วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บันทึกการเดินทางสู่บ้านมะกอก


สวัสดีค่ะ เรื่องมันเริ่มที่อยู่ๆ ก็นึกอยากจะไปหาที่พักกายพักใจ จังหวะนั้นเองที่เพื่อนส่งรีวิวบ้านมะกอกในพันทิปมาให้ดู ไอเราก็ปิ๊งเลย ที่นี่แหละ! เมื่ออะไรๆ ลงตัว ก็เริ่มปฏิบัติการจองที่พัก บ้านมะกอกมีที่พักทั้งหมด 8 ห้อง ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากเพราะห้องที่เราอยากไปพักนั้นเป็นหนึ่งในสองห้องที่ว่างอยู่ ห้องพัดลม หมายเลข 7 ด้านหน้าเป็นคลอง ด้านข้างเป็นป่าโกงกาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ด้วยความที่ว่านี่คือทริปแรกในชีวิต ที่ต้องเตรียมการอะไรเอง ความกังวลใจจึงมีอยู่ค่อนข้างมากว่าอะไรๆ มันจะเรียบร้อยดีหรือเปล่า ยิ่งไปกันแค่สองสาวคนรอบๆ ข้างก็ยิ่งเป็นห่วง) ตอนโทรไปจองต้องขอบคุณสำหรับประโยคที่ว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจองให้ครับ” นั่นเป็นความเบาใจแรกสำหรับเด็กๆ อย่างเราที่กำลังจะเปิดโลก(การผจญภัย) และความประทับใจแรกสำหรับบ้านมะกอกกับคำลงท้ายอีเมล “แล้วพบกันครับ” (หลายๆ คนอาจมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ที่ไหนๆ ก็เหมือนกัน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า First Impression นี่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลย)
เมื่อใกล้ถึงวันเดินทางมีตัวเลือกที่มากอยู่ รถตู้ รถทัวร์ เฟอร์รี่ สปีดโบ๊ท เราพยายามลดเวลาในการเดินทางให้มากที่สุด จึงตัดสินใจไปสปีดโบ๊ทซึ่งมีรอบเดียวคือรอบ 9.00 น. ทำอย่างไรจึงจะไปทัน 1) ขับรถไป 2) รถทัวร์  ตัวเลือกแรกเราต้องตัดทิ้งเพราะเพื่อนกลัวรถเสียระหว่างทาง ซึ่งมันคงไม่น่าพิสมัยนักสำหรับผู้หญิงสองคน เป็นอันว่าเราต้องไปรถทัวร์ ทุกอย่างดูเรียบร้อยเราก็จัดการจองเรือ ส่วนรถทัวร์เราแวะไปซื้อตั๋วก่อนวันไป จะได้เลือกที่นั่งและไม่ต้องรีบร้อนนักในวันที่จะออกเดินทาง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราใช้ canon 100D 18-55IS STM สำหรับภาพทั้งหมดค่ะ ชัดบ้างเบลอบ้างเบี้ยวบ้าง หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

9-10 พฤศจิกายน 2557

เรากะเวลาในการเดินทางง่ายๆ ไปด้วย BTS ลงเอกมัย ทางออกที่ 2 เดินขึ้นไปอีกนิดนึงก็ถึงขนส่งแล้ว ข้างหน้ามีเซเว่นให้ซื้อขนมรองท้องระหว่างการเดินทาง ตามกำหนดการ รถจะออก 23.30 น. ของวันที่ 9 และไปถึงที่ขนส่งตราดเวลา 4.30 น. ของวันที่ 10 แต่อะไรๆ ก็ไม่ค่อยเป็นใจนัก หลับๆ ตื่นๆ เราไปถึงที่ตราด 3.45 น. (เราก็อ้าว! เร็วไปไหน) กว่ารถของสปีดโบ๊ทจะมารับไปก็ 7.00 น.) อากาศค่อนข้างเย็น ถ้าไม่มีเสียงจากทีวีก็จะคงจะแอบสยองนิดๆ แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวหรือเปลี่ยวสักเท่าไหร่นัก (แต่สำหรับคนที่ไม่รอรถมารับก็สามารถไปสองแถวได้เลย เพราะพอไปถึงก็มีรถจอดรออยู่ที่ขนส่งแล้ว ทั้งไปเกาะกูด เกาะช้าง หรือตลาด บอกเขาได้)

นั่งๆ นอนๆ กินขนมไปสักพัก ฟ้าก็เริ่มสว่าง ถึงเวลาออกไปเดินเล่นรอบๆ ขนส่งกันแล้ว ขนส่งตราดไม่ได้อยู่ติดถนนหลักที่มีของขายเยอะๆ ต้องเข้ามาอีกซึ่งก็ไกลพอสมควร ด้านข้างขนส่งมีร้านอาหาร(อารมณ์ประมาณศูนย์อาหาร) ทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม เราปล่อยให้เพื่อนไปนั่งกินข้าวเช้า ส่วนเราออกไปเดินเล่นเก็บภาพ อากาศดีๆ แบบนี้ไม่ได้เจอมานานแล้ว








ไม่นานรถก็มารับ พี่สาวที่ดูเปรี้ยวสุดๆ ขับรถสองแถวสีฟ้ามารับพวกเราไปที่ปั๊ม ปตท. เพื่อรับคนอื่นๆอีก จนแปดโมงรถถึงจะออกไปที่ท่าเรือ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากแค่นำ Voucher ให้พนักงาน แต่เราไม่ได้พิมพ์มา ก็เปิดอีเมล์ให้พี่พนักงานดูเลขที่เป็นอันใช้ได้







9.00 น. เรือออก จากพื้นน้ำสีขุ่นๆ กลายเป็นสีฟ้า เข้มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีเขียวมรกต ในที่สุดเราก็มาถึงเกาะกูด สวรรค์แห่งความเงียบสงบ วันที่ผิวทะเลเรียบแบบนี้ใช้เวลาเดินทางเพียง 45-50 นาทีเท่านั้น บ้านมะกอกที่รอคอยไม่ได้อยู่ติดชายหาด ต้องเข้าไปที่คลองยายกี๋ เพียงอึดใจก็เผยให้เห็นบ้านไม้โผล่พ้นมาจากป่าโกงกาง ถึงแล้ว BannMakok The getaway!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ท่าเรือเล็กๆ ประกอบกับน้ำที่ขึ้นช่วงกลางวัน เรือก็ลำใหญ๊ใหญ่ แหม๋ สูงจริงๆ (มองลงไปแล้วอยากจะเป็นลมสำหรับคนที่กลัวความสูงอย่างเรา) ตอนลงทีนี่มีเสียววาบถึงแม้จะมีเก้าอี้ไม้รอรับอยู่ก็เถอะ ไอเรานี่ก็ยืนชั่งใจอยู่สักพัก กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาขาซ้ายหรือขาขวาลงก่อนดี “จับมือผมก็ได้ครับ” เหมือนได้ยินเสียงสวรรค์ ไม่ต้องคิดเยอะ หายใจเข้าลึกๆ แค่ก้าวลงไปก็พอแล้ว ขาก็สั๊นสั้น ตัวก็หนั๊กหนัก ลงไปทีนี่เกร็งกันทั้งคนลงคนรับเลย สุดท้ายก็ถึงพื้นอย่างปลอดภัยโดยที่เก้าอี้ไม่หักแต่อย่างใด


ขยับเข้าไปในส่วนของ Reception ที่ โค-ตะ-ระ น่ารักเลย จัดการกรอกประวัติ สำเนาบัตรประชาชนเรียบร้อย ก็กุลีกุจอจ่ายค่าที่พักส่วนที่เหลือให้สบายใจคนพัก (การไม่มีหนี้เพียงสองสามวันเป็นลาภอันประเสริฐ) Welcome drink ที่นี่เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจ มาพร้อมกับผลไม้เย็นๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นแตงโมกับสับปะรด ไม่ทันได้เก็บภาพแต่อย่างใด สติกลับมาอีกทีทุกอย่างก็ลงไปนอนอยู่ในกระเพาะเรียบร้อยแล้ว หลังจากจัดการกับเครื่องดื่มอันโอชะจนหมดสิ้น พี่ๆ ก็หิ้วกระเป๋าไปส่งที่ห้องพัก ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็รู้สึกเลยว่ามันใช่สำหรับเรามากๆ “พักผ่อนก่อนนะครับ” และทุกๆ คนก็จากเราไป เราพยายามเก็บภาพอย่างมีสติที่สุดก่อนที่จะทำห้องสวยๆ นี้รก












ลมเย็นสบายเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เที่ยงครึ่ง ไอหยา! หิวแล้วหละสิ เดินไปไม่กี่เมตร (เหมือนจะไกล) ก็เป็นโซนของที่รับประทานอาหาร


น้ำเย็นๆ มาเสิร์ฟพร้อมกับเมนูอาหาร มื้อนี้ขอเป็นอาหารจานเดียวก่อน พี่เขาแนะนำว่า เส้นหมี่ผัดผงกะหรี่อร่อย (มันค่อนข้างจะแปลกใหม่มากสำหรับเรา) เลยสั่ง ข้าวผัดกุ้งกับเส้นหมี่ผัดผงกะหรี่กุ้ง


อาหารหน้าตาหน้ารับประทาน กลิ่นหอมๆ นี่ชวนน้ำลายสอมาก อาหารในจานหายไปอย่างรวดเร็ว (ราคาในเมนูอาหารที่นี่ยังไม่รวม Service charge และ VAT นะคะ) ราคามาตรฐานอาหารบนเกาะแต่ก็ยังถูกกว่าแถวสุขุมวิททองหล่อพอตัว

ท้องอิ่มแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านไปเปลี่ยนชุด (ขออนุญาตเรียกว่าบ้านแทนห้องนะคะ มันให้ความรู้สึกแบบนั้นมากกว่า) เตรียมไปน้ำตกคลองยายกี๋ เดินออกไปทางหลังบ้านก็เจอ “พอดี” กับ “ชา” (พอดีสีขาว ชาสีน้ำตาล) ได้เจ้าสองตัวนี้คอยนำทาง ระหว่างทางก็แวดล้อมไปด้วยดอกไม้ใบหญ้า




พอไปถึงปากทาง เอาแล้วสิ ซ้ายหรือขวา พอดีกับชาวิ่งไปทางซ้าย เอาวะ ตามหมาไปดีกว่าอย่างน้อยก็เป็นเพื่อนกัน ต้องขอบคุณทั้งสองตัวค่ะเพราะเขาเดินคอยเราตลอด เข้าป่าผลุบๆ โผล่ๆ จนไปถึงสะพานไม้ที่มีน้ำไหลผ่านข้างใต้ อ้าว! ไม่มีน้ำตก

อ้าว! ชาหายไปไหน โถ่ๆๆๆ ชาลงไปเล่นน้ำแล้วที่แท้ก็พาเรามาที่เล่นน้ำประจำนี่เอง สรุปไปผิดที่ผิดทางไปสักหน่อย แต่ก็โอเคอยู่นะเจ้าหมา!    


ประตูด้านหลังบ้านมะกอก


กลับไปบ้านก็เปลี่ยนกางเกงเตรียมพายเรือออกไปหาด (คายัคที่นี่มีประมาณ 8 ลำ พายได้ตลอดตราบเท่าที่ยังมีแรงค่ะ) ถามพี่ๆ เขาบอกว่าประมาณ 10 นาทีก็ถึงหาด งั้นก็หันหัวเรือออกไปกันเลยค่ะ ไปถึงหาด 10 นาทีพอดี ไม่ได้ลงเล่นน้ำแต่อย่างใด สู้แดดตอนบ่ายสองไม่ไหวจริงๆ หันหัวเรือกลับบ้านแทบไม่ทัน ไปกลับ 20 นาทีพอดีสำหรับมือใหม่หัดพาย ถือว่าออกไปซ้อมมือ ฝั่งหาดเป็นฝั่งที่พระอาทิตย์ตกดิน เพราะฉะนั้นจะเหมาะกับการเล่นน้ำช่วงเช้ามากกว่า
หลังจากนั้นเราใช้เวลาที่บ้านกับการพักผ่อน


ช่วงบ่ายน้ำขึ้น ดอกบัวบานก็บานเต็มที่

ชื่อสินค้า:   บ้านมะกอก เกาะกูด คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว