ปล. อาจจะไม่ใช่ประสบการณ์เกี่ยวกับเมืองบังกาลอทางตรงน่ะครับ
สาเหตุที่ผมออกมาวันนี้ เนื่องจากผมนัดเพื่อนชาวอินเดียออกมาเจอแถว ๆ ตัวเมือง นัด 10 โมงครึ่งครับ
ผมเริ่มต้นการเดินทางวันนี้ โดย มาลงที่สถานีรถไฟฟ้า Swamy Vivekananda (อ่านว่า สวามี่ วิเวกกานันดา) ซึ่งเป็นสถานีที่ 2 ครับ
ขอเกริ่นนิดส์นึงครับ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สถานีรถไฟฟ้า (Namma Metro) เมืองบังกาลอ
เปิดให้ใช้งาน วันแรก ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2011 ซึ่งเป็น section แรก ใน phase ที่หนึ่ง โดยเปิดพร้อมกันทั้งหมด 6 สถานี
1. Baiyyapanahalli - สถานีต้นทาง
2. Swamy Vivekananda - เชื่อมต่อกับ ถนน 80th feet road
3. Indiranagar - เป็น ย่าน ธุรกิจ ของเมืองบังกาลอ
4.Halasulu - N/A
5. Trinity - มี landmark คือ ห้าง 1st MG
6. MG Road - ย่านใจกลางเมืองบังกาลอ
หมายเหตุ : สถานีรถไฟฟ้าในเมืองบังกาลออยู่ระหว่างการก่อสร้างครับ ณ ปัจจุบันให้บริการเพียง 6 สถานี
ปลายทางที่ผมจะไปลงคือ MG Road (Mahatma Gandhi Road) โดนหักเงินจากบัตร 13.6 รูปี(หรือ 7 บาท) ถ้าไม่มีบัตรต้องซื้อเหรียญแบบ MRT ใต้ดินบ้านเรา ราคาเต็มคือ 16 รูปี(หรือประมาณ 8 บาท)
Credit : http://bmrc.co.in/Fares.htm
จากสถานีที่ 2 : Swamy Vivekananda (อ่านว่า สวามี่ วิเวกกานันดา) มายังสถานีปลายทาง (MG Road) ใช้ระยะเวลาประมาณ 15 นาที
ผมมาถึง สถานี MG Road ประมาณ 10:15 น. มาช้าเกินไปหน่อยครับ นัดเพื่อน 10:30 น. ซึ่งยังไม่ถึงเวลา ระหว่างนั้นไม่มีอะไรทำก็เดินเล่นแถวๆ นั้น ถ่ายภาพบางส่วนมาให้ชมน่ะครับ
เริ่มต้นจาก shop แรก Levi shop (ขายกางเกงยีน, เสื้อยีน, รองเท้าผ้าใบ, กางเกงใน, เข็มขัด, ฯลฯ)
ถัดมาก็เป็นถนน brigrete road
เดินมาจนมารู้อีกทีว่า 10:40 น.แล้ว ก็เลยโทรหาเพื่อนซักหน่อย มารู้อีกทีว่า เพื่อนยังอยู่ที่บ้านยังไม่ออกมา !!! ผมลืมไปว่า ประเทศนี้ต้องเผื่อเวลาซักหน่อยเวลานัดกับคนประเทศเค้า 555+
ผมเดินซะเมื่อยเลย !! เลยมาหยุดแวะพักร้านกาแฟประจำเมืองของคนไทย(Mateo)ซักหน่อยมา ส่วนประวัติว่า ทำไมถึงเป็นร้านกาแฟคนไทยนั้น ผมขอให้ท่านอื่นได้มีโอกาสมาเล่าให้ฟังน่ะครับ ผมรู้เพียงว่า มาร้านนี้ทีไร ต้องเจอคนไทยทุกที ^^ ผมว่า ดู ๆ ไปแล้วก็เป็นร้านที่อบอุ่นใช่เล่น (ก็อยู่มาตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด จนมาถึงวันนี้ก็ 2-3 ปีได้แล้วครับ)
วันนี้ผมสั่ง mocha shakerato เป็นเครื่องดื่มที่มีกาแฟน้อยที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มที่ผมชอบ
ได้โอกาส นั่งดูหนังรอเลย กว่าเพื่อนอินเดียจะมาถึงก็ ปาไป 11:30 น. แจ่มเลย !!
พอคุยๆ กับเค้าได้ซักพัก เค้าก็บอกว่า ร้านอาหารแถวๆนี้ เคยกินมาหมดแล้ว อยากไปกินร้านใหม่ๆ บ้าง ให้ผมช่วยคิด ผมก็จัดร้านอาหารนานาชาติ style คนจีนให้เลย
ว่าแล้วก็ออกมากระโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คู่ใจเพื่อนผม และเดินทางไปยังร้านอาหารดังกล่าว
พอมาถึงแล้ว ผมต้องขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายหน้าตึกมาให้ดูน่ะครับ พวกเรารีบข้ามถนนหลังจากจอดมอเตอร์ไซค์เสร็จ ณ เวลาตอนนี้ ก็ปาไป 12:45 น. แล้ว ถือว่า ยังเช้าสำหรับ มื้อเที่ยง ที่เมืองบังกาลอ,ประเทศอินเดียครับ เพราะว่า คนเมืองนี้กินข้าวกัน บ่ายโมงน่ะครับ ส่วนนี้ก็คือ video บรรยากาศภายในร้านอาหาร fatty bao (ต้องขอโทษด้วยสำหรับวิดีโอนี้น่ะครับ ตอนถ่ายนั้น มือมันสั่นๆ และไม่ได้ยกกล้องสูง เลยทำให้เห็น บรรยากาศภายในร้านอาหาร เพียง โต๊ะอาหารกับพื้นร้านอาหารเท่านั้น T^T)
การเดินทาง
สำหรับท่านใดที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถเดินทางมาได้โดย เดินทางมาลงสถานีรถไฟฟ้า indrira nagar และโบกauto ฝั่งตรงข้าม Mcdonald บอก auto ว่า indian bank 80th feet road, ร้านจะอยู่ในซอย 12th main road ลึกเข้าไปอีกประมาณ 290 เมตร
ส่วนการเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์ นั้น ผมใช้ GPS และความคุ้นเคยน่ะครับ จำได้ว่า อยู่ สี่แยก sony ตาม clip ด้านล่างนี้และจัดการเลี้ยวขวาซะ
ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ร้านอาหาร fatty bao ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านอาหารแห่งนี้น่ะครับ ที่ผมได้หยิบขึ้นมา review นั้น เพราะว่า อาหารร้านนี้อร่อย บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างดีมาก(ไม่ให้ เต็ม 10 คือเรื่องเดียวคือ อนุญาติให้คนสูบบุหรี่ที่ระเบียงดาดฟ้า ถึงจะไกล แต่ถ้าบางทีลมพัดแรง ๆ ผมก็ได้กลิ่นครับ) ส่วนการเดินทางมาที่ร้านเรียกว่า ค่อนข้างยากมากๆ สำหรับคนไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
ร้านอาหารมีทั้งหมด 2 ชั้น
1) ชั้น 3 เป็น ห้องอาหารติดแอร์
2) ดาดฟ้า เป็น open-air (วันนี้ผมนั่งดาดฟ้านี่แหละครับ)
เท่าที่ผมเห็นคือร้านอาหารร้านนี้จะมาที่นั่งแบบบาร์และเครื่องดื่มจำพวก เหล้าและ cocktail ด้วย
ส่วนเวลาเปิด-ปิดนั้นตามนี้เลยครับ
กลางวัน 12:00 น. – 15:30 น.
กลางคืน 19:00 น. – 01:00 น.
ส่วนราคาอาหารถือว่า ราคาค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับร้านอาหารอื่น ๆ ในเมืองบังกาลอ แต่ถ้าคิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินไทยแล้ว ก็ตก จาม/ชามล่ะ 200 บาท (ถือว่า ยังเป็นราคาที่ยังแตะต้องได้อยู่ครับ)
มาเริ่มกันที่เมนูออเดริฟ์ ดีกว่า
Vietnamese Sugarcane Chicken หรือ ภาษาบ้านผมเรียกว่า ไก่พันอ้อย (อาหารเวียดนาม)
ตามมา ติด ๆ ด้วย
Ramen : Green Curry chicken katsu (ราเม็งเขียวหวานคัตซึไก่ ผมแปลได้ห่วยมาก T0T)
ส่วนเมนูของเพื่อนผมนั้นเป็น
Chasu (หมู)
ค่าเสียหายมื้อนี้ โดยประมาณ คือ Rs. 1,400 กว่า ๆ (เพื่อนผมเลี้ยงน่ะครับ ผมเลยไม่ได้ดูบิล ประจวบกับจำราคาไม่ค่อยได้) แต่ที่รู้ๆ คือ ราคาต่อชามประมาณ 300 – 500 รูปี(150 – 250 บาท)
ปิดท้ายด้วย
video หลังกินข้าวเสร็จน่ะครับ ว่า คนอินเดียที่นี่ แต่งตัว และ หน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
และภาพประตูห้องน้ำ ชั้นดาดฟ้า (ผมเห็นว่า design สวยดีเลย เอามาฝากให้ทุก ๆท่าน ดูอาจจะเป็น idea สำหรับบางท่านได้น่ะครับ)
ปล. ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มกว่าๆ ประเทศอินเดียแล้ว
mouse ผมที่ใช้ก็ดีเกิน
จะลื่นขึ้นลง
ดันลื่นไปข้าง ๆ กลายเป็น refresh ซะงั้น
ดีน่ะที่ผม save ข้อความเอาไว้ใน word
จึงเอากลับมาวางใหม่ได้
กว่าจะกลับมาวางข้อความพร้อมรูปภาพได้ก็ปาไป 30 นาที
ตอนนี้มึนมาก ๆ
ถ้าข้อความใด ๆ ผิดพลาดไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะกลับเข้ามาแก้ไขน่ะครับ ชื่อสินค้า: Fatty Bao , Bangalore คะแนน: **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น