แผลมา 1 แผล จะกลับอยู่แล้วเชียว ร้านค้าแถวในเมืองนิยมปูกระเบื้องกันเยอะมาก กระเบื้องแล้วพื้นเรียบๆเหมือนที่ปูในบ้านด้วย อุตส่าห์เดินระวังอย่างดี มาลื่นเอาตอนจะกลับ ระวังกันด้วยนะคะ คิดสนามบินหิวข้าวมาก ตอนแรกคิดจะไปกินที่ดอนเมืองที่รอไม่ไหว เดินเข้าร้านการบินไทย ฟาดสะปำ 150 บาท ข้าวผัดน้ำพรักกุ้งเสียบ 130 บาท อิ่มหนำสำราญใจกัน (รู้ว่ามันแพงแต่ก็หิวทำไงได้) เครื่องดีเลย์ไปครึ่งชม. แต่กลับถึงดอนเมืองตามเวลาเป๊ะ ไม่รู้กัปตันทำได้ไง เจออากาศแปรปวน 2-3ที เล่นเอานอนไม่หลับ แอบกลัวลึกๆ แต่ก็ถึงโดยสวัสดิภาพด้วยดี ทริปนี้สั้นมาก แต่ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ เสียดายไม่ได้เจอฟ้าใสๆ ทะเลสวยๆ เลยเห็นภาพสวยๆ แต่ทะเลหน้าฝนก็สวยไปอีกแบบข้างมันนะ แถมยังไม่ดำดีด้วย ฮ่าา (ปลอบใจตัวเองเบาๆ) แล้วเจอกันทริปใหม่นะคะ ยาวไปขออภัย รูปกล้องเลนส์บ้างมือถือบ้างตามสภาพอากาศขณะนั้น ^^ แล้วเจอกันใหม่ภูเก็ต  ยังไม่ได้กินอาหารทะเลที่ราไวท์เลย T-T เสียใจจัง ชื่อสินค้า:   Sugar Marina SURF, Phuket คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว